สั่นสะเทือนวงการแพทย์กันอีกแล้ว เมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊กอ้างตัวเป็นอดีต "แพทย์" โพสต์แฉ พร้อมตั้งคำถาม 2 โรงพยาบาลดังจ.อุดรธานีว่า "โรงพยาบาล หรือโรงฆ่าสัตว์กันแน่" หลังพาคนป่วยหอบหืดเข้ารักษา แต่กลับวินิจฉัยเป็นโรคเครียดจัด แถมฉีดยาทำให้อาการแย่หนัก พอเปลี่ยนไปอีกโรงพยาบาล คนไข้กลับถูกบอกว่าเมาหนักเดี๋ยวหายเอง ล่าสุดมีกระแสข่าวระบุว่า ผู้โพสต์ไม่ใช่แพทย์จริง ด้านโรงพยาบาลที่ถูกกล่าวหา เตรียมแถลงข่าววันนี้ (18 พ.ย.)
หลังจาก เว็บไซต์ข่าว MGRonline ได้นำเสนอประเด็นดรามาของผู้ใช้เฟซบุ๊ก Chackrapong Deesri อ้างตัวเป็นอดีต "แพทย์" ผ่านเซ็กชั่น Hot Share ในหัวข้อข่าว "เมื่อหมอเจอกับตัว ถึงกับต้องประจาน โรงพยาบาล หรือโรงฆ่าสัตว์กันแน่" โดยเนื้อหาระบุถึงอาการสุดทนกับความมักง่าย และประมาทเลินเล่อของแพทย์ทั้ง 2 โรงพยาบาลใน จ.อุดรธานี โดยเฉพาะการรักษาที่ไม่พยายามค้นหาสมมติฐานของโรคอย่างแท้จริง กลายเป็นประเด็นใหญ่ สั่นสะเทือนวงการแพทย์ที่มีผู้ใช้สื่อโซเชียลฯ เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก
โรงฆ่าสัตว์ หรือโรงบาลศูนย์กันวะ..ว่าจะไม่ด่าแล้วนะ!!เช้าตรู่นี้ ช่วงตี 3-3ครึ่ง คนไข้..มีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ...
Posted by Chackrapong Deesri on Wednesday, November 11, 2015
"คล้ายๆ กันทุกรพ. หมอไม่ค่อยสนใจ สั่งให้พยาบาลเวรจัดการ โดยเฉพาะเวลาดึก ๆ แต่ค่าเวรรับเต็ม ๆ นะ ตรวจคนไข้นอกเริ่มเกือบ 10 โมงเช้า บ่ายสามหรือบ่ายสี่เลิกแล้ว ปล่อยให้คนไข้ไปใช้บริการนอกเวลา หมอตรวจเร็วมีกี่คนตรวจหมดโดยไม่ช้าเพราะได้ค่าตรวจนอกเวลาเป็นรายหัว
คนไข้ก็แปลกกับกับหมอไม่ค่อยโวยวายแต่มักจะโวยวายเอากับพยาบาลซึ่งเพียงรับคำสั่งจากหมอ ส่วนเรื่องพูดจาไม่ดีไม่ใช่มีเฉพาะพยาบาลคนไข้บางคนก็ปากหมา มองพยาบาลเป็นคนใช้โวยวายไม่เข้าเรื่อง สรุปมีทั้งสองฝ่ายนั่นแหละ" ความเห็นจากคน เมืองลุง
"มีการโพสต์หลักฐานชัดเจน กระทรวงสาธารณสุขจะไม่ไปตรวจสอบหรือ หากเป็นจริงเรื่องอย่างนี้ไม่ควรเกิดขึ้น ชีวิตคนๆ หนึ่งไม่ว่ายากดีมีจนหรือไปทำอะไรมาทำให้เกิดปัญหานี้ แพทย์ควรรักษาด้วยความใส่ใจและตามมาตรฐาน การมองเฉยๆ หรือว่าจากการบอกของคนไข้หรือของคนที่พามา ไม่ใช่ให้แพทย์วินิจฉัยทันทีที่ไม่มีการตรวจรักษาอย่างมาตรฐาน เพราะอย่างนั้นคือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง โดยเฉพาะเป็นโรคที่อาจทำให้เกิดการเสียชีวิตได้
เรื่องชีวิตเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรประมาทอย่างยิ่ง ญาติใครใครก็รักไม่ว่ายากดีมีจนหรือไปทำอะไรมา ส่วนมากแพทย์ที่อยู่เวรมักเป็นแพทย์ที่จบใหม่อาจมีประสบการณ์น้อย และบางครั้งอาจมีคนไข้เยอะจนทำให้มีสภาพไม่ปกติ แต่ก็ไม่เป็นเหตุผลที่ฟังได้ โรงพยาบาลทุกแห่งต้องมีมาตรฐานในการรักษาและแม้แต่แพทย์ก็ต้องอยู่ในสภาพมาตรฐานด้วย ถ้าสภาพแพทย์ไม่ได้มาตรฐานทำให้การรักษาไม่เป็นไปตาม คงจะโทษแพทย์อย่างเดียวโดยไม่รู้สาเหตุคงไม่ได้ มาตรฐานที่กำหนดต้องมาตรวจสอบกัน" ความเห็นจากคุณ Pongsak Netisingha
"พวกหมอต่างๆ อยู่ รพ.รัฐ พูดจากับคนไข้แบบหนึ่ง พอตกเย็นไปทำงานที่ รพ.เอกชน พูดจาเอาใจใส่กับคนไข้อีกแบบหนึ่ง อย่างกับคนละคนกัน แล้วยังมาอ้างอีกว่า หมอมีจรรยาบรรณ รักษาคนไข้เท่าเทียมกัน" ความเห็นจากคุณ Prasit Saelim
"คนไทยอย่างเนี้ย ถ้าอยู่เมืองนอก ถูกฟ้องกันเป็นแถว พวกไม่อ่านไม่เรียนรู้โลกใหม่ๆ กูเก่งคนเดียว หมอไม่ใช่เทวดา การศึกษาเปลี่ยนตลอด ผมเป็นหืดหอบ หายใจไม่ออกเวลาเป็นหวัด เคยไปหาโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในประเทศไทยมาทุกโรงพยาบาล แต่วินิจฉัยไม่ถูก จนผมมาอยู่เมืองนอก จึงรู้ว่าผมแค่เป็นหืดหอบ เดี๋ยวนี้หายแล้ว พ่นยาทุกวันตามหมอที่อเมริกาสั่ง หมอคนไทยไม่รู้จักโรคนี้ น่าสงสารคนไทยนะ" ความคิดเห็นจากคุณวินัย ชวลิต
อย่างไรก็ดี ยังมีบางความเห็นที่อยากให้มีการฟังเสียงของอีก 2 ฝ่าย (โรงพยาบาล) ด้วย ถ้าทั้งสองโรงพยาบาลทำอย่างที่ถูกกล่าวหาจริงก็คงได้แต่หวังให้ผู้มีอำนาจบริหารจัดการควบคุมการรักษาพยาบาลนำไปพิจารณาปรับปรุงแก้ไขเพื่อไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นอีก
ระหว่างรอการชี้แจงจากทั้ง 2 โรงพยาบาล ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Lynn Papitchaya ได้ส่งข้อความเข้ามาทางกล่องข้อความในเพจข่าว ASTV ผู้จัดการ Live ระบุว่า ทั้งสองโรงพยาบาล ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ถูกกล่าวหา ได้ตรวจสอบข้อมูลจากแพทย์สภามาแล้วพบว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่อ้างตัวว่าเป็นแพทย์ ไม่ใช่แพทย์จริง ล่าสุดเตรียมดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว
"เรียน Admin จาก http://www.manager.co.th/HotShare/ViewNews.aspx?NewsID=9580000127377 ที่แชร์ของคุณ Chackrapong Deesri ค่ะ พอดีทาง รพ.ศูนย์อุดรฯ และรพ.วัฒนา ได้ไปเช็กข้อมูลจากแพทยสภามาแล้วว่าคนนี้ไม่ใช่แพทย์จริง และกำลังจะดำเนินคดีตามกฎหมาย"
ทั้งนี้ ทีมข่าว ผู้จัดการ live ได้พยายามติดต่อไปยัง นพ.ชุติเดช ตาบ-องครักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีเพื่อถามถึงกรณีที่เกิดขึ้น แต่ไม่มีการตอบรับจากปลายสาย ขณะที่ทางโรงพยาบาลวัฒนา ให้ข้อมูลว่า วันนี้ (18 พ.ย.) จะมีการจัดแถลงข่าวขึ้นที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เวลา 15.00 น.
ส่วนกระแสข่าวว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กที่อ้างตัวเป็นอดีต "แพทย์" ไม่ใช่แพทย์จริงนั้น ทีมข่าวได้ตรวจสอบรายชื่อแพทย์จากฐานข้อมูลบนเว็บไซต์ของแพทยสภา พบว่า มีชื่อ "นพ.จักรพงษ์ ดีศรี" เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม หรือแพทย์ โดยเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754