xs
xsm
sm
md
lg

รางวัลแด่คนช่างจ่าย...ควักแสนสร้างภาพคนเก่ง!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เปิดโปงธุรกิจใหม่ จ่ายเงินแสนแลกรางวัล เจ้าของแบรนด์รวมถึงคนดังตบเท้าเข้ารับเพียบ ผู้จัดงานอ้างหาเงินไปทำบุญ โลกโซเชียลฯ สงสัยรางวัลได้กันง่ายๆ เป็นการหลอกลวงผู้บริโภคหรือไม่?!

รางวัลแด่ผู้มีเงินถึง!

กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างฮือฮา หลังจากที่ทีมข่าว "เวิร์คพอยท์นิวส์" เปิดเผยข้อมูลอันน่าตกใจเกี่ยวกับการมอบรางวัล “คุณค่าแห่งผลิตภัณฑ์ของประเทศไทย” บนเวที Best Billion Business Award 2016 ที่จะมอบให้แก่เจ้าของผลิตภัณฑ์และเจ้าของธุรกิจ โดยมีสมาคมสื่อมวลชนสัมพันธ์ประเทศไทยและชมรมปันน้ำใจอุ่นไอรัก เป็นหัวเรือใหญ่ในการจัดงาน ซึ่งผู้ที่จะได้รับรางวัลจะต้องมีคุณสมบัติตามที่ผู้จัดงานกำหนดคือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการพัฒนาอย่างมีคุณภาพ คิดดี ทำดี



ในเอกสารที่เชิญชวนบรรดาเจ้าของธุรกิจและผลิตภัณฑ์ต่างๆ นั้น แจกแจงรายละเอียดที่จะเกิดขึ้นภายในงานไว้ แต่มีอยู่จุดหนึ่งที่ทำให้เกิดเป็นประเด็นขึ้นมา ก็คือการระบุไว้ว่า หากผู้ประกอบการท่านใดประสงค์ที่จะขึ้นรับรางวัล จะต้องจ่ายเงินสนับสนุนตั้งแต่สองหมื่นถึงหนึ่งแสนบาท โดยหนึ่งแสนบาทนั้นคือรางวัล VIP จำนวน 20 รางวัล ซึ่งจะได้ถ้วยรางวัลและใบประกาศเกียรติคุณ รวมไปถึงการถ่ายภาพคู่กับคนมีชื่อเสียงและประชาสัมพันธ์ลงสื่อต่างๆ นอกจากนี้ยังระบุไว้ว่ารายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำเงินไปช่วยเหลือผู้ขาดแคลนและด้อยโอกาสผ่านชมรมปันน้ำใจไออุ่นรักอีกด้วย

นอกจากนี้ ทางเฟซบุ๊ก “ชมรมปันน้ำใจไออุ่นรัก” ยังได้โพสต์ภาพบุคคลทั้ง 20 คน ที่จะขึ้นรับรางวัล VIP ในเวทีนี้ ที่มีทั้งเจ้าของผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความสวยความงาม ยังรวมไปถึงบุคคลในวงการบันเทิง ทั้ง บุ๋ม - ปนัดดา วงศ์ผู้ดี,ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์,เชน-ธนา ลิมปยารยะ และลูกตาล - ชโลมจิต จันทรเกตุ ที่ล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและยังเจ้าของผลิตภัณฑ์ทั้งสิ้น



ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องทั้งหมดยังได้รับคำยืนยันจากผู้จัดงานเองว่า มีการเชิญชวนให้สนับสนุนรางวัลจริง แต่ไม่ได้รับเงินทั้งหมด เพราะบางคนก็มอบให้ฟรี และพร้อมให้ตรวจสอบที่มาที่ไปของเงินได้รับมาด้วย ส่วนหลักเกณฑ์ในการมอบรางวัล จะดูว่าสินค้ามีเลขจดแจ้ง อย.หรือไม่ และโฆษณาเกินจริงเพียงใด ซึ่งเป็นการตรวจสอบเพียงผิวเผินเท่านั้น และยอมรับว่าที่เป็นธุรกิจอย่างหนึ่ง แต่มีเป้าหมายเพื่อที่จะนำเงินไปทำบุญโดยเฉพาะ
ทางด้านบุ๋ม ปนัดดา นักแสดงชื่อดังที่มีรายชื่อเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับรางวัลจากเวทีนี้ กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ได้รับเชิญไปรับรางวัลในฐานะเจ้าของแบรนด์จริง แต่ตนเองไม่ได้จ่ายเงินเพื่อซื้อรางวัล ส่วนคนอื่นที่ซื้อรางวัลนั้นก็เป็นความเต็มใจจ่ายเงินของเจ้าของผลิตภัณฑ์นั้นๆ และมองว่าเรื่องนี้กลายเป็นธุรกิจไปแล้วสำหรับงานมอบรางวัลหลายๆ เวที



หลังจากที่เรื่องราวการเปิดโปงธุรกิจแจกรางวัลดังถูกเผยแพร่ออกไปบนสังคมออนไลน์ ก็มีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย ส่วนใหญ่มองว่าการกระทำเช่นนี้เป็นการหลอกลวงผู้บริโภคทางหนึ่ง ที่อาจหลงกลผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัล ซึ่งสินค้าบางชิ้นอาจจะไม่ได้มาตรฐานก็เป็นได้ และบรรทัดต่อจากนี้คือความเห็นของโลกโซเชียลฯ ที่มีต่อเหตุการณ์นี้

“เห็นหลายแบรนด์ละ เพิ่งทำแบรนด์มาไม่เท่าไร ได้รับรางวัลละ รางวัลอะไร ไม่เห็นรู้จัก”
“มันก็เเค่เรื่องธรรมดาของสื่อเเละวงการธุรกิจ การสร้างภาพลักษณ์ให้ดูดีดูมีความมั่นใจเเก่ผู้บริโภค ไม่ใช่เรื่องเเปลกอะไร สมัยนี้ ถ้าคุณเป็นผู้บริโภคเเละผู้เสพสื่อ ก็ใช้สมองเเละตรองพิจารณากันเอานะครับ”
“สร้างภาพสร้างเครดิตไง จ่ายตังค์นิดเดียวได้เลย ทำไมจะไม่จ่ายล่ะครับ”

“วงการขายตรงก็เป็นเห็นบ่อยมาก รางวัลผู้บริหารดีเด่น รางวัลนักขายมือทอง เต็มไปหมด สงสัยแค่ถ่ายรูปคู่กับเงินสด หรือ รถหรู มันคงไม่พอแล้วมั้งครับ สมัยนี้”
“สร้างความน่าเชื่อถือด้วยกำลังเงินเนอะ ไม่ต้องมาด้วยคุณภาพโดยตรง เเต่อย่างว่า หลอกคนด้วยเปลือกที่ดูดี หลอกกันง่ายอยู่เเล้ว” ฯลฯ

นอกจากเวทีนี้ ยังมีการมอบรางวัลในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกมากมาย เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว คงเป็นหน้าที่ของผู้บริโภคที่ต้องมาพิจารณากันเองว่าถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ แม้จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัล แต่หากไม่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่ดูแลเรื่องนี้โดยตรง ผู้บริโภคก็อาจตกเป็นเหยื่อผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานเหล่านั้นก็เป็นได้

ด็อกเตอร์เงินแสน!!

ไม่ใช่จะมีแค่วงการความสวยความงามที่มีธุรกิจการซื้อขายรางวัลเพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์ของตนเองดูน่าเชื่อถือ และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ของตน ในวงการการศึกษาก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน เพราะเพียงแค่จ่ายเงินหลักหมื่นถึงหลักแสน ก็สามารถคว้าตำแหน่ง ด็อกเตอร์ มาประดับไว้หน้าชื่อของตนได้อย่างสบาย

ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ.2556 หากยังจำกันได้กับกรณีที่ มหาวิทยาลัยสันติภาพโลก ที่สังคมได้ตั้งข้อสังเกตถึงความไม่ชอบมาพากลหลายเรื่อง ทั้งชื่อของมหาวิทยาลัยที่ไม่คุ้นหู สถานที่ตั้งของมหาวิทยาลัยว่าอยู่ตรงไหน ระบบการเรียนการสอน และเรื่องการแจกปริญญาบัตรในระดับปริญญาเอกให้กับบุคคลที่ทำประโยชน์ให้แก่สังคม รวมแล้วมีผู้ที่ได้ตำแหน่งด็อกเตอร์(Dr.) จากมหาวิทยาลัยแห่งนี้กันไปแล้วกว่า 1,000 คน



งานนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เป็นหน่วยงานที่เข้ามาคลายปมนี้ให้กระจ่าง โดยรับเป็นคดีพิเศษ และมีการสืบสวนกันอย่างเข้มข้น จนพบเข้ากับความจริงที่ว่า มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ไม่ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งเป็นมหาวิทยาลัยตามมาตรา10 แห่ง พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ.2546 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2)พ.ศ. 2550 และได้ดำเนินการจดทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด สันติภาพโลก การใช้คำว่ามหาวิทยาลัย ประกอบซึ่งในดวงตรา ป้ายชื่อ จดหมาย เอกสาร หรือสิ่งอื่น ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการเพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าเป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชน จึงเป็นความผิดตามมาตรา 22 ประกอบ มาตรา 109



นอกจากนี้ยังได้จัดเชิญบุคคลที่มีชื่อเสียงหลายวงการ ทั้งนักแสดง ศิลปิน นักการเมือง รวมไปถึงพระสงฆ์ ให้ได้รับปริญญาบัตรบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ และดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ โดยที่ไม่ได้ผ่านการเรียนการสอน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายขั้นต่ำรายละ 15,000-350,000 บาท
รายชื่อของศิลปินดาราที่เคยเข้ารับปริญญาเอกกับมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก ก็มีทั้งสมบัติ เมทะนี,สมรักษ์ คำสิงห์,โกวิท วัฒนกุล,ติ๊ก ชิโร่ รวมทั้งนายสุขุม วงศ์ประสิทธิ์ ลูกศิษย์พระวิระพล สุขผล หรือหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม


ทางด้านเจ้าหน้าที่จากทาง DSI ยังเปิดเผยข้อมูลอีกว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการเชิญชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจว่ามหาวิทยาลัยสันติภาพโลก มีลักษณะเหมือนกับมหาวิทยาลัยอื่นทุกประการ และยังนำข้อมูลดังกล่าวไปลงโฆษณา ในคอมพิวเตอร์ เว็บไซต์ เพื่อโฆษณาให้ประชาชนหลงเชื่อ เข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน มาตรา 341 และมาตรา 343 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และยังมีความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์อีกด้วย

จากกรณีการซื้อขายรางวัลและการซื้อตำแหน่งด็อกเตอร์ สะท้อนให้เห็นว่า เงินซื้อได้ทุกอย่างแม้กระทั่งรางวัลและปริญญาเอกเพื่อให้เป็นที่นับหน้าถือตา สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คงจะมีเพียงคุณค่าของความเป็นคนเท่านั้น ที่เงินไม่สามารถซื้อหาได้ แต่จะสามารถพิสูจน์ได้ด้วยการกระทำของตนเอง

ขอบคุณข้อมูล : "เวิร์คพอยท์นิวส์" , เฟซบุ๊ก "ชมรมปันน้ำใจไออุ่นรัก" และ wpubkk.blogspot.co.il




มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น