เสียงหล่อแล้ว ใจหล่อกว่า! “ออดี้” เปิดห้องชุดส่วนตัวให้กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 กักตัวฟรี หวังเป็นอีกหนึ่งแรงช่วยสังคม พร้อมสะท้อนมาตรการกักตัวภาครัฐ “มันไม่เพียงพอและมันดูไม่จริงจังด้วย”
#yesican ทุกคนช่วยกันได้
ในสถานการณ์ที่ประเทศไทย และอีกหลายประเทศทั่วโลก กำลังต่อสู้กับเชื้อไวรัสโควิด-19 จนส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบไปทุกภาคส่วน รวมถึงเครื่องอุปโภค บริโภค โดยเฉพาะหน้ากากอนามัย ที่กลายเป็นของมีค่าขึ้นมาทันที
แต่ยังมีสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเหือดหายไปจากสังคมไทย นั้นก็คือ “น้ำใจ” จากคนไทย ที่พร้อมจะหยิบยื่นความช่วยเหลือให้เพื่อนมนุษย์ด้วยกันเสมอ ดังเช่นเรื่องราวของ “ออดี้” นักร้องชื่อดังแห่งยุค 90’s ที่ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงการเปิดห้องชุดส่วนตัว ให้กลุ่มเสี่ยงจากไวรัสโควิด-19 เข้ากักตัวแบบฟรีๆ
โดยนักร้องหนุ่มได้เปิดใจกับทีมข่าว MGR Live ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า “มันเริ่มต้นมาจากการที่ผมเห็นแคมเปญ #yesican ผมก็รู้สึกว่า ใช่ เราทุกคนช่วยกัน แล้วตัวเราเองล่ะจะช่วยอะไรสังคมได้บ้าง การที่มีห้องชุดอยู่ที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ในคอนโดหรูแห่งหนึ่ง ที่เป็นคอนโดที่ดีต่อสุขภาพเพราะเป็นน้ำแร่ธรรมชาติ แล้วบรรยากาศรอบๆ ดีมาก เป็นป่าเขา เข้าเมืองก็ไม่ไกล แถวนั้นก็มีร้านอาหารมากมาย
ผมมีอยู่ 2 ห้องที่นั่น ห้องนึงเป็นห้องผมเองที่ตอนนี้ผมไม่ได้อยู่ ส่วนอีกห้องนึงเป็นห้องที่มีปัญหา เลยใช้ได้ห้องเดียว ในคอนโดนี้แทบไม่มีผู้พักอาศัยเลยครับ ไม่มีเลย ส่วนใหญ่คนซื้อไว้เก็งกำไร มันก็เลยค่อนข้างน่าจะปลอดภัยกับทุกฝ่าย ทั้งตัวคนแพร่เชื้อเอง หรือกับคนที่ยังไม่ได้รับเชื้อ
พอผมลงโพสต์ไปแค่ 5 นาที เพื่อนผมก็ติดต่อกันเข้ามาเต็มเลย ตอนนี้ก็ได้แล้ว มีเพื่อนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่เขาเดินทางมาจากอเมริกา ก็ให้เขาไปพักที่นั่นให้เขากักตัว แต่ไม่ใช่เปิดสถานกักกันแล้วให้คนมาเป็นร้อย ไม่ใช่แบบนั้น เพราะมันเป็นเรื่องใหม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องป้องกันตัวเอง กันไว้ดีกว่าแก้ เราไม่รู้ว่าใครมีเชื้อหรือไม่มี การที่กักตัวมันเป็นเรื่องดี ทุกวันนี้ก็มีคนติดต่อเข้ามาตลอด แล้วผมก็ต้องบอกทุกคนว่ามีคนที่ถูกคัดเลือกให้ไปพักตรงนั้นแล้ว”
นอกจากนี้ หนุ่มออดี้ ยังได้ให้ความเห็น ถึงมาตรการของภาครัฐ ในการกักตัวคนกลุ่มเสี่ยง ที่เขาสะท้อนว่า เรื่องนี้ยังไม่เข้มข้นเพียงพอ
“ตอนนี้ผมเห็นว่าภาครัฐเอย อะไรเอย ก็ไม่ได้ช่วยตรงจุดนี้เต็มที่เท่าไหร่ มันไม่เพียงพอและมันดูไม่จริงจังด้วย ได้ข่าวว่ากักตัวช่วงที่มีผีน้อยกลับมาจากต่างประเทศ แล้วอยู่ดีๆ ก็ปล่อยตัวผีน้อยกลับบ้าน ผมก็เลยคิดว่า อ้าว… ทำไมถึงไม่ดูจนจบ เราเองก็ไม่รู้ว่าทุกวันนี้มีใครที่มีเชื้ออยู่ในตัว มันก็เลยเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะอลหม่าน ในความคิดผมนะ
ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะไปอินกับมันมากเพราะมันเป็นเรื่องของภาครัฐ แต่สิ่งที่ผมพอช่วยได้ก็คือง่ายๆ เลย ผมมีห้องชุด เรื่องของเรื่องไม่ได้ตั้งใจจะให้มีกระแสอะไรหรอกครับ เพียงแต่ว่าแค่อยากเป็นอีกหนึ่งแรงที่ถ้าพอจะช่วยสังคมอะไรได้ก็อยากจะช่วย แค่นั้นเองครับ”
สำหรับสถานการณ์ โควิด-19 ในประเทศไทย ขณะนี้มีผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 177 ราย (เพิ่มขึ้น 30 ราย) และมีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง 7,045 ราย
โควิดทำพิษ คนดนตรีกระทบหนัก!
“ผมก็เป็นคนนึงที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก ก็คืองานคอนเสิร์ต คิวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ คอนเสิร์ตเล็ก คอนเสิร์ตในผับบาร์ คอนเสิร์ตในองค์กรต่างๆ งานภายในต่างๆ เลื่อนหมดเลยครับ บางงานก็ยกเลิก มันก็เลยทำให้ช่วงนี้เหมือนกับแทบไม่มีอะไรทำเลย สำหรับงานนะ แต่ข้อดีคือการที่ไม่มีอะไรทำ มันก็ทำให้เราได้พักผ่อนไงครับ มันทำให้เราได้เก็บตัวอยู่ในบ้าน ผมก็พยายามไม่ออกไปไหน สุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อ ผมก็อยู่แต่บ้านเป็นส่วนใหญ่”
ในฐานะผู้มีอาชีพนักร้องที่ต้องพบปะผู้คนเป็นจำนวนมาก แน่นอนว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อเขา ที่ไม่เพียงแค่งานถูกเลื่อน หนักสุดถึงขั้นถูกยกเลิกงาน ตลอดจนการปฏิบัติตัวต้องถูกปรับเปลี่ยน เพื่อความปลอดภัยต่อตนเองและแฟนเพลงด้วย
“ต้องป้องกันครับ อย่างล่าสุดผมไปเล่นคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายมาเมื่อ 2 วันที่แล้ว เป็นคอนเสิร์ตที่งดการจับมือ และเว้นระยะในการถ่ายรูป แล้วก็ไม่สัมผัสกัน เวลาแฟนเพลงจะจับมือผมก็จะทำเป็นว่าจับมือห่างๆ ว่าจับกันแล้วนะ แต่ไม่ได้โดนกัน เขาก็โอเค เข้าใจ ไม่ต้องโดนมือก็ได้
ทุกคนก็ตื่นตระหนกในเรื่องนี้ และผมเชื่อว่ามันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว ฉะนั้นเราควรป้องกันขั้นสูงสุด ผมหาซื้อชุดที่คลุมทั้งตัวเลยด้วยซ้ำตอนไปเล่นคอนเสิร์ตแต่หาไม่ทัน ก็เลยแต่งตัวธรรมดาไป แล้วก็ใส่มาสก์ พอขึ้นเวทีก็ถอด ไมโครโฟนก็ต้องเป็นไมค์ที่ไม่ได้ให้ใครใช้ด้วย มันต้องป้องกันหลายอย่างมากครับ
แล้วก็สงสารน้องๆ นักดนตรีที่เล่นดนตรีกลางคืน เพราะเขาก็กังวลกันว่าถ้าปิดสถานบันเทิง รายได้เขาก็จะหาย เพราะพวกนี้รับเงินรายวัน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานเสิร์ฟ นักดนตรี หรืออะไรต่างๆ ผมว่าพวกเขาเดือดร้อนกว่าผมนะ”
ล่าสุด นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.มีมติในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยการสั่งปิดสถาบันการศึกษา สถาบันกวดวิชา สถานบันเทิง โรงภาพยนตร์ สนามม้า กิจกรรมทางศาสนา การชุมนุมคนหมู่มาก ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เป็นเวลา 14 วัน เริ่ม 18-31 มี.ค. 2563 ซึ่งออดี้ กล่าวว่า “เห็นด้วย” กับมาตรการชิ้นนี้
“ผมเห็นด้วยนะ มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น แต่พอเกิดขึ้นแล้วก็ต้องดูแล แล้วก็ควบคุมด้วยวิธีเหล่านี้ ผมว่าการปิดสถานบันเทิงหรือการปิดโรงหนัง มันคือการที่เราพยายามไม่ให้คนไปรวมกลุ่มกัน เพราะที่ไหนที่มีคนมาก มันก็มีสิทธิที่คนจะติดเชื้อเยอะ มันติดกันง่ายกว่าแอดเฟซบุ๊กอีกครับ”
สุดท้าย นักร้องหนุ่ม ได้ฝากถึงพี่น้องคนไทยในการปฏิบัติตัวในสถานการณ์เช่นนี้ว่า “ในฐานะประชาชนคนนึง ผมคิดว่าเราช่วยอะไรได้เราก็ควรจะช่วยกัน ในภาวะวิกฤติแบบนี้ สำหรับคนที่ยังไม่ได้มีไข้หรือมีอาการ เราช่วยกันได้ด้วยการเก็บเนื้อเก็บตัว ไม่ออกไปที่สุ่มเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อ
ส่วนคนที่มาจากประเทศสุ่มเสี่ยงหรือไม่แน่ใจว่าตัวเองมีเชื้อรึเปล่า ก็ยิ่งต้องดูแลตัวเองโดยการไม่ไปปฏิสัมพันธ์กับใคร หรือว่าเลี่ยงการพูดคุยกันในระยะใกล้ๆ อย่างน้อยต้องห่างซัก 1 เมตร แล้วก็ใส่มาสก์คุยกัน แฟนกันนี่งดจูบกันได้เลยครับ งดมีเพศสัมพันธ์กันได้เลย มันเป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องช่วยกัน
สุดท้ายแล้วไม่ว่าคุณจะมีเชื้อหรือไม่ หรือสุ่มเสี่ยงต่อการมีเชื้อ เราทุกคนก็ควรจะเก็บตัวกันในช่วงนี้ครับ ผมว่านี่คือสิ่งที่เราทำได้ สิ่งที่เรารับผิดชอบต่อสังคม มันเริ่มมาจากจุดจุดนี้ครับ ถ้าทำตรงนี้ได้มันก็จะทุเลาลง”
ข่าวโดย : ทีมข่าว MGR Live
ขอบคุณภาพ : “Audy Thai Thanachaiboonyarat”
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **