นายกฯ เผย ครม.สั่งปิดสถานศึกษา-ผับ-สถานบันเทิง-ร้านนวด-สนามมวย-สนามม้า งดคอนเสิร์ต-แสดงสินค้า-กิจกรรมศาสนา เพิ่มมาตรการเข้มสถานที่ต่างๆ เลื่อนหยุดสงกรานต์ ห้ามเคลื่อนคนข้ามจังหวัด จำกัดเคลื่อนย้ายต่างด้าว จ่อให้ราชการทำงานที่บ้าน
วันนี้ (17 มี.ค.) เวลา 14.25 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงมาตรการรับมือโควิด-19 ในด้านการป้องกัน ลดโอกาสการแพร่ระบาดของโรคในสถานที่ต่างที่มีความเสี่ยงสูงว่า จะมีการปิดสถานที่ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น โดยะเฉพาะสถานที่ซึ่งมีผู้คนมาร่วมเป็นกิจวัตรเพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน อาจแพร่เชื้อได้ง่าย แม้จะป้องกันตัวเองแล้วและยังมีทางเลือกอื่นทดแทน การชุมนุม ได้แก่ มหาวิทยาลัย โรงเรียนนานาชาติ สถานบันกวดวิชา และทุกสถาบัน ให้ปิดชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.นี้ เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ และให้สถานศึกษาดำเนินการ ป้องกันโรคตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด อาจจะมีการสอนทางออนไลน์ได้ เป็นเรื่องของมาตรการที่สถานบันการศึกษาจะต้องดำเนินการเอง โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) จะให้แนวปฏิบัติในการใช้ออนไลน์ สามารถปรึกษาได้ ส่วนสถานที่ซึ่งผู้คนไม่ได้มาชุมนุมเป็นกิจวัตร แต่มาเพื่อทำกิจกรรมที่มีการเบียดเสียดใกล้ชิด เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อง่ายทางปาก สัมผัสถูกเนื้อต้องตัว หรือใช้สิ่งของร่วมกันง่ายจะต้องปิดชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ทั้งสนามมวย สนามกีฬา สนามม้า ใน กทม.และปริมณฑล
นายกฯ กล่าวว่า ขณะที่ผับ สถานบันเทิง สถานบริการ นวดแผนโบราณ และโรงมหรสพในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้ปิดชั่วคราว 14 วัน พร้อมกันนี้ให้งดการจัดกิจกรรมรวมคนจำนวนมากที่มีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่ระบาดของโรค เช่น คอนเสิร์ต การจัดงานแสดงสินค้าต่างๆ กิจกรรมทางศาสนา วัฒนธรรม และกีฬา ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด พิจารณาให้ความเห็นชอบและแจ้งให้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ทราบด้วย
นายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีมาตรการเพิ่มการป้องกันสำหรับพื้นที่หรือสถานที่ที่ยังต้องเปิด ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า ตลาด สถานที่ราชการ และรัฐวิสาหกิจ ต้องดำเนินการตามมาตรการป้องกันที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อ ส่วนร้านค้าร้านอาหาร จะต้องทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัส การคัดกรองอุณหภูมิ การใช้หน้ากากอนามัย รวมทั้งต้องลดความแออัด
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนมาตรการลดความแออัดในการเดินนั้น ให้งดวันหยุดสงกรานต์ ตั้งแต่ 13-15 เม.ย.นี้ โดยให้เลื่อนออกไปก่อน จะมีการชดเชยวันหยุดให้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม ขณะที่ระบบขนส่งสาธารณะในประเทศ ต้องเพิ่มความถี่การเดินรถ และมีมาตรการคัดกรองที่รัดกุม และงดกิจกรรมที่มีการเคลื่อนย้ายคนข้ามจังหวัด ของหน่วยงานที่มีคนจำนวนมาก เช่น ค่ายทหาร เรือนจำ โรงเรียน หากจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายต้องมีมาตรการป้องกัน รวมถึงการจำกัดการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวด้วย และให้ทุกหน่วยงานพิจารณาการเหลื่อมเวลาทำงาน หรือทำงานที่บ้าน โดยใช้ระบบอินเตอร์เน็ต เช่น ประชุมทางไกลโดยให้หน่วยราชการทุกแห่งทำแผนการทำงานจากบ้าน และรายงานผลการปฏิบัติต่อศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19
นายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีมาตรการกำกับดูแลในระดับพื้นที่ โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าฯ กทม. โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและคณะกรรมการโรคติดต่อ กทม. ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ เพื่อกำกับดูแลการเคลื่อนย้ายที่จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดหรือกำหนดมาตรการที่เหมาะสมในการกำกับพื้นที่เสี่ยงตามข้อมูลที่มีการแพร่ระบาด และแจ้งมาตรการที่จะดำเนินการต่อศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เพื่อให้ความเห็นชอบ และต้องต้องรายงานผลดำเนินการทุกวัน และต้องมีหน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคทุกอำเภอ เขต หมู่บ้าน โดยมีบุคคลจากภาคเอกชนเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย