ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – ทุนไทยเชื้อสายจีนเดินหน้าแผนลงขัน 1,000 ล้านบาท ตั้งบริษัทร่วมทุนกลางระหว่าง “จีน-ไทย” ผุดศูนย์กลางซื้อขายสินค้าทั้ง 2 ประเทศบน “บิซิเนสปาร์ก” กลางเมืองเชียงใหม่ ของ “วัชระ ตันตรานนท์” นักพัฒนาที่ดินรายใหญ่ที่เปิดเงื่อนไขรับได้ทั้งขายที่-ร่วมทุน
ขณะที่โครงการคมนาคมเชื่อมโยงไทย-พม่า-ลาว-จีน (สี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ) มีความชัดเจนเป็นรูปธรรมมากขึ้น รวมถึงกระแสทุนจากจีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฯลฯ ต่างพาเหรดเข้ายึดพื้นที่ยุทธศาสตร์ตามแนวเส้นทางต่าง ๆ โดยเฉพาะเส้นทางการเดินเรือในแม่น้ำโขง – ถนน R3a (จีน-ลาว-ไทย) ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ หัวเมืองหลักของภาคเหนือ ก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวรองรับกระแสทุน-สินค้าจาก จีน เช่นกัน
นายประพันธ์ สุจริตพานิช ที่ปรึกษาอาวุโส ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) สาขาช้างเผือก จ.เชียงใหม่ นายกสมาคมแต้จิ๋ว จ.เชียงใหม่ อดีตนายกสมาคมพ่อค้าจีนเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังมีการหารือกันเบื้องต้นในกลุ่มนักธุรกิจไทยเชื้อสายจีนในเชียงใหม่ ที่จะระดมทุนก่อตั้งบริษัทร่วมทุนไทย-จีนขึ้นที่เชียงใหม่ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการติดต่อซื้อ-ขายสินค้า ร่วมทุน ระหว่างนักลงทุนไทยกับจีนขึ้น
นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า แผนการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกลางดังกล่าว กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเบื้องต้นเท่านั้น อาจจะต้องใช้เวลาอีกไม่น้อยกว่าครึ่งปีจึงจะลงตัว โดยขณะนี้ได้ข้อสรุปหลักการลงทุนแล้วว่า จะใช้เงินลงทุน 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 100 หุ้น หุ้นละ 10 ล้านบาท ซึ่งฝ่ายนักลงทุนจีน จะเข้ามาถือหุ้น 70% และกลุ่มทุนไทยเชื้อสายจีนจะถือหุ้นส่วนที่เหลือ 30%
ขณะนี้ทาง “หม่าเจี๊ยนป๋อ” หรือนายบุญเรือง ฟูอนันต์ ลูกเขยของกลุ่มฟูอนันต์มอเตอร์ ตัวแทนจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ฮอนด้ารายใหญ่ในเชียงใหม่ ที่มีเชื้อสายจีน ซึ่งกว้างขวางในแวดวงธุรกิจ-ราชการในนครคุนหมิง เมืองหลวงของมณฑลหยุนหนัน สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้รับหน้าที่ในการประสานงานกับกลุ่มทุนจาก จีน ให้อยู่
ส่วนแนวทางการดำเนินธุรกิจที่จะทำก็คือ เป็นตัวกลางในการนำสินค้าจากจีนเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย โดยผู้ถือหุ้นฝ่ายจีน จะคัดกรองสินค้าที่โดดเด่นจากแต่ละมณฑลของ จีน ทั้งยาสมุนไพร – เสื้อผ้า – ผ้าไหม เครื่องปั้นดินเผา ฯลฯ เข้ามาจำหน่าย ขณะที่ฝ่ายไทยก็จะคัดกรองสินค้าที่โดดเด่นจากทุกพื้นที่ของไทย ที่เสนอเข้ามาส่งไปจำหน่ายใน จีนด้วย
ทั้งนี้ จะลงทุนก่อสร้างศูนย์แสดง-จำหน่ายสินค้าไทย/จีนขึ้นบนพื้นที่ประมาณ 20-30 ไร่ ในโครงการบิซิเนสปาร์ก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ของนายวัชระ ตันตรานนท์ นักธุรกิจพัฒนาที่ดินชั้นนำของเชียงใหม่ ที่ได้เจรจากันเบื้องต้นว่า พร้อมที่จะเข้าร่วมโครงการนี้ ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขขายให้เฉพาะที่ดิน หรือขายที่ดินให้ส่วนหนึ่งที่เหลือตีราคาเป็นทุน หรือใช้ที่ดินเข้าร่วมถือหุ้นด้วย
“เราเชื่อว่าทุนไทยเชื้อสายจีนในเชียงใหม่มีศักยภาพสูง และกว้างขวางมาก ไม่ว่าจะเป็นแต้จิ๋ว – ไหหลำ-กวางตุ้ง เพียงแต่แนวคิดในการลงทุนค่อนข้างระมัดระวัง ทำให้ที่ผ่านมาไม่มีกิจกรรมการลงทุนออกมาเท่าที่ควร นอกจากนี้ระยะที่ผ่านมามีนักลงทุนจีนเข้ามาลงทุนในประเทศไทยจำนวนมาก แต่กลับถูกหลอกลวงจนประสบกับการขาดทุน ดังนั้น หากสามารถสร้างองค์กรกลางขึ้นมาคัดกรองทั้งตัวสินค้า-กลุ่มทุน จากทั้ง 2 ฝ่าย ก่อนที่จะเปิดให้เจรจากันขึ้น จะก่อให้เกิดกิจกรรมการลงทุนที่ดีระหว่างไทย-จีนในพื้นที่เชียงใหม่ หรือภาคเหนือขึ้นอีกหลายโครงการแน่นอน”
อย่างไรก็ตาม นายประพันธ์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวขณะนี้ยังถือว่า อยู่ในระดับการหารือเบื้องต้นเท่านั้น ยังไม่ก่อรูปขึ้นมาชัดเจน ต้องรอการหารือระหว่างตัวแทนฝ่ายทุนไทยเชื้อสายจีนกับนักลงทุนจีน ที่เบื้องต้นมีโครงการจะเข้ามาลงทุนในเชียงใหม่ และภาคเหนือของไทยอยู่แล้วก่อน
ขณะที่โครงการคมนาคมเชื่อมโยงไทย-พม่า-ลาว-จีน (สี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ) มีความชัดเจนเป็นรูปธรรมมากขึ้น รวมถึงกระแสทุนจากจีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฯลฯ ต่างพาเหรดเข้ายึดพื้นที่ยุทธศาสตร์ตามแนวเส้นทางต่าง ๆ โดยเฉพาะเส้นทางการเดินเรือในแม่น้ำโขง – ถนน R3a (จีน-ลาว-ไทย) ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ หัวเมืองหลักของภาคเหนือ ก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวรองรับกระแสทุน-สินค้าจาก จีน เช่นกัน
นายประพันธ์ สุจริตพานิช ที่ปรึกษาอาวุโส ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) สาขาช้างเผือก จ.เชียงใหม่ นายกสมาคมแต้จิ๋ว จ.เชียงใหม่ อดีตนายกสมาคมพ่อค้าจีนเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังมีการหารือกันเบื้องต้นในกลุ่มนักธุรกิจไทยเชื้อสายจีนในเชียงใหม่ ที่จะระดมทุนก่อตั้งบริษัทร่วมทุนไทย-จีนขึ้นที่เชียงใหม่ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการติดต่อซื้อ-ขายสินค้า ร่วมทุน ระหว่างนักลงทุนไทยกับจีนขึ้น
นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า แผนการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกลางดังกล่าว กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเบื้องต้นเท่านั้น อาจจะต้องใช้เวลาอีกไม่น้อยกว่าครึ่งปีจึงจะลงตัว โดยขณะนี้ได้ข้อสรุปหลักการลงทุนแล้วว่า จะใช้เงินลงทุน 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 100 หุ้น หุ้นละ 10 ล้านบาท ซึ่งฝ่ายนักลงทุนจีน จะเข้ามาถือหุ้น 70% และกลุ่มทุนไทยเชื้อสายจีนจะถือหุ้นส่วนที่เหลือ 30%
ขณะนี้ทาง “หม่าเจี๊ยนป๋อ” หรือนายบุญเรือง ฟูอนันต์ ลูกเขยของกลุ่มฟูอนันต์มอเตอร์ ตัวแทนจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ฮอนด้ารายใหญ่ในเชียงใหม่ ที่มีเชื้อสายจีน ซึ่งกว้างขวางในแวดวงธุรกิจ-ราชการในนครคุนหมิง เมืองหลวงของมณฑลหยุนหนัน สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้รับหน้าที่ในการประสานงานกับกลุ่มทุนจาก จีน ให้อยู่
ส่วนแนวทางการดำเนินธุรกิจที่จะทำก็คือ เป็นตัวกลางในการนำสินค้าจากจีนเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย โดยผู้ถือหุ้นฝ่ายจีน จะคัดกรองสินค้าที่โดดเด่นจากแต่ละมณฑลของ จีน ทั้งยาสมุนไพร – เสื้อผ้า – ผ้าไหม เครื่องปั้นดินเผา ฯลฯ เข้ามาจำหน่าย ขณะที่ฝ่ายไทยก็จะคัดกรองสินค้าที่โดดเด่นจากทุกพื้นที่ของไทย ที่เสนอเข้ามาส่งไปจำหน่ายใน จีนด้วย
ทั้งนี้ จะลงทุนก่อสร้างศูนย์แสดง-จำหน่ายสินค้าไทย/จีนขึ้นบนพื้นที่ประมาณ 20-30 ไร่ ในโครงการบิซิเนสปาร์ก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ของนายวัชระ ตันตรานนท์ นักธุรกิจพัฒนาที่ดินชั้นนำของเชียงใหม่ ที่ได้เจรจากันเบื้องต้นว่า พร้อมที่จะเข้าร่วมโครงการนี้ ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขขายให้เฉพาะที่ดิน หรือขายที่ดินให้ส่วนหนึ่งที่เหลือตีราคาเป็นทุน หรือใช้ที่ดินเข้าร่วมถือหุ้นด้วย
“เราเชื่อว่าทุนไทยเชื้อสายจีนในเชียงใหม่มีศักยภาพสูง และกว้างขวางมาก ไม่ว่าจะเป็นแต้จิ๋ว – ไหหลำ-กวางตุ้ง เพียงแต่แนวคิดในการลงทุนค่อนข้างระมัดระวัง ทำให้ที่ผ่านมาไม่มีกิจกรรมการลงทุนออกมาเท่าที่ควร นอกจากนี้ระยะที่ผ่านมามีนักลงทุนจีนเข้ามาลงทุนในประเทศไทยจำนวนมาก แต่กลับถูกหลอกลวงจนประสบกับการขาดทุน ดังนั้น หากสามารถสร้างองค์กรกลางขึ้นมาคัดกรองทั้งตัวสินค้า-กลุ่มทุน จากทั้ง 2 ฝ่าย ก่อนที่จะเปิดให้เจรจากันขึ้น จะก่อให้เกิดกิจกรรมการลงทุนที่ดีระหว่างไทย-จีนในพื้นที่เชียงใหม่ หรือภาคเหนือขึ้นอีกหลายโครงการแน่นอน”
อย่างไรก็ตาม นายประพันธ์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวขณะนี้ยังถือว่า อยู่ในระดับการหารือเบื้องต้นเท่านั้น ยังไม่ก่อรูปขึ้นมาชัดเจน ต้องรอการหารือระหว่างตัวแทนฝ่ายทุนไทยเชื้อสายจีนกับนักลงทุนจีน ที่เบื้องต้นมีโครงการจะเข้ามาลงทุนในเชียงใหม่ และภาคเหนือของไทยอยู่แล้วก่อน