xs
xsm
sm
md
lg

กราบพระเมตตา! พุ่งชนรถพระที่นั่ง...ความเสียหายครั้งนี้ “พระบรมฯ” ทรงยกโทษให้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online



ท่ามกลางข่าวดรามาของดารา “น็อตหลุด” เจ้าของวลีเด็ด #กราบรถกู เพราะอารมณ์โมโหสุดขีด จึงรัวหมัดใส่คนขี่มอเตอร์ไซค์จนดั้งหัก เพียงแค่เฉี่ยวชนไฟท้ายเสียหายเล็กน้อย ทว่า ตอนนี้ดาราคนดังกล่าวได้โดน “ศาลโซเชียลฯ” พิพากษาจนไม่มีที่ยืนในสังคมแล้ว เหตุเพราะคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ ไม่รู้จักคำว่า ให้อภัย และไร้ซึ่งความเมตตา

ทว่า เพียงแค่ไฟท้ายของรถมินิฯ ไม่เกินหมื่นหากเทียบกับรถเบนซ์ และ บีเอ็ม ทะเบียน ร.ย.ล.รุ่นใหม่เอี่ยมล่าสุด ที่โดนรถคนเมาพุ่งชนจนมีค่าเสียหาย 2 ล้าน แต่ทำไมเจ้าของกลับไม่เอาเรื่อง ไม่บันดาลโทสะ แถมยังมีความเมตตา ให้อภัย จนผู้ที่เป็นคนชนทำให้รถเสียหายต้องทรุดกายลง “กราบ”


“พระราชทานอภัย” ชายชราขับชนรถยนต์พระที่นั่ง

เหตุการณ์น่ากราบนี้ นี้เกิดขึ้นที่โรงแรมโอเรียนเต็ล หลังจากเสร็จจากงานแต่งของลูกเพื่อน ชายสูงวัยอายุกว่า 70 ปี เชื้อสายจีนบุคลิกท่าทาง คล้าย “อาแปะ” จึงให้พนักงานโรงแรมเอารถมาให้ พนักงานจึงยื่นกุญแจให้ อาแปะจึงขับออกไป แต่รถกลับไปพุ่งชนเบนซ์รุ่นใหม่เอี่ยม ที่จอดอยู่เต็มๆ แถมรถยังพุ่งไปชน บีเอ็ม ซีรีส์ 7 อีก 2 คัน ซ้อน

เคราะห์ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ ด้วยความตกใจอย่างแรงของอาแปะ คราวนี้จึงใส่เกียร์ถอยหลังเต็มที่ พุ่งชนรถลีมูซีนของโรงแรมอีก 2 คัน ด้วยแรงกระแทก ทำให้กระถางดอกไม้แถวนั้นแตกหมด เศษกระเบื้องยังหล่นลงมาใส่กระโปงรถอีก 2 คัน สรุปความเสียหายครั้งนี้อาแปะ ขับชน 7 คันรวด

เจ้าของรถเบนซ์ และ บีเอ็ม จึงเรียกอาแปะมาคุย ว่า ขับรถยังไง ถึงได้ชนกัน 7 คันรวดขนาดนี้ อาแปะด้วยความตกใจมาก ตอบแบบเสียงสั่นๆ สำเนียงจีนว่า ตนเองไปงานแต่งลูกเพื่อน แต่เพื่อนนำเบียร์มาให้กิน 1 แก้ว จากนั้นก็เอาวิสกี้ให้กินอีกแก้ว และไวน์อีก 2 แก้ว จึงทำให้เกิดอาการเมา ทำให้ขาของตนเองเกร็ง ค้างกะทันหัน จึงทำให้เหยียบคันเร่งแรงไป เป็นเหตุให้พุ่งชนรถ 7 คันรวด

ครั้นเจ้าของรถถามถ้าเรียกค่าเสียหาย อาแปะจะทำอย่างไร อาแปะจึงตอบไปว่า คงต้อง “มีรถขายรถ มีบ้านขายบ้าน” เพื่อมาจ่ายค่าเสียหายในครั้งนี้ เพราะตัวเองมีอาชีพขายเครื่องไฟฟ้าเล็กๆ แถวอุรุพงษ์ ไม่ใช่คนร่ำรวย

เจ้าของรถจึงพาอาแปะเดินไปดูส่วนที่เสียหาย ซึ่งรถคันนี้ “เจ้าของรถ” รักรถ และดูแลรถดีเยี่ยมแค่ไหน อาแปะจึงพาลูกเมีย เดินไปดู จากนั้น เจ้าของรถจึงขอคุยเป็นการส่วนตัวว่า...

“ความเสียหายในครั้งนี้จะยกโทษให้” เพราะเห็นว่าครอบครัวไม่ได้ร่ำรวยอะไร ถ้าให้จ่ายค่าซ่อมในครั้งนี้ ครอบครัวอาแปะ คงต้องลำบาก ครอบครัวอาจจะต้องเดือดร้อนในวันข้างหน้า และจึงหันหน้าไปบอกกับครอบครัวอาแปะ ว่า ไม่ควรให้พ่อขับรถอีก เพราะอายุมากแล้ว 71 ปีแล้ว ถ้าเกิดไปชนกลางถนน อาจจะทำให้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

เมื่ออาแปะและลูกเมียหันไปมองหน้าเจ้าของรถตอนไฟสว่าง จึงทำให้แทบล้มทั้งยืน น้ำตาไหลไม่หยุด เพราะเจ้าของรถคือ “สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร” ทั้งครอบครัวทรุดตัวก้มลงกราบพระบาท ด้วยสำนึกในพระเมตตาธิคุณของ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร อย่างล้นพ้น และจดจำไปจนชั่วชีวิต ที่พระราชทานอภัย จนชนรถ ร.ย.ล. ซึ่งจอดรอ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ และรถอื่นๆ เสียหายไปประมาณ 2 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ตอนอาแปะก้มลงกราบพระบาท สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้พระราชทาน สติกเกอร์ 1 แผ่น เพื่อให้เตือนสติว่า “เมาไม่ขับ”


นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของครอบครัวอาแปะ ที่ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายใดๆ ในการชนรถยนต์พระที่นั่ง ทรงมีพระเมตตาต่อประชาชน พระราชทานอภัยให้กับความไม่มีสติ ของชายชราผู้นี้

พระมหากรุณาธิคุณ...เด็กด้อยโอกาส

เช่นเดียวกับในโอกาสวันเด็กแห่งชาติปี 2559 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานจักรยานแก่นักเรียนระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษาที่ยากจนและด้อยโอกาส มีความจำเป็นที่ต้องใช้จักรยานเป็นพาหนะเดินทางไปเรียนหนังสือ เนื่องจากบ้านอยู่ไกลจากโรงเรียน จำนวน 9,900 คัน ขณะนี้ทางแต่ละจังหวัดได้ทยอยมอบจักรยานพระราชทานให้แก่เด็กผู้ด้อยโอกาสทั่วประเทศไทยแล้ว

ทว่า เหตุการณ์ที่สร้างความปลาบปลื้มให้เด็กด้อยโอกาสที่ยังตราตรึงใจมาจนบัดนี้ คือ กรณีของ น้องทาม - ด.ช.วรรธนะ คำอินทร์ หนูน้อยหัวใจแกร่ง ไร้แขนทั้งสองข้างตั้งแต่กำเนิดวัย 11 ขวบ โดยน้องทามได้ร่วมขบวนปั่นจักรยาน “Bike for Mom” กระทั่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร รับสั่งให้ตามหาน้องทาม

ในวันที่ 16 ส.ค. 2558 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระราชทานจักรยานซึ่งเป็นจักรยานพระที่นั่งของพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ มามอบให้ “น้องทาม”

พล.อ.ท.ภักดี แสงชูโต รองหัวหน้าสำนักงานราชเลขานุการในพระองค์ฯ ได้เป็นผู้แทนพระองค์ เดินทางด้วยรถยนต์มาถึงบริเวณบ้านของน้องทาม พร้อมรถจักรยานพระราชทาน, กระเช้า และถุงสิ่งของพระราชทาน ที่นำมามอบให้น้องทาม และครอบครัว ทั้ง 3 คน พ่อแม่ลูก ก้มกราบพระบรมสาทิสลักษณ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ด้วยความซาบซึ้งในพรมหากรุณาธิคุณ หาที่สุดมิได้


จากนั้นเจ้าหน้าที่ทหารข้าราชการในพระองค์ได้ลงมือปรับแต่งระดับรถจักรยานให้เหมาะสมกับตัว “น้องทาม” พร้อมอธิบายวิธีการใช้งานเกี่ยวกับอุปกรณ์ของจักรยาน ก่อนที่เจ้าหน้าที่ทหารจะให้ “น้องทาม” ทดลองขี่จักรยานที่ได้รับพระราชทานอยู่หลายรอบ เพื่อให้เกิดความคล่องตัว และหาข้อบกพร่องนำมาแก้ไข จนมั่นใจว่า “น้องทาม” สามารถขี่ได้อย่างคล่องแคล่วเหมือนปกติ

สำหรับรถจักรยานพระราชทานเพื่อผู้พิการที่นำมามอบให้ น้องทาม ยี่ห้อ Trek รุ่น 4700 สีฟ้า-เหลือง ที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ร้านจักรยานสุขสำราญ Healthy Person Bike จัดสร้างดัดแปลงตามพระราโชบาย ทรงออกแบบ และโปรดเกล้าฯ ให้นำจักรยานที่นั่งของพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ มาดัดแปลงให้เหมาะสมกับผู้พิการไร้แขนเป็นพิเศษ

พระเมตตา...บัณฑิตพิเศษ

นอกจากนี้ ยังมีภาพพระเมตตาสุดประทับใจ ถูกเผยแพร่ส่งต่อทางโลกโซเชียลฯอย่างแพร่หลาย หลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ที่ใช้ชื่อว่า Yo Kormeehuajai เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต รับหน้าที่ถ่ายภาพพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ทุกปี ได้โพสต์ภาพสุดประทับใจอันเป็นพระเมตตา และ พระมหากรุณาธิคุณ ที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงมีต่อบัณฑิตพิเศษ ที่ได้เข้าเฝ้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ปี 2555 - 2556 โดยระบุข้อความว่า ทรงมีพระเมตตาพระราชทานปริญญาบัตรด้วยสองพระหัตถ์



“เป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตและบัณฑิตพิเศษ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ขอพระองค์ทรงพระเจริญฯ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ขอพระราชทาน พระบรมราชานุญาตเผยแพร่ภาพ ในปีนี้และปีที่ผ่านมา

...ผมเป็นคนหนึ่ง ที่อยู่ในลำดับการตรงนั้น สุดซึ้งจริงๆ รองหัวหน้าสำนักงานราชเลขานุการในพระองค์ กล่าวตอนซ้อม ว่า ทุกคนที่เข้ารับพระราชทานฯต้องได้ปริญญาบัตร และภาพกลับบ้านไปให้ครอบครัวชื่นชมยินดี และเพื่อเป็นเกียรติกับครอบครัวและวงศ์ตระกูล พระองค์จะให้เข้ารับใหม่และยังไม่ปล่อยปริญญาในคนที่เข้ารับไม่ตรงจังหวะ เพราะกลัวภาพของมาไม่งาม ซึ่งบัณฑิตและหลายคนตื่นเต้นจนประหม่าไป พระองค์ทรงพระเมตตากับบัณฑิตทุกคน”

สำหรับบัณฑิตใหม่ ผู้อยู่ในภาพนั่นคือ อาร์ท - วีรยุทธ ชิณพันธ์ ผู้ป่วยเป็นมะเร็งที่ก้านสมอง บัณฑิตสาขาพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต โดยปัจจุบันน้องอาร์ทได้เสียชีวิตลงแล้ว เจ้าตัวเคยเปิดเผยกับถึงนาทีแห่งความปลื้มปีติในครั้งนี้ ว่า รู้สึกปลื้มปีติยินดี ดีใจจนบอกไม่ถูก พระองค์ทรงมีเมตตาต่อบัณฑิตทุกคน ยิ่งช่วงจังหวะที่เดินเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร พยายามค่อยๆ เดิน กลัวว่าจะล้มต่อหน้าพระองค์ท่าน

“ช่วงจังหวะที่ต้องเดินเข้าไปยังแท่นประทับ เพื่อรับปริญญาบัตร ขาข้างขวากลับอ่อนแรง และเซจะล้มชนแท่นที่ประทับ ตอนนี้รู้สึกกังวล กลัวจะล้มทับพระองค์ท่าน แต่แล้วพระองค์ท่านกลับใช้พระกรทั้งสองจับและพระราชทานใบปริญญาให้ และมองหน้าด้วยความเป็นห่วง รู้สึกซาบซึ้งจนพูดไม่ออกที่พระองค์ทรงเมตตากับเรามากขนาดนี้”



มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น