เพราะชีวิตไม่ได้สวยงาม แต่ต้องเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดครั้งแล้วครั้งเล่า และบางครั้งความมืดจาก “ดนตรีเมทัล” ก็ฉายแสงสว่างให้หัวใจหลายๆ คนได้ อย่างที่น้อยคนจะรู้ว่าดนตรีแนวนี้คือการเยียวยาอย่างหนึ่ง
“เมทัล” คือการเยียวยา
“หนักหน่วง แหกปาก กรีดร้อง มืดมน และรุนแรง” นิยามของเพลง Metal (เมทัล) ในหัวใครหลายคนและอาจมองว่า คนที่ฟังเพลงแนวนี้คงเป็น พวกชอบใช้ความรุนแรง เด็กมีปัญหา อาจไปถึงขั้นบูชาซาตาน แต่สำรับชาวหูเหล็กมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ หรือ?
เดวิด ดรายแมน นักร้องนำวง Disturbed วงเมทัลที่ก่อตั้ง ตั้งแต่ยุดปลาย 90 และยังคงทำเพลงจนที่ปัจจุบันได้พูดเอาไว้ในงาน Xcel Energy Center งานคอนเสิร์ตที่ รัฐมิชิแกน อเมริกา เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา
“บางครั้งคุณต้องบอกเล่าเรื่องที่มืดมน เพราะชีวิตเต็มไปด้วยเรื่องมืดมน และวิธีเดียวที่คุณจะพิชิตมันได้คือ ต้องเผชิญกับมัน ไม่ว่าคุณจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม บางครั้งความมืดก็ฉายแสงสว่างให้คุณ”
{เดวิด ดรายแมน นักร้องนำวง Disturbed }
ดนตรีเมทัลไม่ใช่สิ่งชั่วร้าย หรือความมืดมน แต่มันคือ “การเยียวยา”ดนตรีมีพลังอย่างน่าเหลือเชื่อ มันมีไว้เพื่อปลุกเร้าบางสิ่งในจิตวิญญาณคุณ แล้วสะท้อนสิ่งนั้นออกมาเป็นท่วงทำนองเพลง
และในเว็บwww.quora.com ได้มีคนไปตั้งกระทู้ว่าด้วยเรื่อง “Has metal music saved your life?” และได้มีคนมาบอกเล่า การผ่านช่วงชีวิตที่เลวร้ายโดยมีดนตรีเมทัลเป็นเพื่อน
ผู้ใช้คนหนึ่งระบายว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรง มันทำให้ตอนอายุ 20 ต้นๆ ชีวิตมันยากลำบากมาก แต่ดนตรีประเภทนี้ทำเขาผ่านเรื่องแย่ๆ มากมายในชีวิตมาได้ ปัจจุบันเขายังเปิดเพลง “Iron Man” -Black Sabbath ทุกเช้าตลอด 15 ปี ที่ผ่านมา
ชาวหูเหล็กอีกคนก็ได้มาเขียนต่อในกระทู้นี้ว่า เมทัลคือคำตอบของทุกสิ่ง อารมณ์เสีย หงุดหงิด หรือรำคาญเจ้านายงี่เง่า อยากหาที่ระบายก็ฟังเมทัล หรือต้องเจอความเจ็บปวดแสนสาหัส เพลงประเภทนี้ก็จะคอยหนุนหลังคุณ
และอีกคนได้แสดงความคิดเห็นที่น่าสนใจเอาไว้ว่า นี้คือวิธีปลดปล่อยอารมณ์ของเขา ทำให้เขามีทางออกสำหรับความโกรธและความก้าวร้าวในตัว ถ้ามันถูกระบายโดยวิธีอื่นคงเป็นปัญหา แต่มันกลับถูกหยุดไว้ด้วย ท่วงทำนองอันหนักหน่วงของ ดนตรีเมทัล เท่านั้น
Riccardo Quintaluce จากสารคดี “Heavy Metal Saved My Life Documentary”อธิบายว่า ดนตรีประเภทนี้มีผลต่อผู้คน โดยเฉพาะคนที่รู้สึกว่าถูกขับไล่จากสังคม
เขาอยู่ในครอบครัวที่เคร่งศาสนา และเพิ่งรู้ตัวว่าเป็นตัวเองเป็นสาวประเภทสองตอนอายุ 12 ชีวิต หลังจากนั้นคงไม่ต้องอธิบายว่าชีวิตจะยากลำบากขนาดไหน แต่ที่ทำให้เขาผ่านมันมาได้เพราะเพลง “Redeemer of Souls” - Judas Priest
“ตอนนี้สบายดีและมีชีวิต แม้จะต้องเผชิญความลำบากอะไรก็ตาม รับประกันได้เลยว่าคงไม่มีชีวิตอยู่ต่อ ถ้าไม่ใช่เพราะเพลงนี้ และขอบคุณสังคมของคนพวกนี้ ที่ค่อยสนับสนุนและช่วยเหลือ แม้จะรู้ดีว่าในโลกปกติจะไม่มีใครยอมรับในสิ่งที่ผมเป็น”
และในเว็บwww.reddit.com ได้มีคนโพสต์เรื่องราวเอาไว้ว่า เขาพยายามฆ่าตัวตาย จากปัญหาในชีวิตมันแย่มาก “อยากตายเพราะสึกหนักใจกับความกดดันที่ทุกคนกดดัน” ในขณะที่เขากำลังจะฆ่าตัวตาย จู่ๆ ก็ได้ยินเพลง “Numb”-LINKIN PARK
{วง LINKIN PARK}
มันทำให้เขารู้สึกความพังทลายของชีวิต แต่ก็ต้องต่อสู้กับมัน เผชิญหน้ากับมัน ตอนเขายังคงเป็นโรคซึมเศร้าอยู่ แต่ต้องขอบคุณเสียงของ Chester นักร้องนำวง LINKIN PARK ที่ไม่ได้แค่ช่วยทางร่างกายอย่างเดียว แต่มันเยียวยาจิตใจของเขาด้วย
ผู้ขับร้องแห่งความเจ็บปวด
ภายใต้ดนตรีที่ดุดัน ท่อนว้ากที่หนักหู อาจไม่ใช่สิ่งถูกจริตของใครหลายคน และมองข้ามเนื้อหาของเพลงไป เพลงแนวนี้ไม่ใช่เพลงที่เอาไว้ปลอบประโลมโลก แต่เป็นเพลงที่พูดถึงเจ็บปวด และปัญหาที่คนคนหนึ่งต้องเจอแบบตรงไปตรงมานั้นเอง
Every step that I take is another mistake to you caught in the undertow. All I want to do Is be more like me and be less like you.
“ทุกสิ่งที่ฉันทำ ผิดพลาดในสายตาคุณเสมอ เหมือนจมอยู่ใต้น้ำแห่งความคาดหวัง สิ่งเดียวที่อยากทำ คือเป็นตัวเองให้มากที่สุด และไม่ได้อยากเป็นเหมือนคุณ”
“Numb”(แค่ไหนถึงจะดีพอ) จาก LINKIN PARK เป็นเพลงหนึ่งที่บอกเล่าถึง การที่เราต้องแบกรับความหวังจากคนอื่น มันทำเราเหนื่อยล้าและหมดแรง ชินชาและไร้ความรู้สึกไปในที่สุด
และ LINKIN PARK เป็นวงหนึ่งที่มักจะพูดถึงคนที่มีปัญหาโรคซึมเศร้า กับเรื่องราวความเจ็บปวดที่ต้องเจอในชีวิต อย่างเพลง “Easier To Run”(จากไปคงง่ายกว่า)
It’s easier to run replacing this pain with something numb. It’s so much easier to go than face all this pain here all alone.
“มันง่ายกว่าที่จะวิ่งหนีไป แทนที่ความเจ็บปวดนี้ด้วยความด้านชา จากไปมันง่ายกว่าการเผชิญความเจ็บปวดอย่างโดดเดียว”
{Chester นักร้องนำวง LINKIN PARK}
น่าเสียดายที่เราคงไม่มีโอกาสได้ฟังผลงานของ LINKIN PARK อีกแล้ว เพราะ Chester Bennington นักร้องนำได้เสียชีวิตไปแล้วจากโรคซึมเศร้า แฟนเพลงต่างเสียใจ เพราะหลายเพลงของเขาก็ทำให้ใครหลายคนข้ามผ่านเรื่องแย่ๆในชีวิตมาได้
และอีกเพลงอย่าง “LAST RESORT” (ทางออกสุดท้าย) จากคณะ PAPA ROACH วงดังอีกวงจากยุครุ่งเรื่องของ NU Metal เนื้อหาของเพลง บอกเล่าถึงความสับสน ไร้ทางออก สิ้นหวังในชีวิตของคนคนหนึ่ง ซึ่งเป็นปัญหาที่มักเกิดกับวัยรุ่น
Cut my life into pieces. This is my last resort I'm losing my sight, losing my mind Wish somebody would tell me I'm fine.
“ชีวิตถูกสับเป็นชิ้นๆ นี้คือทางออกสุดท้าย ฉันมืดบอด สับสนในตัวตน หวังว่าจะมีใครสักบอกฉันว่าไม่เป็นอะไร”
{JACOBY SHADDIX นักร้องนำวง PAPA ROACH }
JACOBY SHADDIX นักร้องนำวง PAPA ROACH ได้ให้ความหมายของเพลงนี้ว่า “เสียงร้องขอความช่วยเหลือ” เพลงถูกแต่งตอนที่เขา “สับสน ไปต่อไม่ไหว” ในช่วงที่เขาต้องผ่านความเจ็บปวดและชีวิตที่พังทลาย แต่ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป นี้เป็นเพียงการต่อสู้อย่างต่อเนื่องระหว่างความมืดและแสงสว่างภายในตัวเอง
เมทัล ไม่ใช้เพลงที่เอาไว้ปลอบใจคุณ แต่เป็นเพื่อนที่เดินมาหาคุณแล้วบอกคุณว่า ชีวิตแย่เหรอ ไม่เป็นไรเราก็เหมือนกัน แต่ยังไงชีวิตก็ต้องเดินต่อไป สู้ต่อไปด้วยการเผชิญหน้ากับมัน
สกู๊ป : ทีมข่าว MGR Live
ขอบคุณภาพ : metalutopia.com, เฟซบุ๊ก “Disturbed” และ “Linkin Park” “Papa Roach”
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **