MGR Online - สืบค้นตัวละครเจ้าของตลาดรอบบ้านตระกูล “แสงหยกตระการ” พบผู้ค้าบางคนนำเลขที่บ้านไปแอบอ้างรับคนงานต่างด้าว แถมเจ้าของตลาดบางคนเป็นถึงนามสกุลดัง
จากกรณีที่หญิงวัยกลางคน 2 คน ทราบชื่อคือ น.ส.รัตนฉัตร แสงหยกตระการ อายุ 61 ปี และ น.ส.ราณี แสงหยกตระการ อายุ 57 ปี ใช้ขวานและเหล็กยาวทุบทำลายรถยนต์กระบะนิสสัน นาวาร่า สีขาว ทะเบียน ฎค 9297 กรุงเทพมหานคร ของ น.ส.รชนิกร เลิศวาสนา อายุ 37 ปี ที่จอดขวางบริเวณประตูทางออกหน้าบ้านหรูหลังหนึ่ง ในซอยหมู่บ้านเสรีวิลล่า แยก 2 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ จนกระจกข้างรถด้านซ้ายหลังแตก ฝากระโปรง และกันชนรถได้รับความเสียหาย ซึ่งในโซเชียลมีเดียได้แชร์คลิปดังกล่าวอย่างกว้างขวางนั้น
ก่อนหน้านี้ น.ส.บุญศรี พร้อมพวกรวม 4 คน ยื่นฟ้องผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการเขตประเวศ สำนักงานเขตประเวศ และ กรุงเทพมหานคร ต่อศาลปกครอง ว่า ร่วมกันดำเนินการโดยไม่ชอบด้วย พ.ร.บ. การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และละเลยต่อหน้าที่ ปล่อยให้มีการดำเนินกิจการตลาดนัดข้างบ้านของตนจนสร้างเดือดร้อนรำคาญ จนไม่สามารถอยู่ได้อย่างปกติสุข เสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จึงขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองระงับการดำเนินกิจการตลาดนัดดังกล่าวไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมีคำพิพากษา
โดยพบว่า นางจิดาภา ลิมป์ธรรมเลิศ หรือ นางจิดาภา แซ่ลิ้ม เจ้าของตลาดนัดรุ่งอรุณ และ นายมงคล พุ่มผกา เจ้าของตลาดนัดไม่มีชื่อ ซึ่งตั้งอยู่ในที่ดินเปล่าข้างบ้านเลขที่ 37/208 ซอยหมู่บ้านเสรีวิลล่า ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. ของ น.ส.บุญศรี ก่อเหตุเดือดร้อนรำคาญที่เกิดจากการจัดตั้งตลาด
ต่อมาวันที่ 18 พฤศจิกายน 2553 ศาลปกครอง โดย นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุด ในฐานะตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุดและคณะ ได้มีคำสั่งคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราว โดยให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการเขตประเวศ ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ. การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และ พ.ร.บ. อื่นที่เกี่ยวข้อง ไม่ให้ นางจิดาภา และ นายมงคล เจ้าของตลาดนัดไม่มีชื่อ ก่อเหตุเดือดร้อนรำคาญที่เกิดจากการจัดตั้งตลาดไว้เป็นการชั่วคราวก่อนการพิพากษา หรือจนกว่าศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
ถึงกระนั้น ตลาดนัดรุ่งอรุณของนางจิดาภา และตลาดนัดไม่มีชื่อของนายมงคล ยังคงเปิดกิจการตามปกติ
ต่อมาในปี พ.ศ. 2555 น.ส.บุญศรี ร้องเรียนต่อ คณะกรรมาธิการการปกครองส่วนท้องถิ่น สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายปวีณ แซ่จึง เป็นประธาน ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีออกใบอนุญาตก่อสร้างตลาดจำนวนมากในเวลาเดียวกันและเพิกเฉยให้มีการตั้งตลาดขนาดใหญ่ในหมู่บ้านเสรีวิลล่า
การประชุมครั้งที่ 10 วันพุธที่ 25 ม.ค. 2555 ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องร้องเรียน กรณีการนำเลขที่บ้านของ น.ส.บุญศรี ขณะที่ยังไม่ออกเล่มทะเบียนบ้านทำเป็นเลขที่ตลาดและผู้จัดการตลาดนำไปทำสัญญาเช่ารวมทั้งถูกนำไปแอบอ้างรับคนงานต่างด้าว พบว่า ผู้ค้าในตลาดไม่มีผู้ใดนำเลขที่บ้านของ น.ส.บุญศรี ไปทำเป็นเลขที่ตลาดและทำสัญญาเช่ากับผู้ค้าในตลาด
แต่กรณีนำบ้านเลขที่ไปแอบอ้างรับคนงานต่างด้าว ตรวจสอบกับสำนักจัดหางานกรุงเทพมหานคร เขตพื้นที่ 8 พบว่า น.ส.สร้อยทอง โหมดเสน นำไปแอบอ้างรับคนงานต่างด้าว จึงได้ยกเลิกหนังสืออนุญาตการจ้างแรงงานต่างด้าวรวมทั้งได้ลบข้อมูลจากฐานข้อมูลโปรแกรมแรงงานต่างด้าวเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ ศาลจังหวัดพระโขนงพิพากษาให้ นายเกียรติรัตน์ สุวรรณวัฒนาสุข ปรับ 5,000 บาท ฐานจัดตั้งตลาดโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และกำลังดำเนินคดีกับ นายสมชัย ชัยรัตนกมล, นายวัชรานนท์ พยัคนันท์ และ นายสุจินต์ กัณฑ์ชู ข้อหาเปิดใช้อาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต
การประชุมครั้งที่ 15 วันพฤหัสบดีที่ 8 มี.ค. 2555 กรณีที่ยังไม่ออกเล่มทะเบียนบ้าน แต่ถูกแอบอ้างนำไปเป็นเลขที่ตลาด และนำไปทำสัญญาให้ผู้ค้าเช่าแผง รวมทั้งถูกนำไปรับคนงานต่างด้าว ไม่ปรากฏหลักฐานที่จะพิสูจน์ได้ว่าเจ้าหน้าที่ของฝ่ายทะเบียน สำนักงานเขตประเวศ มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็น
กรณีการดำเนินคดีตาม พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 กับ นายสุรกิจ นามวรกานต์, นายสมชัย ชัยรัตนะกมล, นายธเนตร รุจิราวาณิชย์, นางสาวพัชรี เจียรวนนท์ และ นายเกียรติรัตน์ สุวรรณวัฒนาสุข ฐานใช้อาคารเพื่อจัดตั้งตลาดไปก่อนได้รับใบรับรองการก่อสร้างอาคาร ยังไม่ทราบผลคดี ส่วนการดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ. 2535 ฐานจัดตั้งตลาดโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ศาลจังหวัดพระโขนงพิพากษาลงโทษแล้ว
การประชุมครั้งที่ 19 วันพฤหัสบดีที่ 17 พ.ค. 2555 ประเด็นเรื่องของการออกเลขที่บ้านให้กับผู้ร้อง สำนักงานเขตประเวศได้มีหนังสือที่ กท ๗๓๐๒/๒๔๗๐ ลงวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๕ แจ้งผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเลขที่บ้าน
กรณีอาคารประกอบกิจการตลาด ได้มีการติดตามผลการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยอาคารและ พ.ร.บ. สาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ กับผู้ประกอบกิจการตลาด ส่วนกรณีมีผู้ค้าในที่สาธารณะ คณะกรรมการฯ พิจารณาแล้วมีมติให้สำนักงานเขตประเวศ ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ค้าทราบว่ามีการกระทำผิดก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และเร่งรัดให้ดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการเสนอเป็นจุดผ่อนผัน
กรณีที่โครงการหมู่บ้านเสรีวิลล่า ได้มีการจัดตั้งตลาดขนาดใหญ่ขึ้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ดำเนินการตรวจสอบสถานภาพของบริษัท สุวิทย์เสรี จำกัด ปรากฏว่าได้เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท LPCB บริษัทฯ นี้ถูกศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2550
การประชุมครั้งที่ 31 วันพุธที่ 7 พ.ย. 2555 สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคได้ตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยปัญหาโครงการหมู่บ้านเสรีวิลล่า ส่วนกรณีผู้ก่อสร้างตลาดเป็นบุคคลภายนอกได้ซื้อที่ดินต่อจากเจ้าของโครงการ กรณีนี้บุคคลภายนอกสามารถกระทำได้ แต่การจะก่อสร้างอาคาร ประกอบกิจการใดๆ ได้หรือไม่นั้น กรุงเทพมหานคร และสำนักงานเขตเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณาอนุญาต ซึ่งหน่วยงานดังกล่าวควรพิจารณาถึงความเหมาะสมและความถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของพื้นที่ด้วย
การประชุมครั้งที่ 54 วันพุธที่ 21 พ.ค. 2556 กรณีการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยอาคาร สำนักงานเขตประเวศ ได้ดำเนินคดีกับเจ้าของตลาดทั้ง 5 รายไปแล้ว ฐานใช้อาคารเพื่อจัดตั้งตลาดไปก่อนได้รับใบรับรองก่อสร้างอาคาร (แบบ อ.๖) มีความผิดตามมาตรา 32 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ซึ่งศาลจังหวัดพระโขนงได้พิพากษาคดีลงโทษจำเลยไปแล้ว 4 ราย เหลือ 1 ราย อยู่ระหว่างการดำเนินการของพนักงานสอบสวน
ส่วนการดำเนินการตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ. 2535 ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับเจ้าของตลาดไปแล้ว แต่เนื่องจากพบว่าเจ้าของตลาดยังฝ่าฝืนจัดตั้งตลาดโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นอยู่ สำนักงานเขตประเวศจึงได้ดำเนินคดีกับเจ้าของตลาดทั้ง 5 ราย อย่างต่อเนื่อง
ศาลปกครองกลางได้พิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 (ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร) ดำเนินการตามมาตรา 40 และมาตรา 42 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 กับอาคารตลาดที่ได้ออกใบรับหนังสือแจ้งความประสงค์จะก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอนหรือเคลื่อนย้ายอาคาร หรือเปลี่ยนการใช้อาคาร โดยไม่ยื่นคำขอรับใบอนุญาตตามมาตรา 39 ทวิ และให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 (ผู้อำนวยการเขตประเวศ) ดำเนินการตามมาตรา 47 แห่ง พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ. 2535 และมาตรา 44 แห่ง พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 กับผู้ที่ได้รับหนังสือแจ้งความประสงค์จะก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอนหรือเคลื่อนย้ายอาคาร หรือเปลี่ยนการใช้อาคาร โดยไม่ยื่นคำขอรับใบอนุญาตตามมาตรา 39 ทวิ ซึ่งสำนักงานคดีปกครอง สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ยื่นอุทธรณ์คดีนี้ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้อำนวยการเขตประเวศแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล
กรณีเรื่องการดูแลรักษาความสะอาด สำนักงานเขตประเวศได้ทำความสะอาดที่สาธารณะบริเวณซอยศรีนครินทร์ 55 เป็นประจำทุกสัปดาห์ ส่วนกรณีผู้ค้าในที่สาธารณะ สำนักงานเขตประเวศได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทศกิจดำเนินการสอดส่องและกวดขันเพื่อไม่ให้มีการฝ่าฝืนในการค้าขายหรือจำหน่ายสินค้าในที่สาธารณะ และได้ดำเนินการตาม พ.ร.บ. รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 อย่างต่อเนื่อง
สำนักงานเขตประเวศได้จัดทำแผนการดำเนินการกับผู้ค้าที่จำหน่ายสินค้าในที่หรือทางสาธารณะ ซอยศรีนครินทร์ 55 หน้าสวนหลวง ร.9 ฝั่งประตู 5 (มณฑารพ) แขวงหนองบอน เขตประเวศ โดยได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่พฤษภาคม – กันยายน 2556 เมื่อผู้แทนจากส านักงานเขตประเวศได้ชี้แจงแล้ว ที่ประชุมมีมติให้สำนักงานเขตประเวศรายงานผลความคืบหน้าการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวต่อคณะกรรมาธิการเป็นประจำทุก 2 เดือน
ปัจจุบัน คณะกรรมาธิการการปกครองส่วนท้องถิ่น สภาผู้แทนราษฎร พ้นวาระเนื่องจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าควบคุมอำนาจการปกครองเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557
สรุปผลการดำเนินงาน คณะกรรมาธิการการปกครองส่วนท้องถิ่น ชุดที่ 24