เชียงราย – “ดีเอสไอ” เดินหน้าทลายแก๊งงาบป่าสบกกต่อ หลังผู้บริหารบริษัท ไทยรับเบอร์ฯ มอบตัวแล้ว 7 คน พบข้อมูลโยงใยอดีตข้าราชการระดับอธิบดีฯ คนนครศรีธรรมราช ร่วมสั่งการอยู่เบื้องหลัง เตรียมออกหมายจับเร็ววันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีคดีบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติสบกกฝั่งขวา อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ว่า เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยังคงพยายามติดตามหาหลักฐานขบวนการสั่งรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าสบกกฝั่งขวา บ้านห้วยข่อยหร่อย ม.12 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เสียหาย 916 ไร่ มูลค่า 62 ล้านบาท โดยทีมสอบสวน ที่ลงพื้นที่ประสานหาหลักฐานเพิ่มเติม ได้นำข้อมูลกลับที่ตั้ง รายงานให้นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีดีเอสไอ -นายภิญโญ ทองชัย รองอธิบดีดีเอสไอ พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษและโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ทราบตามลำดับ เพื่อสรุปความคืบหน้าทุกระยะ
ด้าน นางวันดี อินทร ปลัดอาวุโส อ.เวียงชัย ผู้บุกเบิกทำคดีป่าสบกกคนแรก กล่าวว่า ล่าสุดได้รับการประสานจากดีเอสไอ ให้เพิ่มความระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น หลังจากดีเอสไอ ได้อนุญาตให้ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ไทยรับเบอร์ซิติ้ จำกัด และบริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ทั้ง 7 คน ประกันตัวชั่วคราว
ดีเอสไอมีข้อบังคับกับทางผู้ต้องหาทั้ง 7 คน หลังประกันตัวห้ามไปข่มขู่พยานทั้งสิ้น ซึ่งในช่วงนี้พบว่าที่บริเวณหน้าห้องทำงาน ที่อำเภอเวียงชัย มีคนแปลกหน้าเดินพลุกพล่าน ลักษณะมาสอดส่องดูลาดเลา ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน
แหล่งข่าวทีมสอบสวนคดีสบกก เผยด้วยว่า ตัวการใหญ่ที่อยู่เหนือผู้บริหารของบริษัทเอกชนไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์ฯ ในการสั่งรุกป่าสบกก เป็นอดีตอธิบดีกระทรวงหนึ่งนั้น จากการตรวจสอบพบเป็นชาว จ.นครศรีธรรมราช เติบใหญ่ในตำแหน่งสุดท้ายเป็นเจ้ากระทรวงที่ดูแลเรื่องทรัพยากรธรรมชาติ มีทีมที่ปรึกษานักการเมือง ร่วมกันโค่นป่าสงวนในพื้นที่ จ.เชียงราย เนื้อที่กว่า 20,000 ไร่ ในจำนวนนี้ คือ ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าสบกกฝั่งขวา จำนวน 916 ไร่ ซึ่งหากมีหลักฐานชัดเจน คาดว่าอดีตอธิบดีรายนี้ จะถูกออกหมายจับกุมตามมาในเร็วๆนี้
สำหรับ บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทผู้ส่งออกน้ำยางข้นรายใหญ่ ประกอบขึ้นด้วยโรงงานน้ำยางข้นจำนวน 9 โรงงาน ตั้งอยู่ในพื้นที่เพาะปลูกยางพาราทั่วประเทศ ทั้งในภาคตะวันออก ทางภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีคดีบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติสบกกฝั่งขวา อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ว่า เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยังคงพยายามติดตามหาหลักฐานขบวนการสั่งรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าสบกกฝั่งขวา บ้านห้วยข่อยหร่อย ม.12 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เสียหาย 916 ไร่ มูลค่า 62 ล้านบาท โดยทีมสอบสวน ที่ลงพื้นที่ประสานหาหลักฐานเพิ่มเติม ได้นำข้อมูลกลับที่ตั้ง รายงานให้นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีดีเอสไอ -นายภิญโญ ทองชัย รองอธิบดีดีเอสไอ พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษและโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ทราบตามลำดับ เพื่อสรุปความคืบหน้าทุกระยะ
ด้าน นางวันดี อินทร ปลัดอาวุโส อ.เวียงชัย ผู้บุกเบิกทำคดีป่าสบกกคนแรก กล่าวว่า ล่าสุดได้รับการประสานจากดีเอสไอ ให้เพิ่มความระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น หลังจากดีเอสไอ ได้อนุญาตให้ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ไทยรับเบอร์ซิติ้ จำกัด และบริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ทั้ง 7 คน ประกันตัวชั่วคราว
ดีเอสไอมีข้อบังคับกับทางผู้ต้องหาทั้ง 7 คน หลังประกันตัวห้ามไปข่มขู่พยานทั้งสิ้น ซึ่งในช่วงนี้พบว่าที่บริเวณหน้าห้องทำงาน ที่อำเภอเวียงชัย มีคนแปลกหน้าเดินพลุกพล่าน ลักษณะมาสอดส่องดูลาดเลา ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน
แหล่งข่าวทีมสอบสวนคดีสบกก เผยด้วยว่า ตัวการใหญ่ที่อยู่เหนือผู้บริหารของบริษัทเอกชนไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์ฯ ในการสั่งรุกป่าสบกก เป็นอดีตอธิบดีกระทรวงหนึ่งนั้น จากการตรวจสอบพบเป็นชาว จ.นครศรีธรรมราช เติบใหญ่ในตำแหน่งสุดท้ายเป็นเจ้ากระทรวงที่ดูแลเรื่องทรัพยากรธรรมชาติ มีทีมที่ปรึกษานักการเมือง ร่วมกันโค่นป่าสงวนในพื้นที่ จ.เชียงราย เนื้อที่กว่า 20,000 ไร่ ในจำนวนนี้ คือ ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าสบกกฝั่งขวา จำนวน 916 ไร่ ซึ่งหากมีหลักฐานชัดเจน คาดว่าอดีตอธิบดีรายนี้ จะถูกออกหมายจับกุมตามมาในเร็วๆนี้
สำหรับ บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทผู้ส่งออกน้ำยางข้นรายใหญ่ ประกอบขึ้นด้วยโรงงานน้ำยางข้นจำนวน 9 โรงงาน ตั้งอยู่ในพื้นที่เพาะปลูกยางพาราทั่วประเทศ ทั้งในภาคตะวันออก ทางภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)
