เศร้าสยองรับปีใหม่กับอุบัติเหตุทางท้องถนน ดันยอดตายปีไก่ 2560 พุ่งแซงหน้าปี 2559 หนำซ้ำยังเกิดเหตุสลดรถตู้โดยสารชนรถกระบะจนไฟลุกท่วม ย่างสด 25 ศพ ทำให้หลายฝ่ายร่วมคิดหาทางออกรวมทั้งมาตรการความปลอดภัยของรถตู้ที่นับวันเกิดอุบัติเหตุถี่ยิบ หวั่นวัวหายแล้วล้อมคอกเหมือนทุกครั้ง! ล่าสุด สุ่มตรวจรถตู้พบยางล้อเหี้ยนแทบไม่เหลือดอกยาง เสี่ยงยางระเบิดตูมทุกเมื่อ นอกจากนี้ ยังพบรถตู้โดยสารยัดผู้โดยสารให้แน่น แม้ที่นั่งเต็มก็ยังให้ยืนเบียดบนรถตู้ 20 กว่าคน! สังคมตั้งคำถาม ความปลอดภัยในชีวิตอยู่ตรงไหน?
ลูกบอลดับเพลิง แก้รถไฟไหม้ได้จริง!?
ปภ.ชลบุรี เผยเหตุรถตู้พุ่งชนกระบะที่ จ.ชลบุรี จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก สาเหตุเกิดจากคนขับรถตู้พักน้อยจนเกิดอาการอ่อนล้า และหลับใน เพราะต้องเร่งทำเที่ยวเพิ่มรายได้ช่วงเทศกาลปีใหม่ หลากหลายความคิดเห็นเสนอแนะแนวทางการป้องกันเหตุไฟไหม้รถยนต์เมื่อเกิดอุบัติเหตุเหมือนเช่นรถตู้ชนกระบะ เช่นเดียวกับ นายภณวัชร์นันท์ ไกรมาตย์ เขาเป็นผู้คิดค้นประดิษฐ์ลูกบอลดับเพลิง ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า Phanawatnan Kaimart
โดยแนะนำว่า กรณีรถตู้ติดแก๊ส ควรติดลูกบอลดับเพลิงดักไว้แบบนี้ และควรติดไว้ห้องเครื่อง เพราะหากเกิดไฟลุกไหม้ ลูกบอลดับเพลิงจะทำงานทันที ไม่เป็นอันตรายกับผู้ใช้รถแต่อย่างใด เพราะห้องเครื่องรถตู้อยู่ในเก๋งรถ เวลาไหม้ ก็ไหม้ในเก๋งรถ ซึ่งมีคนนั่งอยู่แล้ว ปลอดภัยไว้ก่อน ลูกบอลรับอุณหภูมิได้ 85 องศาฯ 24 ชม. ไม่เป็นอะไร แต่ถ้ามีเปลวไฟก็จะดับให้ทันที
ทว่า หลายคนยังแนะนำว่านอกเหนือจากลูกบอลดับเพลิงแล้ว ควรจะมีอุปกรณ์กู้ภัย เช่น ที่ทุบหรือตัดกระจกซึ่งส่วนใหญ่มักจะติดไว้บริเวณเบาะหน้า ควรเพิ่มอุปกรณ์ช่วยชีวิตบริเวณจุดอับที่เบาะหลังด้วย
แน่นอนไม่มีใครหยั่งรู้ว่าเราจะประสบอุบัติเหตุด้วยความประมาทของคนอื่นได้ แต่อย่างน้อยอุปกรณ์ช่วยชีวิตก็ควรจะมีไว้ยามฉุกเฉิน
เห็นแก่ได้! อัดคนเป็นปลากระป๋อง ยืนเบียดในรถตู้
ในช่วงเทศกาลแน่นอนคนเยอะ แต่รถตู้โดยสารยังมีจำนวนเท่าเดิม จึงต้องเร่งทำรอบเพื่อทำเงิน และอัดผู้โดยสารให้เบียดในรถตู้ให้ได้มากที่สุดจนทำให้สามัญสำนึกถึงความปลอดภัยหายไป อย่างที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Thiti Phopana โพสต์รูปผู้โดยสารที่ยืนอัดแน่นมาในรถตู้ พร้อมข้อความระบุว่า
"ที่เค้าตายกันก็เพราะความเห็นแก่ได้ของพวกคุณนี่แหละ สายพิจิตร - กำแพงเพชร อัดมาได้ 20 คน+ นึกถึงความปลอดภัยกันบ้างไหม ไม่จำเป็นจะไม่ขึ้นเลยรถตู้"
ล่าสุด นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ได้พิจารณาลงโทษพนักงานขับรถ และผู้ประกอบการขนส่งขั้นเด็ดขาด เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีการเตือน และแจ้งให้ทราบถึงข้อกฎหมาย และข้อปฏิบัติที่ต้องคำนึกถึงความปลอดภัยในการให้บริการสูงสุด
โดยสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับรถของพนักงานขับรถทันที 30 วัน และเปรียบเทียบปรับขั้นสูงสุดเป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท ตามมาตรา 107 ประกอบมาตรา 127 ฐานความผิดรับผู้โดยสารเกินจำนวนที่นั่ง ด้านผู้ประกอบการขนส่งคือ บริษัทวชิรปราการยานยนต์ จำกัด สั่งเปรียบเทียบปรับในข้อหาไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่นายทะเบียนกำหนดเกี่ยวกับจำนวนที่นั่งเกณฑ์น้ำหนักบรรทุก และวิธีการบรรทุก เป็นจำนวน 20,000 บาท พร้อมดำเนินการถอนรถตู้คันหมายเลขทะเบียน 10-1457 กำแพงเพชร ออกจากบัญชีของรถใช้ในการขนส่ง (ขส.บ.11) ของผู้ประกอบการขนส่งรายดังกล่าวแล้ว
ขณะเดียวกัน ได้มีคนเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นแชร์ประสบการณ์เดียวกัน ว่า จะไม่ขึ้นอีกแล้ว เข็ดแล้วกับรถตู้แบบนี้
"ผมเคยครั้งหนึ่ง ขึ้นรถตู้สายกรุงเทพฯ - สุพรรณบุรี ที่วงเวียนใหญ่ จอดรับคนตลอดทาง ขนาดนั่งเต็มแล้วยังให้ยืนได้อีก ย้ำนะ ว่ายืนในรถตู้ ทำได้ยังไง ยางไม่แตกระหว่างขับก็บุญแล้ว "
"อาจไม่ได้เห็นแก่ตัวหรอก แต่เพราะความโลภมาก และความงก อยากได้เงินเที่ยวละมากๆ มากกว่า เลยลืมนึกถึงความปลอดภัยของผู้โดยสาร และของตนเองด้วย และปัจจุบันนี้ก็ยังทำกันอยู่ ไม่เชื่อลองให้หยุดแล้วเปิดประตูดู จะเห็นคนอัดแน่นเหมือนปลากระป๋อง ขนาดเต็มแล้วก็ยังรับ ให้ยืนตรงบันไดที่เปิดประตู”
รถตู้...ยางแตกตู้ม! สุ่มตรวจดอกยางแทบไม่เหลือ
แชร์กันสนั่นเมื่อเพจเฟซบุ๊ก “คนข่าวบางปะกง” โพสต์ภาพ และข้อความว่า ตำรวจจราจร สภ.บางปะกง เรียกตรวจรถตู้โดยสาร ตะลึงเมื่อพบว่ายางล้อแทบไม่เหลือดอกยาง แถมกินลึกถึงผ้าใบสามารถระเบิดได้ตลอดเวลา แต่คนขับขอวิ่งทำรอบรับผู้โดยสารก่อน เพราะคิวเร่ง ตำรวจแนะให้เปลี่ยนยางเส้นใหม่แต่ขอผลัดวันเพราะไม่มีรถวิ่งแทน
เคราะห์ก็เลยตกมาที่ผู้โดยสารผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ หลายชีวิตต้องฝากไว้ที่โชเฟอร์รถตู้ ทว่า หากวิ่งด้วยอัตราความเร็วสูงยางอาจจะแตกจนเกิดโศกนาฏกรรมซ้ำอีกรอบ
หลากหลายความคิดเห็นบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ยางที่เขาเอามาตัดทำเป็นกระถางดอกไม้ขายตามริมถนน สภาพยังดีกว่ายางของรถตู้คันนี้เสียอีก ชีวิตคนหลายชีวิตที่เขาฝากไว้กับคนขับ เกิดอะไรขึ้นมามันเรียกกลับคืนมาได้มั้ย รับผิดชอบไหวมั้ย
นอกจากนี้ รถตู้โดยสาร ควรเช็กสภาพรถสม่ำเสมอ อะไรถึงวาระต้องเปลี่ยน อะไรเสียต้องซ่อม เพราะแม้คนขับจะพร้อมแต่รถไม่พร้อมชีวิตก็จบ!
อย่างไรก็ดี อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ยังแนะนำประชาชนหากพบเหตุการณ์ที่รู้สึกว่าไม่ปลอดภัย หรือถูกเอาเปรียบจากการใช้บริการ จดรายละเอียดรถ และผู้ขับรถคันที่กระทำความผิด เช่น หมายเลขทะเบียนรถ ชื่อ-นามสกุล ผู้ขับรถ แจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน โทร 1584 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือผ่านทางเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน 1584”
ยอดตายปีใหม่ 60 แซง ปี 59 ขาดสะบั้น!
แม้จะมีการณรงค์กันทุกปี ไม่ว่าจะเป็น “เมาแล้วขับ” แต่กลับไม่ได้ผล เพราะอุบัติเหตุปีใหม่ปีนี้ รวม 5 วัน ยอดตายกลับพุ่ง 367 ศพ
พล.ต.ท.วิทยา ประยงค์พันธ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นประธานแถลงสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ประจำปี 2560 รวมอุบัติเหตุทางถนนสะสม 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.2559 - 2 ม.ค.2560 เกิดอุบัติเหตุรวม 3,157 ครั้ง เสียชีวิต 367 ราย บาดเจ็บรวม 3,342 คน จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดคือ จ.เชียงใหม่ 129 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดคือ จ.ชลบุรี 31 ราย และจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุดคือ จ.เชียงใหม่ 137 คน
สาเหตุสูงสุดคือ เมาสุรา ร้อยละ 37.53 รองลงมาคือขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 33.03 ขณะที่จักรยานยนต์เป็นพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ร้อยละ 84.06
ตัวเลขอุบัติเหตุ ผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต ในปีนี้เพิ่มมาก เมื่อเทียบกับสถิติปีที่ผ่านมาในช่วง 7 วันอันตราย เทศกาลปีใหม่ ปี 2559 ในวันที่ 5 เกิดอุบัติเหตุสะสม รวม 2,753 ครั้ง ผู้เสียชีวิตสะสม 92 ราย และมีผู้บาดเจ็บสะสม 2,855 คน
ไทยตายอุบัติเหตุอันดับ 2 ของโลก
น่าตกใจ องค์การอนามัยโลก (WHO)ได้ออกรายงาน Global Status Report on Road Safety 2015 ระบุว่า วัยรุ่น เยาวชน และกลุ่มเริ่มทำงาน (15-29 ปี) เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนถนนเป็นอันดับ 1 รวมแล้วประชากรโลกเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนถนนสูงถึง 1.25 ล้านคนต่อปี ในจำนวนนี้ผู้เสียชีวิต 90% อยู่ในกลุ่มประเทศรายได้ปานกลางถึงต่ำ โดยผู้เสียชีวิตเกือบครึ่ง (49%) เกิดกับกลุ่มจักรยานยนต์, จักรยาน และ คนเดินถนน สำหรับประเทศไทย องค์การอนามัยโลกเปิดเผยข้อมูลว่ามีอัตราการเสียชีวิต 36.2 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคน สูงเป็นอันดับ 2 รองจากลิเบียที่เสียชีวิตถึง 73.4 คน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย 2 เท่า (เฉลี่ยทั้งโลก 17.5) แต่ประเทศไทยมีอัตราการเสียชีวิตจากรถจักรยานยนต์ 26.3 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคน ซึ่งสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก
อย่างไรก็ตาม ข้อสังเกตสำคัญจาก Global Status Report on Road Safety 2015 พบว่า ไทยมีกฎหมายดีๆ เทียบเท่าสากล แต่มีปัญหาเรื่องการบังคับใช้ ดังนั้น สิ่งที่ต้องช่วยกันผลักดันให้เกิดขึ้น คือ ทำให้สังคมไทย รับรู้และตระหนักว่าอุบัติเหตุทางถนน เป็นสิ่งที่ป้องกันได้ ไม่ใช่เรื่องเคราะห์กรรม และทำให้ผู้บริหารและผู้ที่ดูแลรับผิดชอบ ต้องเน้นการพัฒนาระบบจัดการที่เข้มแข็งเพื่อแก้ไขที่รากปัญหา และไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ซ้ำซาก
กี่ครั้งแล้วที่เกิดเหตุการณ์สุดสลดแบบนี้ ตอนนี้เกิดเหตุก็วิพากษ์วิจารณ์หาแนวทางความปลอดภัยป้องกันอุบัติเหตุกันไป สักพักทุกอย่างก็กลับมาเหมือนเดิมอีกมั้ย?
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754