ปลูกต้นไม้ผิดชีวิตเปลี่ยน! ดรามาถล่มเละ “ฌอน บูรณะหิรัญ” กับเงินบริจาคดับไฟป่าที่เต็มไปด้วยข้อสงสัย “ใช้ผิดวัตถุประสงค์-ไม่โปร่งใส-ไม่ถึงมือคนรับ” แถมโดนขุดประวัติยับ สร้างโปรไฟล์เป็นนักสู้ยิ่งกว่าหนังฮอลลีวูด!?!
สังคมตั้งคำถาม ใช้เงินบริจาคถูกจุดมั้ย!?!
ไม่น่าเชื่อว่าเพียงเพราะคำว่า “น่ารัก” คำเดียว จะทำให้ชีวิตคนๆ หนึ่ง พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ขนาดนี้ สำหรับกรณีของ “ฌอน บูรณะหิรัญ” นักพูดสร้างแรงบันดาลใจชื่อดัง ที่ถูกกระแสโจมตีจากชาวโซเชียล จากคลิปวิดีโอร่วมกิจกรรมปลูกป่าที่จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับ “บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ทำให้ผู้ติดตามในแฟนเพจของเขาลดฮวบถึงหลักล้าน และเกิดกระแสด้านลบตามมามากมาย
เรื่องราวดรามานี้เป็นเพียงแค่ออเดิร์ฟเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นไม่นาน มีทั้งเพจดังต่างๆ และสมาชิกโลกโซเชียล ต่างพากันออกมาขุดหลายประเด็นที่ยังไม่คลายข้อสงสัย โดยเฉพาะกรณีของการเปิดรับบริจาคช่วยไฟป่าดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อปลายเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ผ่านแฟนเพจ “Sean Buranahiran-ฌอน บูรณะหิรัญ”
ดูเหมือนว่างานเข้าอีกระลอก เมื่อ “แหม่มโพธิ์ดำ” เพจสายดาร์กชื่อดัง เผยข้อความจาก “ทีมอาสาร่วมดับไฟป่า” ใจความถามหาเงินบริจาคที่หายไป มีการเปิดรับบริจาคใหญ่โต แต่ไม่เคยมีการเปิดเผยยอดบริจาค และไม่เคยได้รับสิ่งของจากฌอนเลย
ในเวลาต่อมา เจ้าตัวต้องออกมาชี้แจงรายละเอียด โดยระบุว่า เงินบริจาคถูกนำไปแก้วิกฤต 2 เรื่อง คือ ไฟป่า และ Covid-19 จากการเปิดรับบริจาคภายในระยะเวลา 1 เดือน มียอดเงินทั้งสิ้น 875,741.53 บาท แบ่งการดำเนินการเป็น 3 ส่วน คือ กำลังสมอง กำลังคน และ กำลังทรัพย์
ทว่า… ยิ่งอธิบายกรณีดับไฟป่ายิ่งเหมือนเป็นการจุดไฟเผาตัวเอง เพราะเงินกว่า 1/3 ของยอดบริจาค ถูกนำไปเป็นค่าผลิตสื่อและค่าโปรโมตโพสต์ เป็นเงินกว่า 250,000 บาท ตลอดจนนำเงินไปช่วยโควิด-19 ซึ่งหลายคนมองว่านำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์การประกาศการขอรับบริจาคตั้งแต่แรก
อีกทั้งยังมีการนำเคสนี้ไปเปรียบเทียบกับการรับบริจาคของ วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล ซึ่งทางแฟนเพจของวรรณสิงห์นั้น มีผู้กดถูกใจประมาณ 400,000 คน ซึ่งมีจำนวนน้อยกว่าของหนุ่มฌอนถึง 10 เท่า และรับบริจาคเพียง 40 ชั่วโมง ได้เงินไป 3.8 ล้านบาท พร้อมทั้งแจกแจงรายละเอียดอย่างครบถ้วน แต่ทางด้านของนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ ใช้เวลาในการรับบริจาคถึง 1 เดือน แต่กลับได้เงินเพียง 8 แสนกว่าบาทเท่านั้น
ไฟดรามานี้ ลุกลามไปถึงผู้ใหญ่ในพื้นที่ เพราะล่าสุด สราวุฒิ วรพงษ์ นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ ได้ทำหนังสือชี้แจงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มีเนื้อความว่า การเปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือดับไฟป่าของฌอนนั้น ไม่ได้มายื่นขออนุญาตทำการเรี่ยไร ตามพระราชบัญญัติควบคุมการเรี่ยไร พุทธศักราช 2487 ในเขตพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ แต่อย่างใด
ส่วนทางด้านของกรมสรรพากร หน่วยงานที่ดูแลด้านภาษี ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่าน เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส อธิบดีกรมสรรพากร ว่าการใช้เงินบริจาคของ ฌอน บูรณะหิรัญ ที่จะเข้าข่ายได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ จะต้องเป็นการใช้ตามวัตถุประสงค์ที่เปิดขอรับบริจาค
ส่วนการสอบรายได้และรายจ่ายของไลฟ์โค้ชผู้นี้ ในเวลานี้ยังทำไม่ได้ แต่ต้องรอให้ถึงเวลาการยื่นแบบภาษีเงินได้รายได้ประจำปีต่อกรมสรรพากรก่อน ส่วนกรณีเงินบริจาคส่วนหนึ่งได้ไปใช้เพื่อการผลิตสื่อกว่า 2.5 แสนบาท ยังต้องดูจะเข้าข่ายได้รับการยกเว้นภาษีด้วยหรือไม่ เพราะส่วนนี้ไม่ใช่เงินที่นำไปบริจาคต่อ
แฉต่อ ก๊อปคอนเทนต์-สร้างโปรไฟล์รันทด
จากเรื่องของความไม่ชัดเจนในการรับเงินบริจาค นับมาสู่การขุดคุ้ยเบื้องหลังของชายคนนี้ชุดใหญ่ จากเพจดังที่แฉถึงพฤติกรรมไม่ชอบมาพากลของนักพูดสร้างแรงบันดาลใจคนนี้แบบจัดเต็ม
ทั้งประวัติชีวิตที่เขาอ้างว่าเคยถูกบูลลี่ เพราะเป็นนักเรียนเอเชียคนเดียวในโรงเรียน เคยติดคุก เพราะชกต่อยกับเพื่อน อีกทั้งยังเคยรับงานเป็นบอดีการ์ด และหาเงินจากการต่อยมวย ตลอดจนการใช้ชีวิตอย่างยากลำบากและโชกโชน เมื่อสมัยอยู่ที่สหรัฐอเมริกา จนหลายคนถึงกับออกปากแซวว่า นี่ประวัติชีวิตหรือหนังจากจักรวาล Marvel กันแน่!?!
แฟนเพจ CSI LA เพจดังที่มีผู้ติดตามกว่า 1 ล้านคน เดินหน้าขุดประวัติที่ชวนตั้งข้อสังเกตของชายที่มีนามว่าฌอนอย่างต่อเนื่อง โดยมีตั้งคำถามตั้งแต่เรื่องที่ชายคนนี้อ้างว่าเป็นนักเรียนเอเชียเพียงคนเดียวในเมือง West Covina ที่ถูกเพื่อนรังแก แต่ความจริงนั้นเมืองนี้มีประชากรชาวเอเชียกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ ที่เข้ามาอาศัยตั้งแต่ก่อนที่ฌอนจะเกิด ซึ่งโรงเรียนที่ไลฟ์โค้ชผู้นี้เข้าเรียน ก็เต็มไปด้วยนักเรียนเชื้อสายเอเชีย
สำหรับเรื่องที่เขาเคยเล่าว่า ติดคุกในสมัยวัยรุ่น จากการใช้มวยไทยชกต่อยกับเพื่อน และต้องทำงานรับใช้สังคมเป็นเวลา 1,000 ชั่วโมง ก็มีความเป็นไปได้น้อยมาก เพราะโทษมีความรุนแรงเกินไปสำหรับเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี ส่วนการเป็นบอดีการ์ดและใช้หาเงินจากการต่อยมวยไทยนั้น เขาอ้างว่าความรุนแรงของมวยไทย เทียบได้กับอาวุธที่สามารถใช้ฆ่าคนตายได้
เพจดัง ยังทวงถามฌอน ถึงการจ่ายภาษีในฐานะ American Citizen ว่า ได้ทำตามหน้าที่ของพลเมืองสหรัฐฯ คือ การเสียภาษีอย่างถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากมีรายได้ในประเทศไทย จากการขายคอร์สอบรมออนไลน์เป็นเงินกว่า 12 ล้านบาท แถมยังมีเงินซื้อ Supercar และนาฬิกาหรูอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นจับโป๊ะกันไปแบบยาวๆ จากการที่เขาพารายการ Variety at Home ที่ออกอากาศไปเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ทัวร์บ้าน ในชื่อคลิป “เปิดบ้านคุณฌอน บูรณะหิรัญ ผู้ชายพลังบวกที่เป็นแรงผลักดันชีวิตดีๆ ของผู้คนในสังคม”
ขณะนั้นไลฟ์โค้ชชื่อดังให้ข้อมูลว่า ในอดีตบ้านหลังนี้เคยเป็นของหุ้นส่วน ตนเองมีความต้องการให้บ้านนี้เป็นประโยชน์กับคนทั่วไป โดยรอบบ้านถูกประดับไว้ด้วยรูปภาพที่สร้างแรงบันดาลใจอยู่ตามมุมต่างๆ แต่เมื่อตรวจสอบที่ช่องคอมเมนต์ กลับมีคนมาแสดงความคิดเห็นว่า บ้านหลังดังกล่าวไม่ใช่ของฌอนแต่อย่างใด หากแต่เจ้าของบ้านตัวจริงมีชื่อว่า “เหน่ง”
ตลอดจนการจับผิดข้อความสร้างแรงบันดาลใจต่างๆ ที่หนุ่มฌอนมักจะโพสต์ ปรากฏว่า เจ้าของข้อความเหล่านั้นคือคนดังระดับโลก โดยเขามีทั้งการหยิบคำคมนั้นมาแปลเป็นภาษาไทย รวมถึงการหยิบยกมาทั้งดุ้น แล้วใส่เครดิตว่าเป็นของตนเองก็มี
ทั้งนี้ แฟนเพจ CSI LA ได้เปิดพื้นที่ให้ผู้คนที่เคยโอนเงินไปให้ไลฟ์โค้ชผู้นี้ และประสงค์ที่จะให้ข้อมูลหลักฐาน สามารถส่งสลิปการโอนเงินและกรอกข้อมูล เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบความถูกต้องเรื่องการใช้เงินบริจาค ได้ที่หน้าแฟนเพจ
ขณะเดียวกัน ก็มีผู้คนเรียกร้องให้หนุ่มฌอน นำสเตทเมนต์หรือข้อมูลความเคลื่อนไหวทางการเงิน มาเปิดเผยต่อสาธารณะ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เพิ่มเติม นับตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา
ท้ายที่สุดนั้น ความจริงของมหากาพย์นักพูดสร้างแรงบันดาลใจคนนี้จะสิ้นสุดที่ตรงไหน คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์กันต่อไป
ข่าวโดย : ทีมข่าว MGR Live
ขอบคุณภาพ : แฟนเพจ “Sean Buranahiran-ฌอน บูรณะหิรัญ” แฟนเพจ CSI LA และรายการ Variety at Home
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **
