...หนึ่งคนว่าย หลายช่องโหว่ ถูกค้นพบ...
โล่งอกกันไปเป็นแถว หลังภารกิจ “One Man & The River (หนึ่งคนว่าย หลายคนให้)” สิ้นสุดลง ท่ามกลางรอยยิ้มของทุกๆ ฝ่าย โดยเฉพาะแฟนๆ และพี่น้องชาวไทยที่ห่วงใยในความปลอดภัยของ “โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์”
ส่งให้การว่ายน้ำข้ามโขง เพื่อระดมทุนจัดหาเครื่องมือการแพทย์ให้ “รพ.นครพนม” และ “รพ.แขวงคำม่วน (สปป.ลาว)” มียอดบริจาคพุ่งทะลุ “60 ล้าน”!! ซึ่งเกินเป้าหมาย “16 ล้าน” ที่กำหนดไว้แต่แรก
ย้อนรอยภารกิจสำคัญในชีวิตพระเอกหนุ่มครั้งนี้ มีการถ่ายทอดสดผ่านแฟนเพจ “เก็บรักษ์” ซึ่งทางโตโน่และทีมงาน เคยเอาไว้ปฏิบัติภารกิจเก็บขยะเพื่อสังคม ใน “โครงการเก็บรักษ์” มาก่อน
ตั้งแต่เริ่มการถ่ายทอดสด มีพี่น้องประชาชนไปรอให้กำลังใจ ณ ลานพญาศรีสัตตนาคราช จ.นครพนม กันอย่างเนืองแน่น ซึ่งเป็นจุดปล่อยตัวจุดแรกของโตโน่ เพื่อว่ายข้ามโขงไปฝั่ง สปป.ลาว
ชุดว่ายน้ำบอดี้สูทแขนขายาว คือ เครื่องแต่งกายพิชิตภารกิจ ที่โตโน่เลือกสวมใส่ในครั้งนี้ เพราะต้องการช่วยให้อุณหภูมิร่างกายอุ่นขึ้น ท่ามกลางกระแสน้ำเย็นจัดช่วงน้ำหลาก
ตลอดช่วงแหวกว่ายในน้ำโขง ที่ตัวของโตโน่ มี “เจ้าทุ่นสีส้ม” ที่เรียกกันว่า “บุย (Buoy)” ไว้ช่วยประคองให้ลอยตัวได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่นักว่ายน้ำเค้าใช้กัน เวลาต้องว่ายในแม่น้ำหรือทะเล
โดยเจ้าบุยที่ว่านี่แหละ คือ หนึ่งในเครื่องทุ่นแรง ให้โตโน่ปฏิบัติภารกิจลุล่วงไปได้ด้วยดี ด้วยการเกี่ยวสายรัดเข้าที่เอว เผื่อกรณีไม่คาดฝัน เช่น เหนื่อย, เป็นตะคริว, บาดเจ็บ ฯลฯ ระหว่างนั้น จะได้ลอยตัวในน้ำได้
ตลอดเส้นทางการว่ายสู่ฝัน มี “ทีมนักว่ายน้ำมืออาชีพ 4 นาย” คอยว่ายประกบโตโน่ไม่ให้คลาดสายตา
นอกนั้นเป็นการอารักขาจาก “เรือคยัค” อีก 4 ลำ คอยพายขนาบข้าง ส่วนรอบนอกก็มี “เจ็ตสกี” 6 ลำ และ “เรือท้องแบน” อีก 4-5 ลำ คอยแล่นตามโตโน่ เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เป็นอะไร
โดยช่วงแรกเป็นการว่ายเลาะริมตลิ่ง ไปตามกระแสน้ำ จากลานพญาศรีสัตตนาคราช ไปยังวัดกลาง รวม 800 ม. ซึ่งเป็นจุดที่ “กลุ่มชมรมนกเป็ดน้ำโขง จ.นครพนม” กว่า 10 ราย ช่วยคอยดูแลเพิ่มในช่วงสั้นๆ
กระทั่งว่ายมาถึง “จุดพักจุดแรก” ณ ฝั่งท่าน้ำวัดกลาง โตโน่ก็ขึ้นบก โดยในจังหวะขึ้นจากน้ำนั้น เจ้าตัวก็ทำท่าพนมไหว้ท่วมหัว แทนคำขอบคุณแนบรอยยิ้ม
แถมด้วยการคืนความสุขให้ ผ่านการร้องเพลงให้พี่น้องประชาชน ที่มายืนรอต้อนรับตรงนั้นได้ฟัง ก่อนขึ้นไปสักการะ “พระพุทธมหามณีศรีพนมนาถ” พร้อมกับถือกล่องรับบริจาคตามศรัทธา
เมื่อกิจกรรมบนบกสิ้นสุดลง ก็มาสู่ภารกิจว่ายน้ำช่วงที่ 2 จากท่าน้ำวัดกลาง ไปยังลานกิจกรรมที่ศาลาแสงสิงแก้ว (ประมาณ 400 ม.) ซึ่งวางไว้ว่าจะไปพบปะ และรับบริจาคจุดนั้นเพิ่ม
ไม่มีถ้อยคำเอื้อนเอ่ยออกมาจากพระเอกหนุ่มคนนี้มากนัก ได้ยินเพียงแค่การบอกแฟนๆ ที่อยู่ตรงนั้น พร้อมกับทำกิจกรรมเก็บขยะไปด้วยว่า “ขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆ แข็งแรงๆ รักกันให้มากๆ นะครับ” พร้อมๆ กับการเก็บขยะ
ก่อนจะว่ายไปถึงจุดที่ 3 ซึ่งถือเป็นจุดที่อันตรายที่สุด นั่นคือ เส้นทางจากท่าน้ำศาลาแสงสิงแก้ว ไปยังท่าวัดพระศรีโคดตะบอง รวม 4 กม.
ถามว่า ทำไมถึงดูยากและอันตรายกว่าจุดอื่น? เพราะเป็นจุดที่โตโน่ต้องว่ายตัดแม่น้ำ ทั้งที่ชั้นใต้น้ำตรงนั้นไหลแรงมาก แต่พื้นผิวชั้นบนกลับดูนิ่ง ทำให้ต้องใช้แรงค่อนข้างเยอะในการฝ่าจุดนี้ไป
บวกกับสภาพอากาศตอนนั้นที่เริ่มมีฝนตกปรอยๆ ยิ่งทำให้อะไรๆ ยากขึ้นไปอีก “อาการล้า” จากโตโน่จึงเริ่มปรากฏออกมาให้เห็น
แต่สุดท้าย ด้วยความมุ่งมั่นก็พาโตโน่ ฝ่า “จุดอันตรายที่สุด” นั้นมาได้ จนสามารถขึ้นฝั่ง สปป.ลาว ได้สำเร็จ
การขึ้นฝั่งเพื่อสักการะ “พระธาตุศรีโคดตะบอง” จึงเกิดขึ้นหลังจากนั้น พร้อมด้วยพี่น้องชาว สปป.ลาว ที่มารอต้อนรับอย่างคับคั่ง
แล้วก็มาถึงคิวการแวะเยี่ยม รพ.แขวงคำม่วน พร้อมกับถือเป็นการได้พักร่างกายด้วย ที่โรงแรมฝั่ง สปป.ลาว ราวๆ 2 ชั่วโมง ก่อนว่ายน้ำกลับฝั่งไทย 6 กม. ตอนราวๆ บ่าย 3 โมงได้
จนมาสิ้นสุดกิจกรรมที่ฝั่งไทย เมื่อเดินทางถึงโตโน่ก็ไม่รอช้า แม้จะยังหายใจหอบ และมีอาการไอระหว่างพูด อาจเพราะยังล้าจากการว่ายข้ามโขง แต่เจ้าตัวก็ยังถ่ายทอดความรู้สึกออกมาได้ว่า...
“ขอบคุณผู้ใหญ่ทุกคนที่ช่วยกัน ขอบคุณคนไทยทุกคน ผมว่าทุกเรื่องนะ ทุกเรื่องเลย ถ้าเกิดว่าเรารักกัน เราสามัคคีกัน เราช่วยเหลือกัน ช่วยกันลงมือทำ ใครทำอะไรได้เราช่วยตรงนั้น ผมว่าบ้านเราจะสวยงามครับ
ฝากด้วยครับ ไม่ว่าจะเป็นคนไทย คนลาว ให้รักกันไปแบบนี้ไปนานๆ ให้สมกับคำที่เรามีประเพณี เรามีความเชื่อพญานาค พญาศรีสัตตนาคราช หรือมีพญานาคหลายๆ องค์ตามความรัก ที่เราเชื่อ ที่เราศรัทธา
แม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำที่สำคัญครับ ถ้าทุกคนช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อม ดูแลตั้งแต่ต้นน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ ทะเลก็มีโอกาส ทะเลก็มีความหวัง นครพนม ท่าแขกครับ ผมรักนะครับ ขอบคุณครับ”
การระดมทุนช่วยซื้อเครื่องมือแพทย์ในครั้งนี้ จะเปิดรับบริจาคถึงสิ้นเดือนนี้ (31 ต.ค. 65) โดยคาดการณ์กันว่า ยอดอาจพุ่งไปถึง “100 ล้าน” ก็เป็นได้ (จากตอนนี้ทะลุ 60 ล้าน ไปเรียบร้อยแล้ว)
อย่างไรก็ตาม ในอีกมุมของกระแสสังคม จนดันให้แฮชแท็ก #โตโน่ภาคิน #หนึ่งคนว่ายหลายคนให้และ #ว่ายน้ำข้ามโขง ติดเทรนด์นั้น เป็นเพราะคำวิจารณ์เรื่อง “การบริหารจัดการที่ล้มเหลวของภาครัฐ”
ส่งให้พี่น้องประชาชนต้องลุกขึ้นมาช่วยเหลือกันเอง แม้อาจแลกกับการปฏิบัติภารกิจที่ “เสี่ยงชีวิต” มากขึ้นเรื่อยๆ ของเหล่าคนดัง เพื่อแลกยอดเงินทำบุญ อุดช่องโหว่จุดที่หน่วยงานไม่เคยเหลียวแล
ข่าวโดย : ทีมข่าว MGR Live
ที่มา (ข้อมูล): https://bit.ly/3VR8wlU, https://bit.ly/3MTIri8, https://bit.ly/3VKGg4J, https://bit.ly/3CYix8v
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **