เป็นทั้งดีเจสายฮา พิธีกรมากความสามารถ และนักแสดงที่สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมมาก็มากมาย แต่ใครจะรู้ว่า ‘ดีเจเผือก - พงศธร’ ก็มีมุมน่ารักๆ กับเขาเหมือนกัน คือการสะสมของเล่น รวมไปถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวละครวายร้ายชื่อดังอย่าง ‘Joker’ จนเรียกได้ว่า เขานี่แหละคือแฟนตัวยงของตัวร้ายชื่อดัง คนหนึ่งของเมืองไทยก็ว่าได้
คาแรกเตอร์ตลกร้าย ‘Joker’ โดนใจเผือก
“ที่ผมชอบ Joker จริงๆ แล้ว มันเริ่มมาจากการดูมวยปล้ำครับ”
‘พงศธร จงวิลาส’ หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อของ ‘ดีเจเผือก’ เล่าถึงที่มาที่ไปของความชื่นชอบตัวละครตัวนี้
เริ่มตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นเด็ก เขาได้มีโอกาสดูมวยปล้ำ แต่แปลกตรงที่เวลาดูจะเลือกเชียร์ฝั่งอธรรมหรือฝั่งตัวร้ายซะเป็นส่วนใหญ่ ประกอบกับตอนนั้นมีนักมวยปล้ำคนหนึ่งแต่งตัวเป็นตัวตลก แต่ทว่าเป็นตัวตลกที่ร้ายและโกงมาก โกงทุกวิถีทางเพื่อจะชนะ เขาจึงรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่เท่มาก เป็นตัวตลกแล้วยังเป็นตัวร้ายอีก ให้ความรู้สึกที่ขัดแย้งแปลกๆ ดี
“ด้วยความที่ผมชอบตัวตลกแต่แรกอยู่แล้ว พอโตขึ้นเลยได้มีโอกาสดู Batman เวอร์ชันที่ Tim Burton กำกับเป็นภาคแรกๆ เลย แล้วก็มีตัวร้ายเป็น Joker ตอนนั้น Jack Nicholson เป็นคนแสดง โห...นี่มันเท่มากเลย จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ผมติดตาม Joker เลย แล้วความชอบนี้มันก็อยู่กับเรามาตลอด เวลาเจอตัวตลกเราก็ชอบดู เล่นเกมก็ชอบแต่งเป็นตัวตลก พอเริ่มโต เริ่มมีงานทำ หาเงินได้ มีบ้าน มีตู้ไว้วางโชว์ ก็เลยเริ่มเก็บสะสมมาตั้งแต่ตอนนั้น ถึงตอนนี้ก็น่าจะสัก 6 -7 ปีได้แล้วล่ะครับ
ของที่เกี่ยวกับ Joker ที่ผมมี(นึกอยู่สักพัก) ถ้านับเป็นชิ้นก็น่าจะเกิน 500 ชิ้นแล้วนะโดยประมาณ มีทุกอย่างผมได้มาก็เก็บหมดเลย ทั้งพวกฟิกเกอร์ , โมเดล , นาฬิกา , เสื้อ , หมวก , รองเท้า , จานข้าว , สเก็ตบอร์ด อูยยย มีอีกเยอะ ทุกอย่างที่เป็น Joker ผมเก็บหมดครับ(ยิ้ม)”
เมื่อถามถึงของชิ้นที่เด็ดที่สุดที่สะสมมา ดีเจคนดังบอกว่า มันเหมือนเป็นช่วงเวลามากกว่า ว่าเป็นของที่ตามมาหานานขนาดไหน อย่างล่าสุดเขาเพิ่งได้ไอเท็มเด็ดมาชิ้นหนึ่ง เป็นตุ๊กตาชักใย Joker ซึ่งเขาเคยเห็นมาตั้งแต่สมัยเพิ่งเริ่มสะสม แต่ด้วยตุ๊กตาตัวนั้นเป็นของหายาก และมีราคาค่อนข้างสูง จึงได้แต่เฝ้าอดทนรอมาหลายปี เพิ่งได้เจอตัวที่ได้มานี้มีราคาที่อยู่ในเกณฑ์รับได้และพอจะซื้อไหว พอถามว่าชิ้นที่หวงที่สุด ดีเจเผือกบอกว่าไม่มี เพราะทุกชิ้นที่มีหวงหมด!
[ ตุ๊กตาชักใย Joker ที่ดีเจเผือกตามหามานาน ]
“ของทุกชิ้นในตู้ผมหวงหมดนะ จำได้ทุกชิ้น ถ้ามีคนแอบหยิบของผมไปผมว่าผมจำได้(หัวเราะ) ยกเว้นตัวที่ซ้ำผมถึงจะยอมให้คนอื่น นอกนั้นทุกตัวหวงหมด เพราะว่าบางทีมันหายากแล้ว ถึงมีเงินก็อาจจะไม่มีคนขาย ยิ่งหลังๆ มาผมยิ่งชอบไปหาเก็บตัวเก่าๆ ตัวที่เป็นยุควินเทจ ยุคอะไรแบบนี้ หายากมาก หวงด้วย(หัวเราะ)
สะสมของเล่น...เติมเต็มวัยเด็ก
“ผมเป็นลูกชายคนเดียวอยู่นาน เป็นสิบปีได้ ถึงมีน้องที่ห่างกันมากๆ ตามออกมา ตอนเด็กๆ ผมไม่ค่อยได้ของเล่นครับ เพราะที่บ้านไม่ค่อยตามใจและค่อนข้างเข้มงวดเรื่องการใช้เงินอยู่พอสมควร ของเล่นก็จะมีแค่หัวรถจักรเก่าๆอยู่คันนึง เล่นมันอยู่แค่นั้น(หัวเราะ)”
ดีเจอารมณ์ดีเล่าถึงสมัยวัยเด็กที่ไม่ค่อยได้ของเล่นใหม่ๆ เหมือนคนอื่น จะมีก็แต่หัวรถจักรเก่าๆ ที่คอยเป็น
เพื่อนเล่นยามเหงา หากจะได้ของเล่นใหม่สักกล่องหนึ่ง หรือสักชิ้นหนึ่งก็ต้องเป็นโอกาสพิเศษจริงๆ นี่อาจจะเป็นสาเหตุ ว่าทำไมเขาถึงกระหน่ำซื้อของเล่นของสะสมของตัวละครที่เขารักอย่าง Joker มากมายขนาดนี้
“มันคงเป็นความเก็บกดตั้งแต่เด็กมั้งครับ พอหาเงินเองได้แล้ว เอาล่ะคราวนี้ อยากได้อะไรก็ซื้อทุกอย่าง”
[ ดีเจเผือกและ ‘ลูกจ๋า’ ภรรยาคนสวย ]
ปัจจุบันดีเจเผือกแต่งงานและใช้ชีวิตคู่ร่วมกับภรรยาคนสวย ลูกจ๋า - วรินทรา ฤทธิ์สกุลชัย ไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่ก็ถือว่าเป็นโชคดี ที่ภรรยาเข้าใจในและยอมรับในของสะสมของเขา
“ตั้งแต่รู้จักกับลูกจ๋ามา ของก็เริ่มเต็มตู้แล้ว(หัวเราะ) เขาก็โอเคเข้าใจได้ ผมบอกเขาว่า รายได้ที่หามาได้ ถ้าเป็นJoker นี่ไม่จำกัดงบนะ ซื้อได้ตลอด อันนี้ว่ากันไม่ได้นะ(หัวเราะ) เหมือนกลายเป็นข้อตกลงกันไปแล้ว”
ส่วนของที่ดีเจเผือกอยากได้มาประดับคอลเลกชัน Joker ของเขาในตอนนี้คือ หุ่นครึ่งตัวที่มีขนาดเท่าคนจริงหรือในภาษาของคนที่สะสมจะเรียกกันว่า ‘Bust’ ซึ่งเป็นฟิกเกอร์ครึ่งตัวตั้งแต่ศีรษะลงไปถึงช่วงอก แต่ติดปัญหาอยู่อย่างหนึ่งคือ มันไม่สามารถใส่เข้าไปในตู้ได้
“ที่อยากได้สุดๆ ตอนนี้คือหุ่นครึ่งตัวครับ เป็นหุ่นเหมือนจริง มีทั้งเวอร์ชันที่เป็นการ์ตูน และเวอร์ชันที่Heath Ledger แสดง แต่ไซส์มันใหญ่มาก จะเอาเข้าตู้ก็ไม่ได้ ที่บ้านก็ไม่มีที่วาง กลัวเอามาตั้งแล้วภรรยาจะกลัวอีก(หัวเราะ) ถ้าอนาคตย้ายบ้าน มีบ้านที่ใหญ่ขึ้น ผมอาจจะเริ่มตามเก็บพวกนี้”
“จริงๆ ภรรยาผมก็มีของสะสมนะ ตั้งแต่ก่อนที่จะรู้จักกันแล้ว เขาจะสะสมตัวกระต่ายทัมเปอร์ ที่มันอยู่ในเรื่องแบมบี้กวางน้อย เป็นกระต่ายสีเทาที่เป็นเพื่อนกับแบมบี้ เขาเก็บตุ๊กตากระต่ายทัมเปอร์นี้ไว้เยอะเหมือนกันประมาณตู้นึง
ได้ ตอนนี้ขนมาวางที่บ้านผมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว(ยิ้ม)”
แน่นอนว่าเมื่อแต่งงานไปแล้ว สิ่งที่จะมาเต็มเติมคำว่าครอบครัวให้สมบูรณ์ก็คือลูก อย่างครอบครัวของดีเจเผือก ทั้งตัวเขาและภรรยาต่างก็มีของเล่นของสะสมที่ตัวเองรัก ทำให้เราอดสงสัยไม่ได้ว่า เมื่อมีเจ้าตัวน้อยมาเพิ่ม จะกลายเป็นครอบครัวของเล่นไปเลยใช่หรือไม่?
“ผมยังคุยกับภรรยาเลยว่า ถ้าเรามีลูก ก็ต้องสอนให้เขารู้จักเก็บสะสมของเขาเอง โดยตั้งเริ่มต้นจากความรักความชอบ เหมือนอย่างพ่อและแม่ที่มีของสะสมของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องมาเก็บ Joker ตามผมก็ได้ ต้องสอนเขาดีๆ เลยว่า ตู้ของพ่อกับแม่เล่นไม่ได้นะลูก มันไม่ใช่ของเล่น เกิดกลับมาบ้านแล้วเจอลูกกำลังหักคอโมเดล Joker ของเราอยู่ คงแบบ...จะทำยังไงดี ลูกเราก็ทั้งรักทั้งอยากตี ของเราก็หวง(หัวเราะ)
ตอนนี้นอกจาก Joker ที่ผมสะสมอยู่ ก็มีลามไปตัวอื่นบ้าง อย่างผลงานของศิลปินที่เราชอบจริงๆ ก็มีตามเก็บมาบ้าง เป็นคอลเลกชันเล็กๆ วางไว้ตามมุมโน้นมุมนี้ของบ้าน แต่ว่าจะจำกัดงบไม่ให้มันต่อยอดไปเยอะ ไม่อย่างนั้นจะไม่มีที่เก็บ แค่ Joker อย่างเดียวก็เต็มตู้แล้วครับ(ยิ้ม)”
‘เผือกฟิกเกอร์’ คาแรกเตอร์ตีตลาด!!
งาน Thailand Toy Expo 2016 ที่ผ่านมา JPX บริษัทของเล่นสัญชาติไทย และ COARSE บริษัทของเล่นสัญชาติเยอรมัน ได้จับมือกันออกแบบของเล่นสไตล์ไทยๆ ด้วยความที่ดีเจเผือกรู้จักกับ จีฟ - พงศธร ธรรมวัฒนะ ซึ่งเป็นเจ้าของโปรเจกของเล่นดังกล่าว ซึ่งมีคาแรกเตอร์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์โดนใจ จีฟจึงเลือกที่จะใช้บุคลิกของดีเจเผือก มาเป็นหนึ่งในของเล่นเซ็ต KWAII
[ ฟิกเกอร์ ‘เผือก’ และดีเจเผือกผู้เป็นต้นแบบ ]
ของเล่นซีรีส์ KWAII ที่เป็นของเล่นสัญชาติไทย ประกอบไปด้วย Babble(บั๊บเบิ้ล) , Clomp(ค่อม) , Phuak (เผือก) , Tui(ทุย) และน้องเล็กสีชมพู ซึ่งผลงานดังกล่าว ที่สร้างประวัติศาสตร์วงการของเล่นทั่วโลก คือการขายหมดสต๊อกภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง!
“ตอนแรกที่ผมทราบเรื่องก็คิดขึ้นมาในใจ ‘ใครจะซื้อวะ?’ คือผมเป็นคนที่ไม่ได้มีแฟนคลับติดตามมากขนาดนั้นใครจะอยากซื้อฟิกเกอร์ตัวผม ใครจะอยากมีไอ้เผือกวางไว้ที่บ้านนอกจากเราหรือญาติพี่น้องเรา เพื่อนยังไม่ค่อยอยากได้เลย(หัวเราะ)
แต่จีฟบอกผมว่า ‘พี่ มันจะมีตัวที่เหมือนพี่ แต่ผมจะทำสีพิเศษ แบบลิมิเต็ดเลย เป็นพี่เนี่ยแหละ แต่มีสีเป็นJoker’ พอได้ยินแบบนี้ผมก็โอเคเลย(หัวเราะ) หัวอกคนสะสมอะเนอะ ได้เห็นตัวเราเป็นของเล่นก็ว่าดีใจแล้ว แล้วได้มา
เห็นตัวเองเป็นของเล่นที่แต่งตัวเป็น Joker อีก มันเจ๋งมากๆ ผมยอมเลย แค่นี้ก็ฟินมากแล้ว ผมมีเก็บเป็นของตัวเองครบทุกสี ทั้งแบบปกติและแบบเวอร์ชัน Joker ส่วนเรื่องขายได้หรือไม่ได้นั้น จีฟก็ไปจัดการเอาเองนะ(หัวเราะ)”
ดีเจสายฮายังได้เล่าเรื่องตลกที่เกิดขึ้น เมื่อเขาและภรรยาไปเที่ยวที่ประเทศฮ่องกง ตัวเขาขอแยกไปดูร้านของเล่นตามประสาชายหนุ่มนักสะสม มีร้านของเล่นอยู่ร้านหนึ่งที่เขาสะดุดตา เนื่องจากมีฟิกเกอร์ตัวเขาที่เป็นสี Joker วางอยู่ 2-3 ตัวเขาจึงขอเจ้าของร้านถ่ายรูปเก็บไว้ แต่ก็สังเกตได้ว่าเจ้าของร้านไม่เอะใจเลยสักนิด ที่ต้นแบบของฟิกเกอร์ตัวนี้กำลังคุยกับเขาอยู่!
“ผมถามเจ้าของร้านว่า ตัวนี้ได้มายังไง เขาตอบว่า ได้มาจากงานของเล่นที่สหรัฐอเมริกา เราก็แอบคิดในใจว่าตัวนี้เริ่มไอเดียที่เมืองไทย ผลิตที่สิงคโปร์ ส่งไปอเมริกา แล้วกลับมาขายที่ฮ่องกง(หัวเราะ) ผมก็โอเคๆ แต่ก็ไม่ได้บอกเขาไปว่าเราคือตัวนี้นะ กลัวเขาจะเครียดที่ขายไม่ออกรึเปล่าอะไรแบบนี้ เลยเดินออกมาเงียบๆ แต่ก็ตลกดีที่ได้เห็นฟิกเกอร์ตัว
เองขายอยู่ที่เมืองนอก(ยิ้มกว้าง)”
สะสมด้วยใจ ไม่ใช่ตามกระแส
ในยุคที่กระแสการสะสมกำลังเป็นที่นิยม หลายคนเริ่มมองหาของสะสมของตัวเอง เหตุผลในการสะสมก็อาจจะแตกต่างกันไป บ้างก็สะสมเพราะใจรัก บ้างก็สะสมเอาไว้เก็งกำไรหรือเพื่อเอาไว้ขายต่อในอนาคต ซึ่งตรงนี้เองดีเจเผือกได้ฝากมุมมองของเขาเอาไว้
“ผมว่าไม่มีอะไรผิดทั้งนั้นถ้าเราอยากจะสะสมอะไรสักอย่าง แต่สำหรับคนที่อยากสะสมด้วยใจจริงๆ ผมว่ามองหาอะไรที่เราชอบ ยิ่งถ้าเรามี ‘ความผูกพัน’ กับมันมากๆ มันจะทำให้คอลเลกชันของเราไม่เหมือนคนอื่น แล้วมันจะทำให้เป็นแรงบันดาลใจให้กับนักสะสมคนอื่นๆ ด้วย
อย่างตอนผมเรื่องเก็บ ผมไม่ค่อนเห็นใครเก็บเพราะตัวละครตัวนี้นะ ถ้าจะเห็นก็เห็นคนที่เก็บ Batman ไปเลย เขาเก็บทุกตัวใน Batman ซึ่งเราไม่มีปัญญาขนาดนั้น เก็บแต่เฉพาะตัวที่ชอบก็พอ
ถ้าคุณชอบอะไร คุณไปทางนั้นให้สุด อย่างแจ๊ค แฟนฉัน (เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์) เขาชอบไจแอ้นท์มาก เขามีไจแอ้นท์ทุกรูปแบบไม่ว่าจะแต่งตัวแบบไหน หน้าหล่อหน้าอ้วนมีหมด ผมว่ามันมีเสน่ห์นะ แล้วพอคนรู้ว่าแจ๊ค แฟนฉันสะสมไจแอ้นท์ ต่างก็บอกว่ามันน่ารักดี ไจแอ้นท์ก็มีส่วนคล้ายๆ แจ๊คอยู่เหมือนกัน”
[ แจ๊ค แฟนฉันและไจแอ้นท์ ]
ดีเจเผือกยังบอกต่อไปว่า หาสิ่งที่ตัวเองรักจริงๆ จะทำให้เรามีความสุขกับการค่อยๆ หามันทีละชิ้น อย่างตัวเขาเวลาไปไหน แล้วเจออะไรที่เกี่ยวกับ Joker ก็จะเก็บทุกอย่าง แม้กระทั่งไปเดินตลาดนัดแล้วเจอพวงกุญแจที่ดูยังไงก็รู้ว่าเป็นของปลอม ไม่ได้มียี่ห้ออะไร เขาก็ยังเก็บหมด โดยไม่สนใจว่ามันจะมาในรูปแบบไหน เพราะมันคือตัวละครที่เขารัก
“สิ่งแรกที่ผมได้จากการสะสมของเล่นคือ ‘ความสุข’ เพราะว่าตู้เรามันเริ่มใหญ่ขึ้น ของเริ่มเยอะขึ้นแน่นตู้มาก
ขึ้น เวลาทำงานมาเหนื่อยๆ กลับบ้านมายืนดูตู้ของเล่น เอาออกมาถ่ายรูปบ้าง ออกมาจัดบ้าง มันเป็นความสุขเล็กๆ ที่คนสะสมของน่าจะเข้าใจ ไม่จำเป็นต้องของเล่นหรอก สะสมอะไรก็ได้
ต่อมาเราพบว่า สิ่งที่เก็บมันมีมูลค่า ค่ามันเพิ่มขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว ซึ่งเราไม่ได้ตั้งใจจะทำกำไรกับมัน หรืว่าเอามาขายต่ออะไร แต่มันเป็นความภูมิใจเล็กๆ ยกตัวอย่างเช่นตัวนี้ 5 ปีที่แล้ว เราซื้อมา 2,000 ว่ะ เดี๋ยวนี้ขายได้ถึง 7,000 ละเว้ย อย่างเนี้ย มันเป็นความภูมิใจเล็กๆ ของเราเอง”
สิ่งที่ได้จากการสะสมของเล่นนั้น บางคนอาจจะมองว่าไร้สาระ แต่สำหรับดีเจเผือกแล้ว แต่สำหรับดีเจเผือกเขาพูดได้เต็มปากเลยว่า ได้ความสุขล้วนๆ ดีเจนักสะสมยังได้ฝากทิ้งท้ายไว้ว่า ถ้าเราไปสะสมอะไรก็ตามที่ตามกระแสคนอื่น เราก็จะได้แค่คอลเลกชันหนึ่งที่จะไม่มีวันเก็บได้เท่ากับคนที่เขาเก็บนำไปแล้ว แต่ถ้าเราหาสิ่งที่รักที่ชอบจริงๆ แล้วสะสมมัน คุณก็จะผูกพันกับมันและจะพยายามหาสิ่งที่ทำให้คอลเลกชันของคุณพิเศษกวาคนอื่น
แววตาที่เป็นประกายและรอยยิ้มที่แต้มความสุขตลอดการพูดคุย ทำให้เรารับรู้ได้ว่า เขารักและผูกพันกับสิ่งที่ของสะสมมากจริงๆ และยังได้เห็นอีกด้านที่ไม่ค่อยมีใครได้เห็นของดีเจสุดฮาคนนี้ ในบทบาทของนักสะสมและแฟนตัวยงของวายร้ายปากกว้างอย่าง Joker ซึ่งขอชื่นชมเลยว่า ของสะสมของเขานั้นพิเศษไม่แพ้ใครจริงๆ และก็ขอเอาใจช่วยให้
ได้ของที่อยากได้มาประดับตู้ในเร็ววันนี้
สัมภาษณ์โดย : ผู้จัดการ Lite
เรื่อง : กีรติ เอี่ยมโสภณ
ภาพ : ธัชกร กิจไชยภณ
ขอบคุณภาพ : อินสตาแกรม @lolipop_pimp , @lj_spookyfluffy และ@jackfanchan
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754
