เลย-พบ “ครูบ้านนอก” ร่วม 27 ปีทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อเด็กนักเรียนและชุมชน ยอมเสียสละเงินเดือนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงโรงเรียนและเป็นทุนให้เด็กที่ขัดสน พร้อมทั้งตั้งค่ายมวยให้เด็กใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และห่างไกลจากยาเสพติด แนะเพื่อนครูให้ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง อย่ายึดติดวัตถุนิยม
มี “ครู” จำนวนไม่น้อยที่เป็นครูด้วยหัวใจ พร้อมเสียสละ ทั้งทรัพย์สินและเงินทอง เพื่อบ่มสอนลูกศิษย์ อุทิศทั้งกาย ทั้งใจ มอบให้แก่นักเรียนผู้ขาดโอกาสทางสังคมเจียดเงินเดือนที่ได้รับไม่มากนักช่วยเหลือนักเรียนที่ขัดสนให้ได้มีอุปกรณ์การเรียน ยอมตัดขาดจากความสบาย ทุ่มเวลาทั้งหมดที่มีอยู่เพื่อบ่มเพาะเยาวชนของชาติให้มีคุณภาพ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีครูพูนนิวัฒน์ สินสวัสดิ์รวมอยู่ด้วย
นายพูนนิวัฒน์ สินสวัสดิ์ อายุ 50 ปี เริ่มบรรจุรับราชการครู ตั้งแต่ปี 2524 ปัจจุบันสอนประจำอยู่ ที่โรงเรียนบ้านหัวเก่ง ต.หาดทรายขาว อ.เชียงคาน จ.เลย โรงเรียนแห่งนี้ มีอาคารเรียนเก่าๆ 2 หลัง เด็กนักเรียน ชาย 9 คน เด็กนักเรียนหญิง 14 คนรวมทั้งสิ้น 23 คน ครูในโรงเรียนทั้งหมด 3 คน
กิจวัตรของครูพูนนิวัฒน์แต่ละวัน เดินทางไปโรงเรียนตั้งแต่ 07.30 น.และกลับบ้านพักในเวลา 19.00-20.00 น. เขาปฏิบัติเช่นนี้ติดต่อกันมาแล้ว 27 ปี
นายพูนนิวัฒน์ เล่าว่า ตนได้เสียสละเงินเดือนส่วนหนึ่ง แต่ละเดือนประมาณ 5,000-6,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดูแลค่ายมวย ที่ตนตั้งขึ้น เพื่อให้เด็กนักเรียนและศิษย์เก่าที่มาซ้อมมวยในช่วงเย็นเพื่อฝึกเด็กได้ออกกำลังกายและใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ขณะเดียวกัน ได้แบ่งเงินส่วนหนึ่งเพื่อปรับปรุงซ่อมแซมโรงเรียน ส่งเสริมการเรียนการสอน นอกจากนั้นได้มอบเป็นทุนการศึกษาให้เด็กบางส่วนที่ยากจน
สำหรับการสอนมวยไทย นายพูนนิวัฒน์ บอกว่า ตนมาอยู่ที่หมู่บ้านนี้ตั้งแต่บรรจุ ชาวบ้านและผู้ปกครองส่วนใหญ่ชอบกีฬามวย จึงต้องการส่งเสริม ที่สำคัญเป็นการสนับสนุนให้ศิษย์เก่าและนักเรียนได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ไม่มีเวลาที่จะไปมั่วสุมอบายมุข โดยเฉพาะยาเสพติด
ในปี 2549 ที่ผ่านมา ครูพูนนิวัฒน์ ได้ส่งนักเรียนนักมวยไปชกและได้รับรางวัลแชมป์ภาคอีสาน รุ่นมินิพินเวต ของอีสานตอนบน ซึ่งสร้างความภูมิใจกับตัวครูพูนนิวัฒน์และชุมชนเป็นอย่างยิ่ง
ด้านการดำรงชีวิตของครูพูนนิวัฒน์นั้นเรียบง่าย พอเพียง โดยหลังจากมีเวลาว่างจากการสอน บางวันก็ไปรับจ้างตัดผม ให้กับชาวบ้าน คิดเพียงหัวละ 20 บาท ออกไปบริการถึงบ้าน ทั้งยังถ่ายทอดวิชาตัดผมให้กับนักเรียนที่สนใจ ขณะนี้มีลูกศิษย์แล้ว 5 รุ่น หลายคนยึดอาชีพตัดผมในหมู่บ้าน รายได้จากการรับจ้างตัดผม ครูพูนนิวัฒน์ได้นำมาเป็นค่าใช้จ่ายในค่ายมวย
“ตอนนี้ผมรับเงินเดือน 27,000 บาทบวกกับเงินวิทยฐานะอีก 2,000 บาท รวมเป็นเงิน 29,000 บาท หลังจากรับเงินแล้วก็จะจัดสรรเป็นค่าใช้จ่ายประจำเดือนส่วนตัว แต่ละเดือนใช้ไม่มากนักเพราะเป็นโสด ส่วนหนึ่งส่งให้กับทางบ้าน เพื่อให้พี่สาวดูแลแม่ซึ่งมีอายุ ถึง 80 ปีและเป็นค่าเล่าเรียนของหลานๆ อีก 2 คน ที่เหลือก็กันไว้เพื่อช่วยนักรเรียนในโรงเรียน เหลือบางส่วนเก็บฝากไว้กับธนาคาร” ครูพูนนิวัฒน์ เล่า และกล่าวฝากถึงเพื่อครูทั้งหลายว่า อยากให้เพื่อนครูไม่ยึดติดกับความฟุ้งเฟื้อ เป็นทาสวัตถุนิยม การใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพและมีค่านั้นไม่จำเป็นต้องมีรถยนต์คันใหญ่โก้หรูหรือมีบ้านหลังใหญ่ๆ อยากให้รู้จักคำว่าพอเพียง ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง ที่สำคัญต้องให้เวลากับลูกศิษย์และส่วนรวมมากๆ