วงการบันเทิงอ่ะเนอะ!! เรียกได้ว่าสะท้านวงการบันเทิง หลังมะตูมป่วยโควิด “ไม่กักตัว-ไม่ยอมเปิดเผยไทม์ไลน์-ข้อมูลไม่ตรงกัน” จนสังคมขุดเละหาความจริงที่เกิดขึ้น และตั้งคำถามถึงความเท่าเทียมที่เกิดขึ้นในสังคมไทย!!
สืบหาความจริง ไทม์ไลน์ที่หายไป…
ท่ามกลางกระแสดรามา “ดีเจมะตูม-เตชินท์ พลอยเพชร”ไม่ยอมกักตัว แถมจัดปาร์ตี้วันเกิด จนนำไปสู่การเกิดซูเปอร์สเปรดเดอร์ มีผู้ติดเชื้อโควิดจำนวนมาก ล่าสุด มีข้อมูลไม่เป็นทางการเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อกลุ่มคลัสเตอร์ปาร์ตี้วันเกิดดีเจมะตูม พบผู้ติดเชื้อ 26 ราย มีกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 113 ราย และสัมผัสเสี่ยงต่ำ 53 ราย
พร้อมทั้งมีข่าวลือสะท้านวงการจากวงในออกมาว่า มีคนในวงการหลายๆ คน ที่ติดโควิด-19 แต่ไม่ออกมาเปิดเผยไทม์ไลน์ งานนี้ร้อนถึงศิลปิน และผู้กำกับชื่อดัง ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
อย่าง “แอริน-สิรีภรณ์ ยุกตะทัต” นักแสดงสาวออกมาตั้งคำถาม ผ่านทวิตเตอร์ @AerinY ถึงการเปิดเผยข้อมูลในไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในครั้งนี้ ต้องพูดความจริง ส่งผลให้ยอดรีทวิตพุ่ง 8 หมื่นครั้ง
“ในไทม์ไลน์คนติดโควิด มีการไม่บอกได้ด้วยเหรอคะว่าไปไหนทำอะไรที่ไหน…จุดประสงค์ของไทม์ไลน์ คือ เพื่อบอกให้คนอื่นได้ระมัดระวังไม่ใช่เหรอคะ”
ไม่เพียงแค่นี้ “ครูลูกกอล์ฟ-คณาธิป สุนทรรักษ์” ออกมาแชร์ถึงข้อกฎหมายของผู้ที่จงใจปกปิดข้อมูล ว่ามีความผิดอย่างไร
“เปิดเนื้อหาข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่ง #พรก ฉุกเฉิน กำหนดให้ผู้ติดเชื้อ #โควิด19 ที่จงใจปกปิดข้อมูล อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน มีโทษคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท”
เช่นเดียวกับผู้กำกับชื่อดัง “พจน์-อานนท์” ออกมาโพสต์ภาพข้อความเดือด ถึงคนในวงการที่ติดโควิด-19 แต่ไม่ยอมพูดความจริงว่าอย่าเห็นแก่ตัว และเรียกร้องให้มีการเปิด CCTV เพื่อหาความจริง
“บอกมดดำไปถึงงาน 3 ทุ่ม งานเลิก แต่บอกพี่หนุ่มไปถึง 5 ทุ่ม ตกลงประชาชนจะเชื่อได้ไง CCTV ต้องเปิดแล้วล่ะอยากรู้ ปิดทุกอย่างไม่ตรงสักอย่าง”
ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนหน้านี้ มะตูมออกมายืนยันหนักแน่น ไม่มีดารานักร้องไปร่วมงานด้วย แต่ขัดแย้งกับไทม์ไลน์ จากทางรัฐบาล ที่ยืนยันว่า มีนักร้องนักแสดง ไปร่วมงานปาร์ตี้วันเกิดจนติดโควิด-19 ทำให้นักสืบออนไลน์ได้ทำการสืบหาความจริงของเรื่องราวทั้งหมด
โดยพบว่า นักร้องคนดังกล่าว คือ ข้าวโอ๊ต-คริษฐ์ พรรณธรรม หัวหน้าวง AXIS ซึ่งไปร่วมเซอร์ไพรส์วันเกิดดีเจมะตูม ที่คอนโด ในวันที่ 8 ม.ค. และไปโรงแรมบันยันทรี ในคืนวันที่ 9 ม.ค. กระทั่งมีอาการป่วย ยืนยันว่า ช่วงไทม์ไลน์ที่หายไปนั้น ได้มีการแจ้งข้อมูลกับเจ้าหน้าที่หมดแล้ว แต่ข่าวที่ออกมากลับไม่ตรงกับที่แจ้งไป
“เพิ่งรู้ว่าเป็นโควิด เพราะเพิ่งโทร.ไปถามหมอเพื่อขอคำยืนยัน ซึ่งตนไม่ได้ปิดบังไทม์ไลน์แต่อย่างใด”
อย่างไรก็ดี นักร้องดังกล่าวออกมาเผยไทม์ไลน์ผ่านเฟซบุ๊ก “AotKarit’z Jaejae” อีกว่า วันที่ 12 ม.ค. ได้ไปร่วมกองถ่าย MV ของ เปา-กิ่งกาญจน์ ส่องสว่าง นักร้องลูกทุ่ง ทำเอาสังคมเดือดอีกครั้ง และตั้งคำถามถึงข้อมูลที่ถูกเปิดเผยว่าเป็นข้อมูลจริงทั้งหมดหรือไม่ รวมทั้งสงสัยถึงข้อมูลไทม์ไลน์ที่ไม่สอดคล้องกันของเจ้าหน้าที่
ทนายฉะ กฎหมายต้องเท่าเทียม!!
จากที่ปรากฏเป็นดรามา ทำเอาสังคมงงกันเป็นแถบๆ และสืบหาความจริงกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้ประชาชนวิตกกังวลถึงความปลอดภัยในชีวิต ทางด้าน หมอแล็บแพนด้า ซึ่งเป็นเพจที่นักเทคนิคการแพทย์ชื่อดังนาม “ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน” ตั้งขึ้นมาเพื่อให้ความรู้ด้านสุขภาพ ได้ออกมาโพสต์ตั้งคำถามกับการไม่ให้ข้อมูล พร้อมทั้งระบุว่า กำลังสอบสวนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
“รายที่ติดเชื้อแล้วไม่ให้ข้อมูล ทาง กทม. พยายามกดดันสอบสวนเพิ่มเติมอยู่นะครับ ซึ่งถ้าไมได้ข้อมูลอีก จะให้เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคดำเนินการตามกฎหมาย”
อย่างไรก็ดี ทีมข่าว MGR Live ได้ติดต่อไปยัง “รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์” ทนายชื่อดัง ประธานเครือรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อขอความรู้ทางข้อกฎหมาย สำหรับประเด็นดังกล่าว
“ผมรู้สึกว่าการที่ ศบค.ไม่ยอมเชือดสักที มันทำให้สังคมตั้งคำถามว่า คนที่เปิดเผยไทม์ไลน์ เป็นเฉพาะแค่ประชาชนระดับล่างรึเปล่า ทำไมคนที่เป็นถึงตำรวจ-ดารา ที่หาเงินกับความชื่นชอบของประชาชน ถึงไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม”
โดยทนายเปิดเผยว่า การปกปิดข้อมูลแบบนี้ ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มาตรา 49 บัญญัติไว้ว่า บุคคลใดที่ฝ่าฝืนไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ตามมาตรา 45(1) ในการมาให้ถ้อยคำ หรือแจ้งข้อเท็จจริง หรือคำชี้แจง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน
“การปิดบังไทม์ไลน์เจ้าพนักงานควบคุมโรค ศบค. ไม่ได้ใช้อำนาจมั่วนะครับ มันอยู่ใน พ.ร.บ.โรคติดต่อ มาตราที่ 45 ให้อำนาจเจ้าพนักงานในการเรียกบุคคลใดๆ เข้าให้ข้อมูล หรือให้ข้อมูลเป็นลายลักษณ์อักษร ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นั่นแปลว่า กฎหมายให้อำนาจในการเรียกบุคคลมาให้ข้อมูล และต้องให้ ถ้าไม่ให้มีความผิด และถ้าเกิดให้ข้อมูลเท็จก็มีความผิดอีกเช่นกัน
นอกจากนี้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังวางข้อกำหนดเอาไว้อีกด้วยว่า ในการจัดกิจกรรมที่เป็นการมั่วสุม หรือฝ่าฝืนคำสั่งผู้ว่าฯ ที่ออกตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรค ให้ผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไปด้วย
การที่กรุงเทพมหานครออกคำสั่งห้ามจัดกิจกรรม งานเลี้ยง ในช่วงที่มีการจัดงานวันเกิด ถือได้ว่าฝ่าฝืนคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร ผิดทั้ง พ.ร.บ.ควบคุมโรค ผิดทั้ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีโทษ 2 ปี ปรับ 4 หมื่น สำหรับคนที่จัดงาน ผู้เข้าร่วมก็ผิดด้วย
ส่วน “ข้าวโอ๊ต” มีความผิดเรื่องของการปกปิดไทม์ไลน์ แต่ไม่ใช่เป็นคนจัดงานปาร์ตี้ ซึ่งมีโทษจำคุก 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่น หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ตอนหลังถ้าเกิดเขามาให้ข้อมูล แล้วปรากฏว่าเป็นการให้ข้อมูลเท็จต่อเจ้าพนักงาน จะมีโทษของการให้ข้อมูลเท็จอีก”
นอกจากนี้ ทางทนายยังสะท้อนถึงความไม่เท่าเทียมและเลือกปฏิบัติ โดยขอเรียกร้องให้ทางศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) บังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน
คือ ต้องบอกอย่างหนึ่งว่า วันนี้ผมไม่ได้เรียกร้องให้ดีเจมะตูม หรือผองเพื่อนมะตูม เปิดเผยไทม์ไลน์ แต่ผมเรียกร้องให้ ศบค. บังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกันและไม่เลือกปฏิบัติ
เมื่อปีที่แล้ว ปี 63 มีชาวบ้านนั่งกินหมูกระทะ และถูกจับตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำไมพอเป็นปาร์ตี้ดารา คนดัง ไม่เห็นมีใครถูกดำเนินคดี
เรื่องนี้ยังไงคุณจะต้องเปิดเผยไทม์ไลน์ ยิ่งคุณเปิดเผยช้า ปล่อยให้เราต้องใช้กฎหมายในการบังคับ มันยิ่งสะท้อนให้เห็นว่าตัวคุณเองไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคมเลย
แล้ววันข้างหน้า แค่เรื่องแค่นี้ คุณยังไม่เปิดเผยกับประชาชน วันข้างหน้ามันจะมีอะไรรับประกันบ้าง คุณคิดว่าสิ่งที่คุณทำ มันเป็นผลดีกับแฟนคลับคุณไหม ถ้าคุณคิดอยากจะเป็นคนของประชาชน คุณต้องกล้าที่จะรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ใช่เห็นแก่ได้หรือมักง่ายแบบนี้”
ข่าวโดย : ทีมข่าว MGR Live
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **