พิจิตร - ชลประทาน 2 จังหวัดร่วมบริหารจัดการน้ำที่ผันมาจากแม่น้ำปิง ช่วยชาวนาที่ทำนานพื้นที่ 2 จังหวัดกว่า 6 หมื่นไร่ ย้ำชาวนาต้องเคารพกฎข้อตกลงการใช้น้ำและเอื้ออาทรต่อกัน
นายบรรดิษฐ์ อินต๊ะ ผอ.โครงการชลประทานกำแพงเพชร สำนักชลประทานที่ 4 จ.กำแพงเพชร ได้เปิดเผยถึงการแก้ไขข้อพิพาทของชาวนาพิจิตรและชาวนากำแพงเพชรที่เกิดข้อพิพาทเปิดศึกแย่งน้ำทำนา ที่โครงการชลประทานกำแพงเพชร ผันน้ำจากแม่น้ำปิงเข้ามาทางคลองคอทองแดงไหลผ่าน อ.ไทรงาม และ อ.บึงสามัคคี เข้าสู่ อ.สามง่าม อ.โพธิ์ประทับช้าง อ.บึงนาราง จ.พิจิตร ซึ่งน้ำดังกล่าวจะหล่อเลี้ยงนาข้าวของชาวนา 2 จังหวัดกว่า 6 หมื่นไร่ ว่า
ขณะนี้ได้สั่งการให้มีการจัดเวรยามเปิด-ปิดประตูน้ำ ที่อาคารประตูน้ำบ้านหนองไผ่ล้อมและบ้านยางงาม ที่เป็นประตูน้ำต้นคลองให้ระบายน้ำให้ชาวนาพิจิตรอย่างเพียงพอแล้ว โดยมีน้ำในโควตา 200 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งถ้าบริหารจัดการอย่างถูกต้องจะพอต่อการทำนาถึงเดือนกุมภาพันธ์อย่างแน่นอน
อีกทั้งถ้าชาวนา จ.กำแพงเพชร ที่อยู่ต้นน้ำเก็บเกี่ยวผลผลิตในนาข้าวแล้ว ใช้น้ำน้อยลงหรือปริมาณน้ำเหลือใช้ ก็จะผันน้ำส่วนเกินแถมให้ชาวนาพิจิตรเพิ่มขึ้นอีก จึงมั่นใจว่าน้ำไม่ขาดแคลน
แต่ที่เกิดปัญหา เพราะชาวนาพิจิตรมีกฎที่หมู่บ้านและชุมชนตั้งขึ้น แต่คนในหมู่บ้านไม่เคารพกฎที่ตั้งขึ้น ทำให้ต้องตั้งคนนอกไปเป็นคนกลางในการแบ่งปันน้ำทำนา ซึ่งขณะนี้ทำความเข้าใจกันได้แล้ว จึงมั่นใจว่าปัญหาแย่งน้ำทำนาของชาวนาพิจิตร-กำแพงเพชร จะยุติลงได้ด้วยความสมานฉันท์และเอื้ออาทรต่อกันด้วยดี
ผอ.โครงการชลประทานกำแพงเพชร สำนักชลประทานที่ 4 จ.กำแพงเพชร กล่าวอีกว่า กรมชลประทานมีความตั้งใจจริง ที่จะช่วยชาวนาทั้ง 2 จังหวัด ที่ใช้น้ำจากแม่น้ำปิง โดยขณะนี้ชลประทานกำแพงเพชรจะทำหน้าที่จัดหาน้ำส่งไปให้ชาวนาพิจิตร
ส่วนชลประทานจังหวัดพิจิตร ก็จะทำหน้าที่เป็นผู้จัดสรรน้ำและให้ความรู้การทำโซนนิ่งและช่วงเวลาการใช้น้ำที่เหมาะสม อีกทั้งขอความร่วมมือไปยังสำนักงานเกษตรจังหวัดพิจิตรให้ความรู้เรื่องพืชที่ใช้น้ำน้อยและเหมาะสมกับฤดูกาล อันจะเป็นการแก้ปัญหาน้ำทั้งระบบได้อย่างยั่งยืนและถาวรต่อไป
นายบรรดิษฐ์ อินต๊ะ ผอ.โครงการชลประทานกำแพงเพชร สำนักชลประทานที่ 4 จ.กำแพงเพชร ได้เปิดเผยถึงการแก้ไขข้อพิพาทของชาวนาพิจิตรและชาวนากำแพงเพชรที่เกิดข้อพิพาทเปิดศึกแย่งน้ำทำนา ที่โครงการชลประทานกำแพงเพชร ผันน้ำจากแม่น้ำปิงเข้ามาทางคลองคอทองแดงไหลผ่าน อ.ไทรงาม และ อ.บึงสามัคคี เข้าสู่ อ.สามง่าม อ.โพธิ์ประทับช้าง อ.บึงนาราง จ.พิจิตร ซึ่งน้ำดังกล่าวจะหล่อเลี้ยงนาข้าวของชาวนา 2 จังหวัดกว่า 6 หมื่นไร่ ว่า
ขณะนี้ได้สั่งการให้มีการจัดเวรยามเปิด-ปิดประตูน้ำ ที่อาคารประตูน้ำบ้านหนองไผ่ล้อมและบ้านยางงาม ที่เป็นประตูน้ำต้นคลองให้ระบายน้ำให้ชาวนาพิจิตรอย่างเพียงพอแล้ว โดยมีน้ำในโควตา 200 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งถ้าบริหารจัดการอย่างถูกต้องจะพอต่อการทำนาถึงเดือนกุมภาพันธ์อย่างแน่นอน
อีกทั้งถ้าชาวนา จ.กำแพงเพชร ที่อยู่ต้นน้ำเก็บเกี่ยวผลผลิตในนาข้าวแล้ว ใช้น้ำน้อยลงหรือปริมาณน้ำเหลือใช้ ก็จะผันน้ำส่วนเกินแถมให้ชาวนาพิจิตรเพิ่มขึ้นอีก จึงมั่นใจว่าน้ำไม่ขาดแคลน
แต่ที่เกิดปัญหา เพราะชาวนาพิจิตรมีกฎที่หมู่บ้านและชุมชนตั้งขึ้น แต่คนในหมู่บ้านไม่เคารพกฎที่ตั้งขึ้น ทำให้ต้องตั้งคนนอกไปเป็นคนกลางในการแบ่งปันน้ำทำนา ซึ่งขณะนี้ทำความเข้าใจกันได้แล้ว จึงมั่นใจว่าปัญหาแย่งน้ำทำนาของชาวนาพิจิตร-กำแพงเพชร จะยุติลงได้ด้วยความสมานฉันท์และเอื้ออาทรต่อกันด้วยดี
ผอ.โครงการชลประทานกำแพงเพชร สำนักชลประทานที่ 4 จ.กำแพงเพชร กล่าวอีกว่า กรมชลประทานมีความตั้งใจจริง ที่จะช่วยชาวนาทั้ง 2 จังหวัด ที่ใช้น้ำจากแม่น้ำปิง โดยขณะนี้ชลประทานกำแพงเพชรจะทำหน้าที่จัดหาน้ำส่งไปให้ชาวนาพิจิตร
ส่วนชลประทานจังหวัดพิจิตร ก็จะทำหน้าที่เป็นผู้จัดสรรน้ำและให้ความรู้การทำโซนนิ่งและช่วงเวลาการใช้น้ำที่เหมาะสม อีกทั้งขอความร่วมมือไปยังสำนักงานเกษตรจังหวัดพิจิตรให้ความรู้เรื่องพืชที่ใช้น้ำน้อยและเหมาะสมกับฤดูกาล อันจะเป็นการแก้ปัญหาน้ำทั้งระบบได้อย่างยั่งยืนและถาวรต่อไป