ศูนย์ข่าวศรีราชา - บริษัท ซียูอีแอล แหลมฉบัง แจงถึงสถานการณ์ข้อพิพาท ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 1 เดือน ชี้ปัญหานี้ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท
วันนี้ (23 ม.ค.) ที่โรงแรมเคปราชา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี นายสมชัย สามพี่น้อง ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและรัฐสัมพันธ์ บริษัท ซียูอีแอล จำกัด พร้อมคณะผู้บริหารของบริษัท ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงสถานการณ์ข้อพิพาทแรงงาน ระหว่างสหภาพแรงงานผลิตแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติแห่งประเทศไทย และบริษัท ซียูอีแอล จำกัด ได้มีการเจรจามานานกว่า 10 ครั้งแล้ว แต่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงตามข้อเรียกร้องทั้งหมดได้
จากข้อเรียกร้องต่างๆ นั้น ประกอบด้วย 1.ให้บริษัทปรับปรุงและส่งเสริมแรงงานสัมพันธ์ ทั้งทางด้านการมีส่วนร่วมของกรรมการสหภาพ 2.ให้บริษัทจ่ายเงินโบนัส, ขอให้บริษัทปรับค่าจ้างประจำปีจากเดิม 6% เป็น 8% และบวกเพิ่มพิเศษอีกคนละ 500 บาท, ขอให้บริษัทปรับเบี้ยขยันจากเดิม 300-500 บาท ต่อเดือน เป็น 700 บาท
นอกจากนั้น ขอให้บริษัทจ่ายค่าครองชีพให้กับพนักงานทุกคนๆ ละ 500 บาทต่อเดือน, ขอให้ทางบริษัทปรับเพิ่มทุนการศึกษาบุตรจากเดิม 1,000 บาท เป็น 2,000 บาท, ขอให้บริษัทปรับวงเงินประกันชีวิตหมู่ เท่ากันทุกคน, ขอให้บริษัทจ่ายชุดฟอร์ม จาก 3 ชุดเป็น 5 ชุด และรองเท้าเซฟตี้ จาก 1 คู่ เป็น 2 คู่, ขอให้พนักงานเกษียณอายุจาก 55 ปี เป็น 50 ปี และขอให้พนักงานเหมาค่าแรงที่ทำงานกับบริษัทตั้งแต่ 2 ปี ขึ้นไปบรรจุเป็นพนักงานประจำ
นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับข้อเรียกร้องนั้น โดยบางข้อบริษัทรับเงื่อนไขได้ แต่บางข้อไม่สามารถรับข้อเรียกร้องได้ โดยเฉพาะกรณีเงินโบนัส ที่ สหภาพเรียกร้อง คือ ต้องการโบนัส 3.5 เดือน พร้อม 17,000 บาท ซึ่งถือว่าสูงมาก และบริษัทได้ต่อรองลดหย่อน 2.5 เดือน แต่สหภาพก็ไม่ยินยอมในการลดหย่อนดังกล่าว
“ในความเป็นจริงทางบริษัทได้ให้สวัสดิการและเงินโบนัส สูงกว่าบริษัทอื่นๆ ที่มีรูปแบบบริษัทเช่นเดียวกัน และในปีนี้บริษัทมีผลกำไรลดลงจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาท ที่สำคัญ ค่าใช้จ่ายในการลงทุนก็เพิ่มสูงขึ้น จึงไม่สามารถให้เงินโบนัสสูงตามที่ต้องการ แต่ก็ไม่ได้แตกต่างจากปีที่ผ่านมามากนัก ซึ่งสหภาพก็ไม่เชื่อในข้อมูลของบริษัท และกล่าวหาว่าทางบริษัทบิดเบือนข้อมูล จึงส่งผลทำให้การเจรจาที่ผ่านมล้มเหลว” นายสมชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้โครงการสำคัญๆ ที่บริษัทดำเนินการอยู่ได้แล้วเสร็จลงแล้ว และส่งมอบงานเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งผลจากมาตรการรองรับสถานการณ์ที่เตรียมการไว้ล่วงหน้า เช่น การสำรองพนักงานชั่วคราว จากบริษัทผู้รับเหมาช่วง การเพิ่มเวลาการทำงานล่วงเวลาของพนักงานที่ไม่ใช่สมาชิกสหภาพแรงงาน และสมาชิก ที่ยินดีสละข้อเรียกร้อง จึงไม่ส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิตในการก่อสร้างแท่นผลิตปิโตเลียม ให้แก่ลูกค้าหลักของบริษัท โดยผู้ถือหุ้นและลุกค่าทุกรายได้รับทราบความคืบหน้าของสถานการณ์ ข้อพิพาท ที่เกิดขึ้น และยังคงเชื่อมั่นว่าคณะผู้บริหารสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
นายสมชัย กล่าวต่อว่า หากการเจรจาดังกล่าวหากไม่ประสบผลสำเร็จ ก็จะขึ้นอยู่กับคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ ซึ่งมีหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ-เอกชน และลูกจ้าง ร่วมเจรจาเพื่อหาข้อยุติที่ดีกันทุกๆฝ่าย แต่ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น โดยทางจังหวัดชลบุรีจะขอร่วมเจรจาอีกครั้ง ในวันพรุ่งนี้ (24 ม.ค.) เวลา 13.00 น.ก่อนจะดำเนินมาตรการอื่นต่อไป