เรียกว่าเป็นประเด็นร้อนฉ่า! ผู้คนต่างให้ความสนใจจับตากับคดีนักศึกษาสาวเรียนดีวัย 19 ปี ถูกแจ้งความข้อหาลักทรัพย์นายจ้าง มูลค่านับ 10 ล้าน ขณะที่ช่วยแม่ทำงานในช่วงปิดเทอม แต่เธอไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองเข้าคุกเพราะไม่ได้ทำ! จึงเข้าร้องทุกข์กับกองปราบฯ เพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อล้วงลึกลงไปนายจ้างเคยมีการแจ้งความจับเด็กชาวเขาข้อหาคดีลักทรัพย์ในรูปแบบคล้ายคลึงกันอีกด้วย คือ 2 เด็กสาวไม่ยอมไปทำงานต่างประเทศตามที่เธอขอ พร้อมข้อสงสัยว่า นายจ้างผู้ร่ำรวยคนนี้ มีทรัพย์สินอู้ฟู่มาจากไหน เงินได้มาอย่างไร ขายเนื้อสดค้ามนุษย์หรือไม่!?
เดินหน้าสู้ ไม่ผิด ไม่เข้าคุก!
เกือบหมดอนาคต ครอบครัวหมดเนื้อหมดตัว แต่ต้องเดินหน้าสู้ให้ถึงที่สุด น.ส.ประภาวรรณ ใจกล้า หรือ น้องก้อย วัย 19 ปี นิสิตปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง พร้อม นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง จากกรณีน้องก้อย ถูกหญิงนายจ้างอายุประมาณ 50-60 ปี แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ โดยอ้างว่ามีทรัพย์สินสูญหายไปรวม 11 รายการ รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2558
น้องก้อยเป็นนักเรียนโครงการห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ ของโรงเรียนในนครพนม โดยการสนับสนุนของ สววท. ที่คัดเด็กเรียนดี ความประพฤติดี เรียนเพียง 30 คน จากทั้งหมด โครงการนี้มีเพียง 190 แห่ง จากโรงเรียนทั่วประเทศ จำนวน 28 แห่งของโรงเรียนอีสานตอนบน ที่จะประเมินคุณภาพผู้เรียนทุกปี น้องก้อยเป็นผู้อยู่ห้องคิงของโรงเรียน เป็นห้องคุณภาพที่สุดที่สถานศึกษาภูมิใจ
น้องก้อย เล่าว่า ช่วงปิดเทอมได้ไปช่วยแม่ทำงาน มีหน้าที่คอยเลี้ยงแมวให้กับนายจ้างหญิงคนดังกล่าว ก่อนจะถูกชักชวนให้ไปทำงานที่ฮ่องกง บอกเธอว่า เป็นงานรายได้ดีได้เงินหลักล้านบาท แต่ได้ปฏิเสธไปเพราะต้องการเรียนต่อ สอบติดมหาวิทยาลัยรัฐ เมื่อถูกรบเร้าหลายครั้ง พ่อและแม่จึงตัดสินใจลาออกจากงาน ระหว่างย้ายของออก นายจ้างหญิงคนนี้นำตำรวจมาจับกุม อ้างว่าทรัพย์สินมีค่าหายไปจำนวนมาก โดยเชื่อว่าเธอกับครอบครัวขโมย!
นายจ้างหญิงอ้างว่า ทรัพย์สินที่หายไป คือ ทองคำแท่งน้ำหนัก 10 บาท รวม 40 แท่ง ทองรูปพรรณ , เพชร และทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ ที่วางไว้ตามโต๊ะ และจุดต่างๆ ภายในห้องพัก สูญหายไป รวม 11 รายการ มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
ขุดประวัติ! นายจ้าง รวยแจกแหลก แต่แจ้งจับลูกจ้างเพียบ!
เมื่อขุดคุ้ยประวัตินายจ้างรายนี้ ประวัติความเป็นมาไม่ใช่เล่น เมื่อมีสื่อขอสัมภาษณ์ เธอขอให้เรียกว่า “หญิงไก่” ทั้งยังไม่ขอเปิดเผยชื่อจริง และใบหน้า ในขณะที่ผู้ต้องหาเผยหน้าชัดเจน เราจึงสามารถได้ยินแต่เสียงของเธอ โฟนอินทางรายการทีวีเท่านั้น เธอยืนยันว่า รวยจริง รวยมาก และเคยถูกลูกจ้างลักทรัพย์มาแล้วถึง 4 ครั้ง บางรายก็ไม่เอาเรื่อง แต่มี 2 คดี เป็นเด็กชาวเขาอายุ 19 ปี เธออ้างว่าขโมยของเพื่อเอาไปให้ผู้ชาย ลักทรัพย์มูลค่าหลายล้าน จำคุก 2ปี และอีกคดีคืออดีตลูกจ้างหญิง วัย 54 ปี ถูกเธอแจ้งความลักทรัพย์มูลค่ากว่า 3 ล้าน ปัจจุบันนี้อยู่ในเรือนจำคลองเปรมมา 6 เดือนแล้ว
ส่วนสาเหตุที่ทำไมถึงรวยเวอร์นั้น เธอเล่าว่า เพราะชอบไปเสี่ยงโชคที่ฮ่องกง แต่ละครั้งจะได้เงินกลับมา 90 -100 ล้านบาท แต่ปัจจุบันนี้เลิกแล้ว เคยมีข่าวออกหนังสือพิมพ์แจกเงินคนเป็นล้าน เพราะเคยไปอธิษฐานว่า ถ้าได้เงินกลับมาจะแจกคน ให้ทาน
น้องก้อยเล่าว่า นายจ้างมักเรียกตัวเองเป็น คุณหญิง และมีการกล่าวอ้างถึง “บุคคลชั้นสูง” เป็นประจำ จึงทำให้ครอบครัวของเธอหวาดกลัว
สำหรับคดีเด็กหญิงวัย 19 ปี ที่ขโมยของเอาไปให้ผู้ชายตามที่หญิงไก่ กล่าวอ้างนั้น จตุรงค์ สุขเอียด นักข่าวจากรายการข่าวสามมิติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ที่หลายคนต้องตะลึง กับสาเหตุที่ทำไมถึงโดนนายจ้างแจ้งจับ
“หนูนา...หนูนาเป็นเด็กชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงที่แม่ฮ่องสอน ถูกชักชวนมาอยู่กับอดีตนายจ้างคนเดียวกับน้องก้อย พร้อมเด็กรุ่นเดียวกัน6คน เจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคม เรียกว่า เด็กขุน หรือ ตกเขียว คือ นำมาแต่งตัวใหม่ ประดับตัวให้สวยงาม จัดหาที่เรียนให้ ระหว่างนั้นก็จัดส่งออกไปต่างประเทศ ลักษณะแต่งงานกับคนต่างชาติ เช่น สิงคโปร์ฮ่องกง มักเป็นผู้สูงอายุ เพื่อนๆของหนูนาชุดนั้นก็เช่นกัน ยกเว้นหนูนา ที่เกิดมีแฟนกับคนไทยก่อนจึงไม่ไป จึงถูกแจ้งความข้อหาลักทรัพย์มหาศาลที่ สน.ประชาชื่น ถูกบังคับให้เซ็นรับสารภาพไม่งั้นจะแจ้งจับ พ่อ แม่ และแฟนด้วย หนูนาติดคุกไป2ปีกว่า ตอนนี้กำลังรอใครบางคนอยู่ จนท.พม.ศูนย์ประชาบดี พร้อมเปิดข้อมูลชาวเขาที่ถูกเอาไปเขาว่า ผมเป็นข้าราชการพร้อมขึ้นให้การศาลเป็นพยานได้เลย”
จับพิรุธนายจ้าง!
ขณะเดียวกัน ทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวกับคดีดังกล่าว พร้อมแย้มว่า นายจ้างรายนี้กำลังถูกสาวไส้ เปิดโปงอะไรบางอย่าง พร้อมตัวละครสำคัญจำนวนมาก
"...เหนือคดีนี้มีคดีที่เหนือกว่าที่สื่อกับประชาชนจะตะลึง! คดีน้องก้อย(นางสาวประภาวรรณ ใจกล้า)วัย 19 ปี นิสิตปีที่1คณะวิศวะที่ถูกกล่าวหาว่า"ร่วมกันลักทรัพย์นายจ้าง"โดยมีบิดาและมารดาของน้องก้อยร่วมด้วยนั้นในวันเกิดเหตุซึ่งตรงกับวันที่ 18 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งมีทรัพย์สินของนายจ้างที่ถูกประทุษร้ายไปกว่า10 ล้านบาทนั้นจริงหรือ?
..กระผม ได้รับการร้องทุกข์เพื่อเข้าช่วยเหลือในคดีนี้เมื่อประมาณวันที่ 17 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมาโดยนางสาวประภาวรรณ ใจกล้า หรือน้องก้อย นั้นต่างยืนยันว่าตนเองและบิดามารดาไม่ได้กระทำความผิดตามที่มีการกล่าวหาจากนายจ้างแต่อย่างใด โดยเธอได้ยืนยันว่าถ้ามีหลักฐานว่าเธอได้กวาดเอาทรัพย์สิน 11 รายการของนายจ้างกว่า 10ล้านบาทไปนั้นเธอและครอบครัวก็พร้อมที่จะถูกดำเนินคดี
เรื่องนี้ไปๆมาๆทำท่าว่าจะเป็นเรื่องยาวเพราะมีลูกจ้างหลายคนที่ถูกนายจ้างรายนี้ดำเนินคดีในความผิดเดียวกันคือลักทรัพย์นายจ้าง สื่อมวลชนสายอาชญากรรมทุกแขนงเริ่มทำ การขุดคุยประวัตินายจ้างรายนี้กับพวกในประวัติความเป็นมาในอดีตอย่างกระหาย!
และแล้วสื่อมวลชนและประชาชนต้องขนลุกไปตามๆกันว่าในคดีนี้ไม่ธรรมดาคือผู้แจ้งและผู้เกี่ยวข้องอีกทั้งบริวารทั้งหมดกำลังจะถูกขุดคุ้ยและเปิดโปงในเร็วๆนี้!
ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, ท่านผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และกองปราบปราม กำลังให้ผู้ใต้บังคับบัญชารวบรวมข้อมูลและเบาะแสจากนักข่าวสายอาชญากรรมในอดีตที่ล่วงรู้ข้อมูลลับของนายจ้างรายนี้เป็นอย่างดี และจากทุกเบาะแสกำลังพรั่งพรูเข้าสู่สำนวนการรวบรวมในพยานเอกสารหลักฐาน และพยานบุคคล โดยมีตัวละครสำคัญๆ จำนวนมาก!
อีกไม่นานท่านจะทราบว่าผู้แจ้งและบริวารเป็นใครในอดีต? ที่โด่งดังที่สื่อมวลชนทุกแขนง และผู้ที่เคยเกี่ยวข้องต่างก็เคยมีประสบการณ์ตรง อันชวนขนลุกแฟ้มภาพข่าวเก่าๆในอดีตที่โด่งดังทั้งหลาย กำลังถูกต่อจิ๊กซอว์โดยนักข่าวสายอาชญากรรมเก่าๆ"
นอกจากนี้ ทนายสงกานต์ ยังจับพิรุธตั้งข้อสงสัย นายจ้างรายนี้ ไว้ 2 ประเด็น
ประเด็นที่ 1. เรื่องลักทองคำแท่งๆละ 10 บาท ถึง 40 แท่งๆละ 200,000 บาท รวม 8 ล้าน จริงหรือ พิเคราะห์ดูว่าทองคำแท่งๆละ 10บาท นั้นจะต้องมีที่มาและที่ไปเช่นตราหรือยี่ห้อร้านค้า จะตอกติดหรือกำกับบนตัวทองแท่งอยู่ทุกชิ้นทองคำแท่งๆ ละ 10 บาท จำนวน 40 แท่งๆละ 200,000บาทรวมเป็นเงิน 8,000,000 บาทนั้น วางอยู่ในห้องเป็นไปได้หรือ? ฉะนั้นจึงนำทองคำ ตัวอย่างแท่งๆละ10บาทมาให้พิเคราะห์จับ ข้อพิรุธทีละประเด็น!
ประเด็นที่ 2. สงสัยไหม ทำไมภาพกล้อง วงจรปิดกลับกลายเป็นภาพนิ่ง ลองพิเคราะห์ดูหากท่านมีกล้องวงจรปิด หรือติดตามข่าวสารต่างๆในคลิปของภาพกล้องวงจรปิดดีว่า จะต้องเป็นภาพเคลื่อนไหวจริง หรือไม่ และจะต้องไม่มีการตัดทอนหรือตัดต่อ ใดๆ ซึ่งจักต้องเป็นภาพเคลื่อนไหวไหลยาว ตลอดเหตุการณ์ ซึ่งจะมีน้ำหนักน่าเชื่อถือ!
เชื่อว่าทุกท่านจะทราบดีว่าไม่มีกล้องวงจรปิดที่ไหน ในโลกนี้ที่เป็นภาพนิ่ง ที่เป็นภาพนิ่งแสดงว่าต้องมีการแคปเจอร์หน้า จอเพื่อต้องการภาพในมุมที่ตนเลือกเท่านั้นจริง หรือไม่?
โลกโซเชียลฯ สงสัยหนัก! พฤติกรรม “นายจ้าง”
โลกโซเชียลฯ กังขาสงสัยกับพฤติกรรมของนายจ้าง ที่ไม่กล้าเปิดเผยโฉมหน้าต่อหน้าสื่อ แต่ตัวผู้ต้องหาอย่างน้องก้อย กลับกล้าหาญเผยความจริงทุกมุม
“ทำไมกลัวการออกสู่สาธารณะ กลัวคนเขาเห็นหน้าหรือ ของหายไป 10 ล้าน ทำไมไม่มาโต้แย้งต่อหน้ารายการบ้างล่ะ”
“ทราบว่ารวย แต่ประเด็นคือรายได้ได้มายังไงถึงได้ร่ำรวยขนาดนี้ และลูกจ้างที่ออกก็โดนคดีแบบเดียวกันหมด และวิธีการจัดการทรัพย์สินโคตรฉลาดมาก วางไว้บนโต๊ะ!”
“สงสัยมากค่ะ ทำไมคดีแบบนี้ติดคุกง่ายจัง เคยคิดว่าสรุปคดีง่ายติดคุกเร็ว แปลว่ามีหลักฐานแน่นหนา แต่นี่ไม่ใช่ความจริงด้วยซ้ำ ทำไมพิจารณาคดีให้ติดคุกด้วย งงเลยค่ะ กฎหมายบ้านเราเป็นอะไรกันไปหมด”
หลายคนอยากรู้ตอนจบ...และความจริงจะเป็นอย่างไร เพราะพฤติกรรมของเจ้าทุกข์ ดูน่าสงสัยเป็นอย่างยิ่ง
ขอบคุณภาพจาก เฟซบุ๊ก จตุรงค์ สุขเอียด ,สงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ,ไทยรัฐ
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754