xs
xsm
sm
md
lg

“คาราบาวแดง” แจกจริงหรือแค่ลวง!!? สะสมฝาแลก “กีตาร์น้าแอ๊ด”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ถ้ารู้ว่าแลกยากอย่างนี้ กูไม่เสียเวลาแดกหรอก” คำตัดพ้อของแฟน “คาราบาวแดง” ว่อนโลกออนไลน์ หลังสู้อุตส่าห์สะสมฝาเครื่องดื่มชูกำลังครบ 500 ฝา หวังแลกกีตาร์พร้อมลายเซ็น “แอ๊ด-คาราบาว” ศิลปินเจ้าของเครื่องดื่ม แต่กลับเจอข้ออ้างว่า “ฝาบุบ-เป็นรอย” แลกไม่ได้ ทั้งๆ ที่ไม่เคยระบุในรายละเอียดมาก่อน จึงถูกผู้บริโภครุมยำเละ ตั้งคำถามโปรโมชันครั้งนี้ว่า ตั้งใจจะแจกจริง หรือแค่ลวงกันแน่!!?




เสียเวลาดื่ม เสียความรู้สึก!

(โพสต์ร้องเรียนจนกลายเป็นประเด็นเดือด!)
"เก็บฝามาครบ 500 ฝาแล้วแลกกีตาร์ไม่ได้ เซลส์บอกว่าฝาบุบ ฝาเปื้อน ต้องเอาฝาใหม่ๆ แล้วเก็บกว่าจะครบ 500 ฝาต้องใช้เวลาตั้งหลายเดือน ถ้ารู้ว่าแลกยากอย่างนี้... กูไม่เสียเวลาแดกหรอก แถมยังเสียความรู้สึกอีก"
 
"ชยัน โต" ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพร้องเรียนไปยังหน้าแฟนเพจ “Carabao Dang” แฟนเพจอย่างเป็นทางการของเครื่องดื่มชูกำลังของ “คาราบาวแดง” ซ้ำยังย้ำความเจ็บช้ำด้วยการโพสต์ตอบของผู้ดูแลแฟนเพจที่บอกเอาไว้ว่า...

"สวัสดีค่ะ คุณชยัน โต ต้องขออภัยที่ Admin เข้ามาตอบล่าช้านะคะ ในการตรวจสอบฝาเพื่อนำมาแลกของรางวัลนั้น ทางบริษัทต้องขอสงวนสิทธิ์ในความสมบูรณ์ของฝาที่รับแลก เช่น เป็นฝาที่ใต้ฝามีคำว่า "คาราบาวแดง มีวิตามิน B12" หรือไม่ หรือ ฝาถูกทำให้บุบ, เป็นรอยมาก่อน หรือถูกเจาะเป็นรู เป็นต้น ค่ะ

อย่างไร Admin ขอทราบเบอร์ติดต่อ คุณชยัน โต โดยทางคุณลูกค้า แจ้งกลับมาทาง inbox ก็ได้ค่ะ เพื่อทาง Admin จะประสานงานให้เจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการแลกฝาโดยตรง ติดต่อกลับไปยังคุณชยันโต เพื่อแจ้งรายละเอียดให้ทราบค่ะ"


(ขอบคุณภาพ: www.carabao.co.th)
กรณีนี้ ส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างว่าเป็นข้ออ้างจากฝ่ายผู้ผลิตหรือผู้คิดโปรโมชัน เพื่อจงใจเอาเปรียบผู้บริโภคหรือไม่ เพราะเมื่อย้อนกลับไปอ่านรายละเอียดการแจกของสมนาคุณบนเว็บไซต์ www.carabao.co.th และโปสเตอร์ต่างๆ ที่ถูกเผยแพร่ออกไปเมื่อแรกแจกโปรโมชัน ไม่ได้ระบุรายละเอียดเรื่องฝาสมบูรณ์หรือไม่เป็นข้อกำหนดเอาไว้แม้แต่น้อย

“สะสมฝาผลิตภัณฑ์ที่ร่วมรายการที่ใต้ฝาระบุคำว่า “คาราบาวแดง มีวิตามิน B12” จนครบ 500 ฝา พร้อมเงิน 100 บาท นำมาแลก “กีตาร์คาราบาว” มูลค่า 3,800 บาท สามารถรับแลกตามร้านที่ร่วมรายการเท่านั้น ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถแลกของสมนาคุณได้ไม่จำกัดตลอดระยะเวลาของกิจกรรม ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถแลกของสมนาคุณได้ไม่จำกัดตลอดระยะเวลาของกิจกรรม”

นอกจากนี้ ยังมีโปรโมชันสะสมฝาแลกผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีก เช่น ครบ 2 ฝา พร้อมเงิน 2 บาท นำมาแลกผลิตภัณฑ์ “เครื่องดื่ม คาราบาวแดง” มูลค่า 10 บาท, สะสมครบ 20 ฝา พร้อมเงิน 10 บาท นำมาแลก “เสื้อยืดบาวแดง” มูลค่า 85 บาท และสะสมครบ 60 ฝา พร้อมเงิน 30 บาท นำมาแลก “เสื้อแจ็กเกตบาวแดง” มูลค่า 250 บาท

อย่างไรก็ตาม เมื่อโพสต์ร้องเรียนหน้าแฟนเพจนี้กลายเป็นประเด็นร้อนในสังคม มีผู้เข้ามาตำหนิและแชร์ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นออกไปมากมาย ล่าสุด รูปภาพดังกล่าวกลับถูกลบออกไปจากแฟนเพจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตบท้ายด้วยการโพสต์แสดงความรับผิดชอบจากแฟนเพจเอาไว้ว่า

"ตามที่คาราบาวแดงได้จัดโปรโมชั่น “สะสมฝา B12 แลกของรางวัล” และมีการสอบถามข้อมูลจากผู้สะสมฝาท่านหนึ่ง เกี่ยวกับปัญหาเรื่องไม่สามารถใช้ฝาแลกของรางวัลได้เนื่องจากสภาพฝาไม่สมบูรณ์นั้น ขอเรียนว่าบริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอย่างเร่งด่วน โดยได้ดำเนินการติดต่อและนัดหมายเพื่อเข้าพบผู้สะสมฝาท่านดังกล่าว ซึ่งตัวแทนของบริษัทฯ จะเข้าหารือถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ในวันที่ 25 สิงหาคม 2558 เพื่อให้ได้ข้อสรุปต่อไป"

(ความเคลื่อนไหวล่าสุด ผู้ผลิตออกมาแสดงความรับผิดชอบอย่างเป็นทางการ)



ไม่ผิดกฎหมาย แต่ผิดจรรยาบรรณ!

(ขอบคุณภาพ: www.carabao.co.th)
ปรากฏการณ์ซื้อสินค้าล่าฝาเพื่อแลกของรางวัลหรือชิงโชค เกิดขึ้นมาได้พักใหญ่ๆ แล้วในสังคมไทย ที่เห็นได้ชัดจนถูกวิพากษ์วิจารณ์หลายครั้งว่าเข้าข่ายการพนันหรือไม่ ก็คือโปรโมชันลุ้นเงินหลักล้านของเครื่องดื่ม “อิชิตัน” ซึ่งสร้างรายได้อย่างถล่มทลายให้แก่เจ้าของเครื่องดื่มผสมน้ำตาล บ้างก็วิจารณ์หนักว่าถือเป็นการใช้ช่องว่างของกฎหมายมอมเมาผู้บริโภคด้วยข้ออ้างที่ว่าทำไปเพื่อ “คืนกำไรให้แก่ผู้บริโภค”

เมื่อเกิดเหตุการณ์คล้ายกันนี้ขึ้นกับเครื่องดื่มชูกำลังอย่าง “คาราบาวแดง” จึงถือเป็นโอกาสอันดีที่จะมานั่งวิเคราะห์ปรากฏการณ์บริโภคนิยมที่เกิดขึ้น และนี่คือมุมมองของ ธาราวุฒิ สืบเชื้อ อุปนายกฝ่ายภาครัฐ สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย

“จริงๆ แล้ว เรื่องของการใช้ฝาลุ้นรับรางวัล มันแบ่งออกได้เป็น 2 รูปแบบใหญ่ๆ ตอนนี้คือ แบบแรก “การลุ้นฝาชิงโชค” ถ้าจะดูว่ามันเข้าข่ายการพนันไหม ต้องมาดูว่าถ้ามีเรื่องการจับรางวัลจากชิ้นส่วน ก็ต้องขออนุญาต ใบอนุญาตเล่นการพนันจากเจ้าพนักงาน กรมการปกครองก่อน ถ้าทำในเขตกรุงเทพฯ แต่ถ้าเกิดขึ้นในต่างจังหวัด ก็ต้องขออนุญาตทางอำเภอหรือท้องที่นั้นๆ ในการจับรางวัล

แบบที่สองคือ “การสะสมฝาชิงรางวัล” สะสมชิ้นส่วนเพื่อแถมของสมนาคุณ อย่างกรณีนี้ สะสมครบ 500 ฝา แล้วจะได้กีตาร์หนึ่งตัว แล้วแต่ที่เจ้าของสินค้าจะกำหนดรายละเอียดไว้ ถ้าคนคิดโปรโมชันระบุรายละเอียดเอาไว้ชัดเจนและทำตามนั้นก็จะไม่เกิดปัญหา แต่จะอ้างเงื่อนไขเพิ่มเติมทั้งที่ไม่ได้ระบุไว้ตั้งแต่แรกไม่ได้ เพราะถือว่าไม่ให้ความเป็นธรรมกับผู้บริโภค

จริงๆ แล้ว กฎหมายไม่ได้ห้ามไม่ให้มีการชิงโชค แต่ถ้าเปิดฝาออกมาแล้วระบุเลยว่าได้อะไรเป็นของรางวัล อันนี้จะเข้าข่ายเป็นการเสี่ยงโชคอย่างหนึ่ง ซึ่งกรมการปกครองจะไม่อนุญาตให้เล่นวิธีนี้ เปิดปุ๊บแลกทองคำหนัก 20 บาท หรือเปิดแล้วลุ้นสิ่งของได้เลย แบบนี้ไม่ได้ แต่กับการส่งฝาชิงโชคหรือสะสมฝาเพื่อแลกของสมนาคุณ แบบนี้ทำได้ครับ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของผู้บริโภคด้วยว่าจะรู้เท่าทันมากน้อยแค่ไหน

(ขอบคุณภาพ: www.carabao.co.th)
ถ้าต้องสะสม 500 ฝา ก็ลองคิดดูว่าต้องสะสมวันละ 2 ขวด ตก 250 วัน แสดงว่าต้องใช้เวลาสะสมกัน 8 เดือนเศษๆ ถึงจะได้ครบ 500 ฝา อันนี้ถ้านับจากคนคนเดียวดื่มจริงๆ และสะสมเองนะครับ แต่มันก็ไม่เสมอไป เพราะความจริงคนที่อยากสะสมก็สามารถไปขอฝามาจากคนอื่นเพิ่มได้ แต่ถ้าให้พูดเรื่องการสะสมฝาจากการดื่มสินค้า ต้องสะสม 500 ฝา ก็คูณเข้าไปดูว่าตกขวดละเท่าไหร่ ขวดละ 10 บาท ก็เท่ากับต้องเสียเงินไป 5,000 บาทเพื่อแลกกีตาร์ตัวหนึ่งซึ่งราคา 3,800 บาท อันนี้ก็ต้องอยู่ที่วิจารณญาณของผู้บริโภคแล้วครับ

มันมีเรื่องจริยธรรม จรรยาบรรณของผู้ทำโฆษณาด้วยครับ หรือแม้แต่ผู้ประกอบการ ถึงแม้การใช้วิธีโปรโมชันจะช่วยจูงใจผู้บริโภคได้ ให้เขาซื้อของได้ง่าย แต่ก็ต้องมีกรอบกำหนดเอาไว้ว่าจะทำโฆษณาอย่างไรไม่ให้เป็นเท็จหรือมีผลหลอกลวงผู้บริโภคด้วย การเล่นชิงโชคหรือสะสมชิ้นส่วน ถึงจะเป็นหนึ่งในวิธีคืนกำไรให้ผู้บริโภคก็จริง แต่ก็ต้องดูด้วยว่ามันทำให้เกิดการบริโภคนิยมเกิดขึ้นจากความอยากได้ของผู้บริโภคโดยไม่จำเป็นมากน้อยแค่ไหน ก็ต้องดูเรื่องความเหมาะสมด้วย”




กรุณาร้องต่อ สคบ.โดยตรง

ส่วนเรื่องที่ทางผู้ผลิตให้เหตุผลเรื่องฝาบุบหรือเป็นรอย จึงทำให้ไม่สามารถแจกของสมนาคุณได้ตามที่ระบุได้นั้น อุปนายกฝ่ายภาครัฐ สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย มองว่าน่าจะเป็น “ข้ออ้าง” เสียมากกว่า ทางที่ดีแนะนำให้ผู้ร้องเรียนส่งเรื่องไปยัง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) โดยตรง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายจึงจะดีที่สุด

“เขาไม่ได้บอกในเงื่อนไขตั้งแต่แรกว่าฝาบุบไม่รับ ถือว่าโฆษณาแล้วเป็นการหลอกลวงผู้บริโภค จะแจกแล้วไม่แจก มาอ้างเงื่อนไขว่าฝาไม่อยู่ในสภาพที่ดี ทั้งๆ ที่ไม่ได้ระบุเอาไว้ก่อนหน้า จุดนี้แหละคือปัญหา ซึ่งต้องรอดูว่าทาง สคบ.จะจัดการได้ยังไงบ้าง แต่กรณีนี้ ผู้บริโภคอาจจะยังไม่ได้ร้องไปทาง สคบ.โดยตรง แค่โพสต์ไปในแฟนเพจของคาราบาวแดง มันก็ตรวจสอบได้ยาก เพราะทาง สคบ.คงไม่ได้มานั่งตรวจสอบจากข่าวทุกครั้งไป

ดังนั้น การแจ้งโดยตรงไปยังหน่วยงานถึงจะดีที่สุดครับ เพราะสิ่งที่สำคัญที่จะช่วยให้กระบวนการเดินไปได้คือ ต้องมีชื่อจริงของผู้ร้องเรียน เขาจะได้สืบค้นข้อเท็จจริงได้ถูก เพื่อป้องกันการดิสเครดิตจากบุคคลที่สาม เพราะข้อมูลออนไลน์บางทีก็เชื่อยากพอสมควร อาจจะเป็นการกลั่นแกล้งทางธุรกิจก็ได้ ทางที่ดีคือผู้บริโภคมีตัวตนจริงๆ และร้องเรียนไปทางหน่วยงานภาครัฐเลย ทางหน่วยงานก็ต้องดำเนินการให้เต็มที่อยู่แล้ว

ผู้บริโภคเองก็ต้องรู้เท่าทันสื่อว่า การจะบริโภคสื่อ เรื่องแรงจูงใจให้ซื้อด้วยวิธีนี้ ส่วนตัวแล้วมองว่าแต่ละคนควรศึกษารายละเอียดและใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจให้ดีว่า ควรที่จะเลือกซื้อสินค้าที่เป็นประโยชน์กับตัวผู้บริโภคเองหรือเปล่า ส่วนเรื่องของแถมที่เอามาล่อใจ ก็ต้องพิจารณากติกาเงื่อนไขของเขาให้ดีๆ อันไหนที่ผู้บริโภคดูแล้วเห็นว่าไม่เป็นธรรม เราสามารถร้องเรียนไปที่ สคบ. ถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับอาหาร สามารถร้องเรียนที่ อย. (สำนักงานคณะกรรรมการอาหารและยา) ได้ด้วย ให้เขาช่วยดำเนินการ


สอดคล้องกับความคิดเห็นของ ผศ.ดร.บุหงา ชัยสุวรรณ อาจารย์คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ นิด้า และอนุกรรมการฝ่ายจรรยาบรรณของสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย ที่อยากกระตุ้นให้ผู้บริโภคอย่างเราๆ รู้เท่าทันกลยุทธ์การตลาดในมิติต่างๆ และรู้จักป้องกันตัวเองจากโปรโมชันที่ไม่จำเป็น

“มันก็เป็นวิธีของนักการตลาด ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องให้เกียรติเขาว่าเขาพยายามคิดตรงนี้ขึ้นมาเพื่อหาทางคืนกำไรให้แก่ผู้บริโภคทางใดทางหนึ่ง แต่จุดสำคัญคือผู้บริโภคก็ต้องตระหนักด้วยว่า “ของฟรีไม่มีในโลก” ดังนั้น เราได้ประโยชน์จากเขา แต่เราก็ต้องปกป้องตัวเองด้วย ไม่ใช่ว่าคุณจะพยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ได้ของจากโปรโมชันนั้นอย่างเดียว

คงไม่มีจุดที่จะบอกได้ว่าแบบไหนถึงจะพอดี โปรโมชันไหนควรเข้าร่วมมากน้อยแค่ไหน อยากให้ผู้บริโภคตระหนักรู้ด้วยตัวเองมากกว่าว่าให้บริโภคสินค้าแต่เท่าที่จำเป็น อย่าไปบริโภคสินค้าเพื่อหวังจะได้อะไร บางโปรโมชันอาจมาพร้อมกลวิธีการเสี่ยงโชค แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าต้องเสี่ยงโชค ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีโอกาสได้รับ

ดังนั้น ให้บริโภคตามที่ตัวเองมีความต้องการและจำเป็นในการใช้สินค้านั้นๆ ดีกว่า ส่วนสิ่งที่จะได้มาจากการบริโภคหรือเปล่านั้น เป็นแค่ผลพลอยได้ที่จะตามมา อย่ายึดว่าฉันจะต้องซื้อสินค้านี้เพื่อจะได้ตรงนั้น คิดแบบนั้นมันไม่ใช่การบริโภคสินค้าแล้วค่ะ ก็อยากให้ผู้บริโภคได้ตระหนักตรงนี้ บริโภคสินค้าอย่างรู้เท่าทันการตลาดและการสื่อสารทั้งหมด

ปรากฏการณ์การลุ้นโชคจากฝาจากผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกิดขึ้นก็ใช้หลักการเดียวๆ กันเลยค่ะ เราสามารถใช้วิจารณญาณจาก “การรู้เท่าทันสื่อ” ได้เหมือนกันค่ะ โดยมองว่าการที่นักการตลาดเขาให้อะไรเรา เขาย่อมหวังอะไรจากเรา ดังนั้น ถ้าเรารู้จุดนี้ เราก็จะเป็นผู้บริโภคที่รู้เท่าทัน บริโภคอย่างชาญฉลาด เราก็จะรู้ลิมิตว่าจะบริโภคแค่ไหน อย่างไร แต่ถ้าใครบริโภคแล้วได้อะไรเป็นผลพลอยได้ตามมา ก็ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ แต่ไม่ใช่บริโภคเพื่อหวังตรงนั้นร้อยเปอร์เซ็นต์ มันคงเป็นไปไม่ได้
 
ส่วนตัวแล้วมองว่า จุดที่ภาครัฐจะเข้ามาจัดการ มันเป็นหน้าที่ของเขาอยู่แล้วในการคุ้มครองผู้บริโภค แต่มันก็เป็นปลายน้ำ ต้องรอให้มีผู้ร้องเรียนเข้าไป เพราะถึงแม้เขาจะมีระบบติดตาม ตรวจสอบก็ตาม แต่มันก็ไม่ทันกับกลวิธีการสื่อสารการตลาดอยู่ดี เพราะฉะนั้น หน่วยงานภาครัฐและองค์กรคุ้มครองผู้บริโภค องค์กรอิสระเพื่อผู้บริโภคทั้งหลาย ก็ต้องหันมาเล่นบทบาทในเชิงรุก รวมถึงมหาวิทยาลัย องค์กรทุกระดับจะต้องทำให้ประชาชนรู้เท่าทันสื่อ รู้เท่าทันกลยุทธ์การตลาดให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะปกป้องตัวเองให้ได้ในจุดเริ่มต้น อยากให้ผู้บริโภคลุกขึ้นมาดูแลตัวเองให้ได้ก่อน จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของโปรโมชัน

หมายเหตุ: ร้องเรียน สายด่วน สคบ. “1166” และ สายด่วน อย. “1556”

ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Live
ขอบคุณภาพ: www.carabao.co.th และแฟนเพจ “Carabao Dang”



มาสร้างแรงบันดาลใจไปด้วยกัน!!ตัวอย่างงานในเซ็กชั่นทั้งหมด>>>...

Posted by ASTV ผู้จัดการ Live on Friday, August 21, 2015

รายละเอียดเพิ่มเติม (คลิก)>>> ตัวอย่างงานในเซ็กชั่น "ASTVผู้จัดการ Live"



มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754




ข่าวที่เกี่ยวข้อง (คลิก)
- "คาราบาวแดง" งานเข้า! ลูกค้าโวยเก็บครบ 500 ฝาแลกกีตาร์ไม่ได้ อ้างฝาบุบ-ฝาเปื้อน


กำลังโหลดความคิดเห็น