xs
xsm
sm
md
lg

“รวย รวย รวย” ตั้งแต่หูยันซอกเล็บ!! ดรามาเพื่อนหายเพราะขายตรง [ชมคลิป]

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เพื่อนหายเพราะขายตรง” ดรามาหนักมาก!! เพราะชื่อเพลงพุ่งเข้าเสียดสีอาชีพธุรกิจเครือข่าย ตัวแทนหัวเรือใหญ่ผู้ดูแลระบบถึงขั้นขู่ระดมชื่อ แบนบทเพลงจาก “อุ๋ย บุดดาเบลส” อ้างดูหมิ่นเหยียบย่ำอาชีพสุจริต ดึงเข้าไปปะปน “แชร์ลูกโซ่” ให้เสียภาพลักษณ์ ล่าสุด คลายอุณหภูมิร้อนลงได้แล้ว หลังนักร้องหนุ่มยอมเปลี่ยนให้ เป็นชื่อเพลง “เพื่อนหายเพราะขายอ้อม”!!



เลิกเหมารวม “ขายตรง” ด่า “ขายอ้อม” แทนแล้วกัน!!

[ล่าสุด เปลี่ยนชื่อเพลงจากคำว่า "ขายตรง" เป็น "ขายอ้อม" เรียบร้อยแล้ว]
“ถึงคนขายตรงที่เข้ามาด่านะครับ ผมไม่เคยรังเกียจอาชีพนักขาย คนขายของกันทั้งโลก ทุกอาชีพมีทั้งคนดีและไม่ดี ถ้าคุณไม่ได้เป็นอย่างในเพลง อย่าหงุดหงิดเลยครับ ในเพลงผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเลย อย่าหงุดหงิดสิครับ มันจะปิดกั้นทัศนคติไปสู่ทางแห่งความสำเร็จนะครับ อย่าให้ใครมาทำเป้าหมายคุณไขว้เขวสิครับ เราต้องคิดบวก โฟกัสที่เป้าหมายไว้ครับ เชื่อผม แล้วคุณจะ รวย รวย รวย รวย รวย รวย”

อุ๋ย-นที เอกวิจิตร ศิลปินชื่อดังจากวง “บุดดาเบลส” โพสต์ข้อความชี้แจงกรณีดรามาผ่านแฟนเพจ "Oui Buddhabless" หลังปล่อยมิวสิกวิดีโอเพลง “เพื่อนหายเพราะขายตรง” ออกไปได้ 2 วัน เหตุเพราะทุกถ้อยคำที่อัดอยู่ในท่อนร้องและท่อนแร็ป มันแทงใจคนทำธุรกิจลักษณะนี้จนเกินไป!!

“...ผมเชื่อว่าทุกคนมีความฝัน ฝันว่าจะรวย ผมเชื่อว่าคุณทำได้ ตามผมมา แล้วเราจะรวยไปด้วยกัน พูดตามผม รวยๆๆ รวยๆๆ รวยๆๆ รวยๆๆ...”

“...รวยชัดๆ รวยแบบ hi-def รวยทุกอณู ตั้งแต่หูยันซอกเล็บ/ สมัครวันนี้พรุ่งนี้สำเร็จ ไม่เกินมะรืนมงกุฎขนเพชร/ ลงไม่กี่พันกำไรเป็นแสน อยู่บ้านสบายให้ downline ทำแทน

หยิบโทรศัพท์โทร.มันเข้าไป แต่มีข้อเดียวที่ต้องทำใจ/ โทร.ไปไม่มีใครรับ เจอกันมันก็ไม่ทัก/ โทร.ไปไม่มีใครรับ เจอกันมันก็ไม่ทัก

หวังดีจริงๆ นะจะบอกให้ แต่ก็มีบางคน ไม่เข้าใจ/ หาว่าเราเอาของมาหลอกขาย พลาดโอกาสรวยน่าเสียดาย...”


ยกตัวอย่างบางช่วงบางตอนสุดจี๊ดในเพลงสะท้อนสังคมเพลงนี้เอาไว้แล้ว คงจะช่วยให้หลายๆ คนวาดภาพออกว่าเหตุใดจึงทำให้ กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิชาการพลังเครือข่ายและนักธุรกิจเครือข่ายขายตรง เกิดอาการของขึ้นจนต้องออกมาใช้โซเชียลฯ เชือดเฉือนอธิบายความเข้าใจผิดเกี่ยวกับธุรกิจขายตรงแบบบรรทัดต่อบรรทัด จนกลายเป็นประเด็นร้อนมาจนถึงตอนนี้

“วันนี้ คุณมองอาชีพของเราและนำเสนอออกมา มันทำให้คนในอาชีพธุรกิจเครือข่ายถูกกดทับมากยิ่งขึ้น คนดีๆ ไม่มีพื้นที่ ไม่มีกำลังใจ เราไม่ได้ต้องการอะไรมากจากสังคม แค่อยากขอเรียกร้องว่า ถ้าคุณอุ๋ยไม่ออกมาชี้แจงในประเด็นเพลงนี้ และถ้าเพลงนี้หลายคนฟังแล้วให้มุมมองไปในทางเดียวกัน เราอาจจะมีการลงชื่อแบนเพลงนี้... ถ้าเขียนให้กำลังใจใครไม่ได้ ก็อย่าทำลายกำลังใจใคร!!"

[ตัวแทนผู้ดูแล "ธุรกิจเครือขาย" ออกเสียงโวยคนเหมารวม "ขายตรง"]

ตัวแทนคนในระบบเครือข่ายขายตรง ใช้โปรแกรม live บนเฟซบุ๊ก สื่อสารประเด็นที่ต้องการนำเสนอ ด้วยสีหน้า แววตา และน้ำเสียงที่อัดแน่นไปด้วยอารมณ์โมโหแกมประชดประชัน กระทั่งเธอถูกเชิญตัวให้ไปขยายความประเด็นร้อนนี้ในรายการ "เป็นเรื่อง เป็นข่าว" จึงได้รายละเอียดชัดเจนมากกว่าเรื่องอารมณ์ว่า ที่ดูหงุดหงิดขนาดนี้เป็นเพราะไม่ต้องการให้คนนอกวงมอง เหมารวมธุรกิจ “ขายตรง” ไปในลักษณะเดียวกันกับ “แชร์ลูกโซ่” หรือที่เรียกว่า “มันนีเกม (Money Game)” เท่านั้นเอง

“เนื้อเพลงที่เน้นคำว่า 'รวยๆๆ' มันเป็นคำที่มากับแชร์ลูกโซ่เลย แต่ขายตรงจะไม่ได้นำเสนอคำนี้ในตอนแรก สิ่งแรกคือคุณต้องพัฒนาตัวเองก่อน จะขายเครื่องสำอาง ตัวเองหน้าผุพัง จะขายได้ไหม ต้องทำตัวเองให้ดีก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสินค้า จากนั้นสุดซอยค่อยพูดถึงเรื่องของความรวยที่เข้ามาเสริม แต่ถ้าเป็นแชร์ลูกโซ่ จะเอาคำว่ารวยมาก่อน เพื่อหลอกล่อคนให้เข้ามาสมัครสมาชิก

[อย่าเหมารวม "ขายตรง" กับ "แชร์ลูกโซ่" เพราะมันต่างกัน | ขอบคุณคลิป "การแยกแยะธุรกิจขายตรงออกจากแชร์ลูกโซ่"]


[ธุรกิจ "ขายตรง" เน้นขายสินค้าและสร้างรายได้จริง ส่วน "แชร์ลูกโซ่" เน้นล่อลวงให้สมัครสมาชิก เพื่อกินกำไรเป็นทอดๆ ไป]

สิ่งที่เขานำเสนอในเพลง มันเหมือนเนื้อเพลงพูดถึง 'สับปะรด' แต่ชื่อเพลงคือ 'แอปเปิ้ล' แล้วมันจะทำให้คนเข้าใจได้ยังไง ในเมื่อชื่อเพลงคือ 'เพื่อนหายเพราะขายตรง' คนที่ไม่ได้ทำธุรกิจนี้ ฟังแล้วก็จะสะใจหรือส่งเสริม เราอยากจะบอกว่าเราจะส่งเสริมเหมือนกัน ถ้าเปลี่ยนชื่อเพลง เพราะมันคือการเหมารวม หรือถ้าจะปรับเป็น 'เพื่อนหายเพราะขายตรงแอบแฝง' ก็ยังดีค่ะ คนจะได้เข้าใจว่า มันมีแชร์ลูกโซ่ที่แอบอ้างธุรกิจขายตรงอยู่นะที่ควรจะระวัง เราต้องการแก้ตรงนี้เท่านั้นเอง"


ล่าสุด เมื่อเพลงต้นเหตุยอมรับฟังและเปลี่ยนชื่อเป็น “เพื่อนหายเพราะขายอ้อม” ตัดคำว่า “ขายตรง” ทิ้งไป ทางตัวแทนระบบเครือข่ายอย่างกฤษอนงค์ จึงออกมาโพสต์ขอบคุณฝากเอาไว้บนเฟซบุ๊ก “Kritanong Suwannawong” ส่งให้ประเด็นการขู่เข้าชื่อแบนเพลงจึงสงบลง และดูมีทีท่าว่าจะจบลงด้วยดี ไม่ต้องหยิบพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545มาสู้คดีกันในอนาคตอย่างที่เคยกล่าวอ้างเอาไว้



เปลี่ยนชื่อเพลงไร้ความหมาย ถ้าภาพ “ขายตรง” ยังทำลายตัวเอง...

[ขอบคุณภาพ: มิวสิกวิดีโอเพลง “เพื่อนหายเพราะขายอ้อม”]
“สิ่งที่สำคัญคือต้องยอมรับในคำวิจารณ์และเสียงที่เกิดขึ้นจริง ถ้าทุกฝ่ายยอมรับในจุดเดียวกันและเข้าใจข้อเท็จจริง มันถึงจะนำไปสู่การแก้ปัญหาและพัฒนา

เรื่องการเปลี่ยนชื่อเป็น 'เพื่อนหายเพราะมันนีเกม' 'เพื่อนหายเพราะแชร์ลูกโซ่' หรืออะไรก็แล้วแต่ จริงๆ ผมไม่เห็นค่อยเห็นด้วย เพราะถ้าเขารู้ว่ามันคือแชร์ลูกโซ่ เขาไม่ทำหรอกครับ เพราะฉะนั้น ต้องใช้ชื่อเพลง 'ขายตรง' นี่แหละเพื่อเตือนคน แต่จะทำยังไงให้คนแยก 'แชร์ลูกโซ่' ออกไปจาก 'ขายตรง' ให้ได้ แล้วก็พัฒนาธุรกิจขายตรง ให้ไม่เป็นอย่างที่คุณอุ๋ยร้องเอาไว้ในเพลง นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด

ถ้าจะเถียงกันเรื่องการเหมารวมคำว่าขายตรง ก็อยากให้เปรียบเทียบเรื่องคนด่าว่า 'ตำรวจเลว' แต่สุดท้าย ตอนสอบตำรวจ คนก็ยังสอบเป็นแสนๆ คนอยู่ดี เพราะฉะนั้น ถ้าธุรกิจขายตรงเป็นธุรกิจที่ดี เป็นธุรกิจที่สร้างอาชีพได้จริง มันก็จะมีคนที่เขาอยากทำอยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องกังวลอะไรเลย"

ด้วยมุมคิดของ สามารถ เจนชัยจิตรวนิช ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ในลักษณะนี้เอง จึงเกิดการออกแถลงการณ์จากสมาพันธ์ฯ ขอสนับสนุนบทเพลง “เพื่อนหายเพราะขายตรง” ออกมาอย่างเป็นทางการ เพื่อให้คนผลิตงานเพลงสะท้อนสังคมเกิดกำลังใจ ท่ามกลางพายุดรามาจากฝั่งผู้เกี่ยวข้องที่ออกมาเรียกร้องเกียรติในอาชีพ “ขายตรง” อย่างที่เกิดขึ้น

[สมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ออกหนังสือขอบคุณบทเพลงสะท้อนสังคมเพลงนี้]

อีกหนึ่งเสียงที่ขาดไม่ได้ คือเสียงจากฝั่งผู้ผลิตผลงานเพลง ซึ่งได้ออกมาประกาศเจตนารมณ์เอาไว้ตั้งแต่ช่วงปล่อยมิวสิกวิดีโอตัวนี้ออกมาแล้ว และนี่คืออีกหนึ่งมุมคิดจาก พงศธร เดชานุภาพ ศิลปินผู้ร่วมแร็ปในบทเพลงฮอตฮิตเพลงนี้กับอุ๋ย-บุดดาเบลส เอาไว้ในนาม “โปรโตซัว (Protozua)”

ไม่ได้แอนตี้คนที่ทำธุรกิจแบบนี้นะ แต่ไม่อยากให้พยายามมากไป เข้าใจว่าอยากรวย แต่มิตรภาพก็มีคุณค่าเช่นกัน ตอนนั้นมันเสียอารมณ์เลยต้องระบายแบบสนุกๆ อย่างนี้แหละ เอนจอยเด้ออ!!!" พร้อมเพิ่มเติมอีกหนึ่งมุมคิดภายหลังเกิดดรามาหนักมากเอาไว้อีกว่า...

“อย่างไรก็ตาม การอภิปราย ถกเถียง นำมาซึ่งการขบคิดต่อยอด ทำให้เกิดวิวัฒนาการทางสังคมไม่มากก็น้อย อย่างที่พี่ผู้หญิงคนนั้นชี้แจง คุณต้องดูดีๆ เวลาใครมาชวน ถ้าใช้คำว่ารวยนำหน้า ระวังไว้เลยว่าจะโดนหลอกลวง คนไทยต้องขอบคุณพี่คนนั้นนะ แม้จะมีน้ำโหบ้าง ขอให้กรองออกด้วยตะแกรงแห่งสติ

[ขอบคุณภาพ: มิวสิกวิดีโอเพลง “เพื่อนหายเพราะขายอ้อม”]

ไม่ต่างไปจากเจ้าของคำร้องอย่าง “อุ๋ย บุดดาเบลส” หรือ อุ๋ย-นที เอกวิจิตร ที่เคยให้สัมภาษณ์กับทางทีมข่าวผู้จัดการออนไลน์เกี่ยวกับฟีดแบ็กร้อนๆ ของเพลงนี้เอาไว้อย่างชัดเจน ตั้งแต่ช่วงปล่อยมิวสิกวิดีโอเพลงนี้แรกๆ แล้วว่า ต้องการใช้ดนตรีบรรเลงเตือนเพื่อนๆ และแฟนเพลง ไม่ให้หลงงมงายไปกับคำว่า “รวย” จนลืม “รัก” เพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง

“ผมว่ามันทุกอาชีพนะ และยิ่งเป็นอาชีพอย่างผมทำออกมา ต่อให้ไม่เป็นเพลงแนวนี้หรือเป็นเพลงรัก ก็มีทั้งคนชอบและคนไม่ชอบ ซึ่งเพลงนี้อาจจะดูรุนแรงมากหน่อย เพราะมีคนที่เขาประกอบอาชีพนี้ เสียผลประโยชน์ แถมยังโดนมองด้านลบอีกต่างหาก เขาก็ต้องโกรธเกลียดผมเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว

แต่ถามว่ารับมือยังไง ผมไม่รับมือ ผมรู้ลิมิตตัวเองว่ามีการหยอดเล่นๆ อย่างที่บอกไปว่าผมไม่ได้ไปด่าเสียๆ หายๆ ถ้าคุณมีจรรยาบรรณกับอาชีพคุณ คุณอาจจะเห็นด้วยกับผม เพราะคุณจะประกอบอาชีพได้ดีกว่าเดิม

คนที่จะเกลียดผมคือคนที่ร้อนตัว ที่ขายตรงแบบพูดจาโกหก ไปหลอกคนอื่นเพื่อเอาค่าสมาชิก ไม่ได้เน้นคุณภาพสินค้า คล้ายกับแชร์ลูกโซ่ คนพวกนั้นสิที่จะมาด่าผม ซึ่งเรื่องนี้ผมก็รับฟังความเห็นต่าง คนที่ไม่ได้คิดแบบเดียวกับผม

คนที่เขาขายตรงเพื่อให้คนไปฟังสัมมนา เพื่อหารายได้เลี้ยงลูกเมียจากการทำแบบนี้ เขาคงไม่ชอบอยู่แล้วที่ผมออกเพลงนี้ออกมา ซึ่งผมก็ยอมรับในความเห็นที่ต่างกัน ผมเองก็ต้องยอมรับทุกกระแสครับ






ข่าวโดย ผู้จัดการ Live
ขอบคุณภาพ: มิวสิกวิดีโอเพลง “เพื่อนหายเพราะขายอ้อม” และคลิป "การแยกแยะธุรกิจขายตรงออกจากแชร์ลูกโซ่"




มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น