พักฝีเท้าชั่วคราว จากผลกระทบไวรัสโควิด-19 ไร้โปรแกรมแข่ง สโมสรต้นสังกัดไม่มีรายได้ เจาะใจ ดาวยิงวัย 29 ปี “AK9” จาก “นักบอล” สู่พ่อค้า “ทุเรียน” ดิ้นรนเอาตัวรอด หารายได้เสริม ผันตัวไลฟ์สดขายทุเรียนผ่านไอจี จากสวนตัวเอง ผลตอบรับดี ออเดอร์เพียบ พร้อมเล่ามุมมองความรักกับแฟนสาวดีกรีดารา แฟนบอลเรียกร้องหวนติดทีมชาติ พร้อมมีโอกาสค้าแข้งต่างประเทศ เล่าหมดเปลือกกับชีวิตหลังแขวนสตั๊ด
ไร้โปรแกรมแข่ง ไม่มีรายได้ สร้างอาชีพเสริมช่วงโควิด-19
“เหมือนมันเป็นการจำลองเหตุการณ์ของเราเหมือนกันว่า ถ้าเราเลิกเล่นเราจะทำอะไรได้บ้าง ให้เราได้ทดสอบดูก่อน
ผมถ้าไม่ได้มาเป็นนักบอล หรือถ้าไม่ได้มาขายทุเรียน วินมอเตอร์ไซค์ผมก็เป็นนะครับ เก็บขยะผมได้หมด ขอให้เราได้ดิ้นรนได้สู้ ทำแล้วมันมีความสุข ทำไปเถอะครับ”
กอล์ฟ-อดิศักดิ์ ไกรษร กองหน้าของ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี วัย 29 ปี เจ้าของฉายา “AK9” เปิดใจถึงการผันตัวจากดาวยิงมาเป็นพ่อค้า “ทุเรียน” ออนไลน์ จากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดทั่วโลก ส่งผลให้การแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพของไทยทุกระดับต้องหยุดกลางคัน โดนเลื่อนการแข่งออกไปเดือนกันยายน
ในช่วงที่วิกฤตเช่นนี้ ทำให้ฟุตบอลยังคงซ้อมและแข่งขันยังไม่ได้ หลายทีมได้รับผลกระทบด้านการเงินอย่างหนัก มีแต่รายจ่าย แต่ไร้รายรับเข้าสโมสร
ซึ่งตอนนี้นักเตะหลายคนต่างก็เริ่มหาอาชีพเสริม เพื่อช่วยสร้างรายได้ในช่วงนี้ เช่นเดียวกับดาวยิงอย่าง “เจ้ากอล์ฟ” ได้ใช้เวลาว่างช่วงนี้เปิดขายทุเรียนออนไลน์ จากสวนตัวเองที่ จ.ระยอง ภายใต้แบรนด์ “Durian by AK9” เป็นทุเรียนหมอนทองชั้นดี เกรดพรีเมียม ที่เจ้าตัวการันตีความอร่อย
โดยโชว์ความเป็นพ่อค้าออนไลน์อย่างมืออาชีพ ไลฟ์สดผ่านไอจีส่วนตัว มีแฟนลูกหนังเข้าไปชมและให้กำลังพร้อมสอบถามข้อมูลทุเรียนและเรื่องทั่วไปกันเพียบ เรียกได้ว่าผลตอบรับดีเกินคาด มีออเดอร์เข้ามาเพียบกันเลยทีเดียว
“เขินๆ ครับ ซีนแรกนี่คือเหงื่อแตกเลยครับ ขายไม่เป็น ไลฟ์ยังไง ขายยังไง บอกยังไง ก็ไม่รู้เลย แต่พอได้ไลฟ์ไปเรื่อยๆ เราเริ่มมีประสบการณ์
ส่วนมากคนจะไม่เห็นเราในมุมนี้ แซวเราเป็นพ่อค้า แล้วก็มีแบบขายดีไหมครับ ขอให้ขายดีๆ นะครับ กิจการดีๆ รุ่งเรือง ทุกคนช่วยอุดหนุน บอกว่าอร่อย แล้วก็ชอบเราก็เลยรู้สึกว่า เราทำแล้วมันก็โอเค รู้สึกมีความสุข ของที่เราให้เขาไปแล้วมันดี ผมก็ดีใจ
ก็ต้องขอบคุณทุกคนด้วย ที่ให้การตอบรับดี เห็นเราในมุมนี้ ผมก็ต้องขอบคุณด้วย มีอะไรที่ให้เราปรับปรุง เราก็ยินดีนำมาแก้ไข”
เรียกได้ว่าหารายได้เสริม พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ซึ่งเจ้าตัวเล่าว่าน้อยคนจะรู้ว่ามีสวนทุเรียน เพราะไม่กล้าบอกใคร กลัวว่าคนจะคาดหวังมากเกินไป
“คือเราไม่ได้โปรโมตตอนนั้น เพราะว่าผมกลัวว่าถ้าโปรโมตไปแล้ว มันไม่ได้อย่างที่เราพูด มันเหมือนว่าพอเราพูดไว้สูง แล้วถ้าเกิดผลผลิตของเราไมได้แบบนี้จริงๆ เราก็กลัว ตอนนั้นก็กลัวไปก่อน ก็เลยไม่อยากบอกใครไว้
รอให้ผลผลิตมันออกมา แล้วเราลองชิมเอง ทานเอง เฮ้ยมันได้นะ มันเกรดเดียวกับที่แบบสวนเขาส่งออกเลย เราถึงการันตีเปิดขายเป็นแบบออนไลน์
“พอมาเจอจังหวะโควิด-19 พอดี แล้วผ่านมาได้ประมาณเดือนนึง ผลผลิตมาแล้ว ก็เลยแวะไปดู เพื่อนบอกลองเลยไหม ไหนๆ ก็ไม่ได้เตะบอลตอนนี้ ซ้อมอยู่บ้านก็ยังพอขายออนไลน์ได้ ลองดู”
นักเตะดีกรีทีมชาติ ยังเล่าอีกว่า วิกฤตในครั้งนี้ เป็นเหมือนการจำลองเหตุการณ์ หากไม่ได้ทำอาชีพนักฟุตบอลแล้วก็สามารถที่จะมีอาชีพเลี้ยงตัวเอง และครอบครัวต่อไปได้
“ก็รู้สึกว่า มันเหมือนทำให้เราได้เรียนรู้ว่าวันนึง ถ้าเราเลิกเล่น ตรงนี้มันยังพอหาเงินตรงนี้ได้อยู่ ก็ถือว่าเราคิดไม่ผิดตอนนั้น
คนที่ยังพอมีทุนอยู่ มีกำลังทรัพย์ที่พอเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ อยากให้ทุกคนคิดแล้วก็ลองทำดู แต่ว่าคนที่ไม่มีทุนเลย เราก็เข้าใจ คือแบบข้าวจะกินยังจะไม่มีเลย เราจะบอกให้เขาพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสก็ไม่ได้
เพราะว่าบางคนที่เขาไม่มีจริงๆ คนที่เขาลำบากจริงๆ เราก็เห็นมาก่อน คือบางคนไม่มีบ้าน ไม่มีที่นอน แทบจะไม่มีที่นอนเลย เราก็ต้องเข้าใจเขา
อยากให้ทุกคนสู้ เพราะว่าอยากจะให้มันผ่านช่วงนี้ไปด้วยกัน ถ้าสถานการณ์มันดีขึ้น หลายๆ อย่างมันดีขึ้นแล้ว ผมว่าทุกคนก็อาจจะกลับมา อยากให้ทุกคนกลับมาสู้เหมือนเดิมดีกว่า เพราะว่าตอนนี้เราเหมือนอยู่จุดที่มันแย่ที่สุดแล้ว คือไม่มีอะไรแย่กว่านี้แล้ว
หลังจากนี้ถ้ามันดีขึ้น ก็อยากให้ทุกคนสู้นะครับ ก็คือไม่ต้องเลือกงาน อย่าเลือกงานเลย งานอะไรก็ได้ทำไปก่อน”
จุดเริ่มต้น “Durian by AK9”
“ชื่ออะไรดี ตอนนั้นก็คือผลผลิตจะมาแล้ว มีเวลาแค่แป๊บเดียว เราต้องทำเลยนะ ช้าไม่ได้แล้ว เพราะว่าผลผลิตมาแล้ว จะทำอะไรบ้าง จะเชื่อมไหม หรือจะทอดไหม หรือจะสดอย่างเดียว ตอนนั้นคือมีเวลาแป๊บเดียว แล้วเร็วมาก
งั้นเอา Durian by AK9 เลย สั้นๆ ง่ายๆ คนน่าจะเข้าใจ คนน่าจะรู้ว่ามันเป็นเรานะ เราทำทุเรียน แล้วก็ทำสติกเกอร์ แค่ภายในอาทิตย์นั้นเลย”
ดาวยิงแห่งสิงห์เจ้าท่า ยังเล่าย้อนกลับไปในวัยเด็กอีกว่าเดิมทีเป็นคนชอบกินทุเรียนอยู่แล้ว แต่เมื่อตอนเด็กๆ ได้กินทุเรียนที่ขม และไม่อร่อย ทำให้ไม่กล้าลองเปิดใจกินทุเรียนอีกเลย
“จริงๆ ส่วนตัวผมเคยกินทุเรียนมาครั้งหนึ่งตอนเด็กๆ แล้วทีนี้เหมือนทานแล้วไม่ค่อยประทับใจทุเรียนสด ก็เลยไม่ชอบ เพราะขม แต่ทีนี้พอโตขึ้น พอเริ่มมาเตะฟุตบอล เราก็เหมือนมีเงินมากขึ้น เราก็เลยคิดแบบไม่ชอบทุเรียน ไม่กินดีกว่า
เพราะเห็นทุเรียนที่ไหนก็ไม่เคยวิ่งซื้อ ไม่เคยอะไรเลยนะ แต่ว่าไปทาน swensens ที่จำได้เลยนะว่าแบบไอศกรีมทุเรียน เฮ้ย มันอร่อย แล้วทุเรียนสดทำไมมันไม่อร่อยเหมือนไอศกรีม”
ส่วนหนึ่งที่อยากมีสวนทุเรียนเป็นของตัวเอง ก็ยอมรับว่า เพราะตอนเด็กๆ ได้กินทุเรียนแล้วไม่อร่อย จึงไม่กล้าที่จะกิน แต่พอได้มาชิมทุเรียนจากสวนของเพื่อน รู้สึกถึงความอร่อย จึงอยากส่งต่อความอร่อยของทุเรียนให้แก่คนที่ชื่นชอบ
“ก็เลยได้ไปรู้จักเพื่อนพอดี เพื่อนที่เรียนด้วยกัน ไปเที่ยว แล้วก็ไปเจอเขา เขาบอกว่าเป็นเจ้าของสวนทุเรียนอยู่ที่ระยองนะ เราก็แบบอ้าวไม่เคยรู้เลย ตอนเรียนไม่เห็นบอกเลย ก็ลองไปเที่ยวสวน พอไปเที่ยวก็ได้ลองชิมทุเรียนของเขาดู ทุเรียนเกรดพรีเมียมของเขาส่งออกนอก
เขาก็แนะนำ โน่นนี่นั่น พาเข้าสวน เราก็ไปดู แล้วก็ลองได้กิน เฮ้ย ที่คิดมามันผิดเลย ทุเรียนแบบพรีเมียม ของดีมันเป็นอย่างนี้นี่เอง พอเราได้ทานก็เลยชอบ มันอร่อย
เพื่อนก็เล่าว่ามันดูแลยาก แกะออกมาแล้วมันก็ต้องอยู่ในอุณหภูมิที่ต้องพอดี ตัดออกมาเป็นพู ถ้าวางไว้กับพื้น อุณหภูมิจากพื้น ความร้อนจากพื้นก็ไม่ได้อีก ต้องดูว่าเขาเก็บ ดูแลยังไง แล้วก็ดูแลยาก”
หลังจากฟังจากปากที่เพื่อนเล่าว่าแต่ละปีทางสวนมีการส่งขายต่างประเทศ รายได้ตอบแทนถือว่าดีพอสมควร จึงตัดสินใจพูดคุยขอแบ่งซื้อจากเพื่อนมา 5 ไร่
“ผมก็อยากลองทำดูบ้าง เพราะว่าเห็นเขาพูดว่าส่งออกนอก รายได้รายรับเขาดีนะ แต่ว่าต้องเป็นสวนของตัวเอง ผมก็เลยถามเขาว่าเขามีเยอะไหม เขามีเท่าไหร่ เขาก็มี 100 ไร่ขึ้นไปอยู่แล้ว ก็คือ ทำทั้งตระกูล
ก็เลยขอตรงนี้สักหน่อยได้ไหม แต่ว่าการคุยกันตรงนี้ ไม่ได้คุยวันเดียวจบ สองวันจบ คุยกันมาวันนั้น แล้วก็ปล่อยมาอีกเดือนนึงก็คุย ปล่อยมาอีกเดือนนึงก็คุย ก็คือคุยกันตรงนี้สักพักนึง
เราก็ได้ไปอีก เราก็ขอซื้อสัก 5 ไร่ได้ไหม ขอเลยอันนี้ที่เพิ่งปลูกไปเนี่ย ปลูกไปนานหรือยัง เขาบอกปลูกมา 3 ปีแล้ว แต่ว่าถ้าเกิดจะเอาจริงๆ เดี๋ยวจะสอนก่อนว่าวิธีการทำมายังไง เป็นมายังไง ใส่ปุ๋ย ใส่อะไร น้ำยาเป็นยังไง เขาก็เลยบอกเรา แล้วให้เราไปตัดสินใจ”
ก่อนที่จะมีสวนทุเรียน 5 ไร่ บนพื้นที่เขาชะเมา จ.ระยอง เมื่อก่อนที่บ้านเกิดบุรีรัมย์ เจ้าตัวก็เคยปลูกทุเรียนไว้อีกด้วย แต่ไมได้ผลตอบรับที่ดี เพราะไม่รู้วิธีการดูแล
“คืออยากจะปลูกแต่ว่ามันไม่ขึ้น (หัวเราะ) คือ ผมชอบปลูกต้นมะม่วง แล้วแบบพอเห็นผลผลิตขึ้นมาเหมือนเราดีใจ เราเป็นเด็ก แม่นี่มะม่วงผมปลูกนะต้นนี้ กระท้อนผมปลูกหลังบ้านได้กิน คนที่บ้านได้กิน แล้วก็มีต้นอย่างอื่นพอจะขึ้นแถวนั้น
แต่ทีนี้อยากปลูกทุเรียนบ้าง ดินมันไม่ได้ ปลูก 4-5 ปีแล้วมันไม่ได้กิน เราไม่มีวิธีดูแล หรือว่าเราปลูกแบบบ้านๆ ใส่ปุ๋ยแบบบ้านๆ ปุ๋ยอะไรก็ไม่รู้ รดน้ำธรรมดา เราไม่รู้ว่าทุเรียนมันชอบน้ำขนาดไหนตอนนั้น เราก็เลยปลูกก็ไม่ได้ผลตอบรับ แค่ปลูกลองทานดูต้นสองต้น”
และด้วยความที่โดนปลูกฝังจากพ่อแม่มาตั้งแต่เด็ก ถ้ามีเงินให้ซื้อที่ดินเก็บไว้ เพื่อในอนาคตจะได้ไม่ลำบาก อีกทั้งเมื่อก่อนที่ดินที่ครอบครัวเคยมี ก็ทยอยขายส่งตัวเองและพี่สาวได้เรียน
“เราก็เลยคิดว่าถ้าเลิกเล่นฟุตบอลไป ตรงนี้เราอาจจะเก็บไว้ขายเองสนุกๆ ไหม เพราะว่าเราไม่รู้อนาคตเป็นยังไง ก็เลยแบบไปซื้อตรงนั้นดีกว่า เพราะว่าเหมือนพ่อกับแม่เขา ชอบบอกให้ผมซื้อที่ดีกว่าลูก ที่ไม่มีขาดทุน ที่มีแต่ขึ้น แต่ขอให้มีทางเข้าออก
เพราะว่าเมื่อก่อนพ่อแม่เคยมีที่อยู่ แต่ว่าทยอยขาย เพราะว่าเหมือนส่งผมเรียนด้วย ส่งพี่สาวเรียนด้วย จนมาถึงจุดๆ หนึ่งเราไม่มีที่เป็นของตัวเอง พอเราได้มาเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ มีเงินเท่าไหร่พ่อกับแม่ก็ซื้อหมด ที่นาที่บุรีรัมย์ ที่สวน พ่อแม่ผมก็ซื้อๆ
แล้วผมโดนปลูกฝังว่าเก็บเงิน ถ้าเกิดว่ากลัวลูกจะเอาไปซื้อรถ เล่นการพนันหรือเปล่า ใช้เงินฟุ่มเฟือย เขาก็เลยสอนให้ผม ไปซื้อที่ดินดีกว่าลูก ผมก็เลยมีเงินอยู่ก้อนหนึ่งพอดี ก็เลยซื้อเลยแล้วกัน ซื้อทิ้งไว้ ถ้าเราไม่ได้อยู่จริงๆ เราไม่ได้ทำจริงๆ ต่างจังหวัดด้วยอะไรด้วย ก็ขาย เพื่อนผมก็เลยโอเคไม่เป็นไร ถ้าสนใจจริงๆ มาคุยกัน”
รัก 2 ปี การันตี ไม่หลอกลวง
นอกจากโชว์ความเป็นพ่อค้าออนไลน์อย่างมืออาชีพ ไลฟ์สดผ่านไอจีส่วนตัวแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทำให้สะดุดตาแฟนๆ เวลาเข้าไปชมไลฟ์สดขายทุเรียน มักมีโมเมนต์น่ารักมุ้งมิ้งกับแฟนสาวอย่าง “น้องหยก-ภัทรภร ศิริทรัพย์จนันท์”
สำหรับแฟนสาว ก็มีดีกรีไม่ธรรมดา เพราะมีผลงานการแสดงในวงการบันเทิงมาแล้ว ด้วยการเป็นถึงนางเอก MV เพลงความฮัก ของ “เบิ้ล ปทุมราช อาร์สยาม” และมีผลงานการแสดงจากละครเรื่อง เรือนสายสวาท ทางช่อง 8
ไม่เพียงแค่ออกมาไลฟ์สดคู่กันเท่านั้น ช่วงหลังๆ ดาวยิงวัย 29 ปี ยังโชว์ความน่ารักด้วยการออกมาเต้นโปรโมตขายทุเรียนผ่าน TikTok อีกด้วย และความสวยน่ารัก ดีกรีไม่ธรรมดาของแฟนสาว ทำให้คนสนใจมากยิ่งขึ้น
“(หัวเราะ) ก็มี TikTok ของน้องเขา ตอนแรกก็ลงสนุกๆ กันไม่ได้คิดอะไร แต่แบบตกใจคนดู 2 แสน สักพักผ่านไปประมาณ 3 ชั่วโมงคนดู 5 แสน งงเลย เพราะว่าจริงๆ น้องบอกว่าคนดูเต็มที่เลยนะหลักพันไม่เกินนั้น หลักหมื่นก็เยอะแล้วบางอัน น้องบอกคลิปนี้ดังเลยคนตามเยอะ
ก็เลยลองแบบเวลาเราเข้าสวน ก็เลยลองทำดู ให้คนมาตามเรา เผื่อเขาชอบเราในแบบชาวสวน ก็เลยลองทำ ตอนหลังมาก็เลยคนดูหลักแสนตลอดเลย ก็รู้สึกว่าฟีดแบ็กดี นั้นก็ให้คนมาตาม TikTok อันนี้แล้วกัน เผื่อใครถาม เผื่อมาเต้นขายทุเรียนใน TikTok (หัวเราะ) หรือว่ามีอะไรมาใหม่”
ดาวยิงวัย 29 ปี ยังเล่าถึงความทุ่มเทของแฟนสาวอีกว่า ช่วงขายทุเรียน ก็ช่วยรับออเดอร์เองทั้งหมด เรียกได้ว่าช่วยกันทำมาหากิน
“จริงๆ เขาทำเองแทบจะทุกอย่างเลยมั้ง คือ เราเป็นคนวางแพลนไว้ ที่เหลือเขามาสานต่อเอง ถ่ายรูป แพกของ ลงรูป ส่งของ ตอบลูกค้า รับโทรศัพท์ คือทำเองทุกอย่างเลย
เขาบอกด้วยอายุขนาดนี้จริงๆ อายุของเขาต้องเป็นอายุที่ยังเที่ยวอยู่เลยนะ แต่พอรู้จักกันมา 2 ปี เรื่องเที่ยวก็ไม่มีเลย ก็คือ มีแค่แบบงานเลี้ยงเลิกกองขอไปนะ แล้วก็ไปรับ เที่ยวกับเพื่อนก็แทบจะไม่ค่อยมี ก็เหมือนกับการเที่ยวของเขาก็คือโดนตัดออกไปเลยโดยปริยาย แล้วก็แบบว่าตอนนี้ก็ยังเรียนอยู่ด้วย ก็เลยมาช่วยเต็มตัว”
ปัจจุบัน แฟนสาวดาวยิงวัย 29 ปี กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คณะดิจิทัลมีเดียและศิลปะภาพยนตร์ ส่วนใครที่ไปสนามฟุตบอล อาจจะเคยเจอบ้างแล้ว เพราะเคยทำหน้าที่เป็นช่างภาพสายกีฬามาก่อน
นอกจากนี้ ยังได้เปิดใจเล่าความรักในครั้งนี้ก็ศึกษาดูใจกันมาได้ 2 ปีแล้ว ต่างคนต่างคอยช่วยผลักดัน ช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกัน ในทุกๆ ด้าน
“ก็ตั้งแต่รู้จักกันมาเหมือนเราได้ลองศึกษานิสัยดู นิสัยเขาเป็นยังไง เรารู้ว่าเราเป็นคนยังไง ชอบอะไร เราก็เลยเปิดอกคุยตรงๆ ตอนแรกก่อนนะว่าแบบชอบอย่างนี้ ไม่ชอบอย่างนี้ ถ้าเกิดกินข้าวให้ผมมาล้างจานให้อีกก็ไม่ไหวนะ (หัวเราะ) เอาแบบถ้ายกตัวอย่างนะ ก็อะไรประมาณนี้ ก็คุยกันตรงๆ ตอนนี้ก็ประมาณ 2 ปีแล้ว
มีหลายอย่างที่มันตรงกัน แล้วก็ปรับหากันได้ก็เลยโอเค เขาก็เหมือนช่วยผมในเรื่องของโซเชียลเยอะ เอาตรงๆ โซเชียลไม่เก่งเลย คือจะทำรูป แต่งรูปหรือเรียนออนไลน์อย่างนี้เขาก็ช่วย แล้วอะไรที่ผมไม่รู้เกี่ยวกับโซเชียลเขาก็จะบอก จะสอน แล้วก็งานบ้าน ทำกับข้าวก็โอเค
อย่างเราโตมาด้วยการเป็นเกษตรกร พ่อแม่สอนตลอดว่าจะมีแฟน เอาแฟนที่มันทำกับข้าวเป็น ทำงานบ้านเป็นด้วยนะ ไม่ใช่มาถึงแล้วใช้แม่ซักผ้าไม่ได้นะ อะไรประมาณนี้ครับ ก็เขาก็ดูแลตรงนี้ไปเลย”
เมื่อถามว่าชอบอะไรในตัวแฟนสาว เจ้าตัวก็ยอมรับว่า ชอบตรงที่ต่างคนต่างซับพอร์ตซึ่งกันและกัน และไม่ชอบอะไรก็สามารถบอกกันได้ตรงๆ
“มีอะไรก็บอกเลยว่าไม่ชอบอันนี้ ชอบอันนี้ ทำอันนี้ให้หน่อย ก็เลยคุยกัน ก็ทำได้อย่างที่เราต้องการ แล้วเราก็พยายามทำในสิ่งที่เขาอยากได้ด้วยครับ
ก็จริงๆ ชอบที่นิสัยตรงนี้ครับ ที่แบบว่าก็คือบอกน้องเขาได้ว่าแบบเราอยากได้อย่างนี้ เขาทำครั้งแรกเขาทำแล้วเราบอกไม่ชอบแบบนี้นะ อย่ามีครั้งที่สองได้ไหม แล้วเขาก็บอกจะพยายามนะ เขาก็บอกดีแล้วที่บอกเขาตรงๆ ครั้งที่สองครั้งที่สามเขาก็จะไม่ทำอีก ก็ชอบตรงนี้ด้วย”
ตลอดระยะเวลา 2 ปี ที่คบหาดูใจกันมา มีโอกาสเจอครอบครัวทั้ง 2 ฝ่าย ยอมรับว่า ก็มีพูดคุยเรื่องอนาคตร่วมกัน
“ก็เจอแล้วนะครับ เหมือนกับคุยกัน ตั้งใจว่าจะมีแพลนอะไรไหม ก็ไปคุยกัน ผู้ใหญ่ก็คุยกัน ก็เลยบอกว่า อยากให้น้องเรียนจบก่อน เรื่องงานตอนนี้เขาก็สามารถหารายได้เองได้แล้วในระดับหนึ่ง ไม่เยอะมาก แต่ก็คือสามารถเลี้ยงตัวเองได้ ทางแม่ผมเขาก็อุ่นใจแล้วแหละ คือเขาคงไม่มาหลอกเราหรอก เขาก็มีรายได้ของเขา”
ความรักในครั้งนี้เห็นดูมีความสุขกัน เจ้าตัวก็ยอมรับว่าไม่ได้ราบรื่นซะทีเดียว เพราะครอบครัวกลัวว่าแฟนสาวจะเข้ามาหลอก เพียงเพราะคิดว่านักฟุตบอลมีเงิน
“เขาจะเข้ามาไม่ดีหรือเปล่า เหมือนแบบนักบอลมีตังค์ไหม เพื่อนบอกระวังนะเว้ยก็แซว คนก็แซวกัน ระวังนะ พ่อแม่เขาบอกดูดีๆ ก่อนนะ เช็กดูดีๆ ก่อน เงินเอามาไว้กับแม่ให้หมดเลยนะ เขาเป็นห่วงไง
คุณแม่เขากลัวจะมาหลอกเอาเงินหรือเปล่า ก็เลยเอาเงินไว้ให้แม่หมดเลย ก็เลยบอกแม่ เงินอยู่กับแม่หมดแล้ว (ยิ้ม) เขาจะหลอกอะไรผม แม่ก็ลองดูเอาเองแล้วกัน พ่อก็ลองดูแล้วกัน (หัวเราะ)
ก็เลยเหมือนอยู่ๆ ไป ก็คงไม่มีอะไรให้หลอกหรอกครับผม (หัวเราะ) ก็อยู่ไป แล้วเขาก็พยายามช่วย อยากช่วยอะไรก็ได้ อย่างน้อยก็ช่วยค่าน้ำค่าไฟบ้านได้ เขาก็พยายามอยากจะช่วยเรา มีน้อยเขาก็ให้เราน้อย มีเยอะเขาก็ให้เราเยอะ
อย่างที่คนบอกว่าน้องเป็นดาราหรือเปล่า ทำไมเหมือนเห็นแสดงหนัง เล่นเอ็มวี จริงๆ น้องเขาก็ต้องไปแคสต์ ก็ต้องดิ้นรนด้วย เหมือนพวกดาราเขารู้ เหนื่อยนะต้องตื่นตีห้าไปแคสต์ คนแคสต์เป็นพันคนเอาคนเดียว หรือเอาห้าคนเขาก็ทำมาหมดแล้ว”
แฟนบอลคิดถึง เตรียมค้าแข้งระดับโลก
แฟนบอลเรียกร้องอยากเห็นนักเตะกองหน้าตัวเก่ง ที่หลุดออกมาจากทีมชาติในช่วงหลัง เพราะถูกอาการบาดเจ็บเล่นงาน อยากให้หวนกลับมาติดธงช้างศึกอีกครั้ง แม้แต่ในไสฟ์สดขายทุเรียนก็เข้าไปเมนต์ให้กำลังใจในเรื่องนี้กันเยอะ
“เหมือนทุกคนก็พยายามบอกตลอด ในไลฟ์ก็มีนะ พี่กอล์ฟครับสู้ๆ นะครับ อยากให้กลับมาติดทีมชาติอีก คือ ทุกคนที่เขาเห็นปัญหาเรา เราก็เห็นปัญหาของตัวเอง แต่ว่าช่วงนั้นเราก็ไม่ได้ออกตัวอะไรเยอะมาก ก็คือเจ็บกลับมา
เราต้องเรียกร่างกายกลับมาก่อน ตอนนั้นเราผ่าตัดมา ทุกคนที่ผ่าตัดกลับมา คือ น้อยมากๆ ที่จะกลับมา 100 เปอร์เซ็นต์เหมือนเดิม คือเต็มที่เลย 90 เปอร์เซ็นต์ เยอะแล้ว เราก็ต้องคิดแล้วว่าเราก็ต้องไปให้ได้ กลับมาให้ได้ อาการแหยง หวาดระแวง กลัว จังหวะนี้เราเคยเจ็บมาก่อน ผมก็ต้องเอาชนะต้องนี้ให้ได้
แล้วก็ต้องมาเรียกความมั่นใจอีก กลับมายิงประตูให้ได้อีก แล้วก็ต้องรักษามาตรฐานให้ได้อีก ก็คือ หลายขั้นตอนมาก กว่าเราจะเอาชนะ แล้วก็กลับมาถึงจุดๆ นี้ แล้วต้องเล่นยังไง ให้โค้ชเห็นอีกว่าเราแบบมีประโยชน์กับทีมชาติอยู่นะ เราก็ต้องทำตรงนี้ให้มันดีด้วย
ไม่ใช่หายเจ็บกลับมาแล้วเรียกติดทีมชาติเลย ไม่ได้ ผมมองว่าคือยังไงเขาต้องมองฟอร์มปัจจุบันก่อน ฟุตบอลต้องอยู่กับปัจจุบัน เราก็ไม่ได้งอน หรือไม่ได้โกรธอะไรนะที่ไม่ได้เรียกผมติดทีมชาติ ผมต้องกลับมามองตัวเองว่า เพราะอะไรเราถึงไม่ติด เพราะอะไรทำไมถึงไม่เรียกเรา
คือ ร่างกายเรายังไม่ได้ ความมั่นใจไม่มี ไม่ได้ลงเล่นสม่ำเสมอ ก็คือ ตอนหลังมาก็เลยไม่ได้ถูกเรียกติดทีมชาติ ก็เลยเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้เล่นเยอะขึ้น รอบนี้เราอาจจะได้เรียกติดนะ
ก็เลยกลับมาบอกตัวเองว่า เราเริ่มนับหนึ่งใหม่ เราไม่ใช่ AK9 เราไม่ใช่อดิศักดิ์เหมือนแบบที่ลงยิงๆ ตลอดนะ ไม่ใช่นะ เราแบบกลับมาเป็นคนใหม่เลย ท้าทายใหม่เลยว่าแบบทุกนาทีที่มีโอกาสที่ได้ลงก็จะทำให้เต็มที่ ดีที่สุด”
เรียกได้ว่าพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา แม้จะยังไม่โดนเรียกตัวกลับไปติดธงช้างศึกอีกครั้ง ก็พยายามกระตุ้นตัวเองให้กลับมาเหมือนเดิมให้ได้ นำคำวิจารณ์มาเป็นแรงผลักดัน ใช้ผลงานในสนามตอบแทนทุกคน
“ก็มีคำวิจารณ์เยอะ เราก็พยายามกระตุ้นตัวเองว่าเรายังพอกลับมาเหมือนเดิมได้นะ เราพยายามสู้อยู่ อยากให้ทุกคนให้กำลังใจเรา เพราะว่าเราไม่ใช่พอโดนว่าโดนอะไรเราถอดใจ ไม่ใช่นะตอนนี้เรายังสู้ ยังวิ่งอยู่นะ ช่วยให้กำลังใจเราหน่อย
แต่เราพูดไม่ได้ เราไปโต้ตอบไม่ได้ เราต้องใช้ผลงานในสนามตอบแทนทุกคน แล้วพอเริ่มกลับมายิงประตูได้ลูกแรก ผมก็เริ่มมั่นใจขึ้น แล้วพอได้เล่นต่อเนื่อง ผมก็เริ่มมั่นใจ จังหวะฟุตบอล มันก็เริ่มดีขึ้น เริ่มเร็วขึ้น
ยิงประตูให้ท่าเรือ ตั้งแต่ปรีซีซัน รวมอุ่นเครื่องด้วยอะไรด้วยก็ประมาณ 6 ลูก แล้วก็มีส่วนร่วมกับเกมแอสซิสต์ให้เพื่อนอะไรอย่างนี้ ก็รู้สึกดีใจ แล้วก็กำลังจะดี แต่อย่างที่ทุกคนรู้ เราก็มาเจอโควิด-19 ก่อน ทุกอย่างก็เลยหยุดหมดเลย”
นอกจากแฟนลูกหนังจะเรียกร้องให้กลับมาติดทีมชาติอีกครั้ง ดาวยิงเจ้าของฉายา AK9 เผยถึงในอนาคตอีกว่า ถ้ามีโอกาสอยากลองไปค้าแข้งที่ต่างแดนดูบ้าง
“ก็จริงๆ ผมตั้งใจมาตลอดนะครับ อยากจะไปไหนก็ได้สักทีหนึ่ง ไปเรียนรู้ว่าฟุตบอลข้างนอกอีกระดับหนึ่งมันเป็นยังไง ก็รู้สึกเสียดายเหมือนกันที่เรามาสะดุดไปปีสองปีที่เราเจ็บ ที่ต้องมาเริ่มใหม่ ตอนนี้ก็ยังพยายามอยู่ อยากออกไปเหมือนกัน อยากจะออกไปลองท้าทายดูที่ไหนก็ได้สักที่นึง
จริงๆ ก็เอาใกล้ๆ ก็ได้ครับแถวนี้ เกาหลี ญี่ปุ่น จีน แถวๆ นี้ได้หมดเลย จีนก็ได้ ก็ดีนะครับ ผมอยากไปจีนเหมือนกัน เพราะว่าผมคิดว่านักฟุตบอลจีนกับนักฟุตบอลไทยก็ไม่ได้ต่างกันเยอะมาก เราสู้เขาไม่ได้แค่สรีระ แต่ว่าด้วยเทคนิคหรือวิธีการเราก็สามารถสู้ได้”
ขุดมัน-ทำไร่ ชีวิตนอกสนาม “AK9” ถ้าฟุตบอลปิด League ประมาณเดือนนึง ผมก็กลับบ้าน ไปช่วยพ่อแม่ทำสวนที่บุรีรัมย์ ทำสวน ทำไร่ ปลุกมันที่เคยทำมาแล้ว ทำตอนที่เล่นบอลอยู่ด้วยนะ กลับบ้านไปก็ไปช่วย พอดีพ่อเขาปลูกมันไว้ก็ช่วยถอนมัน ช่วยแบกช่วยหามทุกอย่าง ไปลองดูว่ามันลำบากนะ พ่อบอกเนี่ยถ้าไม่ได้เตะบอล ไม่ได้เป็นข้าราชการ นั่งห้องแอร์ หรือว่าทำงานออฟฟิศอะไรที่อยู่ในห้องแอร์เย็นๆ เราก็ต้องมาลำบากแบบนี้ ลองทำดู เราก็ไปลองทำทุกอย่าง ตัดอ้อยถอนมัน ขับรถทุกอย่างที่บ้านมี ลองดู มันก็จริง มันลำบากจริง เหนื่อยนะ คนที่เขาลำบากกว่าเรามีอีกเยอะ เรามีโอกาสตรงนี้แล้ว มันก็คงเป็นโชคดี เป็นดวงของเราด้วยที่มาเตะฟุตบอล แล้วมีชื่อเสียงขึ้นมา มีเงินทองสามารถซื้อสิ่งที่อยากได้ ก็พยายามเก็บใช้มันให้คุ้มค่าที่สุด พอวันหยุดก็อาจจะเข้าไปที่มอบ้าง ที่ธรรมศาสตร์ ไปหาอาจารย์ ไปแข่งกลับมา มีงานอะไรที่ผมต้องทำไหมก็ของานอาจารย์มาทำ วันหยุดจริงๆ ก็อาจจะดูหนังบ้าง ไปเล่นกับเพื่อนบ้าง กินกาแฟ ส่วนมากอยู่กรุงเทพฯ ก็จะประมาณนี้ครับ ไม่ได้ทำอะไร ถ้าหยุด 4 วันขึ้นไปผมก็จะกลับบ้าน ไปดูพ่อแม่ว่าทำอะไร ตอนนี้ที่บ้านมีปัญหาอะไรไหม |
มีวันนี้ได้เพราะฟุตบอล ตอนนี้ผมคิดว่าผมประสบความสำเร็จแล้ว แค่เด็กคนนึงที่ชอบเล่นฟุตบอล ตามเพื่อนไปเล่น ตามเพื่อนไปคัดฟุตบอลแล้วติด พอเล่นไปเล่นมา ไม่ติดทีมชาติก็ไม่เล่นดีกว่าก็เลยแค่ให้จบ ม.6 แล้วก็เดี๋ยวไปเรียน แล้วก็ทำงาน หางานทำอย่างอื่นดีกว่า แต่บังเอิญมาติดทีมชาติก่อนพอเข้ามากรุงเทพฯ พอติดทีมชาติก็รู้สึกว่าพอแล้ว เรามาถึงจุดที่เรามาติดทีมชาติแล้ว พอเป็นนักฟุตบอล หนึ่งเป็นนักฟุตบอลได้แล้วทีมชาติแล้วไม่เอาดีกว่า แต่ด้วยจังหวะด้วยดวง ด้วยอะไรไม่รู้ ทำให้เราสามารถเล่นต่อเนื่อง แล้วก็ทำให้เราสามารถเอาชนะใจโค้ชที่ผ่านมาได้ เรียกเราติดมาตั้งแต่ U19 ซีเกมส์ U23 เอเชี่ยนเกมส์ แล้วก็ขึ้นมาทีมชาติชุดใหญ่ ก็ต้องขอบคุณโค้ชทุกคนด้วย มาถึงจุดๆ นี้ได้ เรามีบ้าน มีรถ มีที่ทาง ซื้อให้พ่อให้แม่ ตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ได้แล้ว เพราะว่าเราสู้มาตลอด ขอบคุณผู้ใหญ่ทุกคน พ่อแม่ แล้วก็ตัวเราเองด้วยที่สู้ เอาต่อ ไปต่อดีกว่า มาถึงนี่แล้ว ยังไหวอยู่ ก็รู้สึกว่าเราประสบความสำเร็จแล้ว ก็อยากจะสู้ต่อไป อยากจะพัฒนาตัวเองต่อไป อยากเล่นให้ได้นานที่สุด จะ 35, 36 ปี หรือ 37, 38 ปี อย่างที่พี่ๆ เขาเล่น ที่พี่ๆ เขาทำไว้ |
แพลนชีวิตหลังแขวนสตั๊ด พ่อเขาซื้อที่ทำนาที่บ้านไว้ ที่บุรีรัมย์ แล้วก็มีที่สวน คือ แม่เขาปลูกผักขายอยู่แล้ว เขาก็ปลูกเยอะมาก ข่า ตะไคร้ มีหมดในสวน เก็บขายได้ หรือว่าใครที่ไม่มีกินในหมู่บ้านก็มาขอแม่ได้เลย แล้วมันก็จะมีที่ทำนาปีละครั้ง ผมว่าแบบอาจจะขอพ่อ เจียดมาสัก 5 ไร่ อยากปลูกข้าวที่เราดูแลเอง แล้วก็แบบแพ็กซีลขายเองได้ด้วย อยากทำตรงนี้เหมือนกัน กำลังคิดอยู่ว่าวันหนึ่งถ้าเราได้ลงไปทำนาเอง ปลูกข้าวหอมมะลิดีๆ หรือว่าถ้าปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ได้จะลองทำดู เหมือนผมโตมาตรงนี้ด้วย ทำแล้วมีความสุข ได้อยู่สวนแล้วรู้สึกว่ามันสนุกดี มีความสุขดี ก็เลยอยากลองทำดู ก็อาจจะยึดตรงนี้ไว้ก่อน แต่เราไม่รู้ว่าถ้าเลิกเล่นบอลผมเป็นโค้ชหรือเปล่า เราไปสายผู้ช่วยโค้ชหรือเปล่าเราก็ไม่รู้ หรือว่าอาจจะเป็นข้าราชการหรือเปล่า อันนี้เราบอกไม่ได้ มันก็ต้องดูว่าเราจะไปทางไหนตอนนั้นอีกทีนึง แต่อาชีพพวกนี้ มันเหมือนเราสำรองไว้ก่อน เผื่อว่าวันนึงผมไม่ได้เป็นข้าราชการ ไม่ได้เป็นโค้ช อยากจะไปเป็นชาวสวนก็ไปได้ ช่วงหน้าปลูกข้าวทำนาผมก็อาจจะอยู่บุรีรัมย์ ช่วยพ่อแม่ พอช่วงทุเรียนผมก็อาจจะอยู่ระยอง พ่อแม่เป็นเกษตรกรอยู่แล้ว โตมากับการทำไร่ทำนา ปลูกมันผมทำมาหมดแล้ว แบกมัน ถอนมัน |
สัมภาษณ์ : ทีมข่าว MGR Live
เรื่อง : พัชรินทร์ ชัยสิงห์
คลิป : อิสสริยา อาชวานันทกุล
ภาพเคลื่อนไหว : กีรติ เอี่ยมโสภณ, พัชรินทร์ ชัยสิงห์
ภาพ : ปัญญพัฒน์ เข็มราช
ขอบคุณภาพ : อินสตาแกรม @golf_ak9 , @durian.by.ak9, @y.pattara
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **