xs
xsm
sm
md
lg

เตือนไทยเตรียมรับคลื่นทุน-สินค้าจีนทะลักตามแนว North-South

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พิษณุโลก – กรรมการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเหนือหวังเวทีหารือตัวแทนรัฐ และเอกชนไทย พม่า ลาว จีน ที่เชียงรายมีนาคม 51 เคลียร์อุปสรรคสกัดสินค้าไทยเข้าจีน หลังสารพัดสินค้าจีนมีแนวโน้มทะลักเข้าไทยผ่านถนน R3a ที่จะเสร็จสมบูรณ์อีกไม่กี่เดือน ชี้จากนี้ต้องเร่งพัฒนา Logistics ในไทยโดยเร่งด่วนรับสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ พร้อมแนะผู้ประกอบการไทยเชื่อมเส้นทางเที่ยวให้เป็นแพกเกจรองรับ

นายวิโรจน์ จิรัฐิติกาลโชติ รองเลขาธิการหอการค้าไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคเหนือ หอการค้าไทย เปิดเผยหลังจากประชุมร่วมกับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รองเลขาธิการสำนักงาน คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) เมื่อเร็วๆนี้ถึงแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจในนภาคเหนือว่าจะต้องพัฒนาระบบลอจิสติกส์ (Logistics) เพื่อสนับสนุนการค้า-การค้าชายแดนให้เข้มแข็ง


ทั้งนี้ เพราะกลางปี 2551ถนนจาก North south Economic corridor ที่เชื่อมระหว่าง คุนหมิง สิบสองปันนาของจีน ผ่านสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) มายังด่านเชียงของเชียงราย (R3a) จะแล้วเสร็จ ซึ่งจะทำให้ภาคธุรกิจที่ต้องการขยายฐานและนำสินค้าลงมาในตอนใต้ หรือตลาดอินโดจีนทั้งหมดมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดในไทย จากเดิมที่ค้าขายสินค้าเฉพาะด่านชายแดนเท่านั้น

เขามองว่า เส้นทางที่สะดวกขึ้นทำให้ภาคธุรกิจจีนนำสินค้าขนาดเล็กและใหญ่กระจายลงมาตีตลาดไทยด้วยต้นทุนที่ต่ำ จากเดิมสินค้าส่วนใหญ่ผ่านมาทางท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งนักธุรกิจคนไทยจะต้องสร้างเครือข่ายระบบลอจิสติกส์ มิฉะนั้นสินค้าไทยจะส่งไปขายยังภูมิภาคเอเชียจะมีต้นทุนสูง และเป็นไปได้จะต้องทำแบบวันสต๊อปเซอร์วิส ในพิธีกรรมสินค้าให้ได้ เพื่อที่สินค้าผ่านมายังชายแดนสามารถกระจายสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้สินค้าเสียหาย และทำอย่างไรที่บรรดารถบรรทุก สามารถถือเอกสารผ่านแดนเพียงฉบับเดียวผ่านไปทุกประเทศอย่างสะดวกรวดเร็ว

นายวิโรจน์ บอกว่า สิ่งที่พอจะเห็นเป็นรูปธรรมคือ การประชุมร่วมระหว่างตัวแทนรัฐและเอกชน จากประเทศภาคีสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ ไทย-พม่า-ลาว-จีน ที่จะเกิดขึ้นที่จังหวัดเชียงรายในเดือนมีนาคมนี้ น่าจะเป็นแนวทางหาบทสรุปในหัวข้อ “สินค้าผ่านแดน”ในประเทศรอบข้าง คือ ไทย จีน ลาว ฯลฯ เพราะวันนี้ สินค้าจากคุนหมิง ผ่านลาวมายังเชียงของ จ.เชียงราย มีมูลค่าสินค้าเพิ่มขึ้นทุกปี และหากถนนจากคุนหมิงวิ่งผ่านตลอด นั่นหมายความว่า สินค้าจะทะลักเข้าไทยจำนวนมาก และที่สำคัญนักธุรกิจจีนจะเปิดสำนักงานในประเทศไทยตามหัวเมืองใหญ่มากขึ้นอย่างแน่นอน

สิ่งที่จะตามมา หากสินค้าผ่านการเจรจาสินค้าผ่านแดน มีพิธีกรรมศุลกากรสมบูรณ์แบบ ปริมาณคน หรือ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพร้อมกับสินค้า จะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ดังนั้น ทุกภาคส่วนในพื้นที่ภาคเหนือจะต้องร่วมหารือกันว่า จะทำอย่างไร ที่จะพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ได้ ซึ่งภาคเหนือตอนบนไม่ค่อยน่าเป็นห่วง จะมีแต่ทางภาคเหนือตอนล่าง ที่ยังไม่สามารถดึงดูดเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวได้ จึงต้องหาวิธีว่าจะทำอย่างไรที่จะให้นักธุรกิจไทยและภาครัฐจับมือกันขายการท่องเที่ยวแบบแพกเกจ ซึ่งการท่องเที่ยวจะต้องทำเป็นคลัสเตอร์(Cluster)

ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคเหนือ หอการค้าไทย กล่าวอีกว่า สิ่งที่ผู้ประกอบการคนไทยต้องเร่งทำ คือ ต้องรู้ว่า สินค้าไทยที่จีนต้องการนั้นมีอะไรบ้าง ที่น่าสนใจและสามารถส่งสินค้าย้อนกลับไปประเทศจีน บนระบบลอจิสติกส์ในระบบขนส่งสัญชาติจีน แน่นอนว่า ไม่มีทางที่หัวลากรถบรรทุกจีนจะตีรถเปล่ากลับไปแน่นอน

ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ของไทยไปเปิดสำนักงานถาวรที่มณฑลคุนหมิง ในลักษณะไทยมาร์ท เพื่อให้ผู้ประกอบการในภาคเหนือ ไปโรดโชว์สินค้าให้สามารถหาช่องทางการจำหน่ายในประเทศจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งน่าเสียดาย ผู้ประกอบการในภาคเหนือตอนล่างไม่ค่อยรู้ และไม่เอาจริงเอาจังกับการค้ากับต่างประเทศ แม้ว่าภาครัฐของไทยกำลังเดินหน้าไปแล้ว

“แนวทางพัฒนาเหล่านี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องบรรจุในแผนพัฒนาจังหวัด/กลุ่มจังหวัด เพื่อดำเนินการให้เกิดรูปธรรม รองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือต่อไป”
กำลังโหลดความคิดเห็น