ท่ามกลางความวุ่นวายของสิ่งแวดล้อมรอบด้าน ในรอบรั้วบริเวณของวังสระปทุม วังสไตล์ยุโรป ซึ่งตั้งอยู่บนถนนพระรามที่ 1 และถนนพญาไท ปกคลุมไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ และที่สำคัญวังแห่งนี้อบอวลไปด้วยความรัก เพราะเป็นที่ใช้จัดพระราชพิธีอภิเษกสมรสของเจ้านายถึง 2 พระองค์ และความรักของครอบครัวมหิดลที่ถ่ายทอดจากพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าต่อพระราชสุณิสาและพระราชนัดดาอย่างใกล้ชิด จนถูกเรียกว่า “THE ROYAL ROMANCE”
วังสระปทุม เป็นสถานที่ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้พระราชทานที่ดินบริเวณนี้ให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมขุนสงขลานครินทร์ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ในการสร้างวัง ซึ่งในเวลาต่อมาสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมขุนสงขลานครินทร์ เสด็จไปศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ได้พระราชทานสิทธิ์ที่ดินบริเวณนั้นให้เป็นของสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมขุนสงขลานครินทร์
จากนั้น พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ได้เสด็จออกจากพระบรมมหาราชวัง ไปประทับ ณ พลับพลาไม้ริมคลองแสนแสบ และทรงวางผังในการสร้างพระตำหนักด้วยพระองค์เอง ให้ถูกต้องตามฤดูกาลและทิศทางลม จนแล้วเสร็จ พระองค์ก็เสด็จมาประทับอยู่เป็นการถาวร และเป็นที่ประทับของพระราชบิดา ครั้งเสด็จกลับไทยแล้ว จนกระทั่งพระองค์เสด็จสวรรคตเมื่อปี พ.ศ. 2475 วังแห่งนี้จึงกลายเป็นที่ประทับของพระโอรสและพระธิดา ในช่วงเสด็จประทับที่เมืองไทย ก่อนจะเสด็จไปประทับและศึกษาต่อที่สวิตเซอร์แลนด์ และปัจจุบัน วังสระปทุมแห่งนี้เป็นที่ประทับของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จวบจนปัจจุบัน
ในวังสระปทุม มีพระตำหนัก 3 แห่ง และเรือนข้าราชบริพารอีก 1 แห่ง ได้แก่ พระตำหนักใหญ่ ตั้งอยู่ใจกลางของวัง ซึ่งเป็นที่ประทับของพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ปัจจุบัน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงจัดตั้งให้เป็น “พิพิธภัณฑ์ สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า” เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ตามพระราชปรารภแห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9
พระตำหนักเขียว และ พระตำหนักใหม่ หรือ พระตำหนักสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมหลวงสงขลานครินทร์ ซึ่งถูกสร้างขึ้นใหม่หลังจากพระบิดาทรงสำเร็จการศึกษาและเสด็จกลับไทย
สำหรับ The Royal Romance แห่งนี้ อบอวลด้วยรักครั้งแรก ในพระราชพิธีอภิเษกสมรสระหว่างสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.ศ.2463 ซึ่งในครานั้น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธาน และความรักได้ก่อเกิดอีกครั้ง ในพิธีอภิเษกสมรสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่ง คุณชวลี อมาตยกุล กรรมการและเลขานุการมูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ได้เล่าว่า ในพิธีศักดิ์สิทธิ์ครั้งนั้น ทั้งสองพระองค์เสด็จมากราบพระพันวัสสาที่หน้าห้องบรรทม เพื่อรับพระราชทานน้ำสังข์ และหลังจากนั้น ทั้งสองพระองค์ก็เสด็จมาเยือนวังสระปทุมบ่อยครั้ง
นอกจากเป็นสถานที่จัดงานอภิเษกสมรสแล้ว ณ วังแห่งนี้ ยังอบอวลด้วยความรักความอบอุ่นที่พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า หรือสมเด็จย่าของในหลวงรัชกาลที่ 9 และ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้ประทานความรัก ความใส่พระทัยต่อพระราชโอรสและพระราชธิดาทั้ง 3 พระองค์ ในวัยเยาว์ จนกลายเป็นพระผู้ให้ที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาจนถึงทุกวันนี้
ในรอบรั้ววังสระปทุม เจ้านายเล็กๆ ทั้ง 3 พระองค์ทรงได้รับการดูแลจากพระบรมราชชนนีอย่างใกล้ชิด สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงเล่าไว้ในพระนิพนธ์เรื่อง เจ้านายเล็กๆ - ยุวกษัตริย์ ว่า “ชีวิตก็ผ่านไปเรื่อยๆ แม่จัดการเรียน การเล่น การออกสังคมของเรา ท่านดูแลอาหาร ความสะอาด สุขภาพ เราต้องทำทุกอย่างเป็นเวลา เช่น การกิน การนอน การไปโรงเรียน การเล่น นานๆ ที ถ้าเราไม่ทำตามที่ต้องทำจะถูกทำโทษหรือถูกตี โดยมีการอธิบายก่อนว่าทำไมจึงถูกตี บางครั้งจะมีการเจรจากันว่าควรตีกี่ครั้ง แล้วบางครั้ง ถ้าคตวรตีให้เจ็บๆ แม่ก็จะสั่งให้มหาเล็กไปเก็บก้านมะยมและรูดใบออกให้...”
และทุกๆ วัน สมเด็จพระบรมราชชนนีจะทรงพาพระราชโอรสธิดาขึ้นเฝ้าสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าที่พระตำหนักใหญ่ ซึ่งพระองค์ทรงเมตตาพระราชสุณิสาและทรงรักใคร่พระราชนัดดามาก โดยทั้ง 4 พระองค์จะประทับนานประมาณ 1 ชั่วโมง โดยพระราชนัดดาจะทรงเล่าเรื่องต่างๆ ให้สมเด็จย่าฟัง
ในสมัยนั้น วังสระปทุมนับว่าอยู่ชานเมือง อากาศยังบริสุทธิ์ สมเด็จพระบรมราชชนนีมีพระราชประสงค์ให้พระโอรสธิดาทั้ง 3 พระองค์ โปรดประทับอยู่กลางแจ้ง จึงทรงจัดที่ทาง สิ่งก่อสร้าง และอุปกรณ์ให้ทีละเล็กทีละน้อย เช่น กระบะที่เล่นทราย สร้างบ่อน้ำ มีถังสังกะสีไว้ให้เล่นไฟ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีศาลาโล่งๆ มีพื้นเป็นทราย และห้อยเครือ่งกายกรรมต่างๆ เช่น ชิงช้าสูง-ต่ำ ห่วงคู่เชือก เจ้านายเล็กๆ ตรัสเรียกว่าโรงบาร์ ด้านหนึ่งของศาลามีห้องเก็บของเล่น และยังทรงอนุญาตให้เจ้านายน้อยทั้ง 3 พระองค์ทรงเลี้ยงสัตว์ได้หลายชนิด ทั้งสุนัข กรีต่าย นก ในวังยังมีลิงอีก 2 ตัว ทรงอนุญาตให้ฝึกขี่ม้าอีกด้วย
ชมบรรยากาศความรัก ความอบอุ่นที่วังสระปทุมได้ในวันที่ 19 ธ.ค.59-31 มี.ค.60วังสระปทุมเปิดให้ประชาชนเข้าชมพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เพื่อสัมผัสถึงความรักความอบอุ่นของครอบครัวมหิดล และความรักที่พระพันวัสสาได้ประทานให้พระราชนัดดาทั้ง 3 พระองค์ ที่สำคัญยังมีสิ่งของเครื่องใช้ และของเล่น ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเล่น ครั้งเสด็จประทับเมื่อวัยเยาว์ ไม่ว่าจะเป็น รถของเล่น รถเข็น เปล หรือแม้แต่ เจ๊กตู้ ที่พระองค์ทรงเรียกว่า ห้างสรรพสินค้าเคลื่อนที่ โดยมีค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ ผู้ใหญ่ท่านละ 150 บาท นักเรียนนักศึกษา 50 บาท เปิดในวันและเวลาราชการ
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754
