“มีคนปล่อยงูเข้าบ้าน, ถูกยัดข้อหาค้ากาม, ค้ายาเสพติด ฯลฯ” โดนกลั่นแกล้ง-ป้ายความผิด มาแทบจะครบทุกทาง เพียงแค่คุณป้าวัย 60 กว่าๆ ที่พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน ลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิ์ สู้กับ “ตลาด” ที่สร้างโดยมิชอบ แม้แต่นายตำรวจเองยังถึงกับออกปากว่าผู้ค้า “เส้นใหญ่” ผ่านไปเกือบ 10 ปี ยังทำอะไรไม่ได้ แถมยังหาแนวร่วม เปลี่ยนกฎหมายจากผิดเป็นถูกได้อีก แต่ป้าก็ไม่หวั่น ยังมีหวัง “บิ๊กตู่” คืนความสุขให้หมู่บ้านเสียที!!
“เส้นใหญ่” แค่ไหน? ถึงกับถูกค้นบ้าน!!
[บ้านคุณป้า ซึ่งตั้งอยู่ใน "หมู่บ้านเสรีวิลล่า" หลังที่กำลังเป็นประเด็นร้อนที่สุดขณะนี้]
โดนปล่อยงูเข้าบ้าน, ถูกกดกริ่งหน้าบ้านเล่น, เหมือนถูกปล่อยหนูเข้าบ้าน, ถูกพ่วงไฟในบ้านไปใช้ที่ตลาด, โดนเทน้ำเน่าใส่หน้าบ้าน, ถูกคนในตลาดใช้เลขที่บ้าน แอบอ้างรับต่างด้าวเข้าทำงาน, ถูกยัดข้อหาค้ากาม-ค้ายาเสพติด และถูกตำรวจเข้าค้นบ้านเช่าเพื่อตรวจสอบ ฯลฯ
สารพัดวิธีถูกกลั่นแกล้งที่จับไม่ได้แน่ชัดว่าเป็นฝีมือใคร แต่ก็เพียงพอที่จะตั้งข้อสงสัยบางอย่างไว้ได้ โดยเฉพาะโทรศัพท์ข่มขู่ที่ต่อสายตรงมาถึง “ป้าทุบรถ” หรือ “บุญศรี แสงหยกตระการ” เจ้าของบ้านพักใน “หมู่บ้านเสรีวิลล่า” เขตประเวศ ซึ่งเพิ่งสร้างประเด็นเดือด ใช้ขวานทุบกระจกรถที่มาจอดขวางทางเข้าออกของตัวบ้าน แล้วไปจ่ายตลาดละแวกนั้น จนกลายเป็นประเด็นที่สังคมสนใจมากที่สุดในขณะนี้ พร้อมแฮชแท็ก #ทีมป้า สนับสนุนการต่อต้าน “คนขับมักง่าย” และ “ตลาดที่สร้างผิดกฎหมาย!!?”
[ภาพตั้งแต่เมื่อ 9 ปีก่อน ช่วงที่ได้รับความเดือดร้อนจากตลาดใหม่ๆ]
ย้อนกลับไปเมื่อปี 52 “ทีมข่าวผู้จัดการ” หรือ “แมเนเจอร์ออนไลน์” คือสื่อแรกที่ให้พื้นที่ในการร้องเรียนของคุณป้าบุญศรี เกี่ยวกับกรณีการถูก “ตลาด” รอบแนวรั้วบ้าน “รุกล้ำ” ความเป็นส่วนตัว โดยเหตุการณ์ความขุ่นเคืองทั้งหมดนั้น เริ่มต้นขึ้นเมื่อช่วงต้นเดือน ธ.ค.51 ตลาดนัดขยายตลาด สร้างเต็นท์ชิดรั้วบ้าน ทั้งยังมีคนงานก่อสร้างปีนขึ้นลงใกล้บ้านตลอดเวลา
คุณป้าจึงแจ้งไปยังหน่วยงานเรื่อง “การก่อสร้างผิดพื้นที่” เพราะกฎหมายในการจัดสรรที่ดินบริเวณนั้น อนุญาตให้ทำเป็นบ้านเดี่ยวเท่านั้น ตาม “ใบอนุญาตหมายเลขที่ 70/2526” เมื่อมีตลาดมาสร้างบนพื้นที่ของ “หมู่บ้านเสรีวิลล่า” บริเวณหลังสวนหลวง ร.๙ เขตประเวศ จึงถือเป็นการรุกล้ำที่ดินจัดสรร แต่กลับไม่มีการรื้อเต็นท์ดังกล่าวออกแต่อย่างใด ทั้งยังต่อความสูงมากขึ้นไปอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น จากเต็นท์ที่เคยตั้งเป็นแบบชั่วคราว ก็กลายร่างมาเป็น “เต็นท์ถาวร” ในช่วงกลางคืนอีกต่างหาก
“ถ้าลักษณะนี้ ตลาดเส้นใหญ่แน่” ตำรวจนายหนึ่งได้แต่บอกกับคุณป้าเอาไว้แบบนั้น หลังได้รับการร้องเรียนจากเจ้าทุกข์ และเมื่อดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรดีขึ้น คุณป้าคนเดิมจึงตัดสินใจเข้าร้องต่อผู้อำนวยการเขตประเวศ ซึ่ง “สมชาย ฉัตรสกุลเพ็ญ" ดำรงตำแหน่งอยู่ในขณะนั้น แต่ผลที่ได้กลับตาลปัตร
[ภาพที่ป้าเอามาแสดงให้ดู ตลาดร่มขาวที่กางแน่น เรียงรายรอบรั้วบ้าน]
“ผู้อำนวยการเขตพูดกับเราไว้ว่า ถ้ามีตลาดมาอยู่ติดบ้านพักของเขาแบบนี้ "เป็นบ้านผม ผมรับไม่ได้หรอก" ประโยคนี้ จำได้ขึ้นใจเลยค่ะ แต่หลังจากฟ้องร้องไป ทางตลาดกลับโทร.มาข่มขู่เรา ทั้งทนายของตลาดที่โทร.มา และอิทธิพลของตลาด ทำให้เกิดคำถามว่า ทางตลาดเขาได้เบอร์โทรศัพท์เราไปได้ยังไง ทั้งๆ ที่เราให้เบอร์ของเราแค่เฉพาะกับสำนักงานเขตประเวศ และผู้อำนวยการเขตเท่านั้น
[แผนที่แสดงความอึดอัดที่บ้านคุณป้าต้องเผชิญ เพราะถูกห้อมล้อมไปด้วย ลานจอดรถกับตลาด]
แต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะมีป้ายเขียนไว้ที่บ้านเรา ทั้งเรื่องเลขที่บ้านของเรา ที่ถูกนำออกไปออกทะเบียนบ้านให้คนอื่น พอสอบถามไปแล้ว ก็บอกว่าจำไม่ได้ว่าให้ใครไป และทางตลาดก็นำไปจัดตลาด ไปทำสัญญาเช่า นำบ้านเลขที่เราไปอ้าง ไปว่าจ้างคนงานต่างด้าว” คุณป้าให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกับ “ทีมข่าว ผู้จัดการ Live”
ถามกันตรงๆ ว่าเหยื่อจากความขัดแย้งครั้งนี้ คิดว่าฝั่งตลาดคือ “ตลาดมาเฟีย” หรือ “ตลาดเส้นใหญ่” ซึ่งมี “ผู้มีอิทธิพล” คอยหนุนอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า คุณป้าบุญศรีก็ได้แต่ตอบว่า “ไม่ทราบได้ค่ะ รู้แค่ว่าพอร้องเรื่องตลาดไป หลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์หลายๆ อย่างเกิดขึ้นกับเรา” แล้วจึงค่อยๆ ขยายความให้ฟังผ่านทางคนปลายสาย
[แม้จะมีคำสั่งออกมาแล้ว แต่กลับไม่ได้มีการปรับปรุงเรื่องตลาดแต่อย่างใด ปรับเพียงเรื่องทางเท้าเท่านั้น]
“คือมีการลอบวางเพลิงที่ด้านหลังของบ้าน, มีการเอาเบอร์โทรศัพท์ที่เราเคยให้ไว้ ตอนไปร้องที่สำนักงานเขตประเวศ เอาไปให้คนมาโทร.ขู่คุกคาม มีทนายของตลาดโทร.มาข่มขู่ว่า จะทำให้เสียชื่อเสียง พอพูดเสร็จไม่นานนัก เราก็โดนบัตรสนเท่ที่ออกมาจากทาง กทม. โดยมีผู้ว่าฯ สุขุมพันธุ์ (ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ขณะนั้น) เป็นคนเซ็นว่า ที่บ้านเช่าของเรามีการค้าผง ค้าผู้หญิงข้ามชาติ
หลังจากนั้นก็โดนตรวจค้นบ้านเช่าแถวสุขุมวิท รวมถึงพยายามมาตรวจค้นบ้านของเรา (“หมู่บ้านเสรีวิลล่า") ที่อยู่อาศัยด้วย แต่เราไม่อนุญาต เพราะเราไม่ทราบว่ามันคืออะไร การเข้ามากล่าวหาอย่างนี้มันไม่ถูกต้อง เพราะไม่มีชื่อผู้ร้อง ไม่มีชื่อผู้กล่าวหา แล้วอยู่ดีๆ จะมาตรวจค้นบ้านเราได้ยังไง มันไม่ใช่เลย”
[คุณป้าบุญศรี แถลงข่าวชี้แจงความจริงหน้าบ้าน พร้อมคุณป้าอีก 1 คนที่อยู่บ้านเดียวกัน]
สอดคล้องกับเหตุการณ์ที่คุณป้าเคยบอกเล่ากับเราเอาไว้ตั้งแต่เมื่อ 8 ปีก่อน ซึ่งเล่าด้วยอาการหวาดระแวง ต้องการที่พึ่งเอาไว้ว่า ถูกตรวจค้นจาก “เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ทราบสังกัด” อยู่บ่อยครั้ง “คนเช่าก็มาบ่นกับเรา พอเขารู้ความเขาก็ตกใจ ไม่นึกว่าเมืองไทยจะแย่ขนาดนี้ ที่ปล่อยให้มีการกลั่นแกล้งประชาชน เขาก็เข้าใจและให้กำลังใจเราให้สู้เพื่อความถูกต้อง ตำรวจค้นละเอียดมาก แต่ไม่เจออะไรเลย”
แก้กฎหมายกันง่ายๆ? “ตลาดสร้างผิด” กลายเป็นถูก!!
[ไม่ใช่แค่บ้านของคุณป้า เจ้าของประเด็น ที่ออกมาคัดค้าน แต่ค้านทั้งหมู่บ้าน]
ในเมื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม แล้วดูเหมือนจะไม่ได้รับความเป็นธรรม คุณป้าจึงตัดสินใจ “ฟ้องร้อง” เสียเลย โดยบุคคลที่เธอต้องการให้ชดใช้ความผิดเรื่องการรุกล้ำของตลาด มีทั้งหมด 4 ฝ่ายหลักๆ ด้วยกัน คือ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (“ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร” ซึ่งดำรงตำแหน่งขณะนั้น), กรุงเทพมหานคร, ผู้อำนวยการเขตประเวศ (“สมชาย ฉัตรสกุลเพ็ญ” ซึ่งดำรงตำแหน่งขณะนั้น) และสำนักงานเขตประเวศ
“จากที่ฟ้องผู้ว่าฯ กทม. เพราะไปออกอนุญาตให้ก่อสร้างตลาด ออกมาทั้งหมด 7 ตลาด และยังละเลยให้มีการทำตลาดเพิ่มอีก 3 ตลาด รวมเป็น 10 ตลาดอยู่เต็มหมู่บ้านนี้ และตลาดก็อยู่ติดๆ กันเลย
1.ตลาดซ้าย คือ "ตลาดสวนหลวง1" 2.ตลาดขวามือของบ้าน คือ "ตลาดเปิ้ลมาร์เกต" 3.ตลาดที่อยู่ถัดไปคือ "ตลาดยิ่งนรา" 4.อยู่ถัดไปอีกคือ "ตลาดรุ่งวาณิชย์"
แล้วก็ยังมี 5.ที่เพิ่งงอกมาใหม่คือ ตลาดร่มขาว 6.ฝั่งตรงข้าม เยื้องไปหน่อยคือ "ตลาดมะขามร่มรื่น" 7.ถัดไปอีกคือ ตลาดร่มเหลือง ซึ่งมีพื้นที่กว่า 3 ไร่ และล่าสุด ยังมีการเอาบ้านมาดัดแปลงเป็นซูเปอร์มาร์เกตด้วย
[โชว์ภาพให้เห็นว่า มีรถที่มาจอดขวางทางเข้าออกบ้าน นับครั้งไม่ถ้วน]
ล่าสุด ป้าได้ทำจดหมายไปยังประธาน คสช.แล้วว่า ช่วยเข้ามาดูหน่อยว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมหมู่บ้านนี้กลายเป็น “ดงตลาด” และขอความกรุณาประชาชนด้วยว่า กรุณาอย่ามาสนับสนุนตลาดแบบนี้เลย มันละเมิดประชาชน มันบุกรุกพื้นที่ เดือดร้อนค่ะ หมู่บ้านนี้ 289 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อนจากการทำตลาด ไม่ใช่บ้านเลขที่ 37/208 เดือดร้อนแค่บ้านเดียว
ปัญหามันยิ่งมากขึ้น เพราะมีการออกใบอนุญาตให้ก่อสร้างตลาดได้อย่างถูกต้อง ขณะที่คดีอยู่ในการดำเนินการของศาล ก็มีการไปแก้กฎหมายฉบับหนึ่ง แก้ตามนายทุนที่เรียกร้อง คือไปแก้ข้อบัญญัติกรุงเทพฯ ปี 2532 อนุญาตให้ก่อสร้างอาคารสูงในพื้นที่จัดสรรที่ดินที่อยู่อาศัยได้ รวมอาคารพาณิชย์ในพื้นที่เคยมีข้อห้าม
[ตลาดบริเวณรอบรั้วของบ้าน]
เปลี่ยนไปจากเดิม ที่จะอาศัย "พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร" มาใช้ควบคุมพื้นที่โดยรอบสวนหลวง ร.๙ "ไม่ให้สร้างอาคารสูงเกิน 15 เมตร" สาเหตุที่ไม่ให้สร้างสูงเกินนั้น ก็เพื่อไม่ให้อาคารต่างๆ ไปสร้างบดบัง "หอรัชมงคล" ซึ่งสร้างเพื่อถวายให้กับรัชกาลที่ ๙ แต่ต่อมาก็มีการแก้กฎหมายตัวนี้ และอนุญาตให้สร้างอาคารสูงบริเวณนั้นได้ ทำให้อาคารที่เคยทำผิดกฎหมาย สร้างสูงกว่าที่กำหนด กลายเป็นทำถูกกฎหมายไปโดยปริยาย
การแก้กฎหมายครั้งนั้น เกิดขึ้นในสมัยที่ผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ คือคุณมาร์เกต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมกันแก้อย่าง "สภา กทม." ด้วย เราก็ได้ทำเรื่องคัดค้านไปยังประธานสภา กทม.ด้วย แต่เขาก็ยังฝ่าฝืน โดยไปแก้กฎหมายข้อบัญญัติในปี 59
และหลังจากแก้กฎหมายตัวนี้ไป ก็เป็นการสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนเป็นอย่างมาก รวมถึงทางเข้าที่ถูกบิดเบือนว่าให้คนเข้ามา ทั้งๆ ที่ประตูทางเข้าของสวนหลวง ร.๙ จริงๆ อยู่อีกฝั่งหนึ่ง ส่วนฝั่งที่ติดหมู่บ้าน ก็เป็นพื้นที่สำหรับคนในหมู่บ้าน ทั้งยังบิดเบือนให้ถนนของหมู่บ้าน กลายเป็นถนนสาธารณะอีก ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เขาไปแก้กฎหมายนั่นแหละ
[ภาพในอดีต แสดงผลกระทบจากตลาด ที่มีมาแต่ไหนแต่ไร]
มีการไปลาดยางมะตอยทับถนนของหมู่บ้าน ซึ่งเดิมเป็นพื้นคอนกรีตผิวเรียบ มีความสวยงามมาก และเป็นสาธารณูปโภคของคนในหมู่บ้าน ให้กลายเป็นถนนลาดยาง ซึ่งปัจจุบันก็มีรอยแตกเสียหาย ทั้งยังทำให้เกิดการจอดรถผิดกฎหมายอีก สร้างอิทธิพลจอดขวางทางเข้าออก ไม่ให้ประชาชนที่อยู่อาศัยสามารถเข้าออกอย่างสะดวก
ดังนั้น ฝากถึงเจ้าของตลาด ด้วยจิตสำนึกที่ดี เมื่อทราบแล้วว่ามันไม่ถูกไม่ควร กรุณาย้ายออกไปด้วยนะคะ ถึงจะฝ่าฝืนมันก็ไม่เป็นสิ่งที่ดี ใจเขาใจเราก็นึกด้วยว่าไม่ใช่ว่าทุกที่จะทำได้
[คุณป้าจะไม่ยอมถอย ถ้าเรื่องนี้ไม่ถึงที่สุด!!]
ส่วนฝ่ายอำนาจมืด ป้าก็อยากจะฝากบอกว่า เมื่อคุณยังเป็นคนไทย นับถือศาสนาพุทธ สิ่งใดที่รู้ว่าไม่ถูก คุณอย่าฝืน เพราะมันสร้างความเดือดร้อน และลูกหลานของคุณ ตัวคุณ ก็จะต้องเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ด้วยเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ขอให้คืนพื้นที่ค่ะ เพราะเราไม่ได้เรียกร้องเกินเหตุ ดังนั้น ขอให้คืนพื้นที่ให้ผู้อยู่อาศัย คืนความสงบสุขให้ประชาชน”
ข่าวโดย ผู้จัดการ Live
ขอบคุณภาพบางส่วน: แฟนเพจ "Drama-addict" และ "แหม่มโพธิ์ดำ"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง (คลิก)
- "ป้าทุบรถ" ชี้แจง ตลาดทำลายความสงบ "รถจอดขวางประตู" เดือดร้อนทุกวัน
- ย้อนตำนาน 9 ปีก่อน “ตลาดนัดสวนหลวง ร.9” คุกคามชาวบ้าน ก่อนจะมาเป็น “ป้าทุบรถ” ในวันนี้
- ผอ.ประเวศ อ้างหมู่บ้าน “ป้าทุบรถ” สร้างตลาดได้เพราะเป็นที่ดินเปล่า
- สรุป 15 ประเด็นจากปากคำ “ป้าทุบรถ” สุดทนจึงต้องแฉ!
- เผยตัวละครเจ้าของตลาด “ป้าทุบรถ” พบนามสกุลดัง - สุดแสบแอบอ้างเลขที่บ้านรับคนต่างด้าว
- มาแล้ว! เผยคำพูดสาวเจ้าของกระบะขาว “ไม่ได้อ่านป้ายหมายศาล คิดว่าเป็นบ้านที่ไม่มีคนอยู่”
- ตลาดรุ่งอรุณ...คำชี้แจงจาก ผอ.เขตประเวศ
- ศป.สั่ง กทม.ปิดตลาดนัดรุ่งอรุณ ร.9 เหตุชาวบ้านเดือดร้อน