งามไส้มั้ยล่ะ! สื่อญี่ปุ่นออกข่าว “ต้นไม้แห่งปรัชญา” ต้นไม้เอียงกลางทุ่งเนินเขาชื่อดังที่เมือง Biei จ.ฮอกไกโด ถูกโค่นทิ้งแล้วเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ด้วยเหตุหลีกเลี่ยงปัญหานักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่มีมารยาท พากันเข้าไปชื่นชมถ่ายรูปใกล้ๆ และเหยียบย่ำแปลงผักของชาวบ้านบริเวณนั้นเสียหาย ซึ่งในบรรดานักท่องเที่ยวที่ไร้จิตสำนึกนั้น รวมพี่ไทยเราด้วย
แชร์สนั่น! ข่าวตัดต้นไม้ต้นดังจากญี่ปุ่น
สมาชิกพันทิปท่านหนึ่งได้โพสต์ “Tree of philosophy ที่ฮอกไกโด ถูกตัดทิ้งแล้ว เพราะปัญหาจากนักท่องเที่ยว” โดยมีเนื้อหาใจความว่า
“แชร์ข่าวจากเพื่อนผมที่อยู่ที่ญี่ปุ่น (post ใน facebook)
ข่าวทีวีที่ญี่ปุ่นออกข่าวว่า Tree of Philosophy ต้นไม้เอียงๆ ต้นเดียวที่ยืนต้นในทุ่งที่ฮอกไกโด (ต้นในรูป) ที่เป็น location ถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวต่างชาติชอบมาถ่ายกันในช่วง 3-4 ปีนี้ ถูกตัดทิ้งแล้วเมื่อวาน
ทีวีสัมภาษณ์เจ้าของที่ดินและต้นไม้ เจ้าของพูดว่า เขาจำใจต้องตัดทิ้งเพราะทน claim จากชาวบ้านที่ทำสวนปลูกผักรอบๆ นั้นไม่ไหว เพราะปัญหานักท่องเที่ยวต่างชาติ อย่างเช่น "คนไต้หวันและคนไทย" ที่ไม่รักษามารยาท มาถ่ายรูปกันแล้วเข้าไปในแปลงผักโดยไม่ได้รับอนุญาติ และเหยียบทำลายแปลงผักของชาวบ้านรอบๆ นั้น เตือนและห้ามปักป้ายหลายภาษาแล้วก็ไม่ฟัง จนต้องตัดสินใจตัดต้นไม่ทิ้งซะเพื่อตัดปัญหา
..... นั่งจุกอยู่หน้าทีวีทีเดียว เพราะเขาพูดว่า "คนไทย" ออกทีวีอย่างชัดเจน ปัญหาทำนองนี้จากนักท่องเทียวต่างชาติที่ไม่รักษามารยาท ถูกบ่นมากขึ้นในญี่ปุ่น
แต่คนญี่ปุ่นนั้นทำอะไรมากไม่ได้ เพราะมองว่านักท่องเที่ยวอย่างเราๆ นั้นเป็น "แขกของประเทศ" เพื่อนๆ จะมาเที๋ยวก็ขอให้ช่วยกันรักษามารยาท ตามธรรมเนียมท้องถิ่นของเขา(ไม่ใช่ของเราๆ) ให้สมกับเป็นแขกของประเทศเขาหน่อยน่ะครับ
จริงๆ เขาก็ทำที่ให้ถ่ายไว้แล้วน่ะ คนทั่วไปจะถ่ายกันตรงนั้น แต่จะมีบางพวกที่เข้าไปในทุ่งเขาเลย สาเหตุที่ห้ามคือ คนเท้าเปื้อนดินสกปรกเข้าไปย่ำในแปลงเข้า แล้วดินที่ติดเท้าเข้าไปมันทำให้เกิดโรคพืช เจ้าของบอกว่าหน้าหนาวลุยหิมะเข้าไปมันอันตราย กลัวจะเกิดอุบัติเหตุ
ฝากเตือนใจคนที่ไปเที่ยวครับ ว่าอย่าเอาแต่ตัวเองเป็นที่ตั้ง ฉันอยากได้รูปสวยๆ เรื่องของฉัน ใครจะทำไม เหลือสิ่งดีๆ สวยๆ งามๆ ไว้ให้คนอื่นบ้างครับ อย่าท่องเที่ยวเชิงทำลายกันเลย”
ตั้งป้ายห้าม ก็ไม่อาจหยุดยั้งนักท่องเที่ยวไร้จิตสำนึก
จริงๆ แล้ว มีการทำสัญลักษณ์กากบาทสีแดงบนต้นไม้แห่งปรัชญา รวมทั้งทำป้ายห้ามเข้า ห้ามถ่ายรูป ทั้งภาษาญี่ปุ่น อังกฤษ จีน เกาหลี แต่ไม่สามารถหยุดการกระทำที่ไร้มารยาทของนักท่องเที่ยวบางกลุ่มได้
แม้แต้ผู้เกี่ยวข้องของการท่องเที่ยว Biei จะออกมารณรงค์เรื่องมารยาทของนักท่องเที่ยว กระทั่งยกเลิกการโปรโมตให้ต้นไม้เอียงนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้
ในที่สุด เมื่อเจ้าของต้นไม้ตัดสินใจตัดต้นไม้เอียงอันเก่าแก่นี้ ซึ่งถูกขนย้ายออกไปจากบริเวณนั้นเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
วันนี้จึงเหลือแต่ความทรงจำ เนื่องจากความเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้อยากได้ของนักท่องเที่ยวนิสัยเสีย
ชาวเน็ตประณาม กูรูญี่ปุ่นแนะสะกดคำว่า”มารยาท”
“มีตังไปเที่ยวญี่ปุ่น แต่สงสัยลืมพกมารยาทไป”
“พวกที่มีตังเที่ยว แต่ไม่มีปัญญาเอามารยาทไปด้วยก็มีเยอะนะจ๋า สักแต่ว่าซักครั้งในชีวิต เอาให้สุด ใช้ให้คุ้ม เรื่องอื่นก็ไม่สนใจแล้ว ไม่ต้องต่างประเทศ เที่ยวในประเทศยังอนาถเลย”
“แล้วเสือกกระแดะพากันด่าคนจีน !!! กูก็ด่าด้วยแหละ แต่กูไม่เคยไปเมืองนอกหรือไปที่อื่นแล้วสร้างความเสียหายวะ”
“ผมว่าแบนคนไทยห้ามเข้าไทยด้วยครับ เขียนหลักกิโลเอย กางเต้นส่งเสียงดังเอย วีรกรรมเยอะอ่ะ 5555555”
ดร.รังสรรค์ เลิศในสัตย์ คณบดี คณะบริหารธุรกิจ สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น ผู้เคยใช้ชีวิตในแดนซากุระ ปัจจุบันสอนเรื่องวัฒนธรรมญี่ปุ่นและบรรยายพิเศษเกี่ยวกับเรื่องมารยาทในสังคมญี่ปุ่น เคยให้สัมภาษณ์ผู้จัดการ Live ถึงประเด็นที่กลุ่มดาราวัยรุ่นไปทำเกรียน เต้นในรถไฟและถ่ายรูปกับดอกซากุระที่ญี่ปุ่น จนเป็นข่าวฮือฮาเมื่อกลางปีที่แล้ว
“การโน้มกิ่งซากุระมาถ่ายรูป อันนี้เป็นเรื่องที่ทำไม่ได้เลยครับ เพราะมันคือสมบัติสาธารณะ การโน้มกิ่งลงมาอาจจะทำให้มันหักได้ ที่ญี่ปุ่นเขาซีเรียสกับการอนุรักษ์ซากุระมากครับ ถึงไม่ได้เด็ดก็ไม่ควรทำครับ มันไม่เหมาะสม
เหมือนมาบ้านเมืองเขาแล้วยังทำลายต้นไม้ของพวกเขาอีก ที่สำคัญ ต้นซากุระเป็นสมบัติของชาติที่สำคัญของเขา ปีๆ นึงเขาจะได้ดูซากุระบานแค่ 2 อาทิตย์เท่านั้นเอง เลยทำให้เขาต้องมีเทศกาลชมดอกซากุระเกิดขึ้น และทุกคนห้ามไปแตะต้องเลย ดูได้อย่างเดียว แต่สามารถเก็บใบและดอกซากุระที่ร่วงหล่นจากพื้นไปเป็นที่ระลึกได้
คนไทยที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นมักจะโดนต่อว่าว่าคุยกันเสียงดังตามที่ต่างๆ อยู่ในรถทัวร์ก็เสียงดัง ในเครื่องบินก็คุยกัน กินข้าวก็คุยกัน เป็นเรื่องที่ถูกว่ากล่าวมานานแล้วซึ่งผมเองที่ได้ยินมาก็อายเหมือนกัน ถือเป็นเรื่องซีเรียสสำหรับบ้านเมืองเขาเหมือนกันนะ
ผมก็ไม่รู้ว่าใครจะเป็นคนสั่งสอนวัยรุ่นไทยเรื่องมารยาทแบบนี้ อาจจะต้องเป็นกระทรวงต่างประเทศที่จะต้องบอกทางไกด์หรือหาวิธีแนะนำคนไทยที่ไปว่า อย่าไปทำตัวแบบไหนที่ญี่ปุ่นที่จะทำให้คนที่นั่นเขาไม่ชอบ มันผิดวัฒนธรรม ผิดประเพณีเขา ผมว่าควรจะมีการตักเตือน เอาเรื่องนี้มาเป็นอุทาหรณ์ให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องช่วยบอกคนไทยที่จะเดินทางไป”
หวังว่า นักท่องเที่ยวไทยเราหากไปเที่ยวบ้านเมืองประเทศไหนก็ตาม ต้องเคารพวัฒนธรรม รักษามารยาท ให้เกียรติทรัพย์สมบัติประเทศเขา
….ไม่อยากให้ใครมาเที่ยวทำอุจาดที่บ้านเรา ก็อย่าไปทำบ้านเขา...
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก hokkaido_milkyway, Toshiki Nakanishi, panthip.com, anngle.org
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754