เชียงราย – ดีเอสไอ.ตามล่าผู้ต้องหาทีม“ไทยรับเบอร์ฯ” สมาชิกแก๊งงาบป่าสบกกต่อ หลังหนีหมายจับอีก 6 คน พร้อมจ้องรวบผู้นำท้องถิ่นที่มีเอี่ยวอีกเพียบ
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงราย แจ้งว่า จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้รับคำสั่งจากนายภิญโญ ทองชัย รองอธิบดีกรมดีเอสไอ -พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ กระจายกำลังลงพื้นที่ จ.เชียงราย ไล่ล่าติดตามกลุ่มผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกออกหมายจับในคดีรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าสบกกฝั่งขวา บ้านห้วยข่อยหร่อย ม.12 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เสียหายเนื้อที่ 918 ไร่ 92.875 ตารางวา มูลค่า 62,648,193 บาท โดยเป็นผู้มีความสัมพันธ์ในบริษัทไทยรับเบอร์ซิตี้ จำกัด ที่หลบหนีการจับกุมเมื่อวันที่ 17 ม.ค. โดยกระจายค้นหาตามพื้นที่เป้าหมาย อ.เมืองเชียงราย อ.พาน อ.เชียงแสน
เป้าหมายที่ถูกติดตามนอกเหนือจากคนในบริษัทไทยรับเบอร์ฯ ยังมีกลุ่มผู้นำท้องถิ่น ที่ว่าจ้างและนำรถแบกโฮเข้าตัดทำลายป่าสงวนแห่งชาติ ตั้งแต่ต้นปี 50 จนถึงช่วงเดือนกรกฏาคม 50 ที่เป็นผู้นำท้องถิ่น ที่ยังคงมีบทบาทในสายการเมืองเชียงรายในปัจจุบัน
พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าวว่า กำลังของดีเอสไอ ยังคงปักหลักใน จ.เชียงราย เฝ้าสืบสวนจับกุมบุคคลตามหมายจับอยู่ เพื่อจับกุมให้ได้ครบทั้งหมด จนกว่าจะมีคำสั่งให้ถอนกำลังกลับ กลุ่มเป้าหมายมีส่วนสำคัญในคดีมาก และมั่นใจว่าจะขยายผลไปจับกุมผู้ต้องหาในส่วนอื่นๆ ได้ เป็นคดีที่ต้องสู้กับอิทธิพลอย่างมาก
แหล่งข่าวจากทีมสอบสวนคดีป่าสบกก เปิดเผยว่า เส้นทางการดำเนินธุรกรรมของบริษัทไทยรับเบอร์ซิตี้ มีความซับซ้อนเป็นเพียงบริษัทย่อย ที่มีคนจีนและคนไทยร่วมหุ้น ดำเนินกิจการทางด้านสวนยางพาราและจำหน่ายน้ำยางพารา โดยอยู่ในการควบคุมบริหารของบริษัทไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ตัวการใหญ่ที่มีอิทธิพลสั่งรุกป่าสบกก อยู่ในบริษัทแม่แห่งนี้
ส่วนผู้ที่เข้ามาถือหุ้นในบริษัทไทยรับเบอร์ซิตี้ จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจสวนยางพาราที่จังหวัดน่านและเชียงราย คือ คนกลางที่รับคำสั่งมาอีกทอดหนึ่งเท่านั้น
สำหรับบริษัทไทยรับเบอร์ซิตี้ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทเอกชนทำธุรกรรมค้าส่งยางพารารายใหญ่ที่สุดในพื้นที่ภาคใต้ จดทะเบียนทำธุรกรรมที่เขตบางนา โดยมีผู้ร่วมถือหุ้นหว่า 10 คน โดยผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่เกินครึ่งเป็นชาวจีน โดยในจำนวนนี้มีอดีตข้าราชการเกษียณ ที่มีตำแหน่งเป็นถึงอดีตอธิบดีกรมป่าไม้ (ตำแหน่งในขณะนั้น) ขึ้นในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีรายชื่อเป็นกรรมการบริหาร มีหุ้นส่วนในบริษัทนี้ด้วย ส่วนนายพลตำรวจ ที่เป็นมือเป็นไม้ให้กลุ่มขบวนการนี้ จากการตรวจสอบไม่พบรายชื่อเป็นกรรมการบริหาร แต่มีพฤติกรรมเป็นหุ้นลม รับผลประโยชน์นอกบัญชี มีหน้าที่ติดต่อและอำนวยความสะดวกให้ทางบริษัท
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงราย แจ้งว่า จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้รับคำสั่งจากนายภิญโญ ทองชัย รองอธิบดีกรมดีเอสไอ -พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ กระจายกำลังลงพื้นที่ จ.เชียงราย ไล่ล่าติดตามกลุ่มผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ถูกออกหมายจับในคดีรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าสบกกฝั่งขวา บ้านห้วยข่อยหร่อย ม.12 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เสียหายเนื้อที่ 918 ไร่ 92.875 ตารางวา มูลค่า 62,648,193 บาท โดยเป็นผู้มีความสัมพันธ์ในบริษัทไทยรับเบอร์ซิตี้ จำกัด ที่หลบหนีการจับกุมเมื่อวันที่ 17 ม.ค. โดยกระจายค้นหาตามพื้นที่เป้าหมาย อ.เมืองเชียงราย อ.พาน อ.เชียงแสน
เป้าหมายที่ถูกติดตามนอกเหนือจากคนในบริษัทไทยรับเบอร์ฯ ยังมีกลุ่มผู้นำท้องถิ่น ที่ว่าจ้างและนำรถแบกโฮเข้าตัดทำลายป่าสงวนแห่งชาติ ตั้งแต่ต้นปี 50 จนถึงช่วงเดือนกรกฏาคม 50 ที่เป็นผู้นำท้องถิ่น ที่ยังคงมีบทบาทในสายการเมืองเชียงรายในปัจจุบัน
พ.อ.ปิยะวัฒก์ กล่าวว่า กำลังของดีเอสไอ ยังคงปักหลักใน จ.เชียงราย เฝ้าสืบสวนจับกุมบุคคลตามหมายจับอยู่ เพื่อจับกุมให้ได้ครบทั้งหมด จนกว่าจะมีคำสั่งให้ถอนกำลังกลับ กลุ่มเป้าหมายมีส่วนสำคัญในคดีมาก และมั่นใจว่าจะขยายผลไปจับกุมผู้ต้องหาในส่วนอื่นๆ ได้ เป็นคดีที่ต้องสู้กับอิทธิพลอย่างมาก
แหล่งข่าวจากทีมสอบสวนคดีป่าสบกก เปิดเผยว่า เส้นทางการดำเนินธุรกรรมของบริษัทไทยรับเบอร์ซิตี้ มีความซับซ้อนเป็นเพียงบริษัทย่อย ที่มีคนจีนและคนไทยร่วมหุ้น ดำเนินกิจการทางด้านสวนยางพาราและจำหน่ายน้ำยางพารา โดยอยู่ในการควบคุมบริหารของบริษัทไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ตัวการใหญ่ที่มีอิทธิพลสั่งรุกป่าสบกก อยู่ในบริษัทแม่แห่งนี้
ส่วนผู้ที่เข้ามาถือหุ้นในบริษัทไทยรับเบอร์ซิตี้ จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจสวนยางพาราที่จังหวัดน่านและเชียงราย คือ คนกลางที่รับคำสั่งมาอีกทอดหนึ่งเท่านั้น
สำหรับบริษัทไทยรับเบอร์ซิตี้ จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทเอกชนทำธุรกรรมค้าส่งยางพารารายใหญ่ที่สุดในพื้นที่ภาคใต้ จดทะเบียนทำธุรกรรมที่เขตบางนา โดยมีผู้ร่วมถือหุ้นหว่า 10 คน โดยผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่เกินครึ่งเป็นชาวจีน โดยในจำนวนนี้มีอดีตข้าราชการเกษียณ ที่มีตำแหน่งเป็นถึงอดีตอธิบดีกรมป่าไม้ (ตำแหน่งในขณะนั้น) ขึ้นในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีรายชื่อเป็นกรรมการบริหาร มีหุ้นส่วนในบริษัทนี้ด้วย ส่วนนายพลตำรวจ ที่เป็นมือเป็นไม้ให้กลุ่มขบวนการนี้ จากการตรวจสอบไม่พบรายชื่อเป็นกรรมการบริหาร แต่มีพฤติกรรมเป็นหุ้นลม รับผลประโยชน์นอกบัญชี มีหน้าที่ติดต่อและอำนวยความสะดวกให้ทางบริษัท
