xs
xsm
sm
md
lg

จ้อง จิ้ม จับ! ปรากฏการณ์ Pokemon GO เกมโกลาหล คนจะกลายเป็นซอมบี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สังคมก้มหน้านับวันจะพีกขึ้นทุกขณะ ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 6 ส.ค.2559 ทาง Niantic Labs ประกาศเปิดให้บริการเกม Pokemon GO เพิ่มเติมอีก 15 ประเทศในโซนทวีปเอเชีย รวมถึงไทย แน่นนอนชาวไทยที่ตั้งหน้าตั้งตารอก็แห่โหลด ฮิตจนฉุดไม่อยู่ เพียงแค่วันเดียวก็เริ่มระบาด ทยอยสร้างความเดือดร้อนต่อผู้ที่ไม่ได้เล่น เด็กวิ่งตัดหน้ารถ ผู้ใหญ่วิ่งลงน้ำ บางรายถึงขนาดจ้างแท็กซี่ให้ขับตามล่าจับโปเกมอน ทำให้หลายฝ่ายเริ่มกังวล ส่อแววว่าจะเกิดอันตรายแถมเดือดร้อนผู้อื่น มิจฉาชีพอาจฉกฉวยโอกาสจากการที่โปเกมอนเทรนเนอร์มัวแต่ก้มหน้าก้มตาเล่นมือถืออย่างไม่ระวังตัว

อุบัติเหตุเพียบเพียงวันเดียว!


สิ่งที่ทำให้ Pokemon GO ฮอตถล่มทลายเหนือความคาดหมาย ปฏิวัติวงการเกม ด้วยการทำให้โปเกมอนในเกม ออกมาโลดแล่นอยู่บนโลกเสมือนจริง โดยใช้เทคโนโลยี AR: Augmented Reality และระบบ Location Base เรียกได้ว่าเป็นเกมที่กระตุ้นให้ออกจากบ้านมากขึ้น เพราะผู้เล่นต้องเดินตามหาตัวโปเกม่อน และไอเท็มตามสถานที่ต่างๆ ที่แสดงผลผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ทั้งบนบก และในน้ำ แม้กระทั่งสวนสาธารณะที่มักมีผู้คนไปวิ่ง และออกกำลังกาย หลายคนยังยืนจับมือถือ ใช้มือตวัดจับโปเกมอน และยิ้มหัวเราะอยู่คนเดียวอย่างสนุกสนาน ยิ่งหากเข้าไปในโลกโซเชียลฯ จะเห็นแต่คนแชร์ภาพตัวโปเกมอนที่จับจนละลานตา ทว่า อันตรายจากเกมนี้ก็มีอยู่มากมายเช่นกัน



“โดนเด็กเล่น โปเกมอนโก วิ่งตัดหน้ารถเข้าให้แล้วครับ” สมาชิกเว็บไซต์พันทิปตั้งกระทู้ถึงอันตรายของเกมโปเกมอน ตะลึง! เด็ก 3 คนพร้อมใจกันวิ่งตัดหน้าโดยไม่หันซ้ายขวาดูรถ โชคดีกระทืบเบรกได้ทัน

“เมื่อชั่วโมงที่แล้วนี้เองขับรถเก๋งอยู่ในซอยบ้านซึ่งผมนั้นขับช้ามากๆ เรียกว่าปล่อยไหลได้เลย จังหวะเป็นทางลาดลงนิดหน่อยและหักเลี้ยว จะมีซอยอยู่ข้างหน้าอีกที มีเด็กอายุประมาณ 13-15 จำนวน 3 คน พร้อมใจกันวิ่งออกมาจากซอย ไม่มองถนนไม่มองรถมองแต่มือถือในมือ ผมเบรกกะทันหันมากๆ กระทืบเต็มแรงเลย ชนไป 1 คนแบบเบาๆไม่ล้มไม่เจ็บ ผมตกใจมากๆ จอดรถไปดูก่อนเลยเป็นอะไรไหม เจ็บตรงไหนไหม เด็กด้วยความตกใจ บอกอย่างเดียว ไม่เป็นไรครับๆ ผมก็ต่อว่าไปนิดหน่อยและถามทำไมเดินไม่ดูทางอย่างนี้ เด็กอีกคนบอกพวกผมเล่นเกมกันอยู่ ผมขอดูถึงกับร้องอ๋อเลย เกมนี้นี่เอง อยากจะให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่เล่นเกมนี้ระมัดระวังตัวเองกันดีๆนะอย่าไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ถ้าไม่ตกใจแบบสุดขีดว่าผมขับรถชนเด็กจะขอถ่ายรูปเด็กๆให้ดูแล้ว ตอนนี้ผมก็ตัดสินใจแล้วกล้องติดหน้ารถนั้นมันเป็นของต้องมีจริงๆ”

รวมถึงเฟซบุ๊กแจ้งข่าวชาวร้อยเอ็ด ได้โพสต์ข้อความ มีหนุ่มเล่นเกม Pokemon Go หลังจากที่เปิดให้เล่นในประเทศไทยเป็นวันแรก แต่สุดท้ายก็ไล่จับโปเกมอนไม่ได้ดูทาง จนทำโทรศัพท์ตกน้ำ โชคดีที่เจ้าหน้าที่ดำน้ำนำโทรศัพท์มาให้เจ้าของได้

นอกจากนี้ ยังมีผู้ใช้ทวิตเตอร์ถ่ายคลิปวิดีโอขณะโดยสารแท็กซี่ โดยโชเฟอร์เล่าให้ฟังว่า วันนี้มีเด็ก 2 คนขึ้นแท็กซี่เพื่อตามล่าจับโปเกมอน ขณะที่มิเตอร์ค่าโดยสารพุ่งไป 300 กว่าบาท เกือบ 400 บาท

ทว่า บางคนเดินทางกว่า 40 กิโลเมตร เพื่อมาตามเก็บตัวโปเกมอนตัวหายากถึงหน้าโรงพักพัทยา เพราะเป็นโปเกมอนที่เก่ง และมีพลังความสามารถสูง ซึ่งถือว่าหายาก โดยโปเกมอนแต่ละตัวก็จะอาศัยอยู่ตามภูมิประเทศต่างๆ ลักษณะความเป็นอยู่ของแต่ละตัวก็จะมีความแตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะบริเวณหน้าโรงพักพัทยา ซึ่งนักเล่นเกมนี้ต่างทราบดีว่าเป็นจุดที่มีไอเท็มจำนวนมากจึงเดินทางมาเก็บกันมากมาย

รับมือ ปรากฏการณ์ “ Pokemon GO” ฟีเวอร์

ธาม เชื้อสถาปนศิริ นักวิชาการสื่อสาธารณะ ได้แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Time Chuastapanasiri โพสต์เตือนผู้เล่นเกม Pokemon Go แนะรัฐให้เตรียมพร้อมรับมือ อย่าวัวหายแล้วล้อมคอก


“ผมคิดว่า ภายในสักเวลาหนึ่งเดือน ประเทศไทยจะได้ยินข่าว เช่น ผู้เล่นเกิดอุบัติเหตุ รถชน หรือ เดินข้ามถนนโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ ,ผู้เล่นพลัดตกคู คลอง ท่อ เพราะเพลิดเพลินกับการเดินจับโปเกมอน, ผู้เล่นถูกปล้น จี้ ชิงทรัพย์ จากมิจฉาชีพ ที่คอยดักจี้ปล้น , ผู้เล่นเด็ก ถูกล่อลวงโดยอาชญากร ดักจับ ลักพาตัวไป , ผู้เล่น เสียงาน เสียการ เพียงเพราะเสพติดและทุ่มเวลามากเกินไปในการเล่น ,ผู้เล่น เสียเงินและค่าดาต้าอินเตอร์เน็ตมหาศาล และจ่ายเงินจริงๆ ที่หามาได้เพียงเพราะต้องการซื้อของ ซื้อไอเทมในเกม,มีการซื้อขายไอเทม โดยการแลกเปลี่ยนกับบางอย่าง เช่น เงิน ยาเสพติด เซ็กซ์ หรือ การละเลยทอดทิ้งเด็ก (หลายปีก่อน พ่อแม่คู่หนึ่งในจีน ประกาศขายทารกน้อยของตนเอง เพื่อเอาเงินไปซื้อเล่นเกมออนไลน์มาแล้ว )

สิ่งที่สำคัญที่สุดในเวลานี้ คือ หน่วยงานรัฐไทยมีความรู้ ความพร้อมต่อการปฏิบัติหน้าที่ตนเองหรือยังครับ

1.กสทช. มีหน้าที่กำกับโดยตรงเลยครับ ควรหารือเพื่อออกมาตรการกำกับเทคโนโลยีนี้โดยเร่งด่วน ตั้งแต่มาตรการจำกัดอายุผู้เล่น มาตรการด้านราคาค่าบริการ มาตรการด้านข้อมูลและความเป็นส่วนตัวของผู้เล่น และ การเยียวยาคุ้มครองผู้บริโภคคนอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากเทคโนโลยีนี้ควรเรียกผู้นำเข้าและผู้ให้บริการค่ายโทรศัพท์มือถือ มากำกับ และควรออกประกาศให้ผู้ให้บริการมือถือค่ายต่างๆ ออกซิมเด็ก โดยเฉพาะได้แล้ว และควรใช้ซิมมือถือเด็ก เป็นบริการจดทะเบียนโดยพ่อแม่ผู้ปกครอง ที่เข้าระบบรายเดือน หรือมีมาตรการกำหนดวงเงินค่าใช้จ่ายบริการ ไม่ใช่ปล่อยให้ค่ายมือถือรุกคืบเอาประโยชน์กำไรจากผู้บริโภคที่ไม่รู้เท่าทันภาคธุรกิจเอกชนอย่างนี้

2.การรถไฟ การท่าเรือ รถไฟฟ้า กทม ทั้ง MRT และ BTS และเรือยนต์โดยสารตามท่าต่างๆ ควร เร่งออกประกาศคำสั่งห้ามผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ จับเล่นเกมโปเกมอน บริเวณสถานี ทั้งบันไดเลื่อน บันได บริเวณชานชาลา และในรถไฟฟ้า และบริเวณท่าน้ำ โป๊ะ จุดขึ้นลงเรือโดยสารด้วย

3.โรงเรียน มหาวิทยาลัย บรรดาผู้บริหารโรงเรียนทั้งหลาย ควรมอบเป็นนโยบายให้ครูประจำชั้น และครูอื่นๆ กำชับไม่ให้เล่นเกมนี้ในบริเวณโรงเรียนโดยเด็ดขาด และระมัดระวังพื้นที่ด้านรอบข้างโรงเรียน เช่น ถนนหน้าโรงเรียน หรือพื้นที่จุดรับส่งเด็กนักเรียน

4.กระทรวงศึกษาธิการ เร่งส่งเสริมวิชาเรียนรู้เท่าทันสื่อ และเทคโนโลยี ให้กับคุณครูผู้สอน และจัดอบรมพ่อแม่ผู้ปกครองให้รู้เท่าทันภัยและอันตราย หรืออิทธิพลที่มาจากเทคโนโลยีด้วย เพราะ พ่อแม่ดูจะมีปัญหานี้มาก ขาดความรู้ที่จะบอกกล่าวตักเตือนลูกๆ อ้อ! อย่าลืมกำชับครูด้วยว่า ไม่ให้เล่นในขณะที่อยู่ในโรงเรียน กำลังสอน หรือขณะทำกิจกรรมกับเด็ก

5.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ออกมาตรการห้ามเล่นเกมนี้ ในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ เช่น อุทยานประวัติศาสตร์ โบราณสถาน โบราณวัตถุ และห้ามใช้ไม้เซลฟี หรือ โดรน ในบางจุดที่มีความเสี่ยงที่ผู้เล่นจะใช้เครื่องเล่นนี้ จับสัตว์โปเกมอน

6.กระทรวงไอซีที ควรหารือเพื่อออกมาตรการป้องกันและคุ้มครองกระบวนการอาชญากรรมทั้งหมดที่เสี่ยงต่อผู้เล่นที่เป็นเด็กและเยาวชนอย่างเร่งด่วน (กระบวนการ Phishing หรือ Pharming) และความปลอดภัยทางด้านการเงิน ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งหลาย ที่กำลังจะเกิดขึ้น

ระวัง! เกมดึงดูด ทัศนวิสัยรอบข้างเป็น 0

อย่างไรก็ดี นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น กรมสุขภาพจิต ได้ออกมาโพสต์เตือนผ่านเฟซบุ๊ก Nat Varoth แนะ 6 ข้อเตรียมพร้อมรับมือกับกองทัพซอมบี้นักจับโปเกมอนทั้งหลายจากประสบการณ์ที่เคยทดลองเล่นเกมนี้มาแล้ว


จากเดิมที่วัยรุ่นยุคปัจจุบันมีพฤติกรรมก้มหน้าจ้องแต่สมาร์ทโฟนมากอยู่แล้ว เวลาที่นั่งอยู่กับเพื่อนหรือครอบครัว ซึ่งก็เป็นปัญหาใหญ่ของสังคมอยู่เดิม ตอนนี้พัฒนาขึ้นไปอีกขั้นคือ แม้แต่เวลาเดินก็ยังก้มหน้าเล่นมือถือไปเรื่อย ๆ วัยรุ่นเดินกันมาเป็นกลุ่ม 5-6 คน แต่ทุกคนก้มหน้าหมดเหมือนไม่ได้มาด้วยกัน เดิน ๆ หยุด ๆ หันไปหันมาเอามือถู ๆ หน้าจอเป็นช่วง ๆ ดูไปก็คล้าย ๆ กองทัพซอมบี้ในหนังสยองขวัญเหมือนกัน แน่นอนว่า เกมนี้มันทั้งสนุก ติด และอันตราย !!

1.คุณต้องก้มหน้าตลอดเวลา เกมนี้ดึงดูดให้คุณอยากก้มหน้าเกือบตลอดเวลา เพราะฉะนั้นทัศนวิสัยรอบข้างของคุณจะกลายเป็น 0 ทันทีเมื่อคุณจ้องที่หน้าจอโทรศัพท์ แม้ว่าบางครั้งเงยหน้ามองทางแล้ว ใจก็ยังจดจ่ออยู่ดีว่าจอจะสั่นเมื่อไหร่ และเมื่อเจอโปเกมอนมันก็คงยากที่จะทำใจเดินผ่านไปโดยไม่หยุดจับมัน เปรียบเสมือนรถที่ขับโดยลืมเอาที่บังแดดออกแล้วเหยียบเบรกกระตุก ๆ ตลอดเวลา เสี่ยงต่ออุบัติเหตุอย่างมากแน่นอน ดังที่เป็นข่าวในต่างประเทศ

2. คำเตือนให้ระวังสิ่งรอบข้างขณะเล่น อาจไม่สามารถใช้ได้กับประเทศไทย เพราะการเดินบนทางเท้าของประเทศเราแม้จะระวังแล้วก็ยังมีความอันตรายอยู่ดี เพราะมีทั้งท่อที่ไม่ได้ปิด แผงลอยแม่ค้า และรถมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งสวนบนทางเท้า เพราะฉะนั้นการเดินก้มหน้าเล่นเกมในไทยจึงไม่ต่างจากเดินบนถนนจริง ๆ ตลอดเวลา ทั้งนี้ ยังไม่นับรวมเรื่องมิจฉาชีพที่มีมากมายในประเทศซึ่งพร้อมจะจู่โจมคนที่เอาแต่ก้มหน้ามองมือถือได้ตลอดเวลาเช่นกัน ทั้งการวิ่งราวโทรศัพท์ การล้วงกระเป๋า รวมถึงอาชญากรรมที่รุนแรงกว่านั้นได้

3. ใช้ทั้งพลังงานโทรศัพท์และพลังร่างกายของผู้เล่น จากที่ได้ทดลองด้วยตนเอง แบตฯไอโฟนของผมหมดเร็วมาก ๆ แค่ครึ่งวันก็หมดแล้ว กลายเป็นปัญหาว่าช่วงตอนเย็นไม่สามารถติดต่อใครได้เลยหากไม่มีการชาร์จสำรอง แต่ที่หนักไปกว่านั้นคือ มันใช้พลังร่างกายของเราไปด้วย เพราะเกมนี้เป็นแบบเรียลไทม์ ผู้เล่นจึงจะถูกกระตุ้นให้ตื่นตัวตลอดเวลา เพราะต้องตอบสนองต่อสภาพแวดล้อม จึงไม่มีช่วงที่ผ่อนคลายระหว่างเล่นเลย Pokemon Go

4.พูดคุยกับคนอื่นน้อยลง เนื่องจากมัวแต่จดจ่ออยู่กับการจับและฟักไข่เหล่าโปเกมอน ถึงแม้ว่าเกมจะออกแบบให้ผู้คนมารวมตัวกันและได้มีบทสนทนาแลกเปลี่ยนกัน แต่ต้องยอมรับว่าลักษณะการเข้าสังคมของคนไทยนั้นต่างจากคนในต่างประเทศ คนในยุโรปเมื่อไปรวมตัวกันจะมีการพูดคุยทักทายกับคนแปลกหน้าเป็นเรื่องปกติ แต่วัฒนธรรมของคนไทยไม่ใช่แบบนั้น คนไทยเป็นคนขี้อาย การไปรวมตัวกันแต่ละครั้งจึงยากที่จะกระตุ้นให้เกิดการสนทนาที่มากขึ้น

5. ท่องเที่ยวสนุกน้อยลง เกม Pokemon Go จะจัดสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ให้เป็นจุดโปเกสต็อปและยิม เพื่อดึงดูดให้เกิดการท่องเที่ยวมากขึ้น รู้จักชื่อสถานที่เหล่านั้นมากขึ้น โดยจุดประสงค์แล้วเป็นสิ่งที่ดี แต่จากการสังเกตของผม แท้ที่จริงแล้ววัยรุ่นกลับให้ความสนใจที่จะอยู่กับเกมมากกว่าที่จะสนใจสถาน ที่ท่องเที่ยวสำคัญเหล่านั้นจริง ๆ โดยบางครั้งมีความหวังลึก ๆ ว่าจะจับโปเกม่อนแปลก ๆ ได้ในสถานที่สำคัญนั้น ๆ ความสนุกจากการท่องเที่ยวแบบเดิม ๆ จึงถูกลดทอนไปอย่าง
มาก

6.คนไทยเป็นนักเล่นเกมตัวยง ด้วยตัวเกมถูกสร้างมาให้เล่นแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่คนไทยขึ้นชื่ออยู่แล้วว่าเป็นนักตะบี้ตะบันเล่นเกมระดับโลก ยิ่งบวกกับการใช้โซเชียลมีเดียอย่างแพร่หลายในสังคมไทย การแข่งขันและการอยากเอาชนะจึงจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน สิ่งเหล่านี้จะกระตุ้นให้เกิดการใช้เวลาและเงินทองกับเกมมากขึ้น รวมทั้งอาจถูกหลอกโดยใช้การจับโปเกมอนเป็นเครื่องมือล่อลวงคนที่ไม่ระมัดระวังตัวได้ ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นผลเสียต่อการเรียน การทำงาน สุขภาพกาย และสุขภาพจิตในท้ายที่สุด

สุดท้ายนี้ อยากแนะนำสั้นว่า ๆ การเล่นเกมเพื่อผ่อนคลายเป็นสิ่งที่ดี แต่หากเล่นมากเกินไปอาจทำให้เสียการเรียนและเสียงานได้ ควรเล่นอย่างมี "สติ" โดยใช้เวลาไม่เกิน 1-2 ชั่วโมงต่อวันหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจในแต่ละวัน อาจใช้ Pokemon Go เพื่อดึงดูดให้ตนเองออกไปเดินออกกำลังกายในช่วงเย็นยิ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมาก ผู้ปกครองที่ต้องดูแลบุตรหลานซึ่งอยากเล่นเกมนี้ ควรทำความเข้าใจกับมัน แนะนำวิธีการเล่นที่ถูกต้องให้กับลูก จัดเวลาให้เหมาะสม และควบคุมอย่างใกล้ชิดด้วยครับ




ขอบคุณภาพ จาก Paweł Kuczyński
กำลังโหลดความคิดเห็น