น่าน - ผู้ว่าฯ น่าน กำชับคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปราม การบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติระดับจังหวัด ให้เข้มงวดการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมขอความร่วมมือชาวน่านอย่าทำลายธรรมชาติทุกรูปแบบ
นายสมพงษ์ อนุยุทธพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ได้เรียกประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติระดับจังหวัด เพื่อพิจารณากรณีการบุกรุกแผ้วถางป่าในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ (ป่าดอยภูคาและป่าผาแดง) บริเวณขุนห้วยอ้อย และขุนห้วยสกี บ้านน้ำช้างพัฒนา ตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน และได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเจ้าหน้าที่ทุกคนร่วมกันป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติ และให้ปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด อย่าได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากขณะนี้พบว่ามีกลุ่มผู้มีอิทธิพลและมอดไม้ พยายามหาช่องทางในการลักลอบตัดไม้และทำลายทรัพยากรทางธรรมชาติอยู่มาก
จากรายงานข้อมูลพบว่า พื้นที่ป่าไม้ของจังหวัดน่าน ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2550 พบว่า มีทั้งสิ้น 6,079,781ไร่ แบ่งเป็นป่าอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า 36,250 ไร่ ป่าอุทยานแห่งชาติ 3,040,700 ไร่ และป่าสงวน 3,002,831ไร่ ขณะนี้ถูกบุกรุกแผ้วถาง ทำลายไปแล้ว 132,326 ไร่
สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการตัดไม้ เพื่อขยายพื้นที่เพาะปลูก ตัดไม้เพื่อจับจองที่ดิน ความเสียหายจากภัยธรรมชาติ และการละเลยของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชน
ผลกระทบที่ตามมา คือ ภัยพิบัติต่างๆ ทั้งกรณีเกิดน้ำท่วมจังหวัดน่านเมื่อเดือนสิงหาคม 2549 และไฟป่าปกคลุมทั่วทั้งเมืองเมื่อต้นปี 2550 ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม ความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่จังหวัดน่านเป็นอย่างมาก
รวมทั้งได้ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ อย่าบุกรุกแผ้วถางป่าเพื่อขยายพื้นที่เพาะปลูก โดยเฉพาะการปลูกข้าวโพด และห้ามตัดไม้เพื่อจับจองที่ดิน เพราะจะทำให้เกิดผลกระทบตามมาคือการเกิดภัยธรรมชาติ เช่น การพังทลายของภูเขา และเกิดน้ำท่วม ดินโคลนถล่ม สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้
นายสมพงษ์ อนุยุทธพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ได้เรียกประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติระดับจังหวัด เพื่อพิจารณากรณีการบุกรุกแผ้วถางป่าในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ (ป่าดอยภูคาและป่าผาแดง) บริเวณขุนห้วยอ้อย และขุนห้วยสกี บ้านน้ำช้างพัฒนา ตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน และได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเจ้าหน้าที่ทุกคนร่วมกันป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติ และให้ปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด อย่าได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากขณะนี้พบว่ามีกลุ่มผู้มีอิทธิพลและมอดไม้ พยายามหาช่องทางในการลักลอบตัดไม้และทำลายทรัพยากรทางธรรมชาติอยู่มาก
จากรายงานข้อมูลพบว่า พื้นที่ป่าไม้ของจังหวัดน่าน ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2550 พบว่า มีทั้งสิ้น 6,079,781ไร่ แบ่งเป็นป่าอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า 36,250 ไร่ ป่าอุทยานแห่งชาติ 3,040,700 ไร่ และป่าสงวน 3,002,831ไร่ ขณะนี้ถูกบุกรุกแผ้วถาง ทำลายไปแล้ว 132,326 ไร่
สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการตัดไม้ เพื่อขยายพื้นที่เพาะปลูก ตัดไม้เพื่อจับจองที่ดิน ความเสียหายจากภัยธรรมชาติ และการละเลยของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชน
ผลกระทบที่ตามมา คือ ภัยพิบัติต่างๆ ทั้งกรณีเกิดน้ำท่วมจังหวัดน่านเมื่อเดือนสิงหาคม 2549 และไฟป่าปกคลุมทั่วทั้งเมืองเมื่อต้นปี 2550 ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม ความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่จังหวัดน่านเป็นอย่างมาก
รวมทั้งได้ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ อย่าบุกรุกแผ้วถางป่าเพื่อขยายพื้นที่เพาะปลูก โดยเฉพาะการปลูกข้าวโพด และห้ามตัดไม้เพื่อจับจองที่ดิน เพราะจะทำให้เกิดผลกระทบตามมาคือการเกิดภัยธรรมชาติ เช่น การพังทลายของภูเขา และเกิดน้ำท่วม ดินโคลนถล่ม สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้