โครงเรื่องเหมือนเดิม? เพิ่มเติมคือเป็นซีรีส์วาย!! แฟนละครไม่โอ “ไม่ตรงประวัติศาสตร์” ย้อมแมวหวังขายสาวก “Boys' Love” จากใจคนทำหนัง ถ้าต้นฉบับทำไว้ดี ก็ไม่ควรรีเมค เสี่ยงทำลาย “ภาพจำ” ที่แฟนหนังประทับใจ
ย้อมแมวขายวาย? สมัยอโยธยา
ตื่นตาตื่นใจ แต่แฟนละครไม่โอ เมื่อละครดังอย่าง “บุพเพสันนิวาส” กำลังจะกลับมาคืนจออีกครั้ง ในรูปแบบรีเมค ทำใหม่ให้กลายเป็น “ซีรีส์วาย”
โดย “อุ้ย” จันทร์ยวีร์ สมปรีดา หรือนามปากกา “รอมแพง” ออกประกาศว่าผ่านเพจเฟซบุ๊กว่า บุพเพสันนิวาสเวอร์ชันใหม่นี้ จะใช้ “โครงเรื่องเดิม” แต่จะถูกตีความใหม่ให้เป็นแนว “Boys' Love”
“บุพเพสันนิวาสรีเมค หลายท่านอาจจะสงสัยว่าทำไม รอมแพงถึงยอมขาย ทั้งที่เวอร์ชันเดิมตราตรึงมาก ก็เพราะแบบนี้ล่ะค่ะ แก่นเรื่องเดิม เพิ่มเติมคือทำเป็นซีรีส์วาย กับการตีความใหม่ๆ”
ผ่านฝีมือผู้กำกับคนเดิม ที่ปลุกปั้นให้ละครชุดนี้โด่งดังอย่าง “ใหม่” ภวัต พนังคศิริ และได้ “โตโต้” ณัฐปภัสร์ พันธ์เพิ่มศิริ มือเขียนบทที่ฝากผลงานไว้มากมายทั้ง คู่แค้นแสนรัก, วนิดา, แจ๋วใจร้ายกับคุณชายเทวดา ฯลฯ มาร่วมด้วย ซึ่งอยู่ภายใต้ค่ายหนังอย่าง “CENTURY UU THAILAND”
แน่นอนแฟนๆ กลุ่มนึงก็ตื่นเต้นกับ What If ที่ว่าจะเป็นยังไง ถ้าตัวละครเอกอย่าง “คุณพี่หมื่น” มาพบรักกับผู้ชายแทน แต่บางคนกลับ What the F*ck แทน เพราะไม่เห็นด้วยกับการรีเมคครั้งนี้ เช่นเดียวกับผู้ใช้ X รายนี้ที่แสดงความคิดเห็นไว้ว่า...
“เปลี่ยนเพศตัวละคร จากสเตรท(รักต่างเพศ)เป็นเกย์ แต่เนื้อเรื่องยังเหมือนเดิม หากินง่ายเนาะ ทะลุมิติย้อนเวลาไปสมัยก่อน ที่อิงประวัติศาสตร์เป๊ะๆๆ นายเอกจะโดนฟันหัวตายหรือเปล่า จะได้เป็นคู่หมายของพระเอกได้ยังไง”
นอกนั้นคนส่วนใหญ่คอมเมนต์ก็ไปทางเดียวกันคือ “ไม่เห็นด้วย” เพราะ “ความไม่สมเหตุสมผล” ของบริบทที่เปลี่ยนไป เพราะในสมัยอยุธยา “ชายรักชาย” ยังไม่เป็นที่ยอมรับ
อีกมุมบางคนบอกว่า Boys' Love จะเกิดในยุคไหนก็ได้ ไม่ขัด แต่ทำไมไม่เขียนเรื่องใหม่ขึ้นมา มีความจำเป็นอะไรต้องรีเมคจากเรื่องเดิม
“ไม่ขัดจะสมัยไหนก็ตามสบาย แต่ไม่พอใจว่าทำไมต้องรีเมค ไม่มีปัญญาสร้างสรรค์ละครหรือนิยายอื่นเหรอ ประเทศไทยมีนิยายเกย์เริ่ดๆ ตั้งหลายเรื่อง”
เปลี่ยนแต่เพศตัวละคร เพื่อหวังตีตลาดซีรีส์วาย แต่การที่ “เนื้อเรื่องเหมือนเดิม” หลายคนก็มองว่า มันไม่ต่างอะไรกับ “การย้อมแมว” ที่จริงๆ สาวก Boys' Love เองก็ไม่โอเค“สาววายก็มีสมองจ้า ไม่ใช่อะไรเป็น Boys' Love ก็ซื้อหมด Boys' Love บ้งๆ ก็เจ๊งมาเยอะแล้ว”
หลังมีดรามาออกมา ทีมข่าวขอต่อสายตรงไปยังทีมงาน ผู้เตรียมผลิตรีเมคเรื่องนี้ แต่พวกเขายังไม่ขอแสดงความคิดเห็นใดๆ บอกเพียงแค่ว่ารอให้ผลงานออกมาก่อน แล้วค่อยไปตัดสินกันตรงนั้นดีกว่า
ล่าสุด “เบลล่า-ราณี แคมเปน” นักแสดงที่รับบทนางเอกในเวอร์ชันแรก เจ้าของคาแรกเตอร์ “แม่หญิงการะเกด” ในตำนาน ซึ่งโด่งดังเป็นพลุแตกจากเรื่องนี้ ได้ออกมาแสดงให้ความคิดเห็นกับสื่อว่า อยากให้แฟนๆ เปิดใจ และเธอเองก็เป็นกำลังใจให้คนทำงาน รอติดตามชมเหมือนกัน
“อย่างที่บอก มันเป็นวิธีการเล่าแบบใหม่ๆ คนดูก็ต้องเปิดใจยอมรับในสิ่งใหม่ๆ ด้วย คือถ้าดูด้วยความต่อต้าน ก็คงไม่มีใครชอบ หรืออะไรหรอกเนอะ เบลรอเป็นกำลังให้ แล้วก็รอติดตามค่ะ”
ต้นฉบับทำไว้ดี อย่าฝืนเปลี่ยน
ข้อครหาที่ว่า สักแต่จะยัดความเป็นวายเข้ามาในต้นฉบับเดิม ด้วยการเปลี่ยนเพศตัวละคร จากที่เป็นภาพจำของผู้ชมอยู่แล้วนั้น มันเป็นสิ่งที่ควรทำหรือเปล่า?
เกี่ยวกับเรื่องนี้ “โขม” ก้องเกียรติ โขมศิริ ผู้กำกับหนังดังอย่าง “ขุนพันธ์” ช่วยวิเคราะห์เรื่องนี้ผ่านเลนส์ตานักเล่าเรื่องเอาไว้ให้แล้วว่า...
“มันอยู่ที่มุม พี่ว่านะ ถ้าเรื่องเอามารีเมคใหม่แล้ว มันกลายเป็นโขกของเดิมมา เป็นแค่เหล้าเก่าในขวดใหม่ พี่ว่าไม่รอด”
คือต่อให้เราเปลี่ยนตัวละคร เปลี่ยนความรักเป็นแบบชาย-ชาย แต่โครงเรื่อง แง่มุมที่นำเสนอเหมือนเดิม คนก็อาจจะไม่ชอบ เพราะคนดูเคยเห็นเวอร์ชันที่ประทับมากกว่ามาก่อนแล้ว
การใส่ความหลากหลายทางเพศ “มันทำได้” ไม่เกี่ยวกับ setting ของหนังว่า จะอยู่ในยุคไหน แต่อยู่ที่คนทำมากกว่าว่า ต้องการจะสื่อหรือตีความแบบไหม
“เพราะมันเกิดขึ้นในหนัง มันเหมือนคุณฝันอยู่อะ มันไม่จริง ใครไปคิดว่ามันจริง ก็ต้องแยกแยะนิดนึงอะเนอะ ว่ามหรสพกับเรื่องจริง มันคนละเรื่องกัน”
แต่การไปเปลี่ยน “คาแรกเตอร์” ตัวละคร ที่คนรักใน “ตัวตน” ของตัวละครที่เป็นแบบนั้นในต้นฉบับ มันก็เหมือน “ทำลายภาพจำ” ของหนังที่ทำให้คนประทับใจไป มันก็ไม่ควรทำ
การไปเปลี่ยนอะไรพวกนี้ ต่อให้มันจะเป็นการตีความใหม่ที่ดี จบแบบกินใจคนดู แต่มันก็อดไม่ได้ที่ “แฟนหนังจะไม่ยอมรับ” เพราะ “อคติ” เรื่องพวกนี้ ดังนั้น “เป็นเรื่องที่ต้องรับแรงกระแทก ต้องรู้ตั้งแต่จะทำแล้วหรือเปล่า”
“คนที่เขาเคยประทับใจไปแล้ว เขาก็จะมีความรู้สึกว่า มันเป็นของของเขา เขาก็หวงความประทับใจนั้น แล้วมันก็เสี่ยงที่จะอคติ ต่อให้เราทำดีแค่ไหนก็เหอะ มันก็เสี่ยง เขารักแบบนี้ เขาอยากให้มันเป็นแบบนี้”
แต่ในรายละเอียดของ “บุพเพสันนิวาส” เวอร์ชันใหม่ ยังไม่รู้ว่า “ตัวละครเอก” จะเป็นการสร้างขึ้นมาใหม่ หรือใช้ตัวละครเดิมกันแน่
อย่างไรก็ตาม ในมุมของผู้กำกับรายนี้มองว่า “สร้างตัวละครขึ้นมาใหม่” ให้อยู่ในจักรวาลเดิมของหนัง น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า มันจะได้ชัดเจนว่า เป็นนี่การตีความใหม่ นำเสนอมุมมองใหม่ของตัวละคร ที่ยังไม่เคยถูกเล่า มันก็จะรักษาภาพความประทับใจ ของหนังเวอร์ชันต้นฉบับเอาไว้ได้ด้วย
จากประสบการณ์ตรง “รีเมค” คือเรื่องยาก
อีกหนึ่งคำถามที่คนสงสัย “ทำไมไม่เขียนเรื่องใหม่” รีเมคละครที่ภาพจำคนดูยังชัดเจนอยู่ทำไม? ถ้าให้คนทำหนังอย่าง “โขม” ช่วยวิเคราะห์ เขาเข้าใจว่า ผู้ผลิตอาจต้องการอาศัยความสำเร็จของละครเดิม มาการันตีว่าเวอร์ชั่นใหม่มันจะขายได้
“ถามว่าทำไมเวลาคนรีเมค หรือคุณคิดจะทำซีรีส์วายขึ้นมาสักเรื่องนึง ทำไมคุณไม่เขียนใหม่ไปเลย ไม่ควรจะไปพึ่งพาสิ่งที่มันประสบความสำเร็จมาแล้ว เพราะฉะนั้น แปลว่าคุณอาศัยบางอย่างจากของเดิมถูกไหม”
แต่เมื่อเราไปอาศัยใบบุญเก่าของหนังหรือละคร ไม่ว่าจะ “ความดัง” “ฐานแฟนคลับ” สิ่งที่ตามมาคือ “ความคาดหวัง” ทำให้ในมุมคนทำหนัง การรีเมคหนังดังหรือหนังที่ประสบความสำเร็จมากๆ จึงเป็นเรื่องที่ “ยากมาก”
ถือเป็นเรื่องปกติในวงการภาพยนตร์ ที่จะได้เห็นหนังดังที่ถูกรีเมค คว่ำไม่เป็นท่า ยกตัวอย่าง “มู่หลาน (Mulan)” แอนิเมชันดังของ Disney ที่ฉายครั้งแรกเมื่อปี 2541
แต่พอมาทำใหม่ในเวอร์ชันคนแสดงในปี 2563 กลับล้มไม่เป็นท่า เพราะมีการปรับเปลี่ยนอะไรหลายอย่าง จนแฟนหนังบอกว่า นี่ไม่ใช่หนังเรื่องเดียวกัน กับแอมิเมชันที่พวกเขาเคยดูในวัยเด็ก
หรือแม้แต่เรื่อง “พินอคคิโอ (Pinocchio)” เวอร์ชันคนแสดงในปี 2565 ที่รอบนี้ Disney พยายามเดินตามต้นฉบับแอนิเมชันที่เคยสร้างไว้เมื่อปี 2483 แต่สุดท้ายแฟนๆ กลับบอกว่า ผู้ผลิตแค่ลอกต้นฉบับมาเฉยๆ ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่เพิ่มเติม
สะท้อนให้เห็นว่า “ความคาดหวัง” ของ “แฟนหนัง” เป็นอะไรที่คนทำหนังรับมือได้ยากมากๆ โดยเฉพาะการหยิบเอาหนังที่พวกเขารัก มารีเมคใหม่
“ของบางอย่างมัน Finale ไปแล้ว อะไรบางอย่างที่มันดีมากๆ หรือโดนใจมวลชนมากๆ เนี่ย เขารัก เขาหวง ของเขาอะ แล้วถ้าทำไม่ดีมากพอเนี่ย ซึ่งส่วนใหญ่มันจะไม่ดีมากพอ เพราะมันยากมาก เพราะว่าประทับใจไปแล้ว”
ผู้กำกับรายนี้เล่าประสบการณ์ตรง กับการถูกขอให้รีเมคผลงานดังอย่าง “2499 อันธพาลครองเมือง” ซึ่งเคยประสบความสำเร็จอย่างมากในปี 2540
“หนังมันพีคไปขนาดนั้นแล้ว ผมจะทำให้ดีกว่านั้นได้ยังไงวะ แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ารีเมค แต่เมื่อโจทย์มันจำเป็นต้องทำ สิ่งที่พี่ทำก็คือ เฮ้ย..มันยังมีร่องอยู่ ยังมีตัวละครที่ยังไม่ถูกเล่า ก็เลยเกิดเป็น ‘จ๊อด ฮาวดี้’ ขึ้นมา”
โดยโขมเลือกไปเล่าเรื่องใหม่ของตัวละครในจักรวาลนี้ จนกลายมาเป็นหนังเรื่อง “อันธพาล” ในปี 2555 เพื่อเป็นการนำเสนอมุมมองใหม่ และจะได้ไม่ต้องไปแตะผลงานระดับตำนาน ที่แฟนหนังหลายคนประทับใจ
ดูโพสต์นี้บน Instagram
...โครงเรื่องเหมือนเดิม? เพิ่มเติมคือเป็นซีรีส์วาย!! แฟนละครไม่โอ "ไม่ตรงประวัติศาสตร์" วิจารณ์หนัก ย้อมแมวหวังขายสาวก "Boys' Love"...
.#บุพเพสันนิวาส #LoveDestinyBoysLove #นิยายวาย #ซีรีส์วาย
.
จากใจ "คนทำหนัง" ขอเตือนจากประสบการณ์ตรง ถ้าต้นฉบับทำไว้ดี ก็ไม่ควรรีเมค เสี่ยงทำลาย… pic.twitter.com/XPle7qxD82— LIVE Style (@livestyletweet) September 7, 2025
...
สกู๊ป : ทีมข่าว MGR Live
ขอบคุณภาพ : Facebook “รอมแพง”, “Crystal Liu Yifei Thai Fans”, IG @buppesannivass, www.themoviedb.org, www.imdb.com
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **