ฮือฮาในโลกออนไลน์ แชร์หนักในโลกโซเชียลฯ กับสาวสวยน่ารัก เจ้าของร้านเบเกอรีและกาแฟในเมืองสโลว์ไลฟ์ อย่าง อ.ลี้ จ.ลำพูน ชีวิตพลิกผันจากความฝันทั้งชีวิตในอาชีพแอร์โฮสเตส ที่เกือบจะได้เป็นสมดั่งเป้าหมายแต่กลับติดปัญหาเรื่องสุขภาพ คลื่นหัวใจมีปัญหา หมอลงความเห็นว่า “เป็นความปกติ ที่ไม่เหมือนคนอื่น”
เธอคือ โพลี่ - ชินทร์ภัชฌาย์ โชคไพบูลย์ สาวสวยหน้าใสยิ้มเก่งวัย 26 ปี เจ้าของร้าน London cafe ร้านกาแฟสไตล์ลอนดอนสตรีท ใน อ.ลี้ จ.ลำพูน
เรามาทำความรู้จักเธอให้มากกว่านี้กัน...
เธอเป็นคนลำพูนโดยกำเนิด แต่ไปร่ำเรียนอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่ชั้นมัธยมปลาย จนจบปริญญาตรีจากวิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สาขาการจัดการสมัยใหม่ ทว่า แม้จะหน้าตาสวยน่ารักบาดใจขนาดนี้แต่เธอยืนยันว่า ความโก๊ะ ความบ้า ในตัวก็มีอยู่มาก
“ตั้งแต่อยู่มหาวิทยาลัยก็ชอบการสันทนาการ ชอบทำกิจกรรม เขาให้เป็นหลีดสวยๆก็ไม่เอา อยากเป็นหลีดเดวิล เพราะการเป็นหลีดเดวิลมันได้ปลดปล่อยความบ้าในตัวด้วย” โพลี เล่าถึงนิสัยส่วนตัว
เรียนภาษาต่างแดน ปลุกความกล้าในตัว!
หลังจากจบปริญญาตรี เธอตั้งมั่นเดินทางไปเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มพูนทักษะทางภาษาต่อที่ประเทศนิวซีแลนด์อยู่เกือบปี เพื่อสอบเข้าแอร์โฮสเตส ความหวังอันสูงสุดในชีวิตให้ได้
“ที่เลือกนิวซีแลนด์ เพราะอยากไปประเทศที่มีคนไทยน้อยๆ จึงเลือกเรียนที่เวลลิงตัน เพราะโอ๊คแลนด์คนไทยเยอะมาก”
เธอเล่าว่าเป็นคนไทยคนเดียวในคลาสเลย จึงได้ใช้แต่ภาษาอังกฤษ ทำให้พูดได้เร็วขึ้น
“ช่วงแรกๆ ก็ร้องไห้คิดถึงบ้าน เพราะคุย(ภาษาอังกฤษ)ไม่ได้ เราไม่กล้าคุย กลัวพูดไปแล้วแกรมมาผิด แต่เรียนอยู่ประมาณ 2 เดือนก็เริ่มสนุกแล้ว เพราะมีเพื่อน ส่วนใหญ่จะมาจากเกาหลี อย่างที่เราไปพักก็อยู่กับคนเกาหลี และคนนิวซีแลนด์ เวลาทานอาหารก็จะกินข้าวหอมมะลิ ไม่ค่อยได้กินอาหารนิวซีแลนด์ เขาชอบทำอาหารไทยให้กิน บางทีก็ทำขนมจีน ต้มยำกุ้ง จึงทำให้ไม่คิดถึงบ้านมากนัก”
การไปนิวซีแลนด์ครั้งนี้ของเธอนั้น นอกจากจะฝึกให้เธอกล้าพูดภาษาอังกฤษแล้ว ยังกล้าทำอะไรคนเดียวมากขึ้นด้วย
“จากเมื่อก่อนทำอะไรไม่ค่อยเป็น จะไปห้องน้ำคนเดียวยังต้องให้คนเดินไปส่งเลย ไปกินข้าวคนเดียวไม่ได้ ตอนนี้คือไปไหนคนเดียวได้ ทำให้เราไม่อ่อนแอ” โพลี่ เล่าถึงประสบการณ์ล้ำค่าในต่างแดนให้ฟัง
อาชีพ “แอร์โฮสเตส” ความหวังสูงสุด..พังทลาย
เธอยืนยันว่า อาชีพแอร์โฮสเตสเป็นความฝันเดียวในชีวิตมาตั้งแต่เด็ก เพราะมีใจรักงานบริการ ชอบเจอผู้คน
“ชอบเจอคนเยอะ ชอบงานบริการ ชอบให้คนหัวเราะ ยิ้ม และชอบภาษาอังกฤษด้วย จึงอยากเป็นแอร์โฮสเตส”
ทั้งยังเล่าอีกว่า ที่เลือกสมัครสายการบินนี้ (เธอไม่ขอเอ่ยนาม) เพราะได้บินไปลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นเมืองโปรดของเธอ และใฝ่ฝันว่าจะต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต
“ก่อนอื่นเราก็สมัครเข้าไปในเว็บไซต์ก่อน คัดจาก 3,000 คน ให้เหลือ 1,000 คน จากนั้น 1,000 คน ให้เหลือ 80 คน (สอบสัมภาษณ์) จากนั้นก็ตรวจร่างกาย ปรากฏว่าเราไม่ผ่าน คลื่นหัวใจมีปัญหา เป็นความปกติที่ไม่เหมือนคนอื่น คือใช้ชีวิตเหมือนคนปกติได้ แต่ไม่เหมือนคนอื่น
“ตอนนี้หนูก็ยังงงๆ อยู่เลย เขาก็ให้ไปรักษากับแพทย์หัวใจ ค่อยมาสมัครใหม่ เราก็ไปตรวจอย่างละเอียด ผลออกมาก็ปกติหมดเลย ทำงานได้ ใช้ชีวิตได้ แต่แค่ไม่เหมือนคนอื่นเฉยๆ
" เราก็เป๋อยู่พักหนึ่ง เคว้งอยู่เป็นเดือน อุตส่าห์ไปชุบตัวมาที่นิวซีแลนด์ " เธอ กล่าวอย่างติดตลก
ตั้งเป้า! ลอนดอน คาเฟ่ แลนด์มาร์ก อ.ลี้
ทว่า เมื่ออาชีพแอร์โฮสเตสไปไม่ถึงฝั่งฝัน แผน 2 จึงบังเกิด เพราะถึงอย่างไรก็ตาม เธอคิดไว้ตลอดว่า ต้องมาทำธุรกิจ
ครอบครัวอยู่แล้ว จึงเป็นเหตุให้เลือกเรียนสาขาการจัดการนั่นเอง
“ก็แค่กลับมาทำธุรกิจที่บ้านเร็วหน่อยแค่นั้นเอง เราก็คิดว่าหากเราเป็นแอร์โฮสเตสหมดสัญญาเมื่อไหร่ก็จะมาทำธุรกิจที่บ้านอยู่แล้ว”
ย้อนกลับไปช่วงซัมเมอร์ตอนเรียนมหาวิทยาลัย เธอเล่าว่า เคยไปลงเรียนคอร์สทำขนม ทำเค้ก เพราะเป็นคนที่ชอบทานเค้กมาก เธอมักจะทำเค้กแปลกๆสนองความต้องการตัวเองอยู่ตลอด เช่น เค้กกล้วยหอมผสมสตรอว์เบอร์รี่ เค้กลิ้นจี่ผสมมะพร้าว
“จะไปหาร้านไหนทำแบบนี้ก็ไม่มี เราก็เลยทำกินเองดีกว่า”
“ไปเรียนทำเค้ก เรียนประมาณ 2 คอร์ส ตอนนั้นมีความคิดแค่อยากจะกินเค้ก แต่ยังไม่ได้มีความคิดเปิดร้าน ครั้งแรกที่ทำคือเค้กวันเกิดคุณพ่อ เป็นช็อกโกแลตมูสใส่สตรอว์เบอร์รี ป้าๆ ญาติๆก็บอกอร่อยดี แม่ก็บอกสอนแม่ทำหน่อย จึงถ่ายทอดให้คุณแม่ จากนั้นคุณแม่ก็ทำขายด้วย”
ครั้นลอนดอนคาเฟ่ เริ่มเปิดกิจการตั้งแต่ 25 พฤศจิกายน 2558 ไม่นานนัก ช่วงเดือนมีนาคม ปี 59 เป็นช่วงที่หลายสื่อนำเสนอเรื่องของเธอแพร่สะพัดทั่วโลกโซเชียล ฟีดแบ็กดีเลิศ ของในร้านขายหมดกลี้ยง เพราะลูกค้าแวะเวียนมาดูหน้าเจ้าของร้านและขอถ่ายรูปตลอด
“ชื่อร้าน London Cafe แรงบันดาลใจคืออยากไปลอนดอน แต่ยังไม่มีโอกาสได้ไป ก็ขอย้ายลอนดอนมาอยู่นี่ซะเลย จะได้อยู่ด้วยกันทุกวัน ทีแรกแม่มีร้านอาหารก็อยากให้เปิดร้านกาแฟเล็กๆ เสริมร้านอาหารเฉยๆ
เราแต่งร้านเป็นสไตล์ลอนดอนสตรีท ตอนนี้เป็นร้านเล็กๆ แต่เรามีแผนที่จะขยายร้าน เพราะสงสารลูกค้า บางทีมากันเยอะ เช่น กลุ่มบิ๊กไบค์ มาที 20-30 คัน สงสารเขา เขาก็อยากอยู่ที่เย็นๆ แต่ร้านมันเล็ก จะขยายเป็นชั้นครึ่ง อยากให้ London Cafe เป็นแลนด์มาร์กของ อ.ลี้
เพราะร้านอยู่บริเวณทางผ่านติดถนนใหญ่พอดี ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นนักเดินทาง ได้ยินจากข่าว จนตอนนี้ลูกค้าเยอะถึงขั้นแจกคิว เริ่มจ้างลูกจ้างบ้างแล้ว จากที่ทำเอง เสิร์ฟเอง”
เลือกวัตถุดิบชั้นดี...แต่ราคาน่ารัก
“เค้กไฮไลท์เด็ดของที่ร้าน คือ เค้กมะพร้าว คิดสูตรเอง ในวันนี้ที่ร้านก็มี เค้กบลูเบอร์รี แอปเปิล มะม่วง ช็อกโกแลต ราคา 75 บาทต่อชิ้น(แพงสุด)
เพราะเราเลือกใช้ของดีทุกอย่าง วิปครีมก็ต้องเป็นวิปครีมแท้ เมื่อก่อนเราเพิ่งรู้ว่า วิปครีม มี 2 แบบ วิปครีมแท้ กับวิปครีมเทียม ไม่เคยรู้มาก่อน เราก็คิดว่าวิปครีมมันก็ต้องทำมาจากนม แต่ไม่ใช่ วิปครีมเทียมทำมาจากน้ำมันพืช อารมณ์เหมือนทานน้ำมันพืชเข้าปาก มีแต่โทษ
เราคิดว่าเราต้องใช้แต่ของดี จึงใช้วิปครีมแท้ทั้งหมดหมด ลูกค้าบางคนอาจจะไม่เข้าใจ คิดว่าทำไมเค้กร้านนี้แพงจัง เพราะเราใช้ของดี ใช้วิปครีมแท้ เก็บได้แค่ 5 วันเอง ถ้าเป็นวิปครีมเทียมอยู่ได้ 1 ปีเลย
ถ้าลูกค้าขอซื้อเราจะถามเลยว่า ซื้อกลับไปที่ไหน ถ้าไปเชียงใหม่จะไม่ให้ซื้อเลยเพราะไกล วิปครีมมันจะละลายเป็นน้ำเลย แต่ถ้าระยะทาง30 -60 กิโลฯ ยังพอไหว แต่เกินกว่านี้จะไม่ให้ซื้อกลับไป เพราะห่วงว่าลูกค้าจะได้กินของเสีย ไม่อร่อย ช่วงนี้อากาศร้อน
สั่งวัตถุดิบจากเชียงใหม่ อย่างวิปครีมแท้ เจออากาศร้อน รถมาส่งพอมาถึงที่เรา วิปครีมร้อนเอาไปใส่ตู้เย็น ครีมตีไม่ขึ้นนะ เราก็ต้องทิ้งหมดเลย จึงต้องเข้าไปซื้อของเองทุกอาทิตย์ เลือกซื้อเองทุกอย่าง
ส่วนเครื่องดื่มก็จะคิดสูตรเอง เช่น กาแฟมะพร้าว ส่วนชาเขียวก็จะใช้แบบชาไม่ผสมสี ทุกอย่างใช้วัตถุดิบดี แต่เราตั้งราคาไม่สูงมาก เราไม่ขายแพง เราก็อยากให้โอกาสลูกค้าได้กินของดีๆ จึงไม่อยากตั้งราคาแพง” เธอ ยืนยันว่าวัตถุดิบในร้านต้องดีจริง เพราะสิ่งที่ลูกค้ากินเราก็กิน” เธอ ย้ำว่าคุณภาพของต้องดี
เปิดคลาสสอนภาษาอังกฤษ...เพิ่มโอกาสการศึกษาเด็ก
แม้ช่วงเวลาพักผ่อนจะไม่ได้มากมาย เพราะต้องทำเค้ก 2 ช่วงเวลา ตั้งแต่เที่ยงคืนยันตีสอง และตื่นมาทำเค้กต่ออีกตอน 6 โมงเช้าวันรุ่งขึ้นจากนั้นก็เข้าร้าน กระนั้น เธอก็ยังรับสอนภาษาอังกฤษให้เด็กๆอีกด้วย เพราะรักภาษาอังกฤษมาก
“ตื่น 6 โมงเช้า ทำเค้กเสร็จก็ประมาณ 9 โมงเช้า มาร้าน จะทำเค้กช่วงดึกกับตอนเช้า เที่ยงคืนถึงตีสอง อบตัวแป้งทิ้งไว้ ตอนเช้าก็มาแต่งหน้า ทำไส้เค้ก ส่วนร้านจะเปิดตั้งแต่ 8 โมงเช้า- 2 ทุ่ม”
แต่เธอยืนยันว่า ยังไหว พักผ่อนเพียงพอแม้จะสอนภาษาอังกฤษควบคู่ไปด้วย
“สอนตั้งแต่เปิดร้านลอนดอน คาเฟ่ แรกๆ แล้ว สอนทั้งเด็ก และบุคคลทั่วไป รู้กันปากต่อปาก ตอนนี้สอนกลุ่มของ ม.6 ที่กำลังขึ้นมหาวิทยาลัย ส่วนเด็ก ป.5-ป.6 ก็มี จะเป็นการสอนสะกดคำ ผู้ใหญ่ก็มีมาถาม อยากให้สอนผู้ใหญ่ด้วย
ตอนนี้มีนักเรียนประมาณ 10 คน สอนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 2-3 คน เพราะถ้าเราไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ เราก็จะลืม อย่างแถวๆบ้าน เราคิดว่าเขาควรจะมีโอกาสมากกว่านี้ เลยอยากจะให้โอกาสเหล่านี้กับเขา”
เธอบอกว่าจะสอนภาษาอังกฤษเริ่มตั้งแต่ 6 โมง- 2 ทุ่ม
"ตอนนี้มีเด็กช่วยที่ร้านประมาณ 5 คน เป็นลูกจ้าง 1 คน นอกนั้นเป็นเด็กที่มาเรียนภาษาอังกฤษ ที่อยากเรียนรู้ อยากได้ประสบการณ์ เด็กๆน่ารัก เราก็ให้เขาทำงานแลกกับการเรียนภาษาอังกฤษ”
ขยาด!ชีวิตเมืองกรุง ฝันพัฒนาถิ่นฐานบ้านเกิด
“ชีวิตคนกรุงดูวุ่นวาย เข้าไปทีไรก็หลงทางตลอด ไปไหนก็ไม่เป็น บ้านน้าอยู่แถวลาดพร้าว รถติดมาก เราจะต้องเสียเวลาอยู่บนรถนานมาก ไม่เคยคิดเลยว่า อยากจะไปทำงานกรุงเทพฯ” เธอ ตอบหลังเจอคำถาม...ไม่คิดจะไปอยู่กรุงเทพฯ บ้างเหรอ
“จริงๆ มีความคิดอยากพัฒนาถิ่นฐานบ้านเกิด สิ่งสำคัญเลย อยากจะให้โอกาสเด็กๆ เพราะตอนนี้ขาดโอกาสในเรื่องการศึกษา โดยเร็วๆนี้จะมีแผน แต่ขออุบไว้ก่อน" เธอแย้มถึงโปรเจ็กต์สำคัญ
ทว่า หากใครเป็นแฟนเพจเฟซบุ๊ก London Cafe จะเห็นว่า เธอใส่ชุดพื้นเมืองสไตล์ชาวเหนือตลอด เธอคอนเฟิร์มว่า ใส่แล้วสบาย แถมดูชิค เก๋ไก๋อีกต่างหาก
“โดยปกติชอบใส่ชุดพื้นเมือง เพราะรู้สึกว่า ใส่สบายบมาก ต้องลองดูนะคะ ใส่แล้วไม่ร้อนเลย เนื้อผ้าโปร่ง ชุดพื้นเมืองของโพลี่มีเยอะ มีแทบจะทุกสี สามารถใส่ได้ตั้งแต่จันทร์ถึงอาทิตย์ ใส่ได้เกือบทุกวันไม่ซ้ำ เรารู้สึกว่าชุดพื้นเมือง เขามีดีไซน์เก๋นะ ใส่สบาย แถมไม่ต้องรีดอีกด้วย สะบัดๆใส่ได้เลย”
สุดท้ายเมื่อถามถึงเรื่องแฟน เธอยืนยันได้เลยว่า “โสดสนิท” แม้จะมีหลายคนคิดว่า สวยแบบนี้ จะไม่มีแฟน เป็นไปได้เหรอ!?
“ก็เพราะมีแต่คนคิดแบบนี้(หัวเราะ) เลยไม่มีคนมาจีบ ตอนนี้โสดค่ะ อาจจะเป็นเพราะทำงานเยอะ 6 โมงเช้าจนถึงตี 2 ไม่มีโอกาสได้คุยกับใครเลย” โพลี่ บอกเรื่องหัวใจที่ยังว่างปิดท้าย
สัมภาษณ์โดย ผู้จัดการ Lite
เรื่อง : สวิชญา ชมพูพัชร
ขอบคุณภาพจาก เฟซบุ๊ก London Cafe
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754
