ศูนย์ข่าวศรีราชา - รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี เผยผลสำรวจตลาดสดในพื้นที่ชลบุรียังไม่พบผู้ค้าปลาร้ารายใดนำปลาปักเป้าเป็นวัตถุดิบผสมในการทำปลาร้าเพื่อจำหน่าย พร้อมเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงพิษภัยของการบริโภคปลาปักเป้า
นายแพทย์วิชัย ธนาโสภณ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี เผยหลังนำทีมออกสำรวจตลาดค้าส่งปลาร้าในพื้นที่จังหวัดชลบุรี หลังเกิดกรณีผู้ป่วยที่กินส้มตำปลาร้าในจังหวัดระยอง มีอาการป่วยโดยคาดว่าอาจเกิดจากการรับประทานปลาร้าที่ทำจากปลาปักเป้าว่า ในเบื้องต้นสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ได้ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมือง และกองสาธารณสุขเทศบาลเมืองชลบุรี ได้ออกสุ่มสำรวจการค้าขายปลาร้าในตลาดใหม่ชลบุรี และตลาดสดในหลายพื้นที่ของจังหวัด ซึ่งผลการตรวจสอบไม่พบว่ามีปลาปักเป้าปนในปลาร้าที่จำหน่ายในตลาดค้าส่งปลาร้าแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ทีมงานยังได้เร่งให้คำแนะนำ และความรู้กับประชาชนในเรื่องของพิษปลาปักเป้าว่า ปลาปักเป้ามีสารพิษที่สามารถทำให้เกิดพิษต่อผู้บริโภคได้ ที่สำคัญในการบริโภคปลาร้าจะต้องพิจารณาเลือกจากแหล่งผลิตที่มีความปลอดภัยและแน่ใจได้ว่าแหล่งผลิตนั้นไม่นำปลาปักเป้ามาปนในการผลิตปลาร้าโดยเด็ดขาด และหากผู้ประกอบการพบว่ามีปลาปักเป้าปนอยู่ในปลาร้าจะต้องรีบทิ้งปลาร้าทั้งหมดในทันที
“ส่วนที่มีพิษมากที่สุดในปลาปักเป้า คือเครื่องใน ไข่ ตับ ลำไส้และอวัยวะสืบพันธ์ ที่อาจแตกปนอยู่ในน้ำปลาร้าได้หากผู้ผลิตนำปลาปักเป้ามาใช้ในการผลิต อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตผู้บริโภคที่นำไปปรุงอาหาร”
โดยนายแพทย์วิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกประกาศฉบับที่ 264 พ.ศ.2545 เรื่องกำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้าหรือจำหน่าย คือปลาปักเป้าทุกชนิดและอาหารที่มีปลาปักเป้าเป็นส่วนผสม เป็นอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้าหรือจำหน่ายเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ผู้ฝ่าฝืนมีโทษตามมาตรา 50 แห่ง พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 คือจำคุก 6 เดือน-2 ปี ปรับ 5,000-20,000 บาท เพราะประชาชนชาวไทยยังมีทางเลือกในการรับประทานอาหารอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ได้ขอร้องไปยังผู้ประกอบการอาหารให้เห็นแก่ความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนและไม่ควรนำปลาปักเป้ามาแปรรูปเป็นอาหารจำหน่ายโดยเด็ดขาด
“พิษจากปลาปักเป้ายังไม่มียาแก้ การรักษาจะเป็นไปแบบประคับประคองด้วยการให้น้ำเกลือ หากหยุดหายใจจะใส่เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งพิษจะถูกขับออกทางปัสสาวะ หากพิษหมดจากร่างกายอาการของผู้ป่วยจะดีขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น หากรับประทานอาหารแล้วมีอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์โดยเร็ว เนื่องจากที่ผ่านมาการเสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากการหยุดหายใจ ” นายแพทย์วิชัย กล่าว