นักข่าวช่อง 3 “จตุรงค์ สุขเอียด” โพสต์แฉ “ธรรมกาย” เผยเคยถูกหนุ่มคนหนึ่งขอร้องให้มาดูภรรยาที่เสียสติ แอบเอาเงินค่าเทอมลูกไปทำบุญ 2 แสน จนหมดตัว เพราะเชื่อคำชักชวนทำแล้วรวย ทำมากได้นั่งหน้า ชี้ เป็นระบบธุรกิจลูกโซ่ บอกผู้บริหารธนาคารที่เป็นนายทุนสำนักข่าวโทร.ขู่ จะให้ลูกศิษย์วัดและวัด มาถอนเงินออกไป หลังนำเสนอข่าว
ยังคงมีข้อมูลมาเรื่อยๆ สำหรับเรื่องราวเกี่ยวกับ “ธรรมกาย” ที่กำลังเป็นปัญหาคาราคาซังอยู่ในตอนนี้เนื่องจากการไม่ยอมมอบตัวของ “ธัมมชโย” อดีตเจ้าอาวาสวัดหลังถูกหมายจับในหลายคดีด้วยกัน
โดยในวันนี้ทางด้านของ “จตุรงค์ สุขเอียด” ผู้สื่อข่าวช่อง 3 ที่ได้มีการโพสต์เล่าถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งที่ตนเองได้มีโอกาสทำข่าวเกี่ยวกับเรื่องวัดพระธรรมกายใหม่ๆ ซึ่งเจ้าตัวระบุว่า ตนเองได้รับแจ้งจากชายคนหนึ่งให้มาดูสภาพของผู้เป็นภรรยาที่กำลังเสียสติไม่เป็นท่า เพราะถูกชวนไปเข้าวัดดังกล่าว
เมื่อตนไปถึงจึงได้มีโอกาสพูดคุยกับอีกฝ่าย จนได้รายละเอียดว่าภรรยาของชายคนดังกล่าว แต่ก่อนก็ไม่เคยไปที่วัดนี้ แต่พอดีมีเพื่อนมาชักชวน พอไปถึงก็มีคนมาชวนทำบุญสร้างพระประจำตัวประดับใต้ฐานเจดีย์ ซึ่งอย่างน้อยต้องทำคนละ 10 องค์ พอไปอีกเขาก็บอกให้ทำอีก ยิ่งทำมากก็จะได้บุญมาก ก็เลยทำไป 2 รอบ และหมดเงินที่เป็นเงินเก็บค่าเทอมลูก 2 คนไปเกือบ 2 แสนบาท
ทั้งนี้ เมื่อตนถามว่าแล้วอย่างนี้จะไปวัดอีกไหม อีกฝ่ายก็ได้ตอบว่าไป แต่ไม่มีเงินทำบุญแล้ว เวลาไปเห็นคนเขาทำบุญกัน ถ้าไม่ทำ ก็รู้สึกอายๆ แล้วก็อยากขึ้นไปนั่งแถวหน้าๆ ที่จะได้ใกล้ชิดหลวงพ่อ
ผู้สื่อข่าวจากช่อง 3 ยังระบุด้วยว่า หลังจากที่ตนได้รายงานข่าวเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายออกไปก็ได้มีผู้บริหารธนาคารแห่งหนึ่งโทร.มาหาเจ้านายของตนพร้อมกับขู่ว่าถ้าไม่หยุดทำข่าวของวัด เขาจะให้ลูกศิษย์วัดและวัด มาถอนเงินออกไป เพราะว่าธนาคารแห่งนี้เป็นนายทุนให้กับสำนักข่าวที่ผมทำอยู่ในตอนนั้นด้วยนั่นเอง
นอกจากนี้ เจ้าตัวยังทิ้งท้ายด้วยว่าในครั้งหน้าตนจะมาบอกเล่าถึงการกว้านซื้อที่ดินที่มีสายแร่ทำคำของธรรมกาย เช่น ที่เขาพนมพา พิจิตร เพชรบูรณ ภูเรือ จ.เลย ซึ่งทางกองปราบพาเจ้าตัวไปด้วย...
อะไรค้ำธรรมาสน์พระธัมมชโยอยู่บ้าง....ในทุกการให้ออกไปก็จะเป็นการได้อยู่ในนั้นด้วย เพราะเมื่อได้ให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดไปกับผู้อื่นแล้ว เราก็จะได้รับความรู้สึกดีกลับมา ความรู้สึกปลื้มปีติที่ได้เป็นผู้ให้ผู้เสียสละ แล้วการให้แก่ใครที่จะปีติสุขได้มากไปกว่า การให้กับพระ
ประมาณปี 2540 ต้นๆ ผมได้รับแจ้ง จากผู้ชายคนหนึ่งว่า มาดูสภาพเมียของเขาหน่อย ตอนนั้นเสียสติไม่เป็นท่า เพราะถูกชวนไปเข้าวัดพระธรรมกาย
ผมไปที่บ้านของเขาอยู่ย่านห้วยขวาง เป็นอาคารพาณิชย์ เปิดกิจการซ่อมรถ จยย. เล็กๆ ในคืนนั้น ร้านปิดแล้ว แต่สภาพเครื่องมือช่างยังวางอยู่ข้างทางเดิน ก่อนถึงทางขึ้นชั้นสอง ผู้หญิงคนหนึ่งคือภรรยาเขา นั่งอยู่บนม้านั่งเล็กๆ กำลังสะอื้น
ผมก็ค่อยๆ ถาม โดยบอกช่างภาพว่าอย่าถ่ายหน้าเขานะ ผมถามว่า พี่ร้องไห้ทำไม เธอ ตอบไปสะอื้นไปว่า พี่ถูกแฟนด่า ว่า เอาเงินไปทำบุญในวัดธรรมกายจนหมด
ผมถามว่า ทำไปเท่าไร เธอว่า บอกว่า 2 แสนบาท พอดีเป็นเงินเก็บค่าเทอมของลูก 2 คน แฟนพี่ใส่บัญชีของพี่ให้เก็บไว้สำหรับจ่ายค่าเทอมของลูก ผมขอดูสมุด เปิดดูก็เหลือไม่กี่สิบบาท ถูกถอนออกไปหมด แต่เห็นยอดเก่าอยู่
แล้วทำไม ทำหมดเลย เธอ เล่าว่า เมื่อก่อนไม่เคยไปวัดนี้เลย แต่มีคนมาชวนไปบอกว่า ทำบุญวัดนี้แล้วจะรวย ก็ลองไป พอไปเขาก็ชวนให้ทำบุญ สร้างพระประจำตัว ไว้ประดับใต้ฐานเจดีย์ธรรมกาย เขาว่า อย่างน้อยคนละ 10 องค์ เวลาทำแล้วจะได้ใส่ชื่อใต้ฐานพระ ใส่ทั้งครอบครัวก็เลยทำ แต่พอไปอีกเขาก็บอกให้ทำอีก ยิ่งทำมากก็จะได้บุญมากก็เลยทำไป 2 รอบ
แล้วได้อะไร เธอก็ไปหยิบพระเครื่ององค์เล็ก ชื่อพระประจำตัว ที่เป็นสัญญลักษณ์แทนพระใต้ฐานเจดีย์มาให้กำหนึ่ง ทั้งหมด 22 องค์ เพราะหากใครเช่าพระครบ 10 องค์ จะได้แถมพระคะแนน มาหนึ่งองค์
(ขยายเพิ่ม) หากทำเกิน 100 องค์ ก็จะได้พระคะแนนสูงสุดหรือ หากคนเป็นหัวหน้ากลุ่ม ในลูกทีมในสายรวมกันได้เป็นพันองค์ ก็จะมีพระเศรษฐีหรืออะไร จะเป็นเครื่องบ่งบอก ยอดการเช่าพระของหัวหน้าสาย เวลาไปวัดก็จะมักเห็นเขาออกมาอวดอยู่นอกเสื้อกัน
ต่อมา ไม่กล้าบอกแฟนว่า ไม่ได้จ่ายค่าเทอม จนโรงเรียนโทรมาทวงและทวงเอากับลูก ลูกก็ไม่กล้าไปโรงเรียน
ผมเลยถามต่อไปว่า แล้วอย่างนี้จะไปวัดอีกไหม เธอบอกว่าไป แต่ไม่มีเงินทำบุญแล้ว เวลาไปเห็นคนเขาทำบุญกัน ถ้าเราไม่ทำ ก็รู้สึกอายๆ เขา แล้วก็อยากขึ้นไปนั่งแถวหน้าๆ ที่จะได้ใกล้ชิดหลวงพ่อ
ใกล้ชิดหลวงพ่อ ทำอย่างไร ก็คือ คนที่เป็นหัวหน้ากลุ่ม หัวหน้าสาย มีคนลูกทีมไปทำบุญมาก เช่าพระจำนวนมาก ก็จะได้เลื่อนที่นั่งขึ้นไปหน้าเรื่อยๆ จนระดับสูงๆ ก็จะอยู่หน้าสุด มีที่นั่งพิเศษ คนในวัดก็อยากไปถึงตรงที่เห็นหลวงพ่อชัดๆ
สามีบอกว่า ทีแรกจะฆ่าตัวตาย ตามดูข่าวของผม จึงโทร.ไปว่ามีที่ไหนวัดให้คนทำบุญเป็นลูกโซ่ จนหมดตัวอย่างนี้
ผมออกข่าวไป แล้ววันต่อๆ มาก็ไปที่วัดถาม ปชส. เขาโต้ว่า ไม่เคยสอนให้คนทำจนหมดตัว มันแล้วแต่ศรัทธาของแต่ละคน เราไม่รู้ว่า ใครมีมากมีน้อยหรือทำไปเท่าไร ผมถามว่า แล้วจะคืนค่าเทอมให้ลูกเขาได้ไหม จนท. ตอบว่า อันนี้ไม่ได้ เพราะได้นำไปหล่อองค์พระแล้ว
วัดพระธรรมกาย สมัยที่ผมไปทำก็กำลังลงเข็มสร้างฐานมหาธรรมกายเจดีย์ ทางวัดประชาสัมพันธ์ว่า จะประดับองค์พระโดยรอบฐานนับล้านองค์ แต่ละองค์จะสลักชื่อผู้บริจาคไว้ ไล่ขึ้นไปจากล่างขึ้นบน คนทำบุญน้อย ชื่อก็จะอยู่ล่างๆ ทำมากๆ ก็จะสูงขึ้นไป มากๆๆ ก็จะอยู่ใกล้จุดยอดของเจดีย์ เขา ประกาศว่า อนาคตโลกจะวิบัติ แต่มหาธรรมกายเจีดย์จะคงอยู่คู่โลก จะเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับที่ 8 ของโลก
หลายครั้งที่เขาไปก็จะถูกกันออกมาก ผมพยายามซอกแซกถามคนที่มาเขาก็จะกีดกัน ให้ถามจนท. อย่างเดียว
วันหนึ่งพบชายคนหนึ่งใส่เสื้อ ไม่เหมือนเขา ถูกกันออกมา เขาบอกว่าไม่รู้ว่าเขาชวนมาวัด บอกว่าจะพาไปเที่ยวทะเล ก็ติดรถมา พอมาก็ให้ไปซื้อเสื้่อของวัดใส่ก่อนจะเข้าไปได้ ผมไม่มีเงินซื้อเสื้อ ก็เลยไม่ให้เข้าไปในศาลา
ถ้าเรามองภาพที่วัดถ่ายทำ ก็จะเห็นว่า ทุกๆ ครั้ง คนไปวัดจะต้องสวมเสื้อของวัดและมีการถ่ายทำด้วยเครื่องมือระดับเซียนโปรดักชั่น
ในภาพเหล่านี้ ต้องมีมืออาชีพทำ นี่คือ หนึ่งของธุรกิจ
มีอาหาร ที่ส่งเข้าไปบำรุงทั้งพระทั้งคนจำนวนมาก สอง
มีงานปลูกสร้าง อาคาร ศาสนสถาน สาม
มีระบบสาธารณูปโภค สี่
มีนักธุรกิจไปกว้านซื้อที่ดินรอบวัดสร้าง ที่พักขาย ห้า
ในนั้น มีโครงข่ายธุรกิจ จากหัวหน้ากลุ่มไปถึงลูกกลุ่ม หก
มีทำบุญมากมายมหาศาล ถูกจัดเก็บในระบบธนาคาร เจ็ด (ถ้าไปจะเห็นสำนักงานธนาคารบางแห่งให้จนท. ไปค่อยรับเงินบริจาคเข้าบัญชี)
มีเคาต์เตอร์ธนาคารไปให้บริการ รับบริจาค
ผมบอกให้ว่า พอผมทำไปได้สักพักหนึ่ง ผู้บริหารธนาคารแห่งหนึ่ง โทร.มาหาเจ้านายผมว่า ถ้าเราไม่หยุดทำข่าวของวัด เขาจะให้ลูกศิษย์วัดและวัด มาถอนเงินออกไป เพราะว่า ธนาคารแห่งนี้เป็นนายทุนให้กับสำนักข่าวที่ผมทำอยู่ในตอนนั้นด้วย
นี่คือ ความยิ่งใหญ่นอกศาสนจักรของเขา
ผมจะกลับมาเล่า การกว้านซื้อที่ดิน ที่มีสายแร่ทำคำของสำนักนี้ด้วย เช่น ที่เขาพนมพา พิจิตร เพชรบูรณ ภูเรือ จ.เลย ที่นี่กองปราบพาผมไป.....