มูลนิธิสิริวัฒนภักดี โดย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จัดโครงการ “แคมป์ผู้ประกอบการรุ่นเล็ก..เด็กหัวการค้า” ปี4 สานฝันเยาวชน ให้กลายเป็นนักธุรกิจหน้าใหม่ที่มีคุณภาพ มีความรู้ พัฒนาทักษ
โดยจัดกิจกรรมเข้าแคมป์ 3 วัน 2 คืน ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เพื่อเรียนรู้การเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพแก่นักเรียน อีกทั้งให้เกิดแนวคิดสร้างสรรค์ทางธุรกิจที่แตกต่างและสร้างพื้นฐานของการมุ่งสู่ความฝันในการเป็นผู้ประกอบการในอนาคต รวมถึงได้กลุ่ม YEC (Young Entrepreneur Chamber of Commerce) มาเป็นโค้ชให้คำแนะนำการทำแผนธุรกิจให้กับนักเรียนอีกด้วย และยังได้รับการแบ่งปันประสบการณ์จากนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากมาย อาทิ คุณอิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ เจ้าของธุรกิจสาหร่ายเถ้าแก่น้อย คุณรุ่งรัตน์ บุญรัตน์ เจ้าของธุรกิจมาลี สามพราน และคุณเพชร พะเนียงเวทย์ เจ้าของธุรกิจมาม่า
บรรยากาศในงานเป็นไปอย่าง สนุกสนาน น้องๆ แต่ละกลุ่มตั้งใจคิดแผนธุรกิจกันอย่างขมักเขม้น โดยบางธุรกิจไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นความคิดของเยาวชน ตัวอย่างเช่น ธุรกิจการเกษตร โดยใช้โดรนพ่นยา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และ ลดค่าใช้จ่าย แรงงานลง อีกทั้ง ยังมีธุรกิจเช่าสัตว์เลี้ยงขึ้นมาเพื่อทดลองเลี้ยงสัตว์ที่เราอยากเลี้ยงว่าเหมาะกับตัวเราหรือไม่ ก่อนจะเลี้ยงจริง และยังมีธุรกิจอีกหลายธุรกิจที่น้องๆ คิดออกมาที่สามารถทำได้จริงในอนาคตเราอาจจะเห็นน้องๆ เหล่านี้ประสบความสำเร็จในภายภาคหน้า
คุณกมลนัย ชัยเฉนียน ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)แก้ไขคำบรรยายภาพ
กมลนัย ชัยเฉนียน ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เผยว่า “การจัดแคมป์ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือที่ทางมูลนิธิได้ร่วมกับทางมหาวิทยาลัยหอการค้ามาเป็นระยะเวลา 4 ปีแล้ว ที่จะสนับสนุนโครงการของมหาวิทยาลัยในการคัดเลือกนักศึกษามาเข้าร่วมเป็นนักเรียนและเป็นการสร้างความรู้เป็นการฝึกให้นักเรียนนักศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่ 4-6 ได้เข้าใจถึงการจะเป็นผู้ประกอบการ โดยปีนี้รับสมัครนักเรียนจากทั่วประเทศมากกว่า 200 คน
ในแคมป์นี้นอกจากการมีการสอนแล้วยังมีการให้ความรู้แล้วจะมีการจัดเวิร์คช็อปต่างๆ ซึ่งจะทำให้นักศึกษาที่ได้เข้ามาได้เรียนรู้ได้นำเสนอแผนธุรกิจจริง ผมคิดว่าการทำแคมป์เป็นกิจกรรมที่ดี การที่นักเรียนต่างๆ ได้มาร่วมกิจกรรม จะเป็นการสร้างเด็กที่มีคุณภาพ เด็กที่มีความใฝ่รู้ในด้านการค้า เด็กเหล่านี้ถ้าได้เข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยแล้วก็จะออกไปเป็นผู้ประกอบการ เป็นอนาคตของประเทศชาติต่อไป”
น้องสายป่าน พิมพ์ชนก ยิสารคุณ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒปทุมวัน กลุ่ม Take Me Home ได้รับรางวัลชนะเลิศ เผยว่า “เป็น 3 วัน ที่คุ้มค่ามาก รู้สึกตื่นเต้นและได้พัฒนาวิธีคิดมุมมองในการทำธุรกิจ ไม่ได้หวังว่าจะได้รางวัลชนะเลิศ ตอนที่คุยโปรเจครอบแรกเรามีปัญหาที่ไม่ตรงกัน เราเลยคิดว่าเราจะตั้งเป้าหมายให้ตรงกันเพื่อความสามัคคีของกลุ่ม ที่กลุ่มของเราเลือกที่ทำธุรกิจให้ลูกค้าเช่าสุนัข เพื่อทดลองเลี้ยงก่อนเลี้ยงจริง เพราะว่าในปัจจุบันคนอยากเลี้ยงสัตว์ค่อยข้างเยอะแต่การเลี้ยงมันไม่ใช่แค่เรื่องเล็กๆ แต่มันเป็นภาระที่ผูกพันระยะยาว ถ้ามีการทดลองเลี้ยงดูก่อน คนเลี้ยงน่าจะรู้ว่ามันเหมาะสมกับผู้เลี้ยงหรือไม่ และธุรกิจนี้ยังช่วยลดปัญหาสุนักจรจัดและการทารุณกรรมสัตว์ที่เป็นปัญหาของสังคมไทยอีก อยากเชิญชวนน้องๆ รุ่นต่อไปให้ลองสมัครมาแคมป์นี้ค่ะ เพราะว่าสิ่งที่ได้จากแคมป์นี้นั้นไม่ใช่แค่ความรู้ แต่ยังได้ประสบการณ์ และมิตรภาพมากมายเลยค่ะ”
น้องรวงข้าว ณัฐชยาพร ฝ้ายขาว นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน กลุ่มYadee ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เผยว่า “หนูรู้สึกภูมิใจและคิดว่าตัวเองทำเต็มที่แล้วค่ะกับผลงานและโปรเจ็คในครั้งนี้ ที่คิดทำธุรกิจขายยาผ่านแอปพลิเคชั่น เพราะเราเล็งเห็นปัญหาของยา เรามองไปที่กลุ่มเป้าหมายคือผู้หญิงที่อยู่คนเดียว ถ้าในตอนกลางคืนเราไม่อยากออกมาเราป่วยและไม่อยากไปไหนอยู่แล้ว เราเลยคิดแอปพลิเคชั่นนี้ขึ้นมา คนบางคนไม่รู้ถึงการใช้ยาโดยแท้จริง ก็ต้องปรึกษาเภสัช ซึ่งในกรุงเทพบางเขตไม่ได้มีร้านยาเปิดตลอด 24 ชม. ซึ่งอาจจะเกิดเหตุฉุกเฉินเมื่อไหร่ก็ได้ เราจึงคิดแอปพลิเคชั่น ตัวนี้ขึ้นมาซึ่งมันรองรับการใช้งาน 24 ซม. ให้คำปรึกษาจากเภสัชและจัดส่งยาให้ลูกค้าด้วยค่ะ ที่หนูมาแคมป์นี้เพราะคิดว่ามันน่าสนใจก็เลยลองสมัครดู และในส่วนของแคมป์เด็กหัวการค้าปีที่4 จัดทำเพื่อให้ความรู้ด้านธุรกิจหรือการทำสตาร์ทอัพ ซึ่งคนที่ไม่มีความรู้อะไรเลย ไม่ว่าจะการตลาดการคิดว่าเราจะธุรกิจอะไรดีมาทีนี้เขามีการสร้างไอเดีย หาในสิ่งที่เราชอบ และสอนเราให้เราทำไปในทางที่ถูกต้องจนทำให้เกิดเป็นธุรกิจได้ อยากชวนให้น้องๆ มาหาประสบการณ์จากตรงนี้ดู เพราะว่ามันเป็นประสบการณ์ชีวิตครั้งหนึ่งควรมาค่ะ”
การทำธุรกิจของเยาวชนในปัจจุบันต้องมีความตั้งใจ มุ่งมั่น อดทน ถึงจะสามารถเป็นเจ้าของธุรกิจได้ ต่อให้ล้มเหลวก็อย่าไปย่อท้อ เพราะเราสามารถจะเก็บสิ่งเหล่านั้นมาเป็นประสบการณ์ และเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ “ล้มแล้วลุกเราอาจจะได้แผล แต่ถ้าเราล้มแล้วยอมแพ้เราอาจจะไม่ได้อะไรเลย”
โดยจัดกิจกรรมเข้าแคมป์ 3 วัน 2 คืน ที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เพื่อเรียนรู้การเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพแก่นักเรียน อีกทั้งให้เกิดแนวคิดสร้างสรรค์ทางธุรกิจที่แตกต่างและสร้างพื้นฐานของการมุ่งสู่ความฝันในการเป็นผู้ประกอบการในอนาคต รวมถึงได้กลุ่ม YEC (Young Entrepreneur Chamber of Commerce) มาเป็นโค้ชให้คำแนะนำการทำแผนธุรกิจให้กับนักเรียนอีกด้วย และยังได้รับการแบ่งปันประสบการณ์จากนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากมาย อาทิ คุณอิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ เจ้าของธุรกิจสาหร่ายเถ้าแก่น้อย คุณรุ่งรัตน์ บุญรัตน์ เจ้าของธุรกิจมาลี สามพราน และคุณเพชร พะเนียงเวทย์ เจ้าของธุรกิจมาม่า
บรรยากาศในงานเป็นไปอย่าง สนุกสนาน น้องๆ แต่ละกลุ่มตั้งใจคิดแผนธุรกิจกันอย่างขมักเขม้น โดยบางธุรกิจไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นความคิดของเยาวชน ตัวอย่างเช่น ธุรกิจการเกษตร โดยใช้โดรนพ่นยา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และ ลดค่าใช้จ่าย แรงงานลง อีกทั้ง ยังมีธุรกิจเช่าสัตว์เลี้ยงขึ้นมาเพื่อทดลองเลี้ยงสัตว์ที่เราอยากเลี้ยงว่าเหมาะกับตัวเราหรือไม่ ก่อนจะเลี้ยงจริง และยังมีธุรกิจอีกหลายธุรกิจที่น้องๆ คิดออกมาที่สามารถทำได้จริงในอนาคตเราอาจจะเห็นน้องๆ เหล่านี้ประสบความสำเร็จในภายภาคหน้า
คุณกมลนัย ชัยเฉนียน ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)แก้ไขคำบรรยายภาพ
กมลนัย ชัยเฉนียน ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เผยว่า “การจัดแคมป์ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือที่ทางมูลนิธิได้ร่วมกับทางมหาวิทยาลัยหอการค้ามาเป็นระยะเวลา 4 ปีแล้ว ที่จะสนับสนุนโครงการของมหาวิทยาลัยในการคัดเลือกนักศึกษามาเข้าร่วมเป็นนักเรียนและเป็นการสร้างความรู้เป็นการฝึกให้นักเรียนนักศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่ 4-6 ได้เข้าใจถึงการจะเป็นผู้ประกอบการ โดยปีนี้รับสมัครนักเรียนจากทั่วประเทศมากกว่า 200 คน
ในแคมป์นี้นอกจากการมีการสอนแล้วยังมีการให้ความรู้แล้วจะมีการจัดเวิร์คช็อปต่างๆ ซึ่งจะทำให้นักศึกษาที่ได้เข้ามาได้เรียนรู้ได้นำเสนอแผนธุรกิจจริง ผมคิดว่าการทำแคมป์เป็นกิจกรรมที่ดี การที่นักเรียนต่างๆ ได้มาร่วมกิจกรรม จะเป็นการสร้างเด็กที่มีคุณภาพ เด็กที่มีความใฝ่รู้ในด้านการค้า เด็กเหล่านี้ถ้าได้เข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยแล้วก็จะออกไปเป็นผู้ประกอบการ เป็นอนาคตของประเทศชาติต่อไป”
น้องสายป่าน พิมพ์ชนก ยิสารคุณ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒปทุมวัน กลุ่ม Take Me Home ได้รับรางวัลชนะเลิศ เผยว่า “เป็น 3 วัน ที่คุ้มค่ามาก รู้สึกตื่นเต้นและได้พัฒนาวิธีคิดมุมมองในการทำธุรกิจ ไม่ได้หวังว่าจะได้รางวัลชนะเลิศ ตอนที่คุยโปรเจครอบแรกเรามีปัญหาที่ไม่ตรงกัน เราเลยคิดว่าเราจะตั้งเป้าหมายให้ตรงกันเพื่อความสามัคคีของกลุ่ม ที่กลุ่มของเราเลือกที่ทำธุรกิจให้ลูกค้าเช่าสุนัข เพื่อทดลองเลี้ยงก่อนเลี้ยงจริง เพราะว่าในปัจจุบันคนอยากเลี้ยงสัตว์ค่อยข้างเยอะแต่การเลี้ยงมันไม่ใช่แค่เรื่องเล็กๆ แต่มันเป็นภาระที่ผูกพันระยะยาว ถ้ามีการทดลองเลี้ยงดูก่อน คนเลี้ยงน่าจะรู้ว่ามันเหมาะสมกับผู้เลี้ยงหรือไม่ และธุรกิจนี้ยังช่วยลดปัญหาสุนักจรจัดและการทารุณกรรมสัตว์ที่เป็นปัญหาของสังคมไทยอีก อยากเชิญชวนน้องๆ รุ่นต่อไปให้ลองสมัครมาแคมป์นี้ค่ะ เพราะว่าสิ่งที่ได้จากแคมป์นี้นั้นไม่ใช่แค่ความรู้ แต่ยังได้ประสบการณ์ และมิตรภาพมากมายเลยค่ะ”
น้องรวงข้าว ณัฐชยาพร ฝ้ายขาว นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน กลุ่มYadee ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เผยว่า “หนูรู้สึกภูมิใจและคิดว่าตัวเองทำเต็มที่แล้วค่ะกับผลงานและโปรเจ็คในครั้งนี้ ที่คิดทำธุรกิจขายยาผ่านแอปพลิเคชั่น เพราะเราเล็งเห็นปัญหาของยา เรามองไปที่กลุ่มเป้าหมายคือผู้หญิงที่อยู่คนเดียว ถ้าในตอนกลางคืนเราไม่อยากออกมาเราป่วยและไม่อยากไปไหนอยู่แล้ว เราเลยคิดแอปพลิเคชั่นนี้ขึ้นมา คนบางคนไม่รู้ถึงการใช้ยาโดยแท้จริง ก็ต้องปรึกษาเภสัช ซึ่งในกรุงเทพบางเขตไม่ได้มีร้านยาเปิดตลอด 24 ชม. ซึ่งอาจจะเกิดเหตุฉุกเฉินเมื่อไหร่ก็ได้ เราจึงคิดแอปพลิเคชั่น ตัวนี้ขึ้นมาซึ่งมันรองรับการใช้งาน 24 ซม. ให้คำปรึกษาจากเภสัชและจัดส่งยาให้ลูกค้าด้วยค่ะ ที่หนูมาแคมป์นี้เพราะคิดว่ามันน่าสนใจก็เลยลองสมัครดู และในส่วนของแคมป์เด็กหัวการค้าปีที่4 จัดทำเพื่อให้ความรู้ด้านธุรกิจหรือการทำสตาร์ทอัพ ซึ่งคนที่ไม่มีความรู้อะไรเลย ไม่ว่าจะการตลาดการคิดว่าเราจะธุรกิจอะไรดีมาทีนี้เขามีการสร้างไอเดีย หาในสิ่งที่เราชอบ และสอนเราให้เราทำไปในทางที่ถูกต้องจนทำให้เกิดเป็นธุรกิจได้ อยากชวนให้น้องๆ มาหาประสบการณ์จากตรงนี้ดู เพราะว่ามันเป็นประสบการณ์ชีวิตครั้งหนึ่งควรมาค่ะ”
การทำธุรกิจของเยาวชนในปัจจุบันต้องมีความตั้งใจ มุ่งมั่น อดทน ถึงจะสามารถเป็นเจ้าของธุรกิจได้ ต่อให้ล้มเหลวก็อย่าไปย่อท้อ เพราะเราสามารถจะเก็บสิ่งเหล่านั้นมาเป็นประสบการณ์ และเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ “ล้มแล้วลุกเราอาจจะได้แผล แต่ถ้าเราล้มแล้วยอมแพ้เราอาจจะไม่ได้อะไรเลย”