เหยื่อเปิดปากแฉ “แก๊งล่อซื้อลิขสิทธิ์” ทำเป็นขบวนการใหญ่ พาชายฉกรรจ์ 6-7 คน เข้าบุกจับ พร้อมไกล่เกลี่ยที่โรงพัก ตำรวจมีเอี่ยว? ข่มขู่ถ้าไม่จ่ายโทษประหารชีวิต ผู้เสียหายโผล่กว่า 100 ราย!!
เหยื่อแฉ พูดมีหลักการ ข่มขู่สารพัด
“คนนี้เลย ผู้ชายคนนี้เลย ตอนที่หนูจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาบอกเมมเบอร์ผมไว้ ผมชื่อ “นัน” ตกใจมาก งงเลย อ้าวเหมือนมาล่อซื้อ พี่ป็นคนสั่งเราลายนี้ ของเราไม่มีลายนี้ด้วยนะ”
หญิงสาววัย 28 อาชีพพนักงานบริษัท หนึ่งในผู้เสียหายออกมาแฉกับทีมข่าว MGR Live ว่าสูญเงินไป 30,000 บาท โดนแก๊งล่อซื้อลิขสิทธิ์หลอกทรัพย์ ซึ่งเป็นแก๊งเดียวกับแก๊ง “ตบทรัพย์กระทงเด็ก”
“เสียไป 30,000 บาท ครั้งแรกเขาเรียกมา 50,000 บาท แล้วเราบอกว่าไม่มี ต่อรองขอ 10,000 บาทได้ไหม หนูก็ไม่มีเหมือนกัน เขาก็ไม่ยอม ยังไงเขาก็ไม่ยอม เขาบอกว่าถ้าน้องไม่จ่ายน้องก็ติดคุก ถ้างั้นก็ไปขึ้นศาล
ตำรวจก็บอกว่าน้องก็ยอมเสียไป จะได้จบๆ ถ้าน้องไม่จ่ายน้องก็ขึ้นศาล แล้วเขาก็ให้ลงบันทึกประจำวัน ซึ่งตำรวจคนที่ลงบันทึกประจำวันเป็นคนบอกให้ไปไกล่เกลี่ยกันเอง”
ผู้เสียหายรายนี้เล่าถึงเหตุการณ์ที่โดนล่อซื้อเมื่อปีที่แล้วว่า เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูนวันพีช ซึ่งอ้างว่าได้รับมอบหมายจากทางบริษัทให้มาดำเนินคดี
“มีผู้หญิงเขามาสั่งที่ถนอมสายชาร์จ ประมาณ 20 ชิ้น คละรวม แต่เน้นลายวันพีช สั่งเจาะจงว่าจะเอาลายนี้ แต่เราก็บอกว่าเราไม่มีของนะ ต้องรอประมาณ 2-3 วัน สั่งของมาให้เรียบร้อย เขาก็โอนมัดจำมาครึ่งหนึ่ง พอถึงวันรับของ เขาไลน์มาว่าเขาไม่สะดวก ลูกไม่สบาย เดี๋ยวให้พี่ชายมารับ พอถึงวันรับของพี่ชายก็โทร.มาหาเรา เขาบอกว่าถึงแล้ว ให้ลงมาได้เลย เรานัดรับที่ห้างสรรพสินค้า เราก็ลงไป พอลงไปเสร็จเขาก็เดินมา
ขณะที่กำลังยื่นของให้ เขาก็แสดงตัวเลยว่าน้องทำผิดลิขสิทธิ์นะ ซึ่งมีเอกสารมาด้วย ตอนนั้นมีเจ้าหน้าที่ที่บอกเป็นลิขสิทธิ์ 2 คน แล้วตำรวจมาอีก 2 คนเป็น 4 คน ขับรถเก๋งมา ใส่ชุดตำรวจเลย หนูเลยถามว่าใช่ตำรวจจริงหรือเปล่า หนูขอดูบัตรหน่อย เขาบอกว่าผมตำรวจจริง เขาก็บอกว่าน้องไปเจอกันที่โรงพักเลย ก็ไปที่สน.ท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ
ไม่แน่ใจว่าตำรวจสอบเอกสารหรือยังก่อนที่จะให้เขาลงบันทึกประจำวัน ไม่ใช่ว่าตำรวจไปกับเขาเลย แล้วตำรวจก็บอกว่าให้ไปคุยกันเองอย่างนี้ เพราะว่า สน.ท่าข้ามเห็นมีคนโดนเหมือนกันด้วย โดนลิขสิทธิ์เหมือกัน แต่ไม่ได้ถามเขาว่าคนเดียวกันหรือเปล่า”
ผู้เสียหายรายเดิมยังเล่าต่ออีกว่า มีการทำเป็นขบวนการ และมีกลวิธีข่มขู่ให้คนหลงเชื่อ พร้อมข่มขู่หากไม่ยินยอมให้ไปสู้คดีกันที่ชั้นศาล
“เขาก็บอกว่าคุณไม่จ่ายคุณก็ติดคุก ขึ้นศาลคดีอาญาไปเลย พูดเหมือนเขามีหลักการ มีวิธีพูด ไม่รู้คุณจะสู้ได้หรือเปล่านะ เพราะคุณมีความผิด ผมมีหลักฐานครบเลย
เขาบอกมาจากบริษัทนิวสตาร์ แล้วทางเราจะขอถ่ายรูปเอกสารที่เขาปรินต์มาเป็นสำเนาเยอะๆ เขาบอกว่า ผมไม่ถ่าย ถ่ายไม่ได้นะน้อง เราโทร.ปรึกษากับรุ่นพี่ เล่าเหตุการณ์ว่ามันเป็นแบบนี้ แต่เขาก็จะพยายามพูดเร่งรีบกับเราตลอด ไม่งั้นก็ไปติดคุก ไปคุยกันที่ศาลจะพูดแบบนี้อย่างเดียว คิดดูคนหนึ่งเสียไปสองสามหมื่น แล้วคิดดูว่ากี่ร้อยรายที่เสียไป
ก็ไม่คิดว่าจะมาเป็นข่าวกับน้องคนนี้ อยากให้โดนจับไวๆ คนจะได้รู้ว่าเขาเป็นแบบนี้ ให้มาเปิดโปงเขาสักที เพราะเขาเป็นขบวนการใหญ่ อยากกระชากหน้ากากออกมา ให้มารับกรรมที่ตัวเองทำกับคนอื่นไว้ คุณทำเป็นขบวนการ คุณทำไปทั่ว ทำให้คนอื่นได้รับความเสียหาย ของไม่กี่สิบบาท ของไม่ถึงร้อย แต่เสียเป็นหมื่น”
เปิดหน้ากากหัวโจก เคยทำอาชีพขับวิน
โลกโซเชียลแห่แชร์ภาพ “นัน กิ่งเพชร” หนึ่งในแก๊งหัวโจก สั่งกระทงลายการ์ตูนลิขสิทธิ์จากเด็กหญิงวัย 15 ปี นักเรียน จ.นครราชสีมา หารายได้พิเศษ ทำกระทงขนมขาย ถูกคนติดต่อมาทางอินบ็อกซ์สั่งทำกระทงรูปการ์ตูน ลายริลัคคุมะ 10 อัน ลายการ์ฟิลด์ 10 อัน ลายมินเนียน 5 อัน ลายคิตตี้ 5 อัน
ซึ่งปกติแล้วจะทำเพียงลายดอกไม้ส่งขายเท่านั้น เมื่อมีออเดอร์สั่งเข้ามา จึงทำกระทงตามออเดอร์ หลังจากนั้นก็มีการนัดแนะให้ไปส่งของที่ประตูย่าโม กลับถูกล้อมจับข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ ก่อนถูกตัวแทนลิขสิทธิ์ล่อซื้อ พูดข่มขู่ เรียกเงิน 50,000 บาท เจรจาต่อรองจ่าย 5,000 บาท เพื่อไกล่เกลี่ย
นอกจากนี้ ยังพบนักศึกษาวัย 22 ปี ถูกล่อซื้อกระทงจากขนมอาหารปลา ลายการ์ตูนการ์ฟิลด์ แล้วถูกจับกุมในลักษณะเดียวกัน โดยเรียกค่าเสียหาย 50,000 บาท แต่ครอบครัวต่อรองเหลือ 10,000 บาท แลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี
ยังมีออกมาแฉอีกราย เยาวชนวัย 18 ปีรายหนึ่งที่ตกเป็นเหยื่อแก๊งตบทรัพย์กระทงรายนี้ ยืนยันนายนัน คือคนเดียวกับที่นำชายฉกรรจ์ 6-7 คนเข้ามาจับกุมเธอ เพียงแต่ในวันเกิดเหตุได้โกนหนวดโกนเคราจนเกลี้ยง แต่ก็จำได้แม่น
ล่าสุด มีผู้เสียหายที่โดนแบบเดียวกันตั้งกลุ่มแชตขึ้นมาประมาณ 100 กว่าคน ทั้งนี้ ผู้เสียหายยืนยันว่าจำหน้าได้แม่นว่าเป็นแก๊งเดียวกัน
ขณะเดียวกัน ผู้เสียหายออกมาพูดเสียงเดียวกันว่า มีกลวิธีการล่อซื้อเหมือนกันคือ ทักอินบ็อกซ์สั่งสินค้าลวดลายการ์ตูนลิขสิทธิ์ เริ่มผลิตสินค้าตามออเดอร์ จากนั้นก็มีการนัดรับสินค้า หลังจากนั้นคนสั่งซื้อก็แสดงตัวตนว่าเป็นตัวแทนเจ้าของลิขสิทธิ์ นำตำรวจเข้าจับกุมและเจราจาค่าเสีหาย อีกทั้งห้ามผู้เสียหายถ่ายรูป บางรายถึงขั้นโดนข่มขู่ว่าถ้าไม่จ่ายเงินจะมีโทษถึงขั้นประหารชีวิต
อย่างไรก็ตาม จากคำบอกเล่าของเพื่อนบ้านพบว่า นายนันเคยทำอาชีพขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ส่วนภรรยาทำอาชีพเป็นเพียงแม่ค้าขายลูกชิ้นเท่านั้น ไม่ใช่คนมีฐานะ มีเพียงรถกระบะเก่าๆ 1 คัน อีกทั้งนายนัน ยังเคยมายืมเงินอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็คืนตลอด พร้อมยืนยันครอบครัวนี้เป็นคนอัธยาศัยดี
ไม่เพียงเท่านี้จากการตรวจสอบยังพบอีกว่า นายนัน มีบัตรแสดงตนว่าทำงานอยู่บริษัท นิว สาตร์มีเดีย จำกัด ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ปราบปรามทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งเคยเป็นพนักงานฟรีแลนซ์ของบริษัทนี้ ปัจจุบันไม่ได้ทำแล้ว
กระทั่งบริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะตัวแทนตัวแทนลิขสิทธิ์ของบริษัท San-x เจ้าของลิขสิทธิ์ลายการ์ตูนรีลัคคุมะ ชี้แจงว่าไม่ได้มอบหมายให้ผู้ใดทำการจับลิขสิทธิ์ผิดกฎหมายแต่อย่างใด
ขณะที่ ธวัชชัย ไทยเขียว อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ชี้ว่าในเมื่อบริษัทฯ ไม่ได้มอบหมายให้ผู้ใดทำการจับลิขสิทธิ์ แสดงว่าผู้ที่สั่งของล่อซื้อเป็นมิจฉาชีพ ขอให้ตำรวจจัดการจับดำเนินคดีให้เป็นตัวอย่าง
ทางด้าน กรมทรัพย์สินทางปัญญา ยืนยันเช่นกันว่า กรณีตัวแทนเจ้าของลิขสิทธิ์สั่งเด็กหญิงทำกระทงลายการ์ตูนดังแล้วล่อซื้อจับกุมเรียกค่ายอมความไม่ถือว่าเด็กมีความผิด เหตุไม่มีเจตนาทำกระทงละเมิดลิขสิทธิ์แต่แรก ซึ่งสามารถฟ้องกลับได้เนื่องจากมีการข่มขู่กรรโชกทรัพย์ให้เด็กหญิงต้องชดเชยค่าเสียหาย
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **