ในสถานการณ์ปัญหา “ไวรัสโควิด-19” ระบาดไปทั่วโลก แนะเว้นระยะห่าง 2 เมตร งดเข้าสังคม สงกรานต์ไม่เป็นวันหยุด ทายถ้าไทยไม่ทำ อาจจะทำให้มีผู้ป่วยในอัตราก้าวกระโดด ซึ่งล่าสุดรัฐบาลประกาศเลื่อนวันสงกรานต์ไปก่อน ต้องบอกเลยว่าเขาเป็นผู้ที่ปลุกความเชื่อมั่นให้คนไทยในตอนนี้
เปิดประวัติ “มือปราบไวรัสโควิด-19”
“จำนวนผู้ป่วยในประเทศไทย กำลังอยู่ในอัตราของก้าวกระโดด (exponential) มาตรการในการลดการแพร่กระจายของโรคจะต้องเข้มงวดและเคร่งครัด ตั้งแต่การควบคุมป้องกันการนำเข้าของโรคจากต่างประเทศ เก็บ ควบคุม กักกัน ผู้มาจากต่างประเทศแหล่งระบาด
เกือบทุกประเทศเป็นแหล่งระบาดหมดแล้ว ผู้มาจากแหล่งระบาด ให้ควบคุมเก็บตัว 14 วัน ผู้สัมผัสโรคในประเทศ ก็เก็บตัวอย่างน้อย 14 วัน”
ประโยคข้างต้นบอกเล่าถึงคำเตือนของ “ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ” หรือที่ใครๆ ต่างเรียกว่า “มือปราบไวรัสโควิด-19” ถึงประเทศไทยอาจจะมีจำนวนผู้ป่วยในอัตราก้าวกระโดด ในช่วงของการระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ที่ทั่วโลกกำลังหาแนวทางการรักษา ชื่อของผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดจากเชื้อไวรัสรายนี้ ก็ผุดขึ้นอีกครั้ง และหลายคนต่างสงสัยว่าเขาคือใคร
คุณหมอถือเป็นความหวังของคนในชาติ ในฐานะผู้ให้ข้อมูลทำความเข้าใจกับสังคม และเป็นแพทย์ที่ผู้คนกำลังอยากรู้จักมากที่สุดคนหนึ่งในขณะนี้ ซึ่งเขาได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในแพทย์ต้านไวรัสระดับต้นของประเทศไทย อีกทั้งได้ไปฝึกอบรมเป็น Research Fellow ที่ King’s College Hospital Medical School กรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร
ไม่ใช่แค่การทุ่มเทให้แก่การเรียนการสอน ยังมีงานวิจัยอย่างต่อเนื่อง จนได้เป็นนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์ราชบัณฑิต และ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดการระบาดสำคัญของโรคในปี 49 เขาและคณะนักวิจัยโครงการวิจัยการพัฒนาการตรวจวินิจฉัย “ไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ดื้อยา” ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก นอกจากนี้ ยังคงทำการวิจัยเกี่ยวกับโรคระบาดจากไวรัส ทำให้ได้รับรางวัลมาแล้วทั้งในระดับประเทศและระดับโลก
อย่างไรก็ดี ความสามารถของหมอยงถูกพูดถึงปัญหาของโรคไวรัสโควิด-19 รวมทั้งคอยตอบข้อสงสัย พร้อมย้ำหลัก Social Distance (ระยะห่างทางสังคม) ช่วยประเทศรอดได้ โดยทำคลิปให้ความรู้ประชาชน “9 คำถาม - ตอบ COVID-19" ที่สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องจากปากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อนำไปปรับใช้ดูแลตนเอง คนรอบข้างและสังคมให้ปลอดภัยจาก ‘ไวรัสโควิด-19’
“โรคนี้ติดทางฝอยละออง ถ้าไม่มีการไอจามออกมา โอกาสที่จะติดน้อยมาก โดยทั่วไปการพูดคุยกัน ถ้าอยู่ในรัศมี 1 เมตร แล้วคนพูดพูดเสียงดัง โอกาสที่ฝอยละอองจะมาถึงคู่สนทนาก็มีความเป็นไปได้
เพราะฉะนั้น เราจึงกำหนดระยะห่างว่า ถ้าเป็นไปได้ เราอยากให้มีระยะห่างอย่างน้อย 6 ฟุต หรือ 2 เมตร ในช่วงที่มีการระบาดของโรค เราจะเห็นได้ว่า ขณะนี้ในประเทศจีน แม้กระทั่งการยืนเข้าคิวยังมีการกำหนดระยะห่าง เพื่อลดการแพร่กระจายของโรคนั่นเอง”
“หมอยง” อีกหนึ่งความหวังของประเทศ
ไม่เพียงใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองให้เกิดประโยชน์ หมอยง ยังกล้าที่จะลุกขึ้นมาพูดกระทุ้งรัฐบาลด้วย โดยล่าสุดได้เตือนให้ตระหนักถึงการรับมือกับเชื้อไวรัส อีกทั้งเปิดกว้างตรวจเชื้อฟรีอีกด้วย
และเมื่อไม่นานมานี้ ก็มีภาพการประชุมของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่มีนายกฯ เป็นประธาน กำลังนั่งคุยกับคณะบุคคลในภาพ ที่ล้วนแล้วเป็นบุคลากรการแพทย์ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีหมอยงอยู่ด้วย
ส่งให้สังคมออกมาวิพากษ์วิจารณ์ไปในทิศทางเดียวกันว่า รู้สึกมีความหวังอีกครั้ง กับบทบาทที่หมอรายนี้ได้รับ
ซึ่งก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถูกสังคมตำหนิถึงความชักช้าในการสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน เพราะหมอยงเคยออกมาให้ความเห็นถึงการไม่ให้วันสงกรานต์ เป็นวันหยุด
นี่จึงอาจเป็นที่มาของมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลที่ออกมาหลังจากนั้น โดยเฉพาะการประกาศไม่ให้สงกรานต์ 13-15 เม.ย. เป็นวันหยุด เพราะมาตรการนี้จะช่วยให้เกิดการหยุดยั้งการเคลื่อนย้ายคน อันเป็นอีกปัจจัยของการกระจายไวรัส
“เราจะหยุดยั้งการเคลื่อนย้ายของประชากรได้อย่างไร ปีนี้ขอโยกย้ายปีใหม่ของไทยในช่วงสงกรานต์ให้ไม่เป็นวันหยุด แล้วเมื่อโรคสงบแล้ว ค่อยหยุดชดเชยให้ทดแทนช่วงที่มีการระบาดของโรค
ถ้าเป็นเช่นนี้ทุกคนจะต้องยอมรับ สังคมเราก็น่าจะยอมรับได้ อีกประการหนึ่ง social distance การรวมกันของคนหมู่มาก ทุกคนจะต้องเข้าใจว่าจะเป็นแหล่งของการกระจายโรคอย่างรวดเร็ว (super spread) งานสังคมจำเป็นที่จะต้องงด การจัดประชุมวิชาการก็ต้องหาทางออกด้วย tele-conference สนามมวย การแข่งขันกีฬาต่างๆ โรงเรียนกวดวิชาก็จะต้องปิดการสอน เพื่อลดการระบาดของโรคให้ได้”
อีกหนึ่งประเด็นที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ คือ เรื่องนายแพทย์รายนี้ได้โพสต์ตอบคำถามนี้ไว้บนเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับกิจกรรมของคู่รักที่จะทำในช่วงไวรัสระบาด และหนึ่งในนั้น คือ “กิจกาม” ที่หมอยงแนะนำแบบติดตลกเอาไว้ว่า...
“โควิด-19 ติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือไม่ โรคโควิด-19 รับรอง ถ้ามีเพศสัมพันธ์ อยู่ห่างกัน 2 เมตร ไม่ติดต่อแน่นอน”
และทันทีที่โพสต์แชร์ออกไป แน่นอนว่า สังคมโซเชียลฯ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงมุกขำๆ ของเขา แต่อีกมุมหนึ่งก็กังวลเรื่องการมีเซ็กซ์ และพฤติกรรมนี้สามารถทำให้ติดเชื้อไวรัสได้หรือไม่
“อาจารย์ ทำให้หนูยิ้มได้ครั้งแรกของวันนี้เลยนะคะ”
“อาจารย์ตลก 5555”
“หลังจากมีเรื่องเครียดมาหลายวัน... ขอบคุณอาจารย์มากเลยค่ะ”
นอกจากนี้ หมอยง ไม่ได้เป็นที่จดจำแค่ในฐานะ “ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดจากเชื้อไวรัส” เท่านั้น แต่ยังถูกจดจำไปถึงความสามารถจากสายเลือดจากพี่ชาย ซึ่งเขายังเป็นแฝดน้องของ “รศ.ยืน ภู่วรวรรณ” เป็นนักวิชาการที่มีชื่อเสียงเช่นกัน เพียงแต่คนละสาขา
โดยแฝดผู้พี่เป็นนักวิชาการด้านวิศวกรคอมพิวเตอร์ เคยดำรงตำแหน่งรองอธิการบดีฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีผลงานเด่นในด้านการพัฒนาการประมวลภาษาธรรมชาติด้วยคอมพิวเตอร์ในภาษาไทย และการการพัฒนาโครงสร้างระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ส่วนแฝดผู้น้องคือ นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดจากเชื้อไวรัส และที่สำคัญ เขาเป็นความหวังของประเทศที่ทำให้คนไทยยังเชื่อมั่นในรัฐบาลที่ทำงานอยู่ในตอนนี้
ข่าวโดยทีมข่าว MGR Live
ขอบคุณภาพ : “Yong Poovorawan”
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **