อุบลราชธานี - คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เดินสายรับฟังความเห็นต่อแผนแม่บทฉบับที่ 2 ที่จะนำออกมาประกาศใช้ในอีก 3 ปีข้างหน้า พร้อมยอมรับการดำเนินงานให้บริการสื่อสาธารณะในห่วง 3 ปีที่ผ่านมาไม่บรรลุเป้า แต่พยายามเดินหน้าต่อไป ด้านสื่อท้องถิ่นชี้ภายใต้ พ.ร.บ.กิจการโทรคมนาคมยังไม่มีการแข่งขันอย่างเสรี มีแต่ผู้ให้บริการรายใหญ่ได้เปรียบรายเล็ก
วันนี้ (22 ก.พ.) ที่โรงแรมลายทอง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี พล.อ.ชูชาติ พรหมพระสิทธิ์ ประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ นำคณะรับฟังความเห็นสาธารณะต่อร่างแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคมฉบับที่ 2 ซึ่ง กทช.จะดำเนินการรับฟังความเห็นประชาชนทั้งด้านการแข่งขันอย่างเสรีเป็นธรรม การคุ้มครองผู้บริโภค การกระจายการให้บริการโทรคมนาคมพื้นฐาน และการรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อนำความเห็นตามภูมิภาคต่างๆ ที่ กทช.ใช้เวลารวบรวมระหว่างปี 2551-2553 บรรจุไว้ในร่างก่อนประกาศบังคับใช้
ต่อมา พล.อ.ชูชาติ ได้แถลงผลการดำเนินงานแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคมฉบับที่ 1 ซึ่งเดิมจะประกาศใช้ในราวต้นปี 2551 แต่ได้ขยายเวลาออกไปถึงเดือนมีนาคมศกนี้ เพื่อรอฟังทิศทางนโยบายจากรัฐบาลใหม่ พร้อมยอมรับว่าการดำเนินงานในรอบ 3 ปี คือ ปี 2548-2550 ยังไม่สำฤทธิ์ผลตามที่ได้ตั้งไว้ โดยเฉพาะเรื่องการให้บริการสื่อสาธารณะอย่างทั่วถึง
อาทิ โทรศัพท์พื้นฐาน และสื่ออินเทอร์เน็ต ซึ่ง กทช.วางเป้าหมายจะให้บริการสื่อโทรศัพท์พื้นฐานตามหมู่บ้านห่างไกลจำนวน 6,000 หมู่บ้าน และตามสถานศึกษา สถานพยาบาลอีก 4,000 แห่ง แต่บริษัทที่ได้รับสัปทานจาก กทช.คือ บริษัท ทีโอที จำกัด และบริษัท การสื่อสารแห่งประเทศไทย ไม่สามารถดำเนินการได้ครบตามที่กำหนด เนื่องจากต้องใช้เงินลงทุนสูง แต่ได้ผลตอบแทนน้อย
ประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ กล่าวต่อว่า แต่โครงการดังกล่าวยังต้องดำเนินการต่อไป เพราะการให้บริการสื่อสาธารณะพื้นฐานมีความจำเป็นต่อประชาชนที่จะได้รับข้อมูลข่าวสารผ่านระบบอินเตอร์เน็ต และเชื่อว่าในอนาคตการให้บริการโทรศัพท์พื้นฐานจะมีการขยายตัวตามความต้องการใช้งานของประชาชนที่อยู่ตามชนบท
นอกจาก กทช.ให้ความสำคัญต่อการกระจายให้บริการสื่อสาธารณะให้ได้อย่างทั่วถึงแล้ว ยังได้ให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองผู้บริโภคไม่ให้ถูกบริษัทผู้ให้บริการเอาเปรียบ เช่น กรณีการใช้มือถือแบบเติมเงิน บางครั้งมีเงินเหลือก่อนถูกระงับใช้บริการเป็นจำนวนเงินหลายบาท กทช.จะเข้าไปดูแลเรื่องนี้ ไม่ปล่อยให้บริษัทผู้ให้บริการเอาเปรียบผู้บริโภค เพราะทั่วประเทศมีผู้ใช้มือถือจำนวนหลายสิบล้านเครื่อง
ขณะเดียวกัน นายสุชัย เจริญมุขยนันท์ นักจัดรายการสถานีโทรทัศน์เคเบิ้นท้องถิ่นได้สอบถามผลการดำเนินงานของ กทช.ที่ผ่านมาโดยระบุว่า ยังไม่เห็นการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม โดยผู้ได้รับประโยชน์จาก พ.ร.บ.การดำเนินกิจการโทรคมนาคมกลายเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่มากกว่ารายเล็ก ซึ่งฝ่าย กทช.โดย นายเหรียญชัย เรียววิไลสุข กรรมการ กทช.กล่าวว่า บางเรื่องติดขัดเรื่องการแข่งขันภายใต้สัปทาน
โดย กทช.ไม่มีอำนาจนำข้อบังคับของ กทช.มาใช้ได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ แต่ก็ได้พยายามทำให้ผู้ให้บริการสามารถแข่งขันกันได้ เช่นเดียวกับการให้บริการการสื่อสารในระบบ 3จี กทช.สามารถจัดสรรคลื่นความถี่เพียง 3-4 คลื่น แต่มีผู้ต้องการใช้มาก กทช.ต้องทำการศึกษาและกำหนดกรอบหลักเกณฑ์การให้บริการก็สามารถเปิดให้ใช้งานได้ภายใน 10 เดือนข้างหน้านี้แน่นอน
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการรับฟังความเห็นสาธารณะต่อร่างแผนแม่บทกิจการโทรคมนาคมฉบับที่ 2 กทช.จะทำประชาพิจารณ์รับฟังความเห็นใน 3 ภูมิภาคหลัก คือ ภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ ภาคใต้ที่จังหวัดสุราษฏร์ธานีและภาคอีสานที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปกำหนดเป็นกรอบใช้ดำเนินงานของ กทช.และออกเป็น พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคมต่อไป
