xs
xsm
sm
md
lg

7 วันอันตรายสงกรานต์ ดับ 442 ราย “กทม.-โคราช” ตายสูงสุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


7 วันอันตรายสงกรานต์ 59 เกิดอุบัติเหตุรวม 3,447 ครั้ง ตาย 442 ราย เจ็บรวม 3,656 คน กทม.-โคราช ตายสะสมสูงสุด เชียงใหม่ เกิดอุบัติเหตุ-เจ็บรวมสูงสุด สาเหตุเมาเหล้า-ขับรถเร็ว เล็งนำข้อมูลวิเคราะห์หาสาเหตุ กำหนดมาตรการแก้ไข มอบ สธ.ดำเนินการ พร้อมให้ด้านคมนาคมวางระบบโครงข่ายถนน ปรับปรุงแก้ไขจุดเสี่ยง และสิ่งแวดล้อมริมทางให้มีมาตรฐานความปลอดภัย

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) ในฐานะประธานกรรมการและผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) แถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2559 ว่า สถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 17 เม.ย.2559 ซึ่งเป็นวันที่ 7 ของการรณรงค์ “สงกรานต์ปลอดภัย ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย สร้างวินัยจราจร” เกิดอุบัติเหตุ 343 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 45 ราย ผู้บาดเจ็บ 385 คน ทำให้สถิติอุบัติเหตุทางถนนรวม 7 วัน (11-17 เม.ย.59) เกิดอุบัติเหตุรวม 3,447 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 442 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 3,656 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต มี 4 จังหวัด ได้แก่ ตราด ยะลา ระนอง และหนองบัวลำภู

พล.อ.อนถพงษ์ กล่าวว่า จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 168 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครราชสีมา 19 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 175 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ 34.09 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 32.93 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 80.67 รองลงมา รถปิกอัพ ร้อยละ 8.85 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 64.49 บนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 37.86 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 36.12 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01-20.00 น. ร้อยละ 30.23 ผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน ร้อยละ 52.28 ทั้งนี้ ได้เรียกตรวจยานพาหนะ 4,433,019 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 730,271 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 211,502 ราย ไม่มีใบขับขี่ 204,006 ราย

“จากการตรวจผู้กระทำผิดในลักษณะที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาทด้วยการดื่มแล้วขับ สรุปผลการดำเนินการสะสมระหว่างวันที่ 9-17 เมษายน 2559 ตรวจพบผู้กระทำผิดในลักษณะที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาทด้วยการดื่มแล้วขับ 443,937 ราย แยกเป็น ยึดใบอนุญาตขับขี่ 17,449 ราย ส่งดำเนินคดีทางกฎหมาย 142,820 ราย ยึดรถ 6,613 คัน ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ 4,963 คัน และรถยนต์ส่วนบุคคล 1,650 คัน” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวและว่า จากนี้จะนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์หาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุเพื่อกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาในมิติเชิงพื้นที่ ทั้งระยะสั้น และระยะยาว เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงทั้งเมาแล้วขับ และขับรถเร็ว และปรับปรุงข้อกฎหมายให้สอดคล้องต่อสถานการณ์ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพมากขึ้น และพัฒนาระบบฐานข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนนให้มีเอกภาพ โดยมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นเจ้าภาพหลัก และผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นเจ้าภาพในระดับพื้นที่

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ให้หน่วยงานด้านคมนาคมวางระบบโครงข่ายถนน ปรับปรุงแก้ไขจุดเสี่ยง และสิ่งแวดล้อมริมทางให้มีมาตรฐานความปลอดภัยตามหลักวิศวกรรมจราจร พร้อมทั้งควบคุมการตรวจสอบสภาพยานพาหนะทุกประเภท โดยเฉพาะรถโดยสารสาธารณะให้มีมาตรฐานความปลอดภัย ที่สำคัญ ให้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ผ่านทุกช่องทางสื่อเพื่อสร้างวินัยจราจรในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย พร้อมส่งเสริมการปลูกฝัง “ความเป็นไทย สร้างวินัยจราจร” อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สังคมไทยมีวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนอย่างยั่งยืน

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2559 พบว่า มีสาเหตุหลักจากการดื่มแล้วขับ และขับรถเร็วในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน คิดเป็น 2 ใน 3 ของจำนวนอุบัติเหตุทางถนน ทำให้ดัชนีความรุนแรงของอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น โดยกว่าร้อยละ 53 เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน จะได้ถอดบทเรียน ทบทวนการดำเนินงานลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ รวมถึงกำหนดมาตรการป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนนที่มุ่งควบคุมปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนในทุกมิติ โดยเฉพาะการขับรถเร็ว และการดื่มแล้วขับ ท้ายนี้ ในนามของรัฐบาลขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมขับเคลื่อนการดำเนินการป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2559 ทั้งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานประจำศูนย์ฯ ส่วนกลาง ระดับพื้นที่ ประจำจุดตรวจ ด่านตรวจจุดบริการ เพื่อร่วมสร้างความสุข ความปลอดภัยให้คนไทยปลอดภัยจากอุบัติเหตุ และให้ทุกการเดินทางใน 365 วัน บนถนนเมืองไทยถึงที่หมายอย่างปลอดภัย

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น