ระยอง - แม่บ้านเมืองระยองตั้งวงเปิบส้มตำใส่ปลาร้าที่ทำจากปลาปักเป้า เกิดท้องร่วง แขนขาไม่มีแรง หามส่ง รพ.ระนาว
วันนี้ (15 ม.ค.) นพ.กฤษณ์ ปาลสุทธิ์ ผู้เชี่ยวชาญ 8 ด้านเวชกรรม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง นพ.สมชาย ศุภวาทิน ผอ.โรงพยาบาลบ้านค่าย พร้อมด้วยนายปรเมศร์ อรุณ นักวิชาการประมง เข้าร่วมประชุมที่โรงพยาบาลบ้านค่าย หลังเก็บตัวอย่างชิ้นส่วนปลาร้า ที่ชาวบ้านนำไปตำส้มตำใส่มะละกอรับประทานจนเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน อุจจาระร่วง แขนขาอ่อนแรง นิ้วมือเกิดอาการชา จนต้องหามส่ง รพ.บ้านค่ายรักษารวม 3 คน
ส่วนนักเรียนหญิงชั้น ม.2 และเด็กนักเรียนชายชั้น ป.4 เกิดอาการท้องร่วงแต่ไม่ยอมเข้ารักษาที่โรงพยาบาล ซึ่งจากการประชุมร่วมกันหาสาเหตุพบว่า ชิ้นส่วนปลาร้าดังกล่าวเป็นปลาปักเป้าน้ำจืด
นพ.กฤษณ์ กล่าวว่า ปลาร้าดังกล่าวทำจากปลาปักเป้าน้ำจืด เมื่อนำมาตำจนเนื้อแหลกแล้ว ทำให้พิษในปลาปักเป้าแพร่กระจาย เมื่อรับประทานเข้าไปในร่างกาย จะเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน แขนขาอ่อนแรง เกิดอาการชาตามร่างกาย ส่วนอาการผู้ป่วยหลังจากรักษาจนมีอาการดีขึ้น และอนุญาตให้กลับบ้านได้ สำหรับเด็กนักเรียนที่รับประทานส้มตำปลาร้าด้วยกัน จะจัดยาไปให้รับประทาน
นางสมใจ ซื่อตรง อายุ 48 ปี ชาวบ้านตำบลหนองบัว อำเภอบ้านค่าย 1 ใน 5 ที่ร่วมรับประทานส้มตำปลาปักเป้า ขณะนี้กำลังนอนรักษาที่โรงพยาบาล กล่าวว่า เมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา ได้ไปซื้อปลาร้าที่ร้านขายของชำของประธาน อปพร.ตำบลหนองบัว เพื่อนำมาใส่ส้มตำ โดยมีนางบังอร ชูจรัส อายุ 42 ปี เป็นคนลงมือตำส้มตำปลาร้า และมีนางอมรา อ่างแก้ว อายุ 20 ปี บุตรสาวนางบังอร และนักเรียนชายเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนบ้านหินโค่ง นักเรียนหญิงเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนหัวชวด ซึ่งเป็นหลาน นั่งล้อมวงกินส้มตำปลาร้ากันอย่างเอร็ดอร่อย
ระหว่างกินปลาร้าอยู่นั้นสังเกตเห็นเนื้อปลาร้าคล้ายหนังคางคก เกิดอาการสงสัยว่าปลาร้าทำไมเนื้อเหมือนคางคกที่ถูกตัดหัว หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันกลับบ้าน จากนั้นจึงเกิดอาการคลื่นไส้ มือไม้ไม่มีเรี่ยวแรง มีอาการชาที่นิ้วมือ จึงไปซื้อโซดามากินล้างท้อง และได้โทรศัพท์แจ้งเพื่อนให้ไปซื้อโซดามากินล้างท้อง แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น จึงเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลบ้านค่าย พร้อมด้วยนางบังอร ที่เหลือไม่ยอมมาเนื่องจากกลัวเข็มฉีดยา ส่วนหลานนางบังอรอีก 2 คน มีอาการท้องร่วงอย่างเดียวสามารถไปโรงเรียนตามปกติ