ลูกฆ่าแม่จริงหรือ? สังคมตั้งข้อสงสัย “ฆ่าหั่นศพแม่ยัดตู้เย็น” จับพิรุธพยานรอบข้าง ให้การไม่ตรงกัน เพื่อนยืนยันมือใช้งานได้ทั้งสองข้าง แต่ถนัดซ้ายมากกว่า ครูสอนพิเศษเปิดปาก ติดหนี้เกม เคยไปหาหมอที่สถาบันจิตเวช ตำรวจยืนยันลูกลงมือเอง
สืบกันให้วุ่น เปิดหน้าฆาตกรตัวจริง!!
เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญอย่างมาก จากกรณี น้องกาย-ศิระ สมเดช อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะวิศวคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่ถูกกล่าวหาว่าก่อเหตุฆ่าหั่นศพแม่ตัวเองอย่าง ติ๊ก-ยุรีย์ เถาวัลย์ อายุ 42 ปี
โดยนำชิ้นส่วนอวัยวะยัดตู้เย็นภายในบ้านพักซอยท่าข้าม 28 แยก 6 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. ก่อนจะใช้อาวุธปืนขนาด .38 ลั่นไกยิงตัวเองที่ขมับข้างขวาทะลุซ้าย 1 นัด เสียชีวิต
คดีนี้จึงนับว่าเป็นคดีใหญ่ ที่สังคมให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดข้อสงสัยคาใจกับคดีสะทือนขวัญครั้งนี้ เกี่ยวกับความผิดปกติที่ตำรวจ กองพิสูจน์หลักฐาน รวมทั้งแพทย์นิติเวช ต้องตอบคำถามสังคมให้หายสงสัยให้ได้ว่าลูกฆ่าหรือใครฆ่ากันแน่ ทีมข่าว MGR Live จึงรวบรวมจากที่สังคมตั้งคำถามออกมาเป็น 8 ข้อดังนี้
1. ผู้ตายหายไปไม่ถึง 24 ชั่วโมง ทำไมทุกคนดูแตกตื่นและต้องตามหา จากคำบอกเล่าของ วรนุช วงษ์ชัย อายุ 35 ปี เพื่อนผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นคนพบศพ ให้การว่า ตั้งแต่ 20.00 น. ของวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา พยายามโทรศัพท์หาผู้ตายอยู่หลายครั้ง เพื่อจะพูดคุยเรื่องธุรกิจ แต่ไม่มีคนรับสาย ช่วงบ่ายของอีกวัน จึงเดินทางมาหาผู้ตายที่บ้าน เห็นรถของผู้ตายจอดอยู่ ประกอบกับประตูบ้านไม่ได้ล็อก จึงเดินเข้าไปในบ้าน
จากนั้นก็พบกับน้องกายที่สวมเครื่องแบบนักศึกษาอยู่ จึงถามหาแม่ แต่น้องกายก็ตอบว่าไม่เห็น พร้อมกับถามว่ามาทำไม และพยายามกันไม่ให้เข้าบ้าน รวมทั้งเห็นกระเป๋าและทรัพย์สินของผู้ตายวางอยู่ในบ้าน ทำให้สงสัยว่าน่าจะเกิดเรื่องผิดปกติขึ้น
2. คนหายทั้งคน อะไรดลใจให้ไปเปิดตู้กับตู้เย็น สังคมตั้งข้อสังเกต ด้วยเหตุผลอะไร มารื้อหาคนในตู้กับตู้เย็น ฟังดูแปลกไปหรือไม่ ถ้าเป็นคนกันเอง ที่เรารู้จัก เห็นหน้ากันทุกวัน เราจะคิดว่าลูกฆ่าหั่นศพแม่ยัดตู้เย็น จึงเดินไปเปิดตู้เย็นหาศพ
หากเทียบกับคดีอื่นๆ ที่ผ่านมา การที่คนปกติจะไปเจอศพในตู้เย็น เป็นเรื่องยากมาก เพราะอาจจะเป็นเรื่องที่คิดไม่ถึง ขนาดคดีฆ่าหั่นศพโบกปูนยัดตู้เย็น ตำรวจยังหาตั้งนาน
“หนูไปดูกระเป๋าอยู่ ทุกอย่างอยู่ ปกติเพื่อนหนูมันต้องเอาทุกอย่างไป หนูขึ้นไปที่ห้องนอนชั้น 2 ดูที่ห้องก็มีร่องรอยการนอนอะไรหมดเลย แต่คนไม่อยู่ แต่มั่นใจว่าต้องอยู่ แต่หนูหาไม่เจอ แล้วพยายามจะผลักหนูออกมา หนูก็เลยกลัวเพราะว่าเป็นผู้หญิงคนเดียว ก็เลยออกมาตั้งสติอยู่หน้าบ้าน แล้วก็โทร.หาพี่ๆ ให้เข้ามา
มายืนรอเกือบชั่วโมง แล้วน้องเขาก็แต่งตัวเหมือนจะออกไปโรงเรียน แล้วก็กดสวิตช์รถแม่เขา เหมือนจะออกไปข้างนอก แล้วหนูกับพี่ก็เลยสวนเข้าไปเลย ถามว่าจะไปไหน เขาบอกจะไปโรงเรียนให้ทันบ่ายสอง ซึ่งอีก 15 นาที บ่ายสองมันเป็นไปไม่ได้ พวกหนูก็เลยสวนเข้าไป ก็เลยแยกกันหาอีกรอบ ก็ไม่เจอ แล้วพี่เขาก็เลยไปเปิดตู้เย็น หนูก็เลยไปเห็นเพื่อนหนูในตู้เย็น แล้วหนูก็วิ่งออกมา พี่เขาก็ยืนนิ่งอยู่ แล้วน้องมันก็ยิงตัวตาย”
3. ถนัดมือซ้ายแต่ยิงตัวเองด้วยมือขวา มีเพื่อนน้องผู้ตาย มายืนยันกันหลายคน ว่า น้องกายถนัดซ้าย ซึ่งเป็นคนละข้างกับที่ยิงตัวเองตาย ข้อพิรุธนี้ยิ่งมีเงื่อนงำเข้าไปอีก
แถมภาพปืนตกกับศพลูกชายก็แปลกๆ ยิงระยะเผาขน แต่ไม่มีละอองเลือดสักนิด แปลกปะ แรงถีบของปืนน่าจะดีดให้แขนกระเด็นออกไปก็ไม่มี ปืนก็ตกแนบศอก มีแต่จุดน่าสงสัยที่ทำให้สงสัยว่าสรุปใครฆ่าแม่น้องกันแน่
ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “บีวาย อะไหล่” ที่อ้างว่าเป็นเพื่อนของน้องกาย ออกมาโพสต์ยืนยันว่าน้องกายนั้นถนัดซ้าย ซึ่งเป็นคนละข้างกับที่ยิงตัวตาย
“ผมเคยไปส่งกายที่บ้าน เคยกินข้าวด้วยกัน ผมรู้ว่าแม่ลูกเขาพูดจากันยังไง กายรักแม่ เพราะมีกัน 2 คน แม่ไม่เคยพูดจาไม่ดีกับลูก คุยกันดีตลอด พูดคุยสนุก ขอให้กายและแม่ติ๊กไปสู่สุคติครับ สุดท้ายนี้ขอฝากไว้ว่า คนถนัดซ้ายไม่มีทางจับปืนมือขวา”
เช่นเดียวกับ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Atisan Satirakulworapat” ที่ออกมายืนยันอีกเสียงว่าน้องกายสามารถใช้ได้ทั้ง 2 มือ แต่ส่วนใหญ่จะถนัดซ้ายมากกว่า
“ผมเป็นเพื่อนกายมา ผมยังไม่เคยเห็นมันทะเลาะกับแม่ หรือพูดจาไม่ดีกับแม่เลยครับ เพราะว่ามันรักแม่มากๆ และตัวมันเองปกติเป็นคนเฮฮา ไม่เกเร ไม่เคยทะเลาะวิวาทกับใคร อาจจะมีกวนๆ เล็กน้อยแค่กับเพื่อน แล้วมันก็ไม่ได้มีแรงเยอะอะไรมากมาย และอีกอย่างคือมันเปนคนถนัดซ้าย ปกติมันเขียนมือซ้ายแต่ใช้ได้ทั้ง 2 ข้าง ทำอะไรก็ทำมือซ้าย รบกวนทางตำรวจช่วยตรวจสอบให้ชัดเจนด้วยคับ”
ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Kritsana Panyapoon” ออกมาโพสต์คลิปความยาว 5 วินาที ขณะที่น้องกายกำลังใช้มือขวาในการเขียนหนังสือ พร้อมระบุข้อความว่า “กายใช้มือขวาได้ครับ เขาเพิ่งหัดใช้มือขวาตอนเรียนปี 1 ครับ”
ซึมเศร้า-ติดเกม-ติดหนี้-สติหลุดทำร้ายแม่?
ทั้งนี้ ยังพบอีกว่า น้องกายมีโรคประจำตัวเป็นโรคซึมเศร้า รักษามานานถึง 2 ปี แล้ว ทำให้สังคมตีความออกไปต่างๆ นานา ว่า อาจจะเกิดจากโรคซึมเศร้าก็เป็นได้ ที่ทำให้ลงมือฆ่าแม่ ขณะเดียวกัน ก็มีหลายคนออกมาตั้งข้อสังเกตอีกเช่นกัน ว่า เป็นไปไม่ได้ที่คนเป็นโรคซึมเศร้าจะสามารถฆ่าผู้อื่นได้ เพราะจากสถิติส่วนใหญ่มีแต่ทำร้ายตัวเอง
จึงเป็นที่มาของข้อพิรุธ ในข้อที่ 4. พยายามโบ้ยสาเหตุการฆ่าว่ามาจากโรคซึมเศร้า
ด้านญาติผู้ตาย วีระศักดิ์ เขียวมาคล อายุ 50 ปี ยันไม่เชื่อว่าหลานชายเป็นคนฆ่าแม่ตัวเอง พร้อมทั้งยืนยันอีกว่า แม่ลูกคู่นี้ไม่เคยมีปัญหาทะเลากันมาก่อน และรับรู้มาตลอดว่าน้องกายเป็นโรคซึมเศร้า รักษามา 2 ปีแล้ว ส่วนตามที่มีเพื่อนๆ ของน้องมาให้การบอกน้องถนัดมือซ้ายนั้น เท่าที่สังเกต หลานชายจะถนัดมือขวามาตั้งแต่เด็ก
ขณะที่ ดร.ธวัชชัย สารวงษ์ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เทคนิคกรุงเทพ กล่าวถึงพฤติกรรมของน้องกาย ว่า ไม่เคยแสดงอาการเครียดให้เห็น พร้อมยืนยันไม่มีปัญหาการเรียน
5. เอาศพไปทิ้งไม่ง่ายกว่าเหรอ? จากข้อสงสัยของสังคมว่าการฆ่านั้นใช้มีดอะไรทำศพ ถึงทำได้สะอาดเนียนขนาดนี้ บอกเลยต้องเลื่อยหรือมีดผ่าตัดเท่านั้น ลองนึกถึงเวลาหั่นหมู หั่นไม่นาน คมหาย แล้ว นี่หั่นคน ทั้งคนยันกระดูก ใช้อุปกรณ์อะไรและทำเพื่ออะไร เอาศพไปทิ้งไม่ง่ายกว่าเหรอ
ขณะที่จากการตรวจสอบหลักฐานตำรวจพบค้อนและมีดปังตอ ที่คาดว่าจะใช้ในการฆ่า ส่วนอาวุธมีดนั้นไม่พบคราบเลือดแต่อย่างใด
6. ขัดผลประโยชน์ บาดหมางกับเพื่อนร่วมงาน นี่ก็เป็นอีกข้อสันนิษฐานที่สังคมให้ความสนใจกับข้อนี้อยู่เช่นกัน เพราะทราบว่าผู้ตายนั้นทำอาชีพไฟแนนซ์รถยนต์
7. มีสาวอ้างตัวเป็นหลานได้แสดงความคิดเห็นทำนองมีเงื่อนงำ
มีผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “Gus Jung” อ้างตัวเป็นหลานสาวผู้ตาย ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า คนที่พบศพกับผู้ตายไม่ถูกกัน ทำไมถึงโผล่มาที่บ้านผู้ตายได้ จึงทำให้ข้อพิรุธนี้ยิ่งทำให้คนสงสัยเข้าไปกันใหญ่
“ไม่แปลกหรอกค่ะ เราเป็นหลานสาวผู้เสียชีวิตค่ะ ผู้เสียชีวิตกับเพื่อนสนิทที่เจอร่าง เคยมีเรื่องบาดหมางกัน ชนิดที่ว่าตัดเพื่อนกันเลยนะคะ เรื่องธุรกิจส่วนตัว เราเองยังงงเลยค่ะว่าไปอยู่ที่บ้านนั้นได้ยังไง แล้วลูกชายก็ไม่น่าจะคิดได้ถึงเพียงนี้”
8. ติดหนี้เกม สติหลุดเคยทำร้ายแม่มาก่อน
นอกจากนี้ ครูสอนพิเศษน้องกาย มาตลอด 4 ปี ก็ได้ออกมาบอกว่าเคยเห็นน้องกายทำร้ายแม่ ซึ่งคาดว่าสาเหตุเกิดจากติดหนี้เกม
หลังเที่ยงคืนของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา น้องกาย ได้โทรศัพท์มาปรับทุกข์ กรณีมีปัญหาเรื่องเกม โดยไม่สามารถหาทางออกได้ ลักษณะคล้ายติดหนี้ในเกม ตนจึงแนะนำให้ไปหารือกับแม่โดยตรง เพราะอาจจะสามารถช่วยเหลือได้ ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าหลังจากคุยกับตัวเองแล้ว น้องกาย อาจจะไปคุยกับแม่ตามที่แนะนำแล้วกลับโดนแม่ตำหนิ ทำให้น้องกาย สติหลุด จนถึงขั้นลงมือทำร้ายแม่จนเสียชีวิต
ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เคยเจอน้องกาย ทะเลาะกับแม่จนสติหลุดมาแล้วครั้งหนึ่ง ถึงขั้นลากท่อนเหล็กมาจะทุบตีแม่ แต่โชคดีที่ตัวเองอยู่ในเหตุการณ์ และสามารถห้ามปรามไว้ได้ก่อน ทำให้ไม่เกิดเหตุร้ายขึ้น โดยหลังจากนั้น จึงพูดคุยกับแม่น้องกาย ว่า ควรพาไปพบแพทย์ กระทั่งครอบครัวได้พาน้องกายไปหาหมอที่สถาบันจิตเวชสมเด็จเจ้าพระยา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ก่อนจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
ขณะเดียวกัน ตัวเพื่อนของผู้ตายบางคน ก็ยืนยันว่า แม่ของน้องกายไม่เคยมาบ่นเรื่องมีปัญหากับลูกแม้แต่ครั้งเดียว และครอบครัวก็ดูรักกันดี
แม้ว่าสุดท้ายแนวโน้ม น้องกายจะเป็นคนทำเยอะสุด แต่หลายๆ ข้อเท็จจริง ก็ทำให้สังคมอดสงสัยไม่ได้
ล่าสุด พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง ผบช.น.ยืนยันลูกลงมือฆ่าแม่เองร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่แรงจูงใจยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ พบพยานหลักฐานทั้งลายนิ้วมือ เขม่าดินปืน รวมถึงกล้องวงจรปิดไม่มีคนอื่นเข้ามาในบ้าน
“จากผลการชันสูตรศพแม่ พบว่า การหั่นศพใช้วิธีนำมีดมาวางแล้วใช้ค้อนตอก เพราะบนมีดมีรอย ส่วนห้องน้ำบนบ้าน ก็เจอคราบเลือดกระจายไปทั่ว โดยนำชิ้นส่วนศพล้างในห้องน้ำ จากนั้นก็นำชิ้นส่วนทั้งหมดล้างเลือดให้สะอาด แล้วก็เอาชิ้นส่วนแม่ใส่ในถุงพลาสติก แล้วเอามาแช่ตู้เย็น”
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **