เป็นเอ็มวีกระแสแรงมากๆ สำหรับ "เที่ยวไทยมีเฮ" ที่ถูกร้องเรียนทำให้เสียเกียรติ "ทศกัณฐ์" โดยเฉพาะฉากหยอดขนมครก, ขี่จักรยาน, ขับรถโกคาร์ท, ถ่ายเซลฟี, ขี่บั้งไฟ ขับสามล้อ เพราะเป็นการทำลายเกียรติตัวละครผู้สง่างาม และน่าเกรงขามจนดูเหมือนเป็นตัวตลก แม้จะบางกลุ่มเห็นด้วย แต่ก็มีบางกลุ่มมองว่า เสียหายตรงไหน กระทั่งมีการเปิดลงชื่อคัดค้านใน Change.org แถมยังมี "กลุ่มหนุมานพบเจ็ดยอดมนุษย์" ออกมาโพสต์แสบๆ คันๆ ล่าสุดผู้กำกับ MV ยอมตัดเพื่อจบแล้ว
กระแส "ทศกัณฐ์" ยกทักยักษ์ในเอ็มวีโปรโมตการท่องเที่ยวไทย กลายเป็นประเด็นดรามาในเมืองไทยเสียเอง เมื่ออดีตศิลปินกองการสังคีต กรมศิลปากร มองว่า ทำให้เสื่อมเสียเกียรติทศกัณฐ์ ซึ่งเป็นตัวละครในวรรณคดีไทยที่น่าเกรงขาม ไม่ควรนำมาเป็นตัวตลกด้วยการหยอดขนมครก ถ่ายเซลฟี่ หรืออื่นๆ ที่เห็นในเอ็มวี "เที่ยวไทยมีเฮ" ซึ่งจัดทำโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และออนแอร์มาตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน 2559 ที่ผ่านมา โดยมี "เก่ง-ธชย ประทุมวรรณ" เป็นนักร้องที่ชูเอกลักษ์แต่งตัวเป็น "ยักษ์" พร้อมด้วย "ฟิล์ม บงกช" ร่วมร้อง และแสดงภายใต้การกำกับของ "บัณฑิต ทองดี"
แน่นอนว่าจุดประสงค์หลักของการทำเอ็มวีตัวนี้ก็เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยให้คนในชาติ รวมไปถึงต่างชาติได้รู้จักความเป็นไทย แต่กลับถูกร้องเรียนว่าไม่เหมาะสมจนมีหลายฝ่ายออกมาโต้แย้ง โดยเฉพาะกลุ่มหนึ่งในนาม "หนุมานพบเจ็ดยอดมนุษย" ที่ออกมาโพสต์ไว้แสบๆ คันๆ
"ครั้งหนึ่งในอดีต หนังเรื่องหนุมานพบเจ็ดยอดมนุษย์ ถูกอธิบดีกรมศิลปากรในสมัยนั้นกล่าวหาว่าทำลายศิลปวัฒนธรรมไทย จนกระทั่งภาพยนตร์เรื่องนี้ไปได้รับรางวัลมิตรา ด้านส่งเสริมคุณค่าวัฒนธรรม จากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ในปี 1975 ทำให้กรมศิลปากรหยุดการต่อต้านนี้ลงไป ซึ่งไม่ต่างอะไรกับดรามาเอ็มวีท่องเที่ยวไทยที่เกี่ยวกับโขนแล้วมีปัญหา สิ่งนี้ไม่ใช่ของที่เพิ่งเกิด แต่เกิดขึ้นมานานแล้ว เรื่องของเรื่องคือ หน่วยงานเขาก็ต้องการมีบทบาทอะไรบ้างน่ะ"
ต่อมา ทางเพจเฟซบุ๊ก "หนุมานพบเจ็ดยอดมนุษย์" ได้นำเอาบทสัมภาษณ์ที่ได้พูดคุยกับ "สมโพธิ แสงเดือนฉาย" ในฐานะผู้กำกับหนังเรื่องนี้มาโพสต์ให้อ่าน ซึ่งให้ความเห็นต่อประเด็นดังกล่าวไว้อย่างน่าสนใจ โดยทีมข่าวขออนุญาตหยิบยกมานำเสนอต่อ
"อันนี้ผมไม่เห็นด้วยนะ ผมไม่เห็นด้วยเลย แล้วเขาไปแบนไม่ได้ อาสร้างหนุมานพบเจ็ดยอดมนุษย์ อธิบดีกรมศิลปากรยุคนั้น นาวาเอก...(ขอสงวนชื่อนะครับ) บอกว่าอาเนี่ยทะลึ่งเอาหนุมานไปเล่นกับของญี่ปุ่นได้ยังไง เสร็จแล้วพออาได้รับรางวัลส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมมาจากอินโดนีเซีย แกเงียบเลย คือคนรุ่นใหม่เขาทำอย่างเนี้ย เขาทำได้ แต่ว่าคุณต้องทำให้ตัวมันใหญ่ ที่อาทำยักษ์วัดแจ้งอาก็โดนด่า แล้วทำไมกระทรวงพาณิชย์เอาของอา เอายักษ์วัดแจ้งกับยักษ์วัดโพธิ์ไปทำประตูเมืองที่งานที่เมืองจีนล่ะ เขามาทำแบบเนี้ย ตัวมันเล็กมันเลยไม่สมจริง แล้วถ้าวันหลังเขมรลาวเขาก็จะทำ คือใครที่ด่าเนี่ยมาคุยกับอาได้เลย คือคนรุ่นใหม่เขาทำอะไรพวกเนี้ย มันแปลกหูแปลกตา คุณก็ควรยอมรับเขาสิวะ มันไม่ได้เสียหายอะไรนี่
ไอ้นี่มันโฆษณาเที่ยวเมืองไทยใครๆ ก็รู้ว่าเป็นโขน แล้วไม่ใช่ว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเป็นอะไร เป็นละครที่พวกผู้ใหญ่เขาเล่น คนที่มีสตางค์ พวกเจ้านายเขาเอามาเล่นเท่านั้นเองน่ะ ชาวบ้านธรรมดาไม่มีสิทธิจะมานั่งทำหรอก คนที่คิดใหม่ๆ อย่างอาเนี่ย หนุมานอาคิดตอนนั้นก็อายุยี่สิบกว่าๆ เท่านั้นเองน่ะ ก็ยังมีด่าอาเลย ด่าเสร็จ พอได้เงินล้านก็มาชมนี่มาจากหัวไอ้เด็ก ป.4 เว้ย ผู้ใหญ่เนี่ยเขาเห็นอะไรเขาจะว่า เฮ้ย! ไอ้นี่มันไม่เกี่ยว แล้วไอ้อย่างยักษ์วัดแจ้งอะไรที่อาทำ ที่ไต้หวันมันเอาไปขายให้ฝรั่งเศส (Mars Men) เขาก็ชอบกัน คือพวกนี้อาไม่เห็นด้วยนะ ที่เขาไปด่าไปว่าคนที่มีความคิดสร้างสรรค์" สมโพธิ ให้ความเห็นในฐานะที่เคยสร้างหนังที่นำตัวละครในวรรณคดีมาต่อสู้กับยอดมนุษย์มาก่อน
อย่างไรก็ดี กระแสคัดค้าน ไม่เห็นด้วยต่อเรื่องนี้ ได้กระจายไปในวงกว้างจนมีการผุดแคมเปญล่าชื่อนับหมื่นผ่านเวบไซต์เชนจ์ดอทคอม (Change.org) เพื่อคัดค้านกรณี น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย อดีตศิลปินกองการสังคีต กรมศิลปากรร้องเรียนต่อสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ถึงความเหมาะสมในการเผยแพร่มิวสิกวิดีโอดังกล่าว โดยผู้ที่เข้ามาสนับสนุนในแคมเปญนี้ ให้ความเห็นในทิศทางเดียวกันคือ ดูแล้วไม่ได้เป็นการทำลายวัฒนธรรมของชาติแต่อย่างใด ซึ่งการนำตัวละครในวรรณคดีมาประยุกต์ใช้ถือเป็นเรื่องที่ควรส่งเสริม
ถึงกระนั้น ต้องไม่ลืมด้วยว่า "ทศกัณฐ์" คือตัวละครหนึ่งในการแสดงโขน ดังนั้น จึงต้องมีการไหว้ครูก่อนจะสวมหัวโขน ไม่แปลกที่คนในวงการนาฏฺศิลป์จะให้ความเคารพ เนื่องจากหัวโขนถือเป็นของสูงและมีครู ต้องให้ความเคารพบูชาทั้งในเวลาแสดง และเวลาปกติ ไม่ควรนำมาล้อเล่นหรือกระทำการใดๆ ที่เป็นการแสดงออกถึงความไม่เคารพในครูบาอาจารย์ แม้ปัจจุบันจะมีผู้นิยมนำหัวโขนไปเป็นของประดับตกแต่งหรือของที่ระลึกก็ตาม
ล่าสุด หลังผู้กำกับเอ็มวี "เที่ยวไทยมีเฮ" หารือกับศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม จึงจัดสินใจยอมตัดเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมออกประมาณ 40% จากนั้นจะส่งผลงานให้ศูนย์เฝ้าระวังวัฒนธรรมดูในวันที่ 27 กันยายนนี้ โดยเฉพาะฉากยักษ์หยอดขนมครก เล่นเจ็ตสกี ขี่ม้า ขับสามล้อ และอื่นๆ หากมติกระทรวงวัฒนธรรมออกมาอย่างไรก็พร้อมปรับ
ส่วนบทสรุปของเอ็มวีดังกล่าวจะออกมาอย่างไร "ยังมี" หรือ "ไม่มีอะไร" ในการโปรโมตประเทศไทยบ้าง คงต้องติดตามกันต่อไป...
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754
