เธอคือนางเอกหมอลำอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์!! ผู้พลิกโฉมวงการ "หมอลำอีสาน" ให้กลับมาอยู่ในแสงไฟ การันตีได้จากการกวาดรางวัลมาหลายเวทีชื่อดัง ฮอตถึงขั้นหมอลำตัวแม่อย่าง “จินตรา พูนลาภ” ต้องขอคว้าตัวมาร่วม featuring พร้อมเผยค่าตัวแต่ละเดือนทะลุแสน!!
ค้นหาตัวตน นางเอกหมอลำอายุน้อยที่สุด!!
“ตอนนี้หนูเป็นเด็กที่อายุน้อยที่สุด ในวงการหมอลำ เริ่มเจอตัวเองว่าชอบหมอลำตั้งแต่ตอน 9 ขวบ หนูรู้สึกว่าเจอความชอบเร็วอยู่”
เรียกได้ว่าหากเป็นนางเอกหมอลำวัยรุ่นที่กำลังมาแรง หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ “ยูกิ เพ็ญผกา” หรือ คลังพลอย ไวยพัฒน์ นางเอกหมอลำลูกครึ่งญี่ปุ่น วัย 13 ปี เจ้าของฉายา “นางเอกสาวจากแดนกิมจิ” จากคณะหมอลำนามวิหค อย่างไม่ต้องสงสัย นอกจากจะเป็นหมอลำสาวเสียงดี ร้องเพลงเพราะแล้ว ยังเป็นนางเอกหมอลำที่ถือว่าอายุที่สุดในตอนนี้
ฮอตจนต้องรีบขอคิวเข้ามาพูดคุยถึงตัวตนในความสุดปัง เพราะล่าสุดหมอลำตัวแม่ “จินตรา พูนลาภ” คว้าตัวมาร่วมร้องเพลงด้วยพร้อมเปิดเบื้องหลังเรื่องราวชีวิตที่ไม่ได้โดดเด่นแค่เรื่องผลงานเท่านั้น แต่ยังมุ่งมั่นเดินตามหาความฝัน ไม่ยอมแพ้อุปสรรคจนประสบความสำเร็จ ทำรายได้ 6 หลักต่อเดือน
“หนูก็รู้สึกดีใจมากๆ ไม่คิดว่าตัวเองจะมาถึงตรงนี้ได้ เพราะว่าเป็นความฝันตั้งแต่เด็ก แล้วก็อยากจะทำให้คุณพ่อกับคุณแม่ภูมิใจในตัวหนูด้วย เพราะว่าคุณพ่อกับคุณแม่ทุ่มเทให้หนูทุกสิ่งทุกอย่างจริงๆ
พ่อกับแม่เลิกทำงานของตัวเองทั้ง 2 คน เพื่อที่จะมา support หนูแค่คนเดียว ไม่ได้ทำงานทั้ง 2 คน แล้วพาหนูไปทุกที่ หนูเพิ่งเป็นนางเอกเต็มตัวจริงๆ 1 ปี เองค่ะ แต่เริ่มเข้ามาวงการหมอลำตั้งแต่อายุ 12 ปี แต่ว่าตอนนั้นยังไม่ได้เป็นนางเอก”
สำหรับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานเดินเข้าสู่วงการหมอลำนั้น นางเอกสาวเล่าว่า มาจากสิ่งที่ตัวเองชอบ
เส้นทางวงการบันเทิงของเธอจึงเริ่มฉายชัดเจนตั้งแต่วัย 3 ขวบ โดยมีพ่อเลี้ยงเป็นคนสอนการร้องเพลงให้ เนื่องจากคุณพ่อแท้ๆ ที่เป็นคนญี่ปุ่น จากไปตั้งแต่เธอยังอยู่อนุบาล ทำให้แม่กับพ่อเลี้ยงเป็นผู้สนับสนุน ผลักดันความฝันของเธอให้ถึงจุดหมายปลายทาง
“ร้องเพลงได้ ได้ยินคุณแม่บอกว่าเปิดเพลงในรถตั้งแต่เด็ก แล้วหนูก็ร้องตามเลย แต่หนูจำไม่ได้ มีแต่แม่พูดให้ฟังค่ะ จุดเริ่มต้นคุณพ่อเลี้ยงเป็นคนสอนร้องเพลง ตั้งแต่อายุ 3 ขวบ ตอนแรกไม่ได้ร้องหมอลำ แต่ร้องเพลงลูกทุ่ง
เริ่มมาฝึกร้องหมอลำ เพราะว่าคุณแม่บอกว่าลองให้ลูกร้องเพลงหมอลำดู แล้วให้คุณพ่อสอนหมอลำให้ คุณพ่อก็ร้องเพลงได้ เพราะคุณพ่อเคยเป็นนักดนตรีมาก่อน ครั้งแรกที่ได้ฟังก็รู้สึกชอบ และรู้สึกว่าสนุกดี ฟังแล้วรู้สึกชอบเลยค่ะ”
ด้าน พ่อตุ้ม - กฤษกร ไวยพัฒน์ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ถือเป็นฟันเฟืองชิ้นสำคัญผู้ผลักให้นางเอกสาวจากแดนกิมจิ ทำตามความฝัน ค้นพบตัวเองในวัยอายุยังน้อย ได้ช่วยสะท้อนความเป็นตัวตน และฉายความมุ่งมั่นของเธอให้ฟัง
“ผมมาอยู่กับน้องยูกิตั้งแต่อายุ 3 ขวบ เคยเห็นน้องร้องเพลงดี ถูกคีย์ ตามภาษาเด็ก เห็นว่ามีแววพ่อก็เลยใส่ความรู้ไปเลย เราก็ดันไปสู่เส้นทางนี้
เขาเป็นตัวแทนโรงเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล แข่งกับรุ่นพี่ก็ได้เป็นตัวแทนเลย มันก็รู้สึกว่าเราต้องเพิ่มสนามการแข่งขันเรื่อยๆ จากกลุ่มของนักเรียนออกมาเป็นกลุ่มของประชาชน เวทีด้านนอกที่เขาจัดตามห้างต่างๆ จนไปสู่การประกวดในทีวี ก็เพิ่มเลเวลขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับพ่อให้ความสำคัญสำหรับทุกอาชีพ ถ้าไม่มีคนที่แสดงหมอลำมันก็จะไม่มีคำว่าอาชีพหมอลำ พ่อมองว่าทุกอาชีพสำคัญหมด แต่สมมติว่าถ้าเราดันลูกไปทางที่เขาไม่ชอบ เขาอาจจะไม่ประสบความสำเร็จก็ได้
ถ้าเราบังคับให้เรียน คุณต้องนั่น เป็นนี่ แต่ลูกไม่สามารถเป็นได้เลย ความสามารถลูกไม่มี เขาอาจจะไม่ประสบความสำเร็จที่แท้จริง หรือจุดสูงสุดของเขาก็ได้ พ่อก็เลยปล่อยไปตามความสามารถเขาครับ”
“รายการ Super 10” เปลี่ยนชีวิต “แรกๆ เลยประกวดรายการไมค์ทองคำเด็ก ตอนอายุ 9 ขวบ season 1 แล้วก็มาเวทีที่ 2 คือ ไมค์ทองคำหมอลำฝังเพชร ตอนนั้นอายุ 10 ขวบ ก็ประกวดมาตั้งแต่เด็กๆ ก่อนที่จะมารายการทีวี ก็เคยประกวดของโรงเรียนด้วยตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ตอนไปรายการไมค์ทองคำไม่ได้รางวัลเลยค่ะ ไม่ได้เข้ารอบ เลยมาไมค์ฝังเพชรก็ได้รางวัลหมอรำดีเด่น แล้วก็มารายการ Super 10 ค่ะ ตั้งแต่ออกรายการ super 10 ก็มีพี่ๆ แฟนคลับเยอะมากขึ้น บางคนก็มาตามในเฟซบุ๊ก แล้วบอกว่ามาจากรายการ ชีวิตก็เปลี่ยนเยอะมากๆ เหมือนกัน พอออกรายการก็มีคนรู้จักเยอะมากขึ้น” |
ไม่คิดยอมแพ้ พลิกโฉมวงการหมอลำ!!
แม้จะเป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น แต่ด้วยความที่โตที่เมืองไทย รับวัฒนธรรมแบไทย จึงถูกปลูกฝังความเป็นไทยมา ทำให้ถูกซึมซับมาตั้งแต่เด็ก
เด็กหญิงวัย 11 ขวบ เริ่มเข้าสู่โลกหมอลำด้วยการขึ้นรถแห่ แทนที่การเที่ยวเล่นกับเพื่อนวัยเดียวกันเช่นเด็กๆ ทั่วไป แรกเริ่มเธอยอมรับว่ายากอยู่พอสมควร แต่ความโชคดี คือ การเริ่มต้นตั้งแต่ยังอายุยังน้อยจึงทำให้ได้ฝึกฝีมือ และเรียนรู้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้อย่างรวดเร็ว
“ตอนนั้นที่ขึ้นรถแห่ เริ่มทำงานครั้งแรกตอนอายุ 11 ขวบ รถแห่เขาจะร้องสไตล์วาไรตีเยอะกว่าหมอลำเป็นส่วนมาก จะไม่ค่อยร้องหมอลำ วาไรตีคือเป็นเพลงอีสาน แต่ไม่ใช่เพลงที่เป็นหมอลำค่ะ
ตอนนั้นก็ร้องเพลงวาไรตี แต่ว่าเคยไปดูหน้าเวทีของหมอลำครั้งหนึ่ง ก็เลยรู้สึกว่า อ้าว! ทำไมพี่เขาแต่งตัวสวยจัง ก็รู้สึกว่าอยากเป็นนางเอกหมอลำ แล้วหมอลำนามวิหคก็เปิดปีแรก เขาก็บอกรับสมัครนักร้องหมอลำ ก็ให้พ่อสมัครให้ แต่ไม่รู้ว่าเขาจะรับรึเปล่า เพราะตอนนั้นอายุแค่ 12 ปีเอง
หนูชอบพี่นก พงศกร เพราะว่าการแสดง ชอบศิลป์ในการแสดง ท่าฟ้อน ท่ารำไม่เหมือนคนอื่น ก็เลยรู้สึกชอบพี่คนนี้มากๆ
ตอนแรกที่สมัครไป คุณพ่อก็ส่งคลิป จากการขึ้นรถแห่และจากการออกรายการไปด้วย เขาก็เห็นแล้วให้อัดคลิปส่งไป ว่ารำได้รึเปล่า คุณพ่อก็ดูว่าเป็นวงตั้งใหม่ด้วยค่ะ ก็อยากจะให้ลูกลองสมัครดู เพราะว่าพ่อคิดว่าน่าจะได้โอกาสเยอะมากกว่าวงใหญ่ๆ ที่เขาตั้งมานานแล้ว
ตอนนั้นมี 2 ความคิด คือ คิดว่าตัวเองน่าจะได้อยู่ และอีกหนึ่งความคิด คือ น่าจะไม่ได้อยู่ เพราะว่าความคิดของหนูหมอลำวงใหญ่ขนาดนั้น เขาจะรับอายุแค่นี้ด้วยเหรอ ถ้าไม่ติด ตอนนั้นก็จะอยู่รถแห่ต่อค่ะ และคุยกันใหม่ว่าถ้าโตขึ้นมากกว่านี้ ก็ค่อยมาสมัครใหม่”
ด้วยการเข้ามาเป็นสมาชิกคณะหมอลำนามวิหค และในปี 63 ด้วยความแน่วแน่ ตั้งใจฝึกฝน ขยันซ้อมร้อง เต้นตามคำสอนของชาวคณะ ส่งให้ภายในระยะเวลา 1 ปี “นก พงศกร” หัวหน้าวง ให้โอกาสเธอเป็นนางเอกหมอลำคณะนามวิหคในที่สุด
“เป็นนางเอกได้ 1 ปี แต่ที่เข้าไปในคณะ 1 ปีก่อนจะเป็นนางเอก นางเอกหมอลำทุกๆ วงเลยก็จะมีแค่คนเดียว เป็นรูปแบบหมอลำหมู่ หมอลำหมู่หมายถึงหมอลำเป็นเรื่องราว คนในวง 200-300 คน คือ เป็นการรำเรื่องต่อกลอน เป็นรำทำนองขอนแก่น เขาจะรำต่อกัน แล้วแสดงคล้ายๆ ลิเก แสดงไปด้วย รำแสดงท่าทาง สมมติจะด่ากันก็จะมีรำ มีกลอนรำขึ้นมา”
กว่าจะดัง เป็นที่รู้จักขึ้นมาได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปี ลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง พยายามต่อสู้กับอุปสรรค ไม่เคยคิดย่อท้อต่อความยากลำบาก
“วันแรกที่ไปงานที่พี่เขาบอกว่าให้ลองมาขึ้นเวที รถตอนนั้นก็ตกลงข้างทาง ไม่มีเงินไปซ่อมรถ ก็ต้องขับกันไปแบบนั้น งานแรกที่หนูไปก็อยู่ที่กรุงเทพฯ หนูไม่มีอะไรสักอย่าง เครื่องสำอางก็ไม่มี เครื่องประดับก็ไม่มี ชุดก็ไม่มี ก็ต้องไปหาที่หน้างานเลย เป็นงานแรกที่ไปเลยค่ะ ที่พี่เขาบอกให้ลองไป ก็ต้องยืมของวงหมดเลย”
ทว่า การเดินตามความฝันให้สำเร็จอย่างที่ใจฝันไม่ใช่เรื่องง่าย นางเอกหมอลำผู้นี้ เธอเล่าถึงความพยายามกับเส้นทางที่มีอุปสรรคขวากหนามมากมาย ที่ต้องมีสติในการดำเนินชีวิตอยู่ตลอดเวลา
“หนูไม่มีความท้อเลยค่ะ เพราะหนูรู้สึกว่าทุกครั้งที่หนูได้ร้องเพลง หนูรู้สึกมีความสุขกับมัน ก็เลยไม่รู้สึกท้อในจุดที่คิดว่ามันยาก หรือสิ่งที่ทำไม่ได้
ฝึกเยอะมาก ตอนแรกที่คุณพ่อฝึกให้หนูรู้สึกว่ามันยากค่ะ หนูฝึกหนักเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นทำนอง เพราะทำนองหมอลำจะไม่เหมือนลูกทุ่ง วิธีการเอื้อน เวลารำก็จะมีจังหวะเป็นของมัน มันก็ต้องฝึกหลายอย่าง ก็เลยรู้สึกว่ามันยากนิดนึง
ตอนฝึกคุณพ่อก็จำเขียนเป็นคำๆ ให้ และบอกว่าคำนี้ขึ้นสูง คำนี้ลงต่ำ เป็นคำๆ เลยค่ะตอนนี้ก็ยังไม่มีจุดที่เสียงเหมือนเดิม เพราะหนูยังรู้สึกว่าต้องพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้คุณพ่อก็ไม่ค่อยได้บอกแล้ว เราก็เปิดเพลงฟัง แกะเอง ปกติถ้าแกะเพลงคุณพ่อก็จะมานั่งอยู่ด้วยกันแต่ตอนนี้คือแกะเพลงเอง และถ้าไม่ถูกคุณพ่อก็จะบอกทีหลัง
พอได้มาเป็นนางเอกฝึกหนักกว่าเดิมค่ะ ตั้งแต่เข้าวงยังไม่ได้หนักขนาดนี้ เพราะว่าตอนนั้นได้ร้องแค่เพลง 2 เพลง ไม่ได้แกะเพลงเยอะ แล้วตอนนั้นไม่ได้แสดงเยอะขนาดนี้ ก็มาเริ่มหนักหลังๆ ในทุกๆ วัน มีการฝึกเหมือนเดิม ก็จะดูละครไปด้วย ดูละครประกอบเพื่อฝึกฝนในด้านการแสดง แล้วก็ดูหมอลำ ดูลิเก ฝึกศิลป์ ฝึกการรำ การร้องเพิ่มอยู่เหมือนเดิม อยู่เรื่อยๆ ไม่หยุดอยู่กับที่
มันก็ต้องทำให้ได้กับโอกาสที่เราได้รับ มันต้องรับผิดชอบในทุกๆ อย่าง คือต้องจำทั้งบทการแสดง ต้องจำทั้งเนื้อร้อง จำฉากให้ได้
ถ้าเราจำไม่ได้สักอย่าง เพราะความหวังของทุกๆ คนอยู่ที่เราหมดเลย เพราะเป็นนางเอกของวงจะต้องพาทุกคนไปให้ได้ มันก็หนัก”
ถ่ายทอดตัวตนผ่านเพลง หวังสืบสานวัฒนธรรม “อีสาน”
แน่นอนว่าในวัยอายุเพียง 13 ปี จะต้องเจอทางเลือก หรือแรงกดดัน แต่สิ่งที่เลือกทำต่อไป คือ การไม่เพิกเฉยโอกาส และไม่เคยคิดยอมแพ้ในเส้นทางความฝันที่ตั้งใจเอาไว้
“หนูคิดว่าถ้าหนูอายุเยอะแล้ว เสียงหมดคุณภาพ หนูก็คิดไว้ว่าหนูจะเป็นครูสอนหมอลำค่ะ เด็กใหม่ๆ เข้ามาหนูคิดว่าทุกคนก็มีโอกาสของทุกคน ถ้าสมมติหนูโตขึ้นไปกว่านี้ หนูอาจจะสอนน้องๆ ที่เพิ่งเข้ามาใหม่
หนูก็จะพัฒนาตัวเอง ทุกๆ อย่าง และทุกๆ ด้าน เพราะว่าโตขึ้นไป ด้วยความคิดของหนู หนูก็คิดว่าความน่ารักน่าจะหมดไปจากตรงนี้ หนูก็เลยคิดว่าหนูจะพัฒนาตัวเองให้มากขึ้นกว่านี้ จะไม่หยุดอยู่กับที่”
อย่างไรก็ดี หลายคนอาจจะมองภาพจำแบบเดิมๆ ว่า “หมอลำ” ถือเป็นอีกหนึ่งอาชีพ “เต้นกินรำกิน” หากไม่มีความสามารถ บวกกับหน้าตาไม่สวยตามที่สังคมมอง ก็ไม่สามารถเบ่งบานในวงการเพลงไทยได้ ผ่านสายตาเด็กน้อยคนนี้แล้ว เธอมองว่าต้องประกอบทั้งความสามารถ และรูปลักษณ์ แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การมีแรงสนับสนุนก็เป็นสิ่งที่สำคัญ
“มันต้องประกอบกันทั้ง 2 อย่าง ถ้าหน้าตาไม่ดีแต่เสียงดี มันก็ไปต่อไม่ได้ แต่ถ้าหน้าตาดีเสียงไม่ดี มันก็ไม่ได้เหมือนกันค่ะ มันต้องประกอบทั้ง 2 อย่าง
นางเอกหมอลำความคิดของหนู คือต้องมีรูปร่าง หน้าตาที่พอได้ และต้องมีเสียง การแสดงประกอบด้วย ศิลป์ทุกอย่าง นางเอกหมอลำไม่มีอายุ อยู่ที่ความสามารถของแต่ละบุคคล อายุ 40 ก็มี”
จากวันนั้นถึงวันนี้ นางเอกหมอลำที่อายุน้อยที่สุด ตกตะกอนได้ว่า หากไม่มี “พรแสวง” ประกอบกับ “ชื่อเสียง” คงไม่ได้สามารถลืมตาอ้างปาก ดูแลคนในครอบครัวได้ รวมทั้งมีคนเห็นความสามารถที่เธอมี
“ถ้าไม่มีคนรู้จัก ก็ไม่ค่อยมีเงินเหมือนกัน ถ้าแฟนคลับทุกคนไม่ได้ให้ความสนใจ หรือว่าไม่ได้สนับสนุน หนูคงจะเลี้ยงตัวเองและครอบครัวไม่ได้กับอาชีพนี้ เพราะว่าต้องอาศัยแฟนคลับทุกคน
แต่ที่บ้านไม่ได้คิดอย่างนั้นกันเลย สำหรับคนอีสานแล้วคิดว่าหมอลำดัง อยากเป็นหมอลำ พอหนูอยากเป็นพ่อกับแม่ก็ช่วยส่งเสริมเต็มที่ตามกำลังที่พ่อแม่มี ก็ช่วยลูก อยากให้ลูกไปถึงฝั่งฝันค่ะ”
อย่างไรก็ดี “เพลงไทย” อย่าง “หมอลำ” หลายคนอาจจะมองภาพจำแบบเดิมๆ ว่า ลูกทุ่งบ้านนา หรือชีวิตรันทด ด้วยรูปแบบทำนองอาจจะฟังยาก ซึ่งสำหรับยูกิเองก็ยอมรับ ว่าแนวเพลงไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของทุกคน หากจะปรับเปลี่ยนให้ทันสมัย สืบสานให้ผู้คนรู้จักความเป็นอีสานมากยิ่งขึ้น ก็เป็นสิ่งที่ยากและต้องใช้เวลา
“มันก็ยากอยู่ค่ะ ถ้าเขาไม่สนใจทางนี้จริงๆ มันก็แล้วแต่ความชอบของคน อยากให้คนที่ไม่เคยฟังหมอลำ อยากให้ลองเปิดใจ ใน Youtube ก็มีคลิป อยากให้ทุกคนลองฟังดูนะคะ เพราะว่ามันก็เป็นศิลปะอีกด้านหนึ่งที่มีคุณภาพเช่นกัน และอยากจะให้ทุกคนมองเห็นคุณค่าวัฒนธรรมของอีสานด้วย
หนูรู้สึกว่าเสน่ห์ของหมอลำ คือศิลป์การแสดง ท่ารำ ท่าฟ้อน ทำนอง การร้อง และภาษา ก็อยากให้ทุกคนที่ไม่เคยดูหมอลำ ให้ทุกคนมองเห็นในทุกด้านของหมอลำบ้าง หมอลำก็ดีเหมือนกัน
(วงการเพลงทุกวันนี้) ก็มีคนรู้จักบ้าง มีคนอีสาน ภาคกลางก็มีบางส่วน เพราะว่าส่วนมากคนภาคกลางฟังอีสานไม่ค่อยรู้เรื่อง บางคนที่ฟังไม่ออกแต่อยากฟังจริงๆ ก็มีค่ะ”
เธอยังมองว่า การเป็นศิลปินสำคัญเลยต้องมีสไตล์เป็นของตัวเอง หากอยากรู้ถึงตัวตนของเธอ ก็อยากให้ลองฟังเพลงดูบ้าง เพราะเป็นการถ่ายถอดเรื่องราวของตัวเองผ่านเสียงเพลง
“หนูรู้สึกโชคดีค่ะ ที่คุณพ่อกับคุณแม่เห็นด้วยกับสิ่งที่หนูชอบทางนี้ด้วย หนูคิดว่าจะทำเพลงเป็นของตัวเอง อยากจะทำเพลงหมอลำเรื่อยๆ ให้ทุกคนได้ฟังกันค่ะ”
นอกจากนี้ สิ่งหนึ่งที่เธอเชื่อเสมอว่าการที่เธอเป็นเธอในทุกวันนี้ เป็นเพราะคำสอนจากครอบครัว ซึ่งทำให้เธอเป็นคนมีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ทำมาตั้งแต่ยังเด็ก เธอยอมรับว่าตัวเองโชคดีว่าสิ่งที่พ่อแม่ปูแนวทางให้นั้นกลายเป็นสิ่งที่เธอทำมันได้ด้วยความรักและความสุข
เห็นอายุแค่นี้แต่บอกเลยว่าความสามารถไม่ธรรมดา อีกทั้งยังเก่งเกินตัว ทั้งเรียนไปด้วย และทำงานไปด้วย ซึ่งต้องยอมรับว่า แรงผลักดันของครอบครัว คือจุดสำคัญที่ทำให้หาตัวเองเจอ มีเป้าหมาย และทำฝันอย่างตั้งใจ และเป็นเครื่องพิสูจน์ความสามารถของเธอนั้นเกินเด็ก พิสูจน์ได้จากผลงาน ที่เธอกลายเป็นหนึ่งในสมาชิกคนสำคัญของหมอลำนามวิหคไปแล้ว
“อยากให้คนที่ยังหาตัวเองไม่เจอ อยากให้ทุกคนมีเป้าหมาย ว่าข้างหน้าอยากจะเป็นอะไร ลองคิดดูว่าอยากจะเป็นอะไร ถ้าเจอแล้วเราก็ต้องตั้งใจและทำให้ได้ และก็ไปให้ถึงที่สุด”
ชุด-เครื่องประดับ” นางเอกหมอลำต้องมี!! “หมอลำก็เป็นเหมือนกัน (วงการนางแบบ) หลังเวทีจะวุ่นวายกว่าหน้าเวทีเยอะมากๆ เพราะเป็นเบื้องหลัง สมมติบางวันมันจะต่อๆ กัน มันก็มีเวลาเปลี่ยนชุดแค่ 1 เพลง มันก็วุ่นวายกันไปหมด ทุกคนก็วิ่งหัวหมุนกันหมดเลยค่ะ ชุดหมอลำเหมือนชุดลิเกเป๊ะเลย และการแต่งกายเหมือนกันทั้งหมดเลย ใช้คริสตันเหมือนกันทั้งหมดเลย แต่ละชุดของหนูน่าจะประมาณชุดละ 10,000-20,000 ไม่เกินนี้ เราต้องลงทุนทั้งชุด ทั้งเครื่องประดับ และทุกๆ อย่างหนูดูแลเองทั้งหมดเลย ก็จะชุดโชว์ที่ทางวงเตรียมให้ 1-2 ชุด” |
ดูโพสต์นี้บน Instagram
...พลิกประวัติศาสตร์ศิลปินอีสาน!! “ปังไว-ค่าตัวทะลุแสน”...
>>> https://t.co/R88g3FAcr0
.
“มาเริ่มเจอตัวเองเลยว่า ชอบหมอลำตั้งแต่ตอน 9 ขวบค่ะ ก็รู้สึกว่าค้นหาตัวเองเจอเร็วอยู่ค่ะ”
.#ยูกิเพ็ญผกา #หมอลำ #นางเอกหมอลำ #หมอลำนามวิหค #นกพงศกร #ไมค์ทองคำ pic.twitter.com/Mo6Dolhp8A— livestyle.official (@livestyletweet) October 25, 2021
สัมภาษณ์ : ทีมข่าว MGR Live
เรื่อง : ภูริฉัตร ปริยเมธานัยน์
คลิป : อิสสริยา อาชวานันทกุล
ขอบคุณภาพ : เฟซบุ๊ก “ยูกิ เพ็ญผกา หมอลำนามวิหค”
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **