ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตรุษจีนโคราชคึกคัก ชาวไทยเชื้อสายจีนทยอยออกมาจับจ่ายซื้อเครื่องเซ่นไหว้ต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดแม่กิมเฮง ยังตรึงราคาขายเป็ด-ไก่ไว้เท่าเดิม แม้ต้นทุนจะพุ่งสูง เกรงจะขายไม่ออก ยอมรับปีนี้ลูกค้าซื้อน้อยลงเพราะภาวะเศรษฐกิจไม่ดีและผลพ่วงจากหวัดนก ส่วนร้านทองหงอย ขายไม่ออก เหตุราคาพุ่ง ปชช.หันไปให้เงินสดหรือซื้อสินค้าอื่นเป็นของขวัญแทน
วันนี้ (5 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรางานบรรยากาศการจับจ่าย ซื้อเครื่องเซ่นไหว้บรรพบุรุษในช่วงเทศกาลตรุษจีนของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดนครราชสีมาตลอดทั้งวันนี้เป็นไปด้วยความคึกคัก ทั้งที่ตลาดสดและร้านจำหน่ายเครื่องเซ่นไหว้ในตัวเมืองนครราชสีมาเต็มไปด้วยลูกค้าจำนวนมาก
โดยเฉพาะที่ตลาดใหม่แม่กิมเฮง ถ.โพธิ์กลาง เขตเทศบาลนครนครราชสีมา ซึ่งเป็นแหล่งจำหน่ายเครื่องเซ่นไหว้ ผลไม้ และเป็ด ไก่แห่งใหญ่ของ จ.นครราชสีมา แม้ว่าราคาสินค้าจะปรับตัวสูงขึ้นแต่บรรยากาศยังคงเป็นไปด้วยความคึกคัก ชาวไทยเชื้อสายจีนใน จ.นครราชสีมา จำนวนมากได้ออกมาจับจ่ายซื้อสินค้า ทำให้พ่อค้าแม่ค้าเร่งนำไก่ และเป็ด รวมถึงหัวหมูต้ม ออกมาจำหน่ายให้ทันต่อความต้องการของลูกค้า
นางวงเดือน เครือเทพ แม่ค้าขายไก่-เป็ดพะโล้รายใหญ่ในตลาดใหม่แม่กิมเฮง เปิดเผยว่า ปีนี้เป็ดไก่ขายไม่ค่อยดีมากนัก แต่เมื่อเทียบกับทุกวันที่ผ่านมา ถือว่าวันนี้คึกคักและขายดีมากที่สุด เนื่องจากคนไทยเชื้อสายจีนได้ออกมาซื้อสิ่งของเตรียมเซ่นไหว้บรรพบุรุษ ซึ่งปีนี้ทางร้านไม่กล้าปรับขึ้นราคาเป็ดไก่ แม้ว่าต้นทุนจะสูงขึ้นก็ตาม ยังคงขายในราคาเดิมเหมือนปีที่ผ่านมาคือเป็ด ไก่ น้ำหนักประมาณ 1-1.50 กิโลกรัมตัวละ 180-200 บาท ทั้งนี้ ถ้าปรับขึ้นราคาเกรงว่าลูกค้าจะไม่ซื้อทำให้ขายไม่ออก และในปีนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่ประหยัดเงินซื้อน้อยลงเนื่องภาวะเศรษฐกิจไม่ดีบางคนซื้อแค่ 1-2 ตัวเท่านั้นไม่ซื้อมากเหมือนทุกปี
ส่วนไก่และเป็ดสดขายได้น้อยลง เนื่องจากราคาสูง กก.ละ 60-120 บาท ประกอบกับข่าวไข้หวัดนกระบาดจึงทำให้ประชาชนระมัดระวังไม่นิยมซื้อไก่สดไปต้มเอง ส่วนใหญ่จะซื้อไก่ที่แม่ค้าพ่อค้าทำสุกไว้แล้ว
ขณะที่แม่ค้าขายขนมในตลาดเดียวกัน บอกว่า ปีนี้ขนมที่เป็นศิริมงคล จะได้รับความนิยมมาก ทั้งขนมเทียน ขนมเข่ง ขนมปุยฝ้าย และขนมสาลี่ ซึ่งราคาไม่แพงมีตั้งแต่ชิ้นละ 20 บาทจนถึงราคา 200 บาท ลูกค้าซื้อไปจำนวนมากทำให้ขายดีกว่าทุกปี
ส่วนผลไม้โดยเฉพาะส้มมีการปรับราคาขึ้นจากเดิมกิโลกรัม (กก.) ละ 25-30 บาท เป็น กก.ละ 35-40 บาท เช่นเดียวกัน องุ่นสีม่วงจาก กก.ละ 120 ปรับขึ้นสูงถึง 250 บาท/กก. แม่ค้าขายผลไม้ส่วนใหญ่บอกตรงกันว่า ลูกค้าซื้อผลไม้น้อย เนื่องจากสินค้ามีราคาแพง ขายไม่ดีเหมือนทุกปี เพราะปีนี้สินค้าทุกอย่างขึ้นราคาหมด ผลไม้ก็ปรับราคาขึ้นสูง ลูกค้าก็เลือกซื้อผลไม้มากขึ้นหากผลไม้ชนิดใดแพงจนเกินไปก็หันไปใช้ผลไม้ที่ถูกลงแทนทำให้ขายไม่ค่อยดี
ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องเซ่นไหว้ เช่น บ้านกระดาษจำลอง, รองเท้า, รถยนต์กระดาษจำลอง เครื่องใช้จำลอง ที่ชาวจีนนิยมเผาส่งไปให้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปนั้น ขายดีเป็นพิเศษกว่าสินค้าชนิดอื่นๆ เนื่องจากราคาไม่สูงจนเกินไป ประกอบกับร้านค้ายังคงตรึงราคาขายเท่ากับปีที่ผ่านมา
ส่วนบรรยากาศการซื้อทองคำเพื่อเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลตรุษจีนหรือวันขึ้นปีใหญ่ของชาวไทยเชื้อสายจีน ที่จ.นครราชสีมา เป็นไปด้วยความเงียบเหงา เนื่องจากราคาทองคำพุ่งสูงถึงบาทละ 14,100 บาท ทำให้ลูกค้าไม่สนใจมาเลือกซื้อทองคำเป็นของขวัญให้คนที่รักเคารพและลูกหลานเหมือนทุกปี โดยเฉพาะที่ร้านทองอึ้งเฮงหลี ตราเงิน หลังอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ถ.ชุมพล เขตเทศบาลนครนครราชสีมา เป็นไปด้วยความเงียบเหงา
เจ้าของร้านบอกว่า บางครั้งแทบไม่มีลูกค้าเข้าร้านเลย ปีนี้ทองคำมีราคาแพงเป็นประวัติกาณ์จึงทำให้ลูกค้าไม่นิยมซื้อทองคำเป็นของฝากเหมือนทุกปีทำให้ยอดขายของร้านทองใน จ.นครราชสีมา ตกลงกว่า 50% ลูกค้าส่วนใหญ่หันไปให้เงินสดและซื้อของขวัญอย่างอื่นให้กันแทนการซื้อทองคำ ซึ่งผู้ประกอบการเองก็คงต้องทำใจเพราะราคาทองคำมีต้นทุนสูงต้องขายในราคาสูง