xs
xsm
sm
md
lg

กั๊กดีนัก เจ๊งซะให้เข็ด!! ผู้จัดคอนเสิร์ต ดัดหลังแม่ค้า “โก่งราคา-เก็งกำไร” ต้องแก้เผ็ด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แม่ค้ากั๊กบัตรคอนเสิร์ต โอดครวญ “ขาดทุนยับ” หลักแสน เจอผู้จัดดัดหลัง ปล่อยบัตรวันจริงจนล้นตลาด โซเชียลฯ ซ้ำ “สมควรโดน” พวก “รีเซลล์บัตร” โก่งราคา เก็งกำไร ทำนาบนหลังคน บอกเลยนี่ไม่ใช่การเอาคืนครั้งสุดท้าย เหล่าผู้จัดจับมือสู้ เตรียมแก้เผ็ดอีกหลายกลยุทธ์ ไม่เข็ด-ไม่เลิก!!

** สม..แล้ว ทำนาบนหลังคน **


หวังฟันกำไร สุดท้ายหลังเดาะ นี่คืออุทาหรณ์ของเหล่า “แม่ค้ารีเซลล์บัตรคอนเสิร์ต”ที่ถูกผู้จัดคอนเสิร์ตพลิกเกมเอาคืน จนถึงกับต้องออกมาโพสต์โอดครวญผ่านเฟซบุ๊ก

พรรณนาขอความเห็นใจ หลังลงทุน “กว้านซื้อ” บัตรเทศกาลดนตรี “นั่งเล่น”ครั้งที่ 9 (Nanglen Music Festival) ไปถึง “327 ใบ” เพื่อมา “ขายต่อ”โดยต้นทุนอยู่ที่ใบละ 2,600 บาท หมดเงินไปกว่า 800,000 บาท

ส่วนเหตุผลที่เธอยอมลงทุนขนาดนี้ เพราะได้ยินข้อมูลมาว่า งานนี้บัตรมีน้อย ซึ่งเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว บัตรงานคอนเสิร์ตนี้ก็มีเหลือน้อยจริงๆ

แม่ค้ารายนี้จึงตัดสินใจช้อนซื้อบัตรไว้ โดยหวังทำกำไรใบละ 50-100 บาท แต่กลายเป็นว่า ปีนี้คอนเสิร์ตดังกล่าว กลับมีบัตรผลิตออกมาเยอะมากๆ จนเรียกได้ว่า “ล้นตลาด”


                                                        {แม่ค้ารีเซลล์ ร้องหนี้ท่วม หลังโดนผู้จัดดันหลัง}

ทำเอาเหล่า “พ่อค้า-แม่ค้ารีเซลล์” เหมือนกันกับเธอนับ 100 เจ้า แห่กัน “เทขายบัตร” เพื่อ “หนีตาย” ขนาดเจ้าของโพสต์ยอม “ขายขาดทุน” จากใบละ 2,600 เหลือ“200 บาท”ก็ยังขายไม่หมดเลย

สุดท้ายกลายเป็น “หมดตัว” เพราะเจ้าตัวได้เอาเงินที่ลงทุนในครั้งนี้ ไปจำนำทอง รถก็เอาเข้าไฟแนนซ์ เพื่อหวังจะได้กำไรจากการกทุ่มซื้อบัตรมาขายต่อในครั้งนี้

หลังจากโพสต์ดังกล่าวกลายเป็นไวรัล แทนที่สังคมจะเห็นใจ กระแสดันตีกลับ ชาวโซเชียลฯ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “สมควรแล้ว”

ยิ่งมีมือดีไปขุดประวัติเจ้าของโพสต์ แล้วเจอว่าแม่ค้ารายนี้คือ “ตัวท็อป” วงการรีเซลล์บัตรคอนเสิร์ตของ “เขาใหญ่” ไม่ว่างานไหน ยิ่งมีแต่คนเข้ามา “สมน้ำหน้า” พร้อมกับวิจารณ์ว่า นี่แหละ “ผลกรรม” ทำงานแล้ว

ผลักให้หลายคนมองว่า นี่อาจคือ “แผนดัดหลัง” จากฝั่งผู้จัดงาน ที่จงใจ “เพิ่มบัตรหน้างาน” เพื่อแก้เผ็ดเหล่า “พ่อค้า-แม่ค้านักกว้านซื้อ”



เกี่ยวกับเรื่องนี้ “ป๋าเต็ด-ยุทธนา บุญอ้อม”เจ้าพ่อเทศกาลดนตรี ในฐานะผู้จัดงานครั้งนี้ ได้ออกมาโพสต์แสดงจุดยืนว่า ไม่สนับสนุนบรรดาผู้ค้ากำไรจากการรีเซลล์ และจะพยายามปรับระบบให้สามารถรักษาผลประโยชน์ของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด

“ในฐานะผู้จัด เราก็ต้องปรับปรุงระบบการซื้อขายบัตร ให้ดียิ่งๆ ขึ้นต่อไป ในขณะเดียวกัน ก็ต้องไม่มีขั้นตอนที่วุ่นวายเกินไป”

“สิ่งที่ได้เรียนรู้จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ที่สำคัญมากคือ เมื่อไม่มีผู้ซื้อ ก็ไม่มีผู้ขาย เมื่อมีผู้ตุนบัตรไว้มาก แต่ไม่ผู้ซื้อ คนที่เจ็บปวดที่สุด ก็คือผู้ตุนบัตร

นี่คือวิธีที่ได้ผลทันที แต่ต้องแลกด้วยความอดทน ถ้าเราซื้อบัตรไม่ทัน ก็อดทน ไว้ดูงานอื่น ปล่อยให้พ่อค้าเหล่านี้ขาดทุนไป ทุกวันนี้มีงานเกิดขึ้นใหม่มากมาย เลือกสนับสนุนได้ตามสะดวก หยุดสนับสนุน คนที่ไม่ควรได้รับการสนับสนุน”

“สิ่งที่เราไม่เห็นด้วย คือการกว้านซื้อบัตร เพื่อไปขายต่อในราคาสูง การนำบัตรฟรี บัตรห้ามซื้อขาย ไปขายต่อ ที่ถือเป็นการฉวยโอกาส และเอาเปรียบผู้ที่ต้องการซื้อบัตรไปชมจริงๆ

หวังว่าเหตุการณ์นี้ จะปลุกให้เราทั้งคนในวงการ และผู้บริโภคได้คุยเรื่องนี้กันอย่างสร้างสรรค์ และนำไปสู่การพัฒนา วงการอีเว้นท์ของบ้านเราให้ดีขึ้นครับ”


                                                                          {“ป๋าเต็ด-ยุทธนา บุญอ้อม”}

** เปิดแผน “ดัดหลัง” นักรีเซลล์ **

อีกหนึ่งเสียงที่ช่วยคอนเฟิร์มจุดยืน “ไม่สนับสนุน” คนที่หากินจากกำไรบัตรคอนเสิร์ต คือคนในวงการอย่าง “ปูม-ปิยสุ โกมารทัต” ผู้จัดงานคอนเสิร์ต Seen Scene Space และ Maho Rasop Festival

พร้อมทั้งยืนยันว่า ผู้จัดหลายรายพยายามหาวิธีจัดการกับ “เหล่านักรีเซลล์” พวกนี้กันมาสักพักแล้ว โดยเฉพาะในเคสคอนเสิร์ตใหญ่ๆ ระดับเทศกาลดนตรี ที่เริ่มเห็นวิธีแก้เผ็ดอย่างสมน้ำสมเนื้อบ้างแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นการ “ขยายพื้นที่งาน” เพื่อ “เพิ่มบัตร” ในภายหลัง ไปจนถึงการ “กั๊กบัตร” คอนเสิร์ตเอาไว้ส่วนนึงตั้งแต่แรก คือไม่ประกาศขายทั้งหมด

จากนั้น ปล่อยให้พวกแม่ค้ารีเซลล์ กดบัตรไปเก็งกำไรกันก่อน แล้วค่อยปล่อยบัตรที่เก็บเอาไว้ อาจจะในวันถัดไป หรือในระยะเวลากระชั้นชิด เพื่อเป็นการดัดหลัง เอาคืนกลุ่มคนค้ากำไรเกินควร

“เขามีกั๊กบัตรไว้อยู่แล้วครับ สมมติ ขายบัตร 10,000 ใบ แต่จริงๆ อาจจะล็อตแรก เราขายแค่ 6,000 - 7,000 ใบก่อน ดูสถานการณ์อีกที แล้วค่อยปล่อยบัตรที่เหลือเพิ่มในวันต่อไป มันเล่นมุกอะไรแบบนี้ ได้หมดเลยครับ”

“คือพวกรีเซลล์เนี่ย ค่อนข้างเป็นศัตรู กับผู้ซื้อบัตรปกติอยู่แล้ว ผู้จัดคอนเสิร์ต หรือแม้กระทั่งศิลปิน ก็จะแอนตี้สิ่งเหล่านี้อยู่แล้วนะครับ เพราะมันเป็นการไปเอาเปรียบชาวบ้านเขา”


                                                      {“ปูม” ช่วยวิเคราะห์จากมุมมอง “ผู้จัด” รายนึง}

แต่วิธีดัดหลัง ด้วยการ “ปล่อยบัตรเพิ่ม” แบบนี้ จะทำได้เฉพาะคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ ระดับงานเทศกาลดนตรี ที่จัดแบบไม่ระบุที่นั่งแน่ชัดเท่านั้น

ถ้าเป็นงานคอนเสิร์ตที่มี “พื้นที่จำกัด” และ “ระบุที่นั่ง” เอาไว้แน่นอน ผู้จัดมักจะเปลี่ยน “กลยุทธ์ดัดหลัง” เป็นการ “เพิ่มรอบ” การแสดง หรือไม่ก็ “ย้ายสถานที่จัดงาน” ให้ใหญ่กว่าเดิม เพื่อเพิ่มที่นั่ง

แต่ไม่ใช่ว่าจะทำได้ทุกๆ คอนเสิร์ต คือต้องเป็นงานที่กระแสดีมากจริงๆ จนมั่นใจได้ว่าจะขายบัตรหมด เพราะการเพิ่มรอบโชว์ หรือเปลี่ยนสถานที่จัดงาน มันมี “ต้นทุน” ที่เหล่าผู้จัดงานต้องจ่าย

“ขายหมดภายใน 1 นาที, 5 นาที อันนี้ก็รู้แล้ว เราเพิ่มรอบได้แน่นอน หรือไม่เราก็ย้ายไปจัดที่ที่ใหญ่ขึ้นได้แน่ๆ แต่ถ้าเกิดบัตรมันก็สโลว์ กว่าจะขายหมด สมมติ วันแรกเพิ่งไป 50% กว่าจะ Sold Out จริงๆ ก็ผ่านไป 2 อาทิตย์

แบบนี้ถึงเราเพิ่มรอบไป ก็อาจจะขายไม่หมด ก็ไม่คุ้มอยู่ดี อาจจะใช้วิธีเพิ่มเก้าอี้เสริม หรืออะไร แต่เขาก็ไม่ค่อยทำกันหรอกครับ”



ย้ำว่า “ระบบการขายบัตร” ในบ้านเราทุกวันนี้ พัฒนากว่าเดิมมาก ถึงขนาดที่ว่าผู้จัดงานสามารถมอนิเตอร์ได้ตลอดเวลาว่า คนที่เข้าไปซื้อบัตรคือ “คนดูคอนเสิร์ต” ตัวจริง หรือคือเหล่า “พ่อค้า-แม่ค้ากว้านซื้อเก็งกำไร”

“พวกบริษัทจำหน่ายบัตร เขาก็จะส่งรีพอร์ตให้เราว่า ไอ้การซื้อแต่ละครั้ง มันเป็นยังไง อันนี้เราเห็นแล้ว คนกดทีเดียว 20-30 กว่าใบ ก็รู้แล้วว่าไอ้พวกนี้ ไม่ได้ซื้อไปดูเองแน่นอน

มันเป็นพวกซื้อไปรีเซลล์แน่ๆ พอมันเห็นตัวเลขของวันแรก ก็จะเดาได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น และจะแก้ไขเรื่องพวกนี้ยังไง”

“ดูข้อมูลหลังบ้านแล้ว โห..มีพวกรีเซลล์ซื้อไปขนาดนี้ เราแอบเพิ่มบัตรไปอีกสัก 1,000 ใบไหม เพื่อให้คนปกติ เขาได้มีโอกาสซื้อ อะไรอย่างนี้ ก็เกิดขึ้นได้ ทำได้เหมือนกัน”

อย่างไรก็ตาม “ป๋าเต็ด” เจ้าพ่อวงการโชว์บิซ ผู้คร่ำหวอดเทศกาลดนตรีและวงการเพลงมาอย่างยาวนาน รับปากเอาไว้ในฐานะผู้จัดคอนเสิร์ตว่า จะพยายามอุดทุกช่องโหว่ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ “คอคอนเสิร์ตตัวจริง”

“ต่อไป เราจะพยายามพัฒนาระบบ ให้ซื้อขายบัตรต่อกันได้อย่างปลอดภัย ไม่มีการโก่งราคาเกินไป ไม่มีการโกงกัน”



สกู๊ป : ทีมข่าว MGR Live
ขอบคุณภาพ :
X @RedSkullxxx



** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **




กำลังโหลดความคิดเห็น