สังคมอยู่ยากขึ้นทุกวัน! เตือนภัยผู้หญิงที่ต้องเดินทางด้วยรถทัวร์คนเดียว แม้แต่งกายมิดชิดก็ยังเสี่ยงอันตราย นั่งอยู่ดีๆ พนักงานเรียกให้ลงจากรถกลางดึก หากขาดสติอาจไปไม่ถึงที่หมาย!
รอดมาได้เพราะสติ และพลเมืองดี
สำหรับใครที่ต้องเดินทางไกลเป็นประจำและจำเป็นต้องใช้รถโดยสารประจำทางอย่างรถทัวร์ โดยเฉพาะสาวๆ ที่ต้องเดินทางคนเดียวต้องระวังตัวเป็นพิเศษ เพราะมีกรณีที่หญิงสาวคนหนึ่ง ออกมาบอกเล่าถึงประสบการณ์ระทึกที่ต้องเจอระหว่างเดินทางโดยใช้เส้นทางสายใต้ คือการถูกพนักงานบนรถเรียกให้ลงจากรถตอนกลางคืนทั้งที่ไม่มีเหตุจำเป็น ทั้งที่แต่งกายมิดชิดแล้วก็ตาม เหตุการณ์นี้ทำให้เธอเข็ดขยาดไม่กล้าใช้บริการรถทัวร์โดยสารอีกต่อไป
เรื่องราวนี้ถูกเปิดเผยโดย สมาชิกเว็บไซต์ Pantip.com หมายเลข 3200973 ตั้งกระทู้ “อุทาหรณ์ สำหรับผู้หญิงที่โดยสารรถทัวร์คนเดียว” บอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่เพื่อนของเจ้าของกระทู้ซึ่งเป็นผู้หญิงต้องการเดินทางจากจังหวัดนครศรีธรรมราช ไปยังจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เธอแต่งกายอย่างมิดชิดด้วยเสื้อยืด กางเกงขายาว รองเท้าผ้าใบ และได้ซื้อตั๋วรถโดยสารจากบริษัทเดินรถแห่งหนึ่ง แต่พนักงานได้แจ้งว่า ตั๋วที่จะส่งบริษัทชำรุด จึงออกตั๋วใหม่ให้โดยเขียนเป็นลายมือพนักงานแทน
เมื่อขึ้นไปบนรถ ก็พบว่าที่นั่งหมายเลข 23 ของเธอมีชายคนหนึ่งนั่งอยู่ก่อนแล้ว จึงได้เข้าไปบอกชายคนดังกล่าวว่าเป็นที่นั่งของเธอ ชายคนนั้นจึงได้ลุกไปนั่งที่อื่น ซึ่งระหว่างการเดินทางนั้นเธอก็ได้หลับมาตลอด จนกระทั่งเวลาประมาณหนึ่งทุ่มกว่าๆ รถได้จอดแวะให้ผู้โดยสารลงมารับประทานอาหาร เธอไม่ได้รับประทานอะไรจึงนั่งรอเวลารถออก แต่จู่ๆ ก็มีผู้โดยสารชายที่เธอเล่าว่ามีอาการคล้ายคนเมายาเข้ามาถามว่า “ไม่ไปกินข้าวเหรอ” ด้วยความกลัวเธอจึงลุกหนีไป
ในเวลา 23.00 น. เมื่อเข้าเขตจังหวัดชุมพร เธอต้องตกใจอีกครั้งเพราะรถได้จอดเข้าข้างทาง แล้วพนักงานบนรถก็ได้เรียกให้ลงไปข้างล่างด้วยน้ำเสียงข่มขู่หลายครั้ง โดยไม่มีสาเหตุที่แน่ชัดว่าต้องการอะไร ระหว่างนั้นสังเกตเห็นว่ามีรถกระบะสีดำมาจอดเทียบอยู่ข้างรถทัวร์อีกด้วย จากนั้นพนักงานได้นำตั๋วโดยสารซึ่งมีชื่อผู้ชายระบุไว้ พร้อมกับบอกว่าที่นั่งของเธออยู่ด้านล่าง เหยื่อจึงแย้งกลับไปว่าที่นั่งของเธอถูกต้องแล้ว
พอพนักงานประจำรถจึงเดินกลับลงไปข้างล่าง ผู้โดยสารที่อยู่ด้านหลังซึ่งเป็นพยานในเหตุการณ์นี้ ได้สะกิดบอกว่า ได้ยินพนักงานบนรถคุยกันว่าจะให้หญิงสาวลงไปนั่งข้างล่าง คล้ายกับว่าเป็นการวางแผนมาแล้ว ซึ่งหากเธอตามลงไป พยานผู้นี้ก็จะห้ามไว้ ทำให้ตลอดการเดินทางนั้นเธอไม่สามารถข่มตาหลับได้อีกเลย เมื่อถึงจุดหมายคือจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เธอลงจากรถและถามกับคนขับรถว่าเมื่อตอน 5 ทุ่มมีปัญหาอะไร คนขับรถตอบว่าไม่มีและออกรถไปทันที
หลังเกิดเหตุเธอได้เข้าแจ้งความและจะดำเนินการเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และแม่ของผู้ที่ประสบเหตุได้เดินทางไปยังบริษัทเดินรถรายนี้ ทางบริษัทเปิดเผยว่า พนักงานบนรถรายนี้มีนิสัยแย่เป็นปกติอยู่แล้ว ล่าสุดทางบริษัทได้ไล่ออกเป็นที่เรียบร้อย เมื่อเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้เกิดคำถามมากมายว่าผู้โดยสารจะสามารถหาความปลอดภัยได้อย่างไร โดยเฉพาะผู้โดยสารผู้หญิงที่ต้องเดินทางคนเดียว และยังตั้งข้อสังเกตว่า นี่คงไม่ใช่ครั้งแรกและน่าจะทำกันเป็นขบวนการทั้งคนขับรถและพนักงาน เพราะมีการจอดรถกลางทางและยังมีรถกระบะมารออีก คาดว่าน่าจะมีผู้เสียหายที่เคยประสบเหตุนี้อีกหลายราย
ส่วนอีกประเด็นที่ตั้งข้อสังเกตกันคือ พนักงานอาจมีการขายตั๋วเกินจำนวน แล้วเงินที่ได้มาจะเข้ากระเป๋าตนเองหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง ทางบริษัทก็ควรมีมาตรการจัดการและตรวจสอบพนักงานที่อยู่ในขบวนการทั้งหมด เพราะหากทำเพียงแค่ไล่ออกโดยไม่มีการสอบสวน ก็เหมือนกับเป็นการปัดความรับผิดชอบ และพนักงานคนนี้อาจจะไปก่อเหตุที่อื่นในภายภาคหน้าอีกได้
นับว่าเป็นโชคดีของเพื่อนเจ้าของกระทู้ที่มีพลเมืองดีมาช่วยเป็นหูเป็นตาเฝ้าระวังภัย เพราะหากเธอลงตามพนักงานไปด้านล่างก็อาจจะเกิดเหตุการณ์ร้ายกว่าที่คิดก็เป็นได้ เหตุการณ์นี้ถือได้ว่าเป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้หญิงที่ต้องเดินทางด้วยรถทัวร์เป็นอย่างดี หากหญิงสาวคนไหนที่จำเป็นต้องเดินทางคนเดียวก็ควรเดินทางในช่วงกลางวันและแต่งกายไม่ล่อแหลม หรือบอกกับพนักงานขายตั๋วไปขอนั่งติดกับผู้หญิงด้วยกันเพื่อความปลอดภัยของตนเอง
ตั๋วผี+ตีนผี = ปัญหาเรื้อรังรถทัวร์ไทย
จากเหตุการณ์ข้างต้นของหญิงสาวที่เดินทางคนเดียวโดยใช้รถทัวร์โดยสาร สามารถวิเคราะห์ออกมาได้ 2 ประเด็น อย่างแรก พนักงานบนรถอาจมีเจตนาไม่ดีต่อหญิงสาว เพราะไม่มีเหตุผลเลยที่จะเรียกผู้โดยสารกลางดึก ส่วนอีกประเด็นคือตั๋วที่เธอได้มาอาจเป็นตั๋วผีซึ่งอาจจะเป็นกลวิธีของพนักงานที่ต้องการขายตั๋วผี ด้วยการอ้างว่าทำตั๋วที่จะนำส่งบริษัทเกิดชำรุด จึงให้ตั๋วที่เขียนด้วยลายมือแก่เธอแทน เมื่อขึ้นรถไปแล้วจึงทราบว่าตำแหน่งที่นั่งเกิดซ้ำกับผู้โดยสารที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว
สำหรับตั๋วผีรถทัวร์นั้น คือตั๋วโดยสารที่มีการขายเกินราคาหรือขายเกินจำนวนจากที่บริษัทเดินรถกำหนด ซึ่งพนักงานขายจะได้เงินจากจำนวนตั๋วชนิดนี้เข้ากระเป๋าตนเองโดยไม่ได้ขึ้นกับบริษัทเดินรถ ก่อให้เกิดปัญหาตามมาคือ เมื่อผู้โดยสารขึ้นมาบนรถก็จะไม่มีที่นั่ง หรือต้องนั่งเก้าอี้ที่เสริมเข้ามาบริเวณทางเดินทั้งที่จ่ายไปในราคาเต็มหรือแพงกว่า ซ้ำร้ายผู้โดยสารบางคนเจอตั๋วผีแถมที่นั่งเต็ม ต้องกลายเป็นตีตั๋วยืนไปตลอดการเดินทาง
[ ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ]
ทุกปีพอเข้าช่วงเทศกาลหยุดยาวต่างๆ ประชาชนที่มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัดต่างก็ต้องการกลับสู่บ้านเกิดเพื่อเยี่ยมเยียนครอบครัวและพักผ่อนจากการทำงานมาตลอดทั้งปี รถทัวร์โดยสารจึงเป็นทางเลือกแรกๆ ที่ใช้ในการเดินทาง ด้วยความที่ประชาชนต้องการเดินทางกลับเป็นจำนวนมาก จึงเป็นโอกาสทองของบางบริษัทที่ต้องการกอบโกยเงิน และใช้ช่วงจังหวะนี้จำหน่ายตั๋วเกินราคา อีกทั้งยังเสริมเก้าอี้เข้าไปเพื่อที่จะบรรทุกผู้โดยสารให้ได้คราวละจำนวนมาก โดยไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยแม้แต่นิดเดียว
ปัญหาการลักลอบจำหน่ายตั๋วผีเกินราคาถือได้ว่าเป็นปัญหาเรื้อรังและแก้ไม่ตกเสียที บ่อยครั้งที่จะได้ยินข่าวการร้องเรียนถึงเรื่องนี้ ซึ่งทางบริษัทขนส่ง จำกัด หรือ บขส. ก็ได้มีมาตรการให้การจัดการกับเรื่องนี้มาตลอด ทั้งการปรับเงินกับผู้ประกอบการ หรือการสุ่มตรวจตามรายทาง แต่ก็ไม่สามารถจัดการให้สิ้นซากไปเสียทีเพราะบางครั้งบริษัทเดินรถได้รับผู้โดยสารระหว่างทางและเสริมเก้าอี้เข้าไปภายหลัง ประชาชนที่ต้องการกลับภูมิลำเนาบางคนก็ยอมจ่ายค่าโดยสารแพงขึ้น เพื่อให้ได้เดินทางกลับภูมิลำเนา ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้วงจรนี้ยังคงมีอยู่ก็เป็นเพราะประชาชนเองด้วย
[ ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ]
นอกจากนี้นอกจากปัญหาตั๋วผีในช่วงเทศกาลแล้ว อีกปัญหาเกิดอยู่บ่อยครั้งคือการที่รถทัวร์โดยสารเกิดอุบัติเหตุ สาเหตุก็มาจากการที่คนขับต้องการวิ่งรอบรับผู้โดยสารให้ได้จำนวนมาก ทำให้ไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ จนเกิดการหลับในและประสบอุบัติเหตุ นำมาซึ่งความสูญเสียที่พบเจอตามหน้าหนังสือพิมพ์อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นหน้าที่ของประชาชนต้องช่วยกันหากพบเจอพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องของบริษัทเดินรถหรือพนักงานปฏิบัติตนไม่เหมาะสม สามารถร้องเรียนไปได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะหมายเลข 1584
[ ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ]
ย้อนกลับไปช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก็เกิดกรณีที่หญิงสาวคนหนึ่งจะเดินทางจากจังหวัดร้อยเอ็ดไปยังจังหวัดนครราชสีมา เธอได้ซื้อตั๋วรถร่วมบริการสายกรุงเทพฯ - อุบล ที่พอขึ้นไปแล้วกลับพบว่ามีผู้โดยสารยืนอยู่กว่า 10 คน และมีผู้ที่รอขึ้นไปอีกกว่า 20 คน โดยพนักงานไล่ให้คนที่ลงใกล้ๆ ยืนโดยสารไป ส่วนใครที่จะลงกรุงเทพฯ ก็ให้นั่ง
เมื่อทราบดังนั้นหญิงสาวคนดังกล่าวจึงขอคืนตั๋วเพราะเกรงจะเกิดอันตราย และผู้โดยสารคนอื่นๆ ก็ต้องการจะคืนตัวเช่นกัน จนเกิดมีปากเสียงกับพนักงานบนรถ ซึ่งเธอได้นำเรื่องราวนี้มาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อขอความเป็นธรรม จนนำไปสู่การลงโทษพนักงานขับรถในข้อหารับผู้โดยสารเกินจำนวนตามที่กฎหมายกำหนดและอีกข้อหาคือแต่งกายไม่สุภาพ เจ้าหน้าที่ได้มีการปรับเป็นเงินไปข้อหาละ 5,000 บาท รวมเป็น 10,000 บาท นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังโดนเรียกเข้ามาเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงอีก ถือได้ว่าเป็นกรณีตัวอย่างของพลังประชาชนที่ไม่ต้องการถูกบริษัทรถทัวร์เอารัดเอาเปรียบอีกต่อไป
[ ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ]
ส่วนผู้ใดที่ต้องเดินทางคนเดียวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย มาดูวิธีการป้องกันตนเองเบื้องต้นหากจำเป็นต้องเดินทางคนเดียว อย่างแรกถ้าเป็นไปได้ควรเลือกเดินทางในเวลากลางวันจะดีกว่า ในส่วนของการแต่งกาย ควรแต่งกายให้มิดชิดและหลีกเลี่ยงการสวมใส่เครื่องประดับมีค่าที่ล่อตาล่อใจมิจฉาชีพ ควรเก็บให้มิดชิดและนำติดตัวไว้ตลอดเวลาจะดีกว่า
ต้องคอยหมั่นสังเกตสถานการณ์รอบข้าง อย่ามัวแต่ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์มือถือ มีสติอยู่กับตัวตลอดเวลา เพราะหากเกิดเหตุร้ายจะได้ตั้งตัวได้ทัน ที่สำคัญอย่าไว้ใจคนแปลกหน้าไม่ว่าเขาจะดูน่าไว้ใจแค่ไหนก็ตาม ทั้งหมดนี้คือคำแนะนำขั้นแรกเพื่อที่ผู้ใช้รถโดยสารสาธารณะทั้งหลายจะได้เดินทางถึงที่หมายอย่างปลอดภัย
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754
