อุบลราชธานี - อุบลฯ ออกมาตรการเข้มควบคุมฟาร์มสัตว์ปีก สกัดเชื้อหวัดมรณะพร้อมสร้างความมั่นใจบริโภคเป็ด-ไก่ช่วงตรุษจีน ขณะเดียวกันจังหวัดร่วมกับอาสาสมัครปศุสัตว์ เตรียมเอกซเรย์พื้นที่เลี้ยงสัตว์ปีกครอบคลุมทุกอำเภอ เพื่อค้นหาพื้นที่เสี่ยงของการระบาดเป็นรอบที่ 2 ของปีนี้ด้วย
หลังกรมปศุสัตว์พบไก่ตายผิดปกติในภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยสันนิษฐานเป็นการตายจากเชื้อโรคไข้หวัดนก จึงแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงเกิดโรคให้จับตาฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีก เพื่อไม่ให้โรคแพร่กระจาย รวมทั้งสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคในเทศกาลตรุษจีน ซึ่งนิยมใช้เป็ด ไก่ เป็นเครื่องเซ่นไหว้เจ้าและบรรพบุรุษ เพื่อไม่เกิดเป็นผลลบต่อตลาดการค้าเป็ด ไก่ ซึ่งมีปริมาณการค้ามากในเทศกาลดังกล่าว
ล่าสุด นายสุรพล สายพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวถึงสถานการณ์โรคไข้หวัดนกและการเฝ้าระวังในช่วงเทศกาลตรุษจีนว่า สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอุบลราชธานี ได้รับการแจ้งเตือนจากศูนย์ควบคุมโรคไข้หวัดนก กรมปศุสัตว์ สถานการณ์โรคไข้หวัดนกในประเทศไทยพบการแพร่ระบาดอีกครั้งที่ จ.นครสวรรค์ และ จ.พิษณุโลก โดยมีสัตว์ปีกล้มตายโดยไม่รู้สาเหตุ จึงขอให้เฝ้าระวังตรวจสอบการระบาดอย่างใกล้ชิด เบื้องต้นจากการตรวจสอบในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ยังไม่พบการแพร่ระบาดของเชื้อโรคนี้
ปัจจุบัน จังหวัดอุบลราชธานีมีเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีรายย่อย (ไก่พื้นเมือง) 128,701 ราย มีสัตว์ปีกในความดูแลประมาณ 2,421,405 ตัว/ปี ไก่เลี้ยงในฟาร์มมาตรฐานจำนวน 233 ฟาร์ม จำนวน 2,739,118 ตัว/ปี ฟาร์มไก่ไข่อีก 88 ฟาร์ม จำนวน 895,411 ตัว/ปี มีกำลังผลิตไข่ประมาณ 400,000-600,000 ฟอง/สัปดาห์ สำหรับพื้นที่ที่มีการเลี้ยงสัตว์ปีกหนาแน่นคือ อำเภอสว่างวีระวงศ์ มีสัตว์ปีกในวงจรการเลี้ยง 473,835 ตัว/ปี เป็นไก่พื้นเมืองถึง 54,876 ตัว
รองลงมาเป็นอำเภอสำโรง มีสัตว์ปีกในวงจรการเลี้ยง 300,000 ตัว/ปี เป็นไก่พื้นเมือง 12,884 ตัว ส่วนอำเภอเมืองและอำเภอวารินชำราบ มีสัตว์ปีกในวงจรการเลี้ยงรวมกันราว 392,000 ตัว/ปี แต่เป็นไก่พื้นเมืองมากกว่า 178,000 ตัว
ด้านการสร้างความมั่นใจกินเป็ด กินไก่ ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งนิยมใช้เป็ด ไก่ ประกอบพิธีไหว้เจ้าและไหว้บรรพบุรุษ ขณะนี้กรมปศุสัตว์ได้ทำ “โครงการสัตว์ปีกปลอดภัยฉลองตรุษจีน” ประจำปี 2551 เพื่อให้มีการผลิตเนื้อสัตว์ปีกใช้ในพิธีไหว้เจ้าและบรรพบุรุษในช่วงตรุษจีนให้มีความสะอาดและปลอดภัยต่อการบริโภค เป็นการสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค
นอกจากนี้ ในเดือนกุมภาพันธ์ทางจังหวัดจะร่วมกับอาสาสมัครปศุสัตว์ทำการเอกซเรย์พื้นที่เลี้ยงสัตว์ปีกครอบคลุมทุกอำเภอ เพื่อค้นหาพื้นที่เสี่ยงของการระบาดเป็นรอบที่ 2 ของปีนี้ด้วย
หลังกรมปศุสัตว์พบไก่ตายผิดปกติในภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยสันนิษฐานเป็นการตายจากเชื้อโรคไข้หวัดนก จึงแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงเกิดโรคให้จับตาฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีก เพื่อไม่ให้โรคแพร่กระจาย รวมทั้งสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคในเทศกาลตรุษจีน ซึ่งนิยมใช้เป็ด ไก่ เป็นเครื่องเซ่นไหว้เจ้าและบรรพบุรุษ เพื่อไม่เกิดเป็นผลลบต่อตลาดการค้าเป็ด ไก่ ซึ่งมีปริมาณการค้ามากในเทศกาลดังกล่าว
ล่าสุด นายสุรพล สายพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวถึงสถานการณ์โรคไข้หวัดนกและการเฝ้าระวังในช่วงเทศกาลตรุษจีนว่า สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอุบลราชธานี ได้รับการแจ้งเตือนจากศูนย์ควบคุมโรคไข้หวัดนก กรมปศุสัตว์ สถานการณ์โรคไข้หวัดนกในประเทศไทยพบการแพร่ระบาดอีกครั้งที่ จ.นครสวรรค์ และ จ.พิษณุโลก โดยมีสัตว์ปีกล้มตายโดยไม่รู้สาเหตุ จึงขอให้เฝ้าระวังตรวจสอบการระบาดอย่างใกล้ชิด เบื้องต้นจากการตรวจสอบในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ยังไม่พบการแพร่ระบาดของเชื้อโรคนี้
ปัจจุบัน จังหวัดอุบลราชธานีมีเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีรายย่อย (ไก่พื้นเมือง) 128,701 ราย มีสัตว์ปีกในความดูแลประมาณ 2,421,405 ตัว/ปี ไก่เลี้ยงในฟาร์มมาตรฐานจำนวน 233 ฟาร์ม จำนวน 2,739,118 ตัว/ปี ฟาร์มไก่ไข่อีก 88 ฟาร์ม จำนวน 895,411 ตัว/ปี มีกำลังผลิตไข่ประมาณ 400,000-600,000 ฟอง/สัปดาห์ สำหรับพื้นที่ที่มีการเลี้ยงสัตว์ปีกหนาแน่นคือ อำเภอสว่างวีระวงศ์ มีสัตว์ปีกในวงจรการเลี้ยง 473,835 ตัว/ปี เป็นไก่พื้นเมืองถึง 54,876 ตัว
รองลงมาเป็นอำเภอสำโรง มีสัตว์ปีกในวงจรการเลี้ยง 300,000 ตัว/ปี เป็นไก่พื้นเมือง 12,884 ตัว ส่วนอำเภอเมืองและอำเภอวารินชำราบ มีสัตว์ปีกในวงจรการเลี้ยงรวมกันราว 392,000 ตัว/ปี แต่เป็นไก่พื้นเมืองมากกว่า 178,000 ตัว
ด้านการสร้างความมั่นใจกินเป็ด กินไก่ ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งนิยมใช้เป็ด ไก่ ประกอบพิธีไหว้เจ้าและไหว้บรรพบุรุษ ขณะนี้กรมปศุสัตว์ได้ทำ “โครงการสัตว์ปีกปลอดภัยฉลองตรุษจีน” ประจำปี 2551 เพื่อให้มีการผลิตเนื้อสัตว์ปีกใช้ในพิธีไหว้เจ้าและบรรพบุรุษในช่วงตรุษจีนให้มีความสะอาดและปลอดภัยต่อการบริโภค เป็นการสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค
นอกจากนี้ ในเดือนกุมภาพันธ์ทางจังหวัดจะร่วมกับอาสาสมัครปศุสัตว์ทำการเอกซเรย์พื้นที่เลี้ยงสัตว์ปีกครอบคลุมทุกอำเภอ เพื่อค้นหาพื้นที่เสี่ยงของการระบาดเป็นรอบที่ 2 ของปีนี้ด้วย
