ดรามาไหทองคำแตก! ของนักร้องนักแต่งเพลง “ผู้สาวขาเลาะ” ยังคงเป็นประเด็นร้อนคาราคาซังมาแล้วหลายสัปดาห์ ความขัดแย้งระหว่างนายห้างค่ายไหทองคำ กับเด็กสาววัยเพียง 19 ปี ที่มากล้นด้วยพรสวรรค์และความสามารถ อาม - ชุติมา โสดาภักดิ์
หลังจากถูกไล่ตะเพิดออกจากค่ายเป็นครั้งที่ 4 เธอจึงไม่ไหวจะทนขอลุกขึ้นมาแฉปมแตกหักฉีกสัญญา ซัดถูกเอาเปรียบ ค่าตอบแทนอยู่ไหน? ยอดวิวในยูทูบ 600 ล้านวิว เป็นพรีเซนเตอร์ เล่นหนัง แต่ไม่เคยได้เงินค่าแต่งเพลงสักบาท! กระแสเปรี้ยง ดังไม่หยุดฉุดไม่อยู่ ล่าสุดกับยอดฟอลโลเฟซบุ๊กทะลุล้านห้า ไม่แคร์ค่ายเก่าตะลอนทัวร์ออกคอนเสิร์ตฉายเดี่ยวตามสไตล์ศิลปินอินดี้
แฉ! ปมเอาเปรียบ
ได้อ่านสัญญาก่อนเซ็นมั้ย
“อยู่ดีๆ เขา (ประจักษ์ชัย เนาวรัตน์ ผู้บริหารค่ายไหทองคำ) ก็บอกว่า หนูขายเพลงให้เขา เอาอะไรมาให้หนูเซ็นก็ไม่รู้ ตามกฎหมายเขาถูก แต่หนูไม่รู้ ทำไมไม่บอกตรงๆว่าจะซื้อ ถ้าบอกแบบนั้นหนูไม่ขายนะ แต่เขากลับบอกว่าให้เซ็นเพื่อที่จะได้ไม่มีใครเอาเพลงเราไปแอบอ้างใช้ หนูก็รีบเซ็นสรุปมาดูสัญญาอีกรอบ เป็นการขาย! และเขาไม่ได้ให้เงินค่าแต่งเพลงอะไรหนูเลย “
สอดคล้องกับโพสต์ที่เธอสุดทนจึงออกมาแฉจนดรามาบังเกิด
“เงินในยูทูบ เพลงที่ดิฉันแต่ง รวมแล้วเกือบ 600 ล้านวิว ไม่เคยได้แม้แต่บาทเดียว”
"ถือว่าเป็นบทเรียนครั้งยิ่งใหญ่ สำหรับนักแต่งเพลง หรือน้องๆที่อยากเป็นนักร้องผู้มีความฝันอันยิ่งใหญ่ ต้องศึกษาดูดีๆเลยว่า ตอนที่เขามาจีบๆติดต่อเรา เขาจะพูดดีมาก จนเราคล้อยตาม เหมือนเขามาเสนอเราก็โอเคเลย สรุป สัญญาไม่เป็นธรรม ไม่เป็นไปตามข้อตกลงที่ให้กับหนูไว้
ด้วยความที่เราอยากเป็นนักร้องตามความฝัน เวลามีคนมาติดต่อ เลยคิดว่า “อะไรก็ได้” ขอให้ได้เป็นนักร้อง อย่างกรณีของหนูนี่สอนคนทั้งประเทศได้เลยนะ
ฝากไว้เลยศิลปินอินดี้อิสระไม่ต้องไปเซ็นสัญญากับใครหรอก แต่เอาจริงๆเลย เวลาจะเซ็นเราปรึกษาใครไม่ได้เลย เพราะกดดัน แผ่นกระดาษวางอยู่ตรงหน้าพร้อมกับคนที่บอกเราว่า จะเอาเราไปปั้นเอาเราไปสร้าง เราจะไปปรึกษาใครได้ไง เราต้องเซ็นตอนนั้น"
ส่วนข่าวที่บอกว่า ค่าลิขสิทธิ์เพลง 1 เพลง 10,000 บาท อามเคยให้สัมภาษณ์ว่า ตอนที่เขาให้เงินมาตนไม่รู้เลยว่านั้นคือเงินค่าลิขสิทธิ์ เขาบอกว่าเป็นรางวัลคนเก่ง ไม่ได้บอกว่าเป็นการซื้อเพลง หรือบอกว่าเป็นการขายขาด เพราะเธอจะบอกกับทุกคนตลอดว่า ไม่ขายเพลงนะ เพราะแต่งเพลงไม่เก่ง คือที่เซ็นสัญญาลิขสิทธิ์เพลงทั้งหมด 3 เพลง เพลงละ 10,000 บาท เพราะความไว้ใจนั่นเอง คิดว่าเขาไม่โกง
ติดสัญญาอยู่กับค่ายกี่ปี
“หนูทำสัญญา 5 ปีค่ะ ตอนนี้ก็เหลืออีก 3 ปี แต่ต้องออกมา เพราะไม่ไหวแล้ว”
ทำไมถึงกล้าออกมาแฉ
"หนูเตรียมใจไว้แล้วนะ ถึงใครจะไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร คิดไว้แล้วว่าคงไม่มีใครเชื่อเรา เพราะเราเป็นเด็ก แต่ก็มีคนเข้าใจเรา มีผู้ใหญ่ออกมาช่วยยืนยันว่า คนนี้คนนั้นก็โดนหลอก หนูไม่ได้โดนหลอกคนเดียว
ศิลปินที่อยู่ในค่ายนี้ออกไปหลายคนมาก แต่ไม่ได้เป็นข่าว สักวันความจริงก็จะปรากฏขอแค่อยู่ไหนก็ได้ แค่สบายใจก็พอ
ยังมีนักร้องเบอร์ใหญ่ๆที่โดนแบบเดียวกับเราเหมือนกัน แต่เขาไม่กล้าออกมา จริงๆนักร้องเขาก็มีปัญหากับต้นสังกัดกันเยอะนะ แต่เขาก็แยกย้ายกันไปทำมาหากินได้ แต่ของหนูทำแบบนั้นไม่ได้ ต้องอยู่กับเขา พอจะไปก็ไม่ให้หนู"
ปัญหาสะสมมานานแค่ไหน
"อึดอัดมาเป็นปีแล้ว แต่คิดว่าถ้าเราออกไปต้องเป็นข่าวแน่ๆ ไม่อยากให้เป็นข่าว แต่ก่อนที่เป็นข่าวก็เริ่มมีปัญหาหนักๆกันแล้วจริงๆจังๆ
พอมีปัญหาก็ไม่ได้มีการคุยกัน เพราะทางผู้ใหญ่ก็ไม่ได้สนใจ ว่าเราจะมีความสุข หรือสบายใจ หนักใจตรงไหน เขาไม่ถามไม่รับรู้อยู่แล้ว
ขนาดขอไปรับใบประกาศนียบัตรจบการศึกษา ปวช.3 หนูก็ขอเขาลางานล่วงหน้า บอกว่าอาจารย์หนูจะรับใบประกาศฯครั้งหนึ่งในชีวิต หนูขอล็อกวันหยุดไว้นะ แต่สรุปเขากลับไปรับงานมา หนูก็ไม่ได้ไปรับใบ ร้องไห้อยู่เป็นอาทิตย์เลย
เขาบอกว่าถ้าอยากถ่ายรูปก็ไปถ่ายที่สตูดิโอก็ได้ แต่หนูคิดว่ามันไม่เหมือนกัน เขาบอกหนูต้องมีความรับผิดชอบนะ แต่หนูบอกเพื่อน บอกครูที่วิทยาลัยไปแล้ว
โอเค งั้นหนูจะเสียสละเรื่องที่สำคัญของตัวเอง เพื่อไปทำงานก็ได้ พูดอะไรไม่ได้ เพราะเราไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้เลยว่า เราจะมีงานวันไหน ตอนไหน"
ได้ยินว่าเคยท้อแท้ถึงขั้นไม่อยากร้องเพลงอีกต่อไปแล้ว
ช่วงแรกหนูรู้สึกเหนื่อยมากถอดใจคิดถึงขั้นไม่อยากจะร้องเพลงอีกต่อไปแล้ว จะกลับไปเรียน ไปอยู่บ้านดีกว่า เพราะถ้าให้กลับไปทำงานต่อก็ต้องไปอยู่กับเขาอีก คิดว่าพอหมดสัญญาอีก 3 ปี ตอนนั้นอายุก็ยังไม่มาก น่าจะร้องเพลงอีกได้ แต่มีผู้ใหญ่แนะนำว่า หยุดไม่ได้นะ ไม่ต้องกลัว เราไม่ผิด ต้องเดินต่อ เพราะกระแสเรากำลังมา
ช่วงเวลาเสียใจทำยังไง
"ก็ร้องไห้ อึดอัดบอกใครไม่ได้ บางครั้งแม่ก็ร้องได้ด้วย เวลาเขาไล่ให้เก็บของไปอยู่บ้าน แต่พอไปอยู่บ้านได้วันนึง เขาก็บอกให้กลับมา มีงานแล้วนะ หนูก็ปฏิเสธไม่ได้ เพราะเป็นงานหนู ขึ้นป้ายไว้แล้ว ก็วนกลับไปอยู่ที่เดิมอีก พอไล่ครั้งสุดท้ายก็เลยตัดสินใจเด็ดขาดไม่กลับไปแล้ว"
เคลียร์ชัด! อิจฉา!? “ลำไย ไหทองคำ”
“ตัวหนูกับพี่ลำไยคุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่ได้ทะเลาะอะไรกันเลย แต่เวลาเขาออกมาให้ข่าว ชอบบอกว่า หนูทะเลาะกับพี่ลำไย อิจฉาพี่ลำไย อยากมีนั่นมีนี่เหมือนพี่ลำไย
ยังเคยพูดกับพี่ลำไยเลยว่า ไม่ใช่ว่าไม่อยากแต่งเพลงให้อีกนะ ถ้าออกจากค่ายนี้เมื่อไหร่ค่อยทักมาจะแต่งให้ แต่ถ้ายังอยู่กับค่ายนี้อยู่ก็คงไม่ได้แต่งให้นะ
เพราะถ้าแต่งเพลงให้พี่ลำไย แต่ยังอยู่ในสังกัดเขา คนที่จะรวยไม่ใช่พี่ลำไย แต่เป็นเขา ที่จะรวยมากๆ
แต่ถึงหนูอยากมีบ้านมีรถก็ไม่ผิดนี่คะ เวลาเราทำงาน เราร้องเพลงเป็นชั่วโมง ไม่ได้เงินมาฟรีๆ เพลงทีเรากว่าจะแต่งได้ หนูไม่ใช่นักร้องเฉยๆ หนูแต่งเพลงด้วย
เขาชอบบอกว่า ถ้าเราไม่มีเขา ชีวิตเราคงไม่ได้ดีขึ้นขนาดนี้หรอก”
เช่นเดียวกับที่อาม ได้เคยโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว
“อามกับพี่ลำไย ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันนะคะ ถึงแม้ผู้ใหญ่จะพยายามบอกว่าเราอิจฉาพี่ แต่หนูก็ไม่สนใจค่ะ ไม่เคยอิจฉา รักและคิดถึงเสมอ"
นอกจากนี้ ลำไย ไหทองคำ ยังได้ออกมาตอกย้ำชี้แจงผ่านโลกโซเชียลฯด้วยว่า ชี้เป็นคนกลาง ไม่ขอยุ่ง เพราะรักทั้งสองฝ่าย
"อาม+ลำไย เราไม่ได้มีปัญหากันนะคะ เฮากะปกติ ไม่เคยลืม เรื่องระหว่างเราเป็นความสัมพันธ์ทางใจ ไม่เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น ส่วนเรื่องอามอาจจะมีปัญหากับทางค่ายเราก็ไม่สามารถไปยุ่งได้ เพราะเราคือคนกลางค่ะ
เรารักทั้ง 2 ฝ่าย เพราะทั้งอาจารย์และอามก็มีบุญคุณทั้งนั้น แต่จะให้หนูไปเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ไม่ใช่ เพราะหนูไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วทั้ง 2 มีปัญหากันมากหรือน้อยแค่ไหน ไม่มีใครรู้ดีกว่าเจ้าตัว เลยไม่อยากออกตัวแรง
แต่เราก็ให้กำลังใจกัน ทั้งอาจารย์ และอาม และคุยกันได้แบบพี่น้องเหมือนเดิมเสมอ แยกแยะออกค่ะว่าเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานเป็นยังไง ที่คนว่าเราลืมอามอาจเป็นเพราะเราไม่ได้โพสต์ออกสื่อรึเปล่า? เราไม่มีทีมค่ะ ยังเหมือนเดิมกับทุกคน ชีวิตต้องเดินต่อไป ให้กำลังใจทั้งคู่ค่ะ"
ตั้งแต่มีเรื่องได้คุยกับเจ้าของค่ายบ้างมั้ย
"ยังไม่ได้คุยกันกับอาจารย์ แต่เห็นเขาพูดกับผู้ใหญ่หลายๆท่านว่า อยากให้หนูกลับไปทำงานเหมือนเดิม ไม่อยากรังแกหนู ไม่อยากฟ้อง แต่ก็ยังไม่ปล่อยหนู
เหมือนที่หนูบอกไปว่า ขอฉีกสัญญา อยากได้ลิขสิทธิ์เพลงคืน ก็ยังไม่ยอมให้ แต่เวลาพูดออกสื่อก็บอกว่าไม่อยากรังแกเด็ก ก็ขอเดินหน้าขอลิขสิทธิ์เพลงคืน หนูกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว"
เขาดูแลเรายังไงตอนเป็นศิลปิน
ช่วงที่อยู่กับค่าย ไม่ค่อยมีใครมาดูแลเท่าไหร่ อย่างเวลาไปทำงานก็ต้องขึ้นเครื่องบินคนเดียว เรื่องผลประโยชน์และการดูแล ทางค่ายไม่ค่อยดูแลเท่าไหร่ เวลาไปงานก็ปล่อยให้ไปงานเองบ้าง ขึ้นเครื่องบินคนเดียวบ้าง ตามสัญญาที่เซ็นไว้ 70:30 ของหนู 70 เปอร์เซ็นต์ จากที่ได้รับไม่น่าจะถึง 70 เปอร์เซ็นต์
เขาให้เงินตามคิวงาน วันไหนงานไม่มีก็ไม่ได้เงิน บางทีก็ไม่ได้ตามที่ตกลงกัน ก็อดทนมา 2 ปี"
นอกจากนี้ อามเคยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า เจ้าของค่ายให้เพียงเงิน 600,000 บาทมาต่อเติมบ้าน และดาวน์รถกระบะให้ แต่เงินในส่วนที่ควรจะได้กลับไม่ได้
“น้อยใจ มันทำอะไรไม่ได้แล้ว (ร้องไห้) ตอนที่เขามาคุยกับหนูเอาเพลงนี้ให้พี่ลำไยร้อง เขาบอกว่าเขาจะขายงานคู่กัน พี่ร้องน้องแต่ง แบ่งเปอร์เซ็นต์ให้หนูเป็นคิวๆ เหมือนอาจารย์แต่งเพลงคนหนึ่ง ต้องได้ในส่วนที่ควรได้”
"สำหรับตอนนี้ครอบครัว คุณพ่อ คุณแม่ ให้กำลังใจเราดีที่สุด เขาจะอยู่ข้างๆเราเสมอ เพราะเหตุการณ์ทั้งหมดเข้าใจกันดี"
ปัจจุบันนี้เธอเริ่มรับงานงานคอนเสิร์ตเดินสายทางภาคอีสาน โดยมีนักร้องในทีมคือ ท๊อป มอซอ, บักกึ่ม, เนส สักจึ๊กส์ และจุ๊กกรู๊แบรนด์
เท่ากับว่า อามมีทีมงานเป็นของตัวเอง และรับงานการแสดงโดยไม่ผ่านค่ายไหทองคำอีกต่อไป
“มีงานคอนเสิร์ตทุกวันเลยค่ะตั้งแต่เป็นข่าว ก็ถอนเงินในบัญชีมาออกรถตู้เพื่อการเดินทาง”
ล้วงลึกตัวตน ดีเอ็นเอศิลปินเต็มตัว
จุดเริ่มต้นของอามในวงการลูกทุ่งนั้นเกิดจากในปี 2559 อามได้แต่งเพลง “อดีตเคยพัง” และร้องเล่นกีตาร์กับเพื่อนๆ ไลฟ์ลงเฟซบุ๊ก มียอดผู้ชมหลักแสน จากนั้นจึงไปเข้าตา อ.ประจักษ์ เนาวรัตน์ เจ้าของค่ายไหทองคำเข้า เลยติดต่อชักชวนให้เข้ามาเป็นนักร้องของค่ายที่เพิ่งเปิด
จากนั้นอามจึงแต่งเพลง “ผู้สาวขาเลาะ” ให้ลำไย ไหทองคำ ร้องจนดังเป็นพุลแตก
>>เพลง ผู้สาวขาเลาะ
>>เพลง อดีตเคยพัง
เพลงที่อามแต่งและมีการเผยแพร่ทางยูทูบ ประกอบด้วย “ผู้สาวขาเลาะ" 340 วิว , "อดีตเคยพัง" 153 ล้านวิว, "บ่ขวางทางอ้าย" 70 ล้านวิว และ "ไปต่อหรือพอส่ำนี้” 82 ล้านวิว รวมแล้วเกือบ 600 ล้านวิว เธอไม่ได้เงินส่วนแบ่งแม้แต่บาทเดียว ทั้งที่เคยสัญญาว่าจะแบ่งกัน 70-30
>>เพลง บ่ขวางทางอ้าย
>>เพลงไปต่อหรือพอส่ำนี้
สำหรับเพลงผู้สาวขาเลาะที่ดังพลุแตกนั้น เธอใช้เวลาเขียนเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น แลัวอยู่ในช่วงกำลังจะนอน
"ตอนที่เรียบเรียงไม่ได้คิดอะไรมากมาย คิดแค่เพียงว่า เพลงนี้จะดึงวิถีชีวิตและนิสัยของเด็กสาวไทยบ้านทั่วไป มาเรียบเรียงในเนื้อเพลง ใช้ภาษาง่ายๆ เช่น เฮาแค่ผู้สาวขาเลาะ บ่แม่นผู้สาวขาเรียน บ่ได้ขยันหมั่นเพียร ปากกาสิเขียนได้ยังยืมหมู่ แปลว่า เราแค่ผู้หญิงชอบเที่ยว ไม่ใช่ผู้หญิงชอบเรียน ไม่ได้ขยันหมั่นเพียร ปากกาจะเขียนยังยืมเพื่อนมา”
ส่วนสาเหตุที่เลือกลำไยมาร้องเพลงนี้นั้น อามเล่าว่า ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะแต่งเพลงให้ใครเลย แต่ก่อนหน้านั้นพี่ลำไยมาขอให้แต่งเพลงให้ ประกอบกับเมื่อเขียนเพลงผู้สาวขาเลาะเสร็จ ก็คิดว่าเนื้อหาตรงกับพี่ลำไย ไหทองคำ เพราะลำไยมีบุคลิกน่ารัก ขี้เล่น สนุกสนาน
อามเกิดที่บ้านโคกสว่าง ต.ดอนหญ้านาง อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ สำหรับพรสวรรค์ในการร้องและแต่งเพลงของเธอนั้น มาจากสายเลือด “ศิลปิน”ล้วนๆ
“คุณยายอามเป็นหมอลำ ส่วนคุณปู่ก็เป็นหมอแคน คุณพ่อคุณแม่ชอบร้องเพลง อามมีพี่ชายคนหนึ่ง น้องสาวคนหนึ่ง ครอบครัวเราชอบร้องเพลงกันทั้งบ้าน
เริ่มแต่งเพลงตอนอายุประมาณ 15-16 ปี ตอนแรกก็ไม่ได้แต่งเพลงอะไร และก็ไม่รู้ ว่าตัวเองแต่งเพลงได้ แค่คิดว่า รู้สึกท้าทาย อยากลองแต่งดู ก็ทำได้
หนูจะชอบศึกษา ชอบดู ชอบฟัง ว่าใครเป็นคนแต่งเพลงนี้ ที่สำคัญต้องจินตนาการเก่ง
ถ้าไม่เป็นนักร้องอยากเป็นอะไร
เคยมีความฝันว่าอยากเป็นคุณครู ส่วนตำรวจก็อยากเป็น แต่ความสูงไม่ถึง (หัวเราะ)
แต่ถึงหนูจะไม่ประสบความสำเร็จในวันนี้ ยังไงก็ต้องเดินหน้าต่อไป ทำให้ดีที่สุดอยู่แล้ว เพราะเราชอบทางนี้ ถึงแม้ไม่ได้อะไรเราก็ทำ แต่พอดีประสบความสำเร็จตั้งแต่เริ่มต้นก็เป็นสิ่งที่ดีมาก
สำหรับอนาคตถ้าวันนึงเราขี้เกียจร้องเพลงแล้วก็อาจจะลองปั้นนักร้อง แต่งเพลงให้เขาตามความฝันตัวเขาเอง
ปัจจุบันนี้อามกำลังศึกษาอยู่ชั้น ปวส. ปี 1 วิทยาลัยเทคโนโลยี เอ็น-เทคอินเตอร์เนชั่นแนล จ.บึงกาฬ
“ไม่ทิ้งการเรียนแน่นอน เวลาเดินสายทำงาน เราก็พยายามติดตามส่งการบ้านย้อนหลังและไปสอบตามกำหนด คุณครูและทางโรงเรียนก็เข้าใจและให้โอกาส
ใครคือศิลปินในดวงใจ
"ชอบ พี่ก้อง ห้วยไร่, พี่เบิ้ล ปทุมราช,พี่เสก ส่วนใหญ่จะชอบคนที่แต่งเพลงเองร้องเพลงเอง ชอบคนที่มีความสามารถแต่งเพลงร้องเอง แต่งให้คนอื่น หนูจะชอบมาก”
หน้าเป๊ะ อัปเลเวลความสวย
มีคนบอกนะคะ ว่าถ้าเสริมดั้งก็เหมือนกับเสริมโหงวเฮ้งชีวิตจะดีขึ้น อามเสริมจมูกที่ จ.อุดรธานี
ก็ตั้งแต่วันแรกที่ไปเสริมจมูกมาก็เป็นข่าวมาตลอด ทำให้คนรู้จักเราเยอะขึ้น มีงานติดต่อเข้ามามากมาย ก็ประจวบกับที่เราอยู่ในกระแสพอดี
เสริมจมูกมา 1 เดือนแล้ว ช่วงเวลานี้ก็เป็นข่าวทุกวัน ช่วงที่ตัดสินใจไปเสริมจมูก คือช่วงที่เจ้าของค่ายเขายกเลิกงานหนู ก็เลยไม่มีงาน ก็เลยว่าง เลยคิดว่า งั้นก็มีเวลาเสริมจมูก
แต่พอไปเสริมจมูก เขากลับบอกหนูว่า เบี้ยวงานเหรอ ก็เราไม่รู้ว่ามีงาน แล้วเขาก็ไปบอกทางเจ้าภาพว่าหนูเบี้ยวงาน ทั้งที่เขาไม่เคยบอกว่าจะมีงาน หนูอยากทำงานจะตาย จึงทำให้รู้สึกอึดอัดออกมาโพสต์
เจ้าของค่ายเคยบอกว่าจะหาสปอนเซอร์ให้หนูไปเสริมจมูกฟรี และได้เงินด้วย แต่เป็นช่วงที่ผ่านไปนานแล้ว จนถึงช่วงที่มีปัญหาเขาไล่หนูกลับไปอยู่บ้าน หนูเลยไปเสริมจมูกเอง แล้วเขาก็ออกมาพูดว่า จริงๆตอนแรกจะพาไปทำจมูกที่เกาหลี"
เรื่องของความรักเป็นอย่างไรบ้าง
ร้อนฉ่า! เพราะก่อนหน้านี้นายห้างไหทองคำได้ออกมาแฉว่าอามไปมีอะไรกับคนขับรถ ซึ่งอามยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงเลยแม้แต่น้อย
ตอนนี้ยังไม่มีแฟนค่ะ ไม่มีคนมาจีบนะคะ ไม่ได้เหงาอะไร ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่มี อาจเป็นเพราะหนูขี้เหร่
แต่มีคนหนึ่งเคยมาจีบหนู โทร.มาหาตลอด บอกว่าจะไปหานะ เวลาเขาโทร.มาจะให้แม่ ให้พี่คุยเลยนะ ไม่รู้ว่าเอาเบอร์มาจากไหน เราบล็อกเบอร์ ก็เอาเบอร์อื่นโทร.มาอีก แต่จำเสียงได้ ถามเราว่าอยู่ไหน จะไปหา พอเราถามว่าใคร ก็บอกเราว่า อ้าวลืมกันแล้วเหรอ(หัวเราะ)
สำหรับตัวตนที่แท้จริงของเธอนั้น อามบอกว่า เป็นผู้หญิงขาลุย ชอบเล่นกีตาร์ ขับรถจักรยานยนต์เล่นแถวบ้าน บางครั้งก็ไปตกปลา หาอาหารป่ากับพ่อ ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิมทุกอย่าง
เพราะเธอถือคติที่ว่า "อยู่บนเวทีคือศิลปิน อยู่บนดินคือคนธรรมดา ทุกหยาดเหงื่อ เพื่อพ่อแม่"
สัมภาษณ์โดยผู้จัดการ Live
เรื่อง : สวิชญา ชมพูพัชร
ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก อาม ชุติมา (ชุติมา โสดาภักดิ์) และอินสตาแกรม @arm_chutima1999