การศึกษาไทยมีเรื่องให้ตกใจปนเศร้าใจอีกแล้ว เมื่อนักศึกษาม.ดังภาคอีสาน ถูกแฉไม่รักเรียน โพสต์หาคนเรียนแทนจนมีคนแห่มารับจ๊อบกันเพียบ สะท้อนภาพการศึกษาไทยที่กลายเป็น "การค้า" มากกว่า "หาความรู้" ชวนตั้งคำถามถึงคุณภาพนักศึกษา สถาบัน และความสำเร็จที่อาจวัดกันไม่ได้ด้วยใบปริญญา ด้านอดีตผู้รับจ้าง เปิดใจบทเรียนราคาแพง ทำเพราะเงินก็ต้องซวยเพราะเงิน
ไม่ใช่แฟน "เรียนแทน" กันได้
เป็นอีกหนึ่งประเด็นใหญ่ สะเทือนการศึกษาไทย เมื่อมีข่าวอันน่าตกใจในรั้วมหาวิทยาลัย พบนักศึกษามหา'ลัยดังทางภาคอีสาน โพสต์สอบถามหาคนนั่งเรียนแทนจนกลายเป็นเรื่องบานปลาย ทำให้สังคมรับรู้ถึงการมีอยู่ของธุรกิจรับจ้างเช็กชื่อ และเข้าเรียนแทน ซึ่งมีให้เห็นอยู่ทั่วไปในกลุ่มเฟซบุ๊กของนักศึกษามหาวิทยาลัยดังกล่าว โดยมีการรับจ้างเรียนแทน และเช็กชื่อคิดเป็นชั่วโมง เริ่มต้นที่ชั่วโมงละ 80-100 บาท
นอกจากนั้น ยังมีการรับจ้างพิมพ์งาน ทำรายงาน และวิทยานิพนธ์ด้วย ส่วนราคา และเวลาอยู่ที่คนประกาศหา และผู้รับจ้างจะตกลงกัน ด้านมหาวิทยาลัยดังกล่าวเผยว่ามีการรับจ้างเรียนแทนจริง ถ้าจับได้คาดว่าจะทำทัณฑ์บนทันที ล่าสุดมีรายงานความคืบหน้าถึงการแก้ปัญหาดังกล่าว ระบุว่า อาจจะมีการติดเครื่องสแกนบัตรนักศึกษาก่อนการเข้าเรียน หากพบว่านักศึกษามีการกระทำผิดจริงจะให้ออกทันที
อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องที่ลักลอบทำกันมานานแล้ว เพียงแต่ไม่เป็นข่าว ส่วนกรณีนี้ หลายฝ่ายหวังว่าทางมหาวิทยาลัยจะดำเนินการเพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างต่อไป เพราะผิดทั้งจริยธรรม และคุณธรรม เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ ที่ต้องไม่ปล่อยปละละเลยจนเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก
ทำเพราะเงินก็ซวยเพราะเงิน
หลังจากได้อ่านข่าวอันน่าเศร้าใจนี้แล้ว เชื่อว่าหลายคนคงอุทานขึ้นมาดังๆ ในใจ "เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร" จุดที่นักศึกษามหาวิทยาลัยดัง โพสต์เฟซบุ๊กประกาศหาคนเรียนแทน แถมยังมีคนแห่เข้ามารับจ๊อบกันเพียบ ซึ่งนอกจากสะท้อนคุณภาพของนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยนั้นๆ แล้ว ยังฉายภาพการศึกษาไทยที่ค่อยๆ กลายไปเป็น "การค้า" มากกว่า "การหาความรู้" จนชวนให้ตั้งคำถามถึงความสำเร็จที่อาจวัดกันไม่ได้ด้วยใบปริญญา
ต่อไปนี้ คือการเปิดใจในฐานะอดีตผู้รับจ้าง "นั่งเรียนแทน" ที่ยอมรับว่ามีเงินเรียนจบออกมาได้ เพราะรับจ้างคนกลุ่มนี้ไปเรียนแทน รวมถึงทำรายงาน ทำการบ้าน และทำวิทยานิพนธ์แทนด้วย แต่สุดท้ายการรับจ้างที่เคยคิดว่า "มันก็วินๆ ทั้งสองฝ่าย" ก็นำความซวยมาให้
"ยอมรับว่ามีเงินเรียนจบมาได้เพราะรับจ้างคนพวกนี้ไปเรียนแทน ทำรายงาน ทำการบ้าน ทำทีสิสจบแทน เคยทำรายงานให้แม้กระทั่งนักศึกษาคณะทันตแพทย์ของมหาวิทยาลัย บอกเลยว่าขนาดคิดราคาสูงลิ่ว สี่ห้าหมื่นต่อโปรเจกต์ พวกนี้ก็ยังจ้าง รู้ว่าผิด แต่ตอนนั้นปัญญายังน้อย ไม่ได้คิดอะไร รู้แค่ว่าเราต้องหาเงิน และมีความสามารถทางนี้ที่ทำได้ ชอบอ่าน ชอบเข้าห้องสมุด ชอบไปเรียน และเงินดีด้วย ไม่ได้มองว่ามันเสียหายอะไร
แต่สุดท้ายได้รับบทเรียน ตอนกำลังจะจบ ตอนเรียนวิชาสุดท้ายกับท่านคณบดี ท่านจับได้ว่าเราทำทีสิสให้ตัวเอง และทำให้เพื่อนด้วย ท่านน่าจะดูจากสำนวนการเขียน หรืออย่างไรไม่ทราบ ท่านสั่งสอบ แล้วปรับเราตก ต้องซ่อมใหม่ จากเรียน "A" มาทุกวิชา ภาคเรียนนั้นได้ "D" หลุดทุนมหา'ลัยด้วย คือแย่มาก เกือบไม่ได้จบ และไม่ได้ฝึกงาน
ท่านคณบดีพูดกับเราว่า ในชีวิตจริงไม่มีใครเมตตาเรา แม้ไม่ได้ผิดโดยตรง แต่ก็อยู่ในกระบวนการ รู้เห็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แถมสนับสนุน ดังนั้น เราต้องรับโทษ และขอโทษนะ เราโดนโทษสูงกว่าคนมาจ้างอีก เราถามท่านคณบดีว่า สิ่งที่เราทำผิดมากมายขนาดไหน ในเมื่อนักศึกษาที่มาจ้างเรา ส่วนใหญ่รวยมาก ไม่จำเป็นต้องเรียนด้วยซ้ำ เค้าก็มีเงิน มีงานทำ เค้าแค่ต้องการใบจบของท่าน ส่วนเรา ต้องการเงิน งาน ความรู้ เรามีต้นทุนชีวิตไม่เหมือนพวกเขา มองๆ ไป มันก็วินทั้งสองฝ่าย ที่เราทำแบบนี้ แล้วอะไรที่เราใช้ตัดสินใจมันผิด
ท่านพูดกับเราว่า คนเรามันต้องมีจุดยืน มีอุดมการณ์ในความถูกต้อง เธอทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แม้ผลประโยชน์ตกทั้งสองฝ่าย และความจริงก็เป็นแบบนั้น แต่มันไม่ถูกต้อง อย่าคิดแค่ตอนนี้ และแค่ตัวเรา กรณีนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการคอร์รัปชัน ซึ่งเธออาจไม่ได้มอง ถ้าขนาดตอนเรียน ยังทำขนาดนี้ ต่อไปเป็นใหญ่เป็นโตกัน จะทำกันได้ขนาดไหน ครูลงโทษเธอผิดมากที่สุด เพราะเธอรับรู้ว่าเค้าคอร์รัปชัน หนึ่งไม่ห้าม สองสนับสนุน สามร่วมผสมโรง
นั่นแหละค่ะ เป็นบทเรียนราคาแพงของเรา ที่ชีวิตนี้จะไม่ทำอีก และจะสอนน้อง สอนลูก สอนหลาน จำไปจนตายเลยค่ะงานนี้"
คุณภาพนศ. สะท้อนคุณภาพมหา'ลัย
"เลี้ยงลูกอย่างไร ย่อมได้ลูกแบบนั้น" เช่นเดียวกับคุณภาพนักศึกษาที่สะท้อนถึงคุณภาพมหาวิทยาลัย อย่างในกรณีนี้ ดร.โกศล เพ็ชร์สุวรรณ์ คณะกรรมาธิการการศึกษาและการกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้ความเห็นผ่านทีมข่าว Live ว่า ถ้ามหาวิทยาลัยปล่อยให้มีเด็กเข้าไปเรียนแทนกันได้ ย่อมเผยให้เห็นถึงระบบการจัดการของมหาวิทยาลัยที่ไร้คุณภาพ
"กรณีนี้มันคือปัญหาเรื่องคุณภาพการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยของไทยเลยนะครับ บางมหาวิทยาลัยหวังแต่จะทำเงินมหาศาล และมองข้ามความรับผิดชอบเรื่องคุณภาพการศึกษา รับเด็กเข้าไปเยอะๆ แล้วสอนแบบห้องเรียนใหญ่ๆ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ แถมระบบยังไม่ดีก็ต้องยอมรับอ่ะครับ เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กทำ มันก็แก้ไม่ได้หรอก มหาวิทยาลัยต้องมีระบบตรวจสอบเด็กให้ดี ยิ่งเรียนในห้องเรียนรวมก็ต้องจัดระบบการเช็กชื่อให้ดี
ส่วนตัวไม่ได้เห็นด้วยกับนักศึกษาที่ประกาศหาคนรับจ้างเข้าเรียนแทน ซึ่งทุกคนก็อยากจบ อยากได้ใบปริญญาด้วยกันทั้งนั้น แต่มหาวิทยาลัยต้องไม่เปิดช่อง และต้องมีโทษหนักหากพบการกระทำโดยใช้วิธีดังกล่าว" ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษาเผย ก่อนจะทิ้งท้ายว่า "มหาวิทยาลัยต้องสร้างเด็กให้มีวินัย ไม่คดโกง ถ้าปล่อยเด็กไร้คุณภาพให้หลุดออกมาได้ เวลาไปทำงานก็จะสร้างปัญหา และทำลายสังคมต่อไป"
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754
