xs
xsm
sm
md
lg

เจาะลึกเทรนด์ใหม่ ปี 58 เด็กไทยแห่เรียนพยาบาลเงินดี-มีงานมั่นคง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นางฟ้าพยาบาลชุดขาว เทรนใหม่มาแรง ของเด็กไทยประจำปี 2558 จากการประกาศผลแอดมิชชัน “คณะพยาบาลศาสตร์” กลายเป็นคณะที่มีคนเลือกมากที่สุดถึง 4 อันดับ จากสถาบันต่างๆ จนเรียกได้ว่าเป็นเทรนด์ของเด็กไทยปีนี้ นอกจากความประหลาดใจแล้ว ยังนำมาซึ่งคำถามมากมายว่า เพราะอะไรเด็กไทยถึงอยากเป็นพยาบาล?

ในขณะที่ผลการจัดอันดับสายงานพยาบาลที่มีรายได้สูงที่สุดในโลก จากเว็บไซต์ differentmedicalcareers ผลปรากฏว่า “ผู้บริหารการพยาบาล” หรือ Chief Nursing Officers (CNO) เป็นสายงานอาชีพพยาบาลที่มีรายได้สูงสุด โดยมีรายเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ประมาณ $196,112 คิดเป็นเงินไทยประมาณ 6.6 ล้านบาท

"พยาบาล" คณะที่เลือกมากที่สุด

ภายหลังจากที่มีการประกาศผลแอดมิชชั่นประจำปี 2558 นอกจากจะรู้ว่าใครติดคณะอะไร มหาวิทยาลัยไหน ยังตามมาด้วยสถิติต่างๆ ของแอดมิชชันประจำปี ยกตัวอย่างเช่น คณะ/สาขาวิชาที่มีการแข่งขันสูงที่สุด หรือคณะ/สาขาวิชาที่ผู้สมัครเลือกมากที่สุด ถ้าหากเราลองดูสถิติในทุกๆ ปี ก็จะรู้ได้ทันทีว่าเทรนด์ในการเลือกคณะของเด็กนักเรียนในแต่ละปีนั้นเป็นอย่างไร และกระแสที่กำลังจะกล่าวถึงหลังจากการประกาศผลแอดมิชชันในปีนี้นั่นก็คือ สถิติของคณะหรือสาขาวิชาที่มีผู้สมัครมากที่สุด ในอันดับ Top 5 มีคณะพยาบาลศาสตร์ติดอันดับสูงสุดถึง 4 อันดับด้วยกัน

อันดับ 1 : คณะพยาบาลศาสตร์ หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) รับ 250 คน สมัคร 2,847 คน

อันดับ 2 : คณะการบัญชีและการจัดการ สาขาวิชาบัญชีบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม รับ 525 คน สมัคร 2,620 คน


อันดับ 3 : คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) รับ 80 คน สมัคร 2,221 คน


อันดับ 4 : คณะพยาบาลศาสตร์ สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (มสด.) รับ 80 คน สมัคร 2,021 คน


อันดับ 5 : คณะพยาบาลศาสตร์ หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยบูรพา (มบ.) รับ 162 คน สมัคร 2,006 คน


โดยสถิติของคณะหรือสาขาวิชาที่ผู้สมัครเลือกมากที่สุด จะคิดจากจำนวนที่นั่งที่เปิดรับ หากเปิดรับหลายที่นั่งก็อาจจะส่งผลให้มีผู้สมัครเลือกเป็นจำนวนมากตามไปด้วย จะแตกต่างจากคณะ/สาขาวิชาที่มีอัตราการแข่งขันสูง โดยจะคิดจากจำนวนที่นั่งที่เปิดรับสมัคร ต่อจำนวนคู่แข่ง บางคณะเปิดรับน้อย แต่มีผู้สมัครมากทำให้มีการแข่งขันกันสูงนั่นเอง




 
ค่าตอบแทนสูง-ได้งาน 100 เปอร์เซ็นต์

"วิชาชีพพยาบาลถ้าเรียนจบแล้วมีโอกาสได้งานถึง 100 เปอร์เซ็นเต็ม" เหตุผลหนึ่งที่ ผศ.ทัศนียา วังสะจันทานนท์ คณะบดีคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ได้เปิดเผยถึงสาเหตุที่เด็กส่วนใหญ่ในปีนี้หันมาสนใจในอาชีพพยาบาลมากยิ่งขึ้น นอกจากความตั้งใจอยากเรียน หรือเป็นอาชีพที่ใฝ่ฝันในวัยเด็กแล้ว หากมองในด้านของการได้งานทำ "พยาบาล" เป็นอาชีพที่การันตีได้ว่าจบมาแล้วมีงานทำ 100 เปอร์เซ็นต์

"นักศึกษาบางคนก็ได้งานตั้งแต่ปี 4 เลยก็มี เพราะจะมีบูทของโรงพยาบาลต่างๆ มาตั้งรับสมัครเกือบทุกแห่งทั่วประเทศ ดังนั้น ปัจจัยในการได้งานทำที่ค่อนข้างสูง ก็น่าจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้นักเรียนเลือกที่จะสอบเข้าคณะพยาบาลในปีนี้"

ต่อเนื่องมาถึงสาเหตุว่า "ทำไมพยาบาลจึงมีความต้องการสูง?" ผศ.ทัศนียา วังสะจันทานนท์ ได้อธิบายขยายความถึงสาเหตุของการขาดแคลนและความต้องการที่สูงมากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกปีว่า "เนื่องมาจาก โรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ หรือจะรวมไปถึงทั่วโลกด้วยเกิดภาวะขาดแคลนพยาบาล มาเป็นระยะเวลานาน เพราะขณะนี้ประเทศของเราต้องการพยาบาลมากถึง 40,000 คน ที่ยังขาดแคลนทั่วประเทศ อย่างในชุมชนเมืองก็จะขาดแคลนน้อยหน่อย แต่ถ้าเป็นโรงพยาบาลตามต่างจังหวัดไกลๆ ก็ถือว่ายังขาดแคลนพยาบาลค่อนข้างมาก"


ในกระบวนการผลิตพยาบาล ประเทศไทยสามารถผลิตพยาบาลได้ปีละประมาณ 8,000 คน จากสถาบันการศึกษาต่างๆ 80 กว่าแห่งทั่วประเทศ ถ้าเปรียบเทียบกับความต้องการพยาบาลที่สูงถึง 40,000 คน ถือเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูง แต่ทางสถาบันต่างๆ ก็ไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตนิสิต-นักศึกษาพยาบาลให้เพิ่มขึ้นได้ ด้วยข้อจำกัดในเรื่องของอาจารย์ผู้สอน ที่จะต้องมีสัดส่วนที่เพียงพอและเหมาะสมกับเด็ก เพื่อให้ได้คุณภาพตามที่สภาวิชาชีพกำหนดมาตรฐานไว้

การผลิตที่ไม่ทันอันเนื่องมาจากว่า พยาบาลส่วนใหญ่ถ้าทำงานมาสักระยะหนึ่ง อายุเฉลี่ยประมาณ 30-40 ปี มักจะรีไทร์ตัวเอง และทำงานไม่ถึงอายุเกษียณ เนื่องมาจากว่าต้องไปดูแลครอบครัว ไปทำในอาชีพสาขาอื่น หรือไปทำงานต่างประเทศ เพราะมีรายได้ที่สูงกว่าประเทศไทยมาก โดยดูจากรายงานการวิจัย หรือการรวบรวมสถิติการทำงานของพยาบาล จะพบว่ามีอายุงานที่ค่อนข้างน้อย


ค่าตอบแทนสูงก็เป็นแรงจูงใจหนึ่งที่ทำให้คนแห่มาเรียนพยาบาลมากขึ้นในปีนี้ จากการสอบถามนิสิตพยาบาลที่สำเร็จการศึกษาจากคณะพยาบาลศาสตร์ มศว ทำให้ทราบข้อมูลคร่าวๆ ว่า

"สำหรับนักศึกษาจบใหม่ ไม่น่าจะต่ำกว่า 30,000 บาท ซึ่งใน 30,000 นี้ก็อาจจะรวมทุกอย่างแล้ว เช่น ตัวเงินเดือน ค่าวิชาชีพขาดแคลน และเงินตอบแทนพิเศษสำหรับวิชาด้านสาธารณสุข ซึ่งวิชาด้านสุขภาพก็จะมีเงินตรงนี้ให้ และยังจะมีส่วนของเงินค่าเวร ค่าโอทีอีกด้วยค่ะ ซึ่งรวมๆ ไปจะไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท ต่อคน"


 
ความกดดันสูง...จรรยาบรรณต้องสูงตาม

อาชีพพยาบาลเป็นอย่างไรนั้น น.ส.นพมาศ สังข์คุ้ม ข้าราชการพยาบาล ประจำโรงพยาบาลรัฐบาลแห่งหนึ่ง กล่าวถึงอัตราค่าตอบแทนของอาชีพพยาบาลในส่วนของรัฐบาลและเอกชนก็ย่อมแตกต่างกันอยู่แล้วเป็นธรรมดา

"เงินเดือนพยาบาล ในส่วนของรัฐบาลก็จะเริ่มต้นที่ 15,000 บาท ซึ่งแล้วแต่ที่ ถ้าบรรจุเป็นข้าราชการพยาบาลก็จะตามเรตของรัฐบาลที่เขาประกาศ แต่ถ้าไม่บรรจุก็แล้วแต่อัตราจ้าง หากโรงพยาบาลไหนกำไรเยอะก็อาจจะมีอัตราเงินเดือนเริ่มต้นที่สูงกว่านิดหน่อย"

ปัจจุบันการบรรจุพยาบาลเข้าเป็นข้าราชการก็ค่อนข้างยากแล้ว เพราะโรงพยาบาลหลายแห่งก็ได้ลดต่ำแหน่งลง ซึ่งถ้าบรรจุเป็นข้าราชการอัตราเงินเดือนจะต่ำกว่าคนที่ไม่ได้บรรจุหลายพันบาทเลยทีเดียว

"โดยหน้าที่แล้วแทบจะไม่แตกต่างกันเลย ในวิชาชีพพยาบาลไม่ว่าคุณจะทำงานที่ไหนก็ต้องปฏิบัติต่อคนไข้เหมือนกันหมด แต่โดยเงินเดือนหรือค่าตอบแทนแล้วแน่นอนว่าโรงพยาบาลของเอกชนก็จะให้ค่าตอบแทนที่สูงกว่าโรงพยาบาลรัฐแน่นอน นักเรียนพยาบาลที่จบใหม่ส่วนใหญ่ก็จะมาหาประสบการณ์ที่โรงพยาบาลรัฐ ทำงานไปได้สักระยะหนึ่งก็อาจจะมีการโยกย้ายไปทำงานที่โรงพยาบาลเอกชนเพราะมีเรตเงินเดือนที่สูงกว่า"

แม้จะเป็นอาชีพที่ได้รับการการันตีแล้วว่าเรียนจบมาได้งานทำ 100 เปอร์เซ็นต์ ที่สำคัญยังมีค่าตอบแทนค่อนข้างสูง เพราะนอกจากเงินเดือนแล้วยังสามารถไปรับจ้างทำงานพิเศษ ตามโรงพยาบาลต่างๆ ได้อีกด้วย แต่หากมองในส่วนของตัวงาน พยาบาลเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่หาเวลาว่างได้ค่อนข้างน้อย และมีความกดดันสูง

"นอกจากเงินเดือนแล้วพยาบาลก็จะมีค่าเวร ซึ่งเป็นค่าตอบแทนที่อยู่เวร แต่ในความเป็นจริงแล้วถ้ามีครอบครัว ค่าเวรก็ไม่คุ้มหรอกค่ะ เหมือนเราอยู่เวรบ่าย ถ้าลูกกลับจากโรงเรียนก็จะไม่ได้เจอหน้าลูก หรือถ้าเป็นเวรดึกก็ต้องลุกจากที่นอนจากลูกจากสามีมาตอนกลางดึก 4ทุ่ม 5 ทุ่ม เพื่อจะมาเข้าเวร แล้วกลับไปไม่มีใครอยู่บ้าน ค่าตอบแทนตรงนั้นกับชีวิตครอบครัวที่ขาดหายไปมันก็ไม่คุ้ม แต่มันต้องทำเพราะมันเป็นหน้าที่ของเรา"

สอดคล้องกับคำพูดของ ผศ.ทัศนียา ได้กล่าวไว้ ถึงความขาดแคลนพยาบาล ส่วนหนึ่งมาจากการที่พยาบาลส่วนใหญ่จะมีอายุการทำงานไม่มากนัก เพราะต้องออกไปดูแลครอบครัว ไปทำอาชีพอื่น หรือไปเรียนต่อนั่นเอง

"พยาบาลเป็นอาชีพที่มีความกดดันค่อนข้างสูง สมัยก่อนพยาบาลรุ่นเก่าๆ จะถูกกดดันมากไม่ใช่จากคนไข้ แต่จะเป็นจากรุ่นพี่หรืออาจารย์พยาบาลด้วยกันเอง ทั้งดุทั้งตีเพื่อให้เราจำและไม่ทำผิดพลาดกับคนไข้ แต่ต่อหน้าคนไข้พยาบาลทุกคนต้องปฏิบัติอย่างดี ยิ้มแย้มแจ่มใส แต่สมัยนี้ห้ามดุ ห้ามตี นักเรียนพยาบาลส่วนใหญ่ก็จะไม่ค่อยจำ และเกิดข้อผิดพลาดได้ง่ายขึ้น"

กว่าจะผ่านมาเป็นพยาบาลวิชาชีพได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งเรียนหนักและได้รับความกดดันจากอาจารย์และรุ่นพี่ เพื่อให้จำและไม่มีข้อผิดพลาด เพราะนั่นหมายถึงชีวิต และความปลอดภัยของคนไข้

"เด็กสมัยนี้เวลาที่เราสอนเขา หรือไปสอนเขาแบบเข้มๆ เขาก็จะว่าเราไปดุ หรือไม่ชอบเขา ซึ่งบางทีเขาก็ตีเจตนาผิด เด็กบางคนยังจับสลิ้งผิด ไม่รู้ว่าต้องฉีดยังไง ใช้เข็มเบอร์อะไร ซึ่งคุณอยู่ปี 3-4 ถ้าออกไปทำงาน แล้วไปฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อคนไข้ ไปโดนเส้นประสาท มันจะเป็นอันตรายและเกิดความเสียหายกับตัวคนไข้ เราก็จะกดดันเขา ให้เขาทำให้ได้ตอนนี้เลย"

พร้อมกล่าวทิ้งท้ายถึง รุ่นน้องพยาบาลทุกคนที่กำลังจะก้าวเข้ามาสู่อาชีพพยาบาลอย่างเต็มตัว ต้องนึกถึงจรรยาบรรณในวิชาชีพให้มากๆ พยาบาลต้องมีความสุขก่อน จึงจะสามารถส่งความสุขไปให้กับคนไข้ได้

"ถ้าเราเป็นคนที่มีคุณภาพ เป็นพยาบาลที่มีคุณภาพใส่ใจดูแลคนไข้ทุกคน สามารถดูแลคนไข้ได้ทุกโรคทุกประเภท เป็นคนเก่ง ไม่ว่าจะอยู่โรงพยาบาลรัฐหรือเอกชน ก็ไม่ต้องกลัวอะไรเลย แต่อย่าไปมุ่งมั่นหรือโฟกัสไปที่เรื่องเงินอย่างเดียว คือถ้างานดี เงินมันก็จะตามมาเอง"

ข่าวโดย ASTVผู้จัดการ Live



มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น