“วังเวงเหมือนหนังสยองขวัญ-กักตุนอาหารจนไม่มีอะไรให้กิน” เสียงร้องอยากกลับบ้านของนักศึกษาไทยที่ติดในอู่ฮั่น ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง จนนำมาซึ่งการตั้งคำถามของสังคมว่า ทำไมรัฐบาลถึงนิ่งนอนใจ ไม่รีบพาคนไทยกลับบ้านเกิด!! ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐศาสตร์วิเคราะห์ ทุกอย่างต้องมีขั้นตอน ต้องรอไฟเขียวจากจีนเท่านั้น!!
“เมื่อไหร่จะได้กลับบ้าน” เสียงร้องจากคนไทยในเมืองอู่อั่น!!?
จากสถานการณ์ระบาดของ “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่” จากเมืองอู่ฮั่น ทางตะวันออกของจีน ยังคงมีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทางรัฐบาลจีนต้องประกาศปิดเมือง ห้ามเดินทางออกนอกเมือง เพื่อลดการแพร่กระจายของโรคไวรัส นำมาซึ่งการตั้งคำถามถึงมาตรการ และการช่วยเหลือคนไทยที่ติดอยู่ในประเทศ รวมทั้งสงสัยว่าเป็นประเทศเดียวที่ไม่เข้าไปรับพลเมืองที่ติดในตอนนี้
“ผมไม่มีความรู้ทางการแพทย์หรอกนะครับ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่นานาชาติเขาถือเป็นมารยาทที่ต้องให้เกียรติแก่ประเทศที่มีโรคระบาดให้เขาแก้ไขปัญหาไป”
“รศ.วรศักดิ์ มหัทธโนบล” อาจารย์ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดใจกับทีมข่าว MGR Live ผ่านปลายสาย ถึงข้อสงสัยที่สังคมกำลังให้ความสนใจว่า ไม่เป็นความจริง ตอนนี้ไม่ว่าประเทศใดก็ตาม ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือคนในประเทศตัวเองได้ ประเทศจีนดูแลทุกคนที่ติดอยู่ที่นั่นอย่างดี
“ไม่เป็นความจริงเลยนะครับ เรื่องนี้ผมรู้สึกว่าเศร้าใจมาก ต่อการที่ออก Fake News มาจากฝ่ายต่างๆ และเราก็รู้ว่าฝ่ายใดบ้างที่ให้ข่าวปลอมนี้ สิ่งที่ผมคิดว่านี่คือสิ่งที่รัฐบาลไทยนั่นแย่มาก คือไม่เคยจัดการกับ Fake News เหล่านี้อย่างเด็ดขาด
เท่าที่ฟังจากนักศึกษาไทย เราไม่ได้พบปัญหานั้น (ปัญหากักตุนอาหาร จนคนไทยใช้เงินเยอะ) เพราะว่าทางการจีนเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในเรื่องอาหารการกิน น้ำ และการป้องกันโรคต่างๆ ซึ่งอันนี้ผมก็ชื่นชมอยู่ครับว่าเขาก็รับผิดชอบได้ดี
เมื่อเปรียบเทียบกับการที่ปล่อยให้เครื่องบินเข้ามา ซึ่งจะสร้างความโกลาหล หมายความว่ามีการเข้าสัมผัสกับภาวะของการระบาดของโรค”
ทว่า ความตึงเครียดของคนในสังคมยังคงไม่ลดลงเกี่ยวกับเจ้าไวรัสตัวปัญหาตลอดหลายวันที่ผ่านมานี้ ล่าสุด พบผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มอีก 5 ราย รวมตอนนี้มีคนติดเชื้อทั้งหมด 14 ราย อีกทั้งนักศึกษาไทยที่เมืองอู่ฮั่น ร้องขออยากกลับบ้านแล้ว
ด้านเฟซบุ๊ก “Pasnicha Krutdamrongchai” นักศึกษาไทยหนึ่งในผู้ประสบปัญหา ได้โพสต์เล่าสถานการณ์จริงๆ ในเมืองอู่ฮั่นว่า ตอนนี้จีนประกาศสั่งปิดเมืองจนไม่สามารถออกไปซื้ออาหารได้ ซึ่งล่าสุดตอนนี้ข้อความดังกล่าวได้ถูกลบออกไปแล้ว
“ขอแจ้งสถานการณ์จริงของแท้ที่นักศึกษาส่วนใหญ่เป็นอยู่ ณ ตอนนี้ นักศึกษาส่วนใหญ่ไม่มีอาหารเพียงพอเพราะไม่ได้ซื้ออาหารกักตุนไว้ เนื่องจากได้รับแจ้งเรื่องการปิดเมืองกะทันหันมาก และไม่สามารถออกไปหาซื้อที่ไหนได้ เพราะเดินทางไปไหนไม่ได้ ร้านซูเปอร์มาร์เกตใกล้มหาวิทยาลัยก็ขายหมดเกลี้ยงไม่มีอะไรเหลือ
ตอนนี้เพื่อนนักศึกษาต่างชาติ เช่น อเมริกา ญี่ปุ่น อินโดฯ เขาได้รับแจ้งว่าทางสถานทูตของเขาได้เตรียมดำเนินการเพื่อจะรับตัวกลับแล้ว ส่วนตนรอความช่วยเหลือจากรัฐบาลไทยอยู่ ถ้ายังอยู่ต่อ ไม่รู้ว่าจะอดอาหารตาย หรือติดเชื้อตาย อยากกลับบ้านมาก”
นอกจากนี้ เธอยังออกมาเล่าผ่านรายการ “โหนกระแส” ในวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมาอีกว่า ทางสถานทูตติดต่อมาตั้งนานแล้ว และมีการทำกลุ่มในวีแชตลงทะเบียนให้คำแนะนำต่างๆ ซึ่งเหตุการณ์คนจีนแย่งตุนอาหารเป็นความจริง จะต้องแย่งชิงกันเพื่อความอยู่รอด
“ไม่รู้สถานการณ์ข้างหน้าเป็นไง สมมติมีของกินไปเรื่อยๆ แต่ถ้าโรคยังไม่หายหรือหนักขึ้น เราไม่รู้ใครไปไหนตรงไหนมาบ้าง ใครมีเชื้อบ้างก็รู้สึกค่อนข้างเสี่ยงที่จะออกไปด้านนอก ตอนนี้คนจีนก็ไม่ออกไปไหนกันเลย หนูก็ไม่ออกไปหลายวันแล้วค่ะ อยู่แต่ในหอ เลยไม่ทราบสภาพภายนอกมากเท่าไหร่แต่เห็นที่เขาบอกกันรถวิ่งค่อนข้างน้อย แต่มีคนออกมาซื้อของบ้างเพราะจำเป็น”
เข้าไปช่วยไม่ได้ เพราะทำลายความสัมพันธ์!!
ไม่เพียงแค่นั้น เมื่อถามผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศรายเดิมไปว่าสถานการณ์ที่เจอ ประเทศเราสามารถทำอะไรได้บ้าง เขาให้คำตอบเอาไว้ว่าต้องให้ความไว้วางใจกับประเทศจีนเขาด้วยว่าสามารถทำได้ สาเหตุที่ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้อย่างทันที เพราะจะทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้
“เราต้องมอง 2 ด้าน ในด้านแรกต้องดูว่าทางการจีนทำอะไรกับนักศึกษาต่างประเทศบ้าง ถ้าจากเปิดเผยของนักศึกษาไทยที่อยู่ในเมืองอู่ฮั่น ทำให้เราทราบว่า ทางการจีนนั้นได้ดูแลเป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องการป้องกันโรค และในเรื่องของอาหารการกินและที่พักอาศัย ด้านทางจีนทำเพื่อให้ชาวโลกรู้ว่า เขาไม่ได้ละเลยกับคนต่างชาติ
ฉะนั้นในด้านนี้มันจะสัมพันธ์กับด้านที่ 2 คือ รัฐบาลของเรา หรือรัฐบาลต่างชาติจะไปให้ความช่วยเหลือกับพลเมืองของตัวเองได้อย่างไร ฉะนั้น ณ ขณะนี้ ณ วินาทีที่ผมให้สัมภาษณ์อยู่นี้ สิ่งที่เราทราบอย่างแน่นอนแล้วก็คือว่า รัฐบาลแทบทุกประเทศที่มีคนของตัวเองอยู่ที่ประเทศจีน ต่างก็มีความพร้อมที่จะรับพลเมืองของตัวเองกลับมา เพียงแต่ว่าจีนสั่งปิดประเทศ โดยเฉพาะที่อู่ฮั่น
การที่เข้าไปช่วย ณ ขณะนี้ จึงมิสามารถทำได้ จนกว่าจีนจะอนุญาต ฉะนั้นในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หมายความว่าเราจะต้องเคารพต่ออำนาจอธิปไตยของเขา
แต่ขณะเดียวกัน มันก็ทำให้เราเห็นว่าถ้าหากเกิดผลกระทบอันใด อันเนื่องมาจากโรคไข้หวัดโคโรนานี้กับคนต่างชาติ นั่นก็หมายความว่าทางการจีนจะต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ ซึ่งหมายความว่าทางการจีนเขาก็เอาตัวเองเข้ามาเสี่ยงและเขาก็ต้องให้ความมั่นใจแก่นานาชาติด้วย ซึ่งประเทศเราก็คงทำอะไรไม่ได้ ถ้าเกิดเขาไม่อนุญาตให้เข้าไป เราก็ต้องให้ความไว้วางใจกับเขาด้วยว่าสามารถทำได้
อย่างไรก็ดี เขายังทิ้งท้ายให้ฟังว่า มาตรการปิดประเทศเป็นเพียงมาตรการหนึ่ง ถ้าหากผิดพลาดประเทศจีนจะต้องรับผิดชอบ พร้อมทั้งส่งกำลังใจให้จีนผ่านวิกฤตนี้ไปได้ด้วยดี
“มาตรการการปิดเมืองอู่ฮั่น หรือปิดประเทศก็เป็นมาตรการหนึ่ง เพราะฉะนั้นถ้าเราฟังเสียงจากนักศึกษาไทยที่อยู่เมืองอู่ฮั่น ทางการจีนดูแลเป็นอย่างดี ในเบื้องต้น อย่างน้อยเราก็ต้องให้ความไว้วางใจกับทางการจีนในการดูแลคนต่างชาติ นั่นก็หมายความว่า ทางการจีนจะต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ ซึ่งหมายความว่าทางการจีนเขาก็เอาตัวเองเข้ามาเสี่ยงและเขาก็ต้องให้ความมั่นใจแก่นานาชาติด้วย ซึ่งประเทศเราก็คงทำอะไรไม่ได้ ถ้าเกิดเขาไม่อนุญาตให้เข้าไป เราก็ต้องให้ความไว้วางใจกับเขาด้วยว่าสามารถทำได้ในการแก้ปัญหา
และผมก็เชื่อว่าถ้ามันวิกฤตมากๆ จนกระทั่งจะด้วยเหตุใดก็แล้วแต่ที่จีนเอาไม่อยู่ ผมก็เชื่อว่าทางการจีนก็คงให้นานาชาติเข้าไปรับพลเมืองของตนเองกลับบ้าน”
“ผมคิดว่าเป็นมาตรการหนึ่ง อย่างที่ผมเรียนแล้วว่า มาตรการนี้ล้มเหลว นั่นหมายความว่าจีนก็ต้องรับผิดชอบด้วย
แต่การที่จะให้ชาติใดชาติหนึ่งบินไปช่วยพลเมืองของตัวเอง โดยที่เขาไม่อนุญาตอันนี้เป็นเรื่องที่ไม่มีใครเขาทำกันนะครับ ยกเว้นเราตกอยู่ในภาวะสงคราม อันนั้นว่าไปอย่าง เราอาจจะฝ่าฝืนได้”
ล่าสุด ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงการเข้าช่วยเหลือคนไทยในเมืองอู่ฮั่นว่า มีการเตรียมพร้อม หารือกันมานานแล้ว ตอนนี้ยังทำไม่ได้ เพราะต้องรอประเทศจีนอนุญาตให้นำเครื่องบินเข้าไปรับชาวไทยกลับ
“เตรียมพร้อมมานานแล้วทั้งเรื่องเครื่องบินทุกอย่าง แต่ทางจีนเขายังไม่ให้เข้าไปรับคนไทยเลย เนื่องจากทางจีนเขายังดูแลไหว ซึ่งเขารับไหวเขาก็ยังรับอยู่เพราะถ้าให้ทุกประเทศบินไปรับคนของตัวเองก็จะวุ่นวาย”
ข่าวโดยทีมข่าว MGR Live
คลิป: อิสสริยา อาชวานันทกุล
ขอบคุณภาพ : AFP, ณัฐวุฒิ เอี่ยมเนตร
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **