xs
xsm
sm
md
lg

เอาจริง!? สวมไปรเวต-โละเครื่องแบบ แก้ปัญหา “เด็กอาชีวะตีกัน”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ถ้ายังตีกันซ้ำซากจะสั่งปิดชั่วคราว ถ้ายังตีกันไม่หยุดจะสั่งเพิกถอนใบอนุญาตจัดตั้งและสั่งปิดสถาบัน! “ไม่ใช่แค่ขู่” รมว.ศึกษาธิการ ประกาศกร้าวไว้อย่างนั้น พ่วงด้วยข้อสรุปในที่ประชุม เตรียมเปลี่ยนให้ทุกสถาบันใส่ไปรเวตมาเรียน หรือไม่ก็ใช้เครื่องแบบเหมือนกันทั้งประเทศ แก้ปัญหาแบ่งพรรคแบ่งพวก จะได้เลิกตีกันเสียที!




สวมชุดไปรเวต หรือ ใช้เครื่องแบบเหมือนกัน?

“ปัญหานักศึกษาอาชีวะตีกัน แม้จะมีส่วนน้อยแต่ทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดี ผู้ปกครองมองว่าให้ไปเรียนแล้วมีปัญหา บุตรหลานอาจได้รับอันตราย จึงส่งให้ไปเรียนสายสามัญแทน กระทบต่อนโยบายการเพิ่มจำนวนนักศึกษาอาชีวะ ในครั้งนี้ ศธ. (กระทรวงศึกษาธิการ) เอาจริง ถ้าผู้บริหารสถาบันไม่ใส่ใจดูแลนักศึกษาให้ดี อาจจะต้องถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตฯ ไม่ใช่แค่ขู่
 
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ ประกาศเอาไว้อย่างชัดเจนหลังการประชุมผู้บริหารองค์กรหลัก กระทรวงศึกษาธิการ บอกเลยว่าถ้าสถาบันใดยังไม่สามารถปราบปรามนักศึกษาของตัวเองให้อยู่ในรูปในรอยได้ ถ้ายังก่อเรื่องทะเลาะวิวาทซ้ำรอยเดิมอยู่เรื่อยไป จะสั่งปิดชั่วคราว 5-7 วัน และถ้าบทลงโทษนี้ยังไม่สะเทือนระบบจิตสำนึกของจอมก่อเรื่อง รวมไปถึงสถาบันต้นสังกัดไม่อาจควบคุมความประพฤติของพวกเขาได้ ก็เตรียมตัวปิดสถาบันแห่งนั้น พร้อมกับรับคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตจัดตั้งสถาบันไปได้เลย!

ที่น่าสนใจคือข้อสรุปมาตรการการแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างสถาบันที่ออกมาในครั้งนี้ 1 ใน 16 ข้อนั้นระบุเอาไว้ชัดเจนว่ากำลังพิจารณาว่าจะให้มีการปรับเปลี่ยนเครื่องแบบของเหล่านักศึกษาอาชีวะ ซึ่งกำหนดทาง 2 แพร่งเอาไว้ให้เลือกว่า จะให้ผู้เรียนเปลี่ยนมาใส่ชุดไปรเวตมาเรียนทั้งหมดและสวมเสื้อชอปเฉพาะตอนอยู่ในสถาบันเท่านั้น หรือจะโละเครื่องแบบทุกสถาบันทิ้งไป แล้วผลิตแบบที่ไม่แบ่งแยกใดๆ กำหนดให้ใส่เหมือนกันทั่วทั้งประเทศ จะได้แยกไม่ออก ดูกลมกลืน และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เผื่อว่าจะยุติปัญหาการวิ่งไล่ตีกันลงไปได้เสียที

ทั้งนี้ ยังไม่ฟันธงแน่ชัดว่าจะใช้กลยุทธ์นี้แก้ปัญหา เพียงแต่วางแนวทางเอาไว้ล่วงหน้าในที่ประชุม รอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไปศึกษาข้อดี-ข้อเสียของนโยบายนี้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างได้เมื่อไหร่ จึงจะเดินหน้าแก้ปัญหาตามมติที่ประชุม และอาจมีการเรียกผู้บริหารวิทยาลัยอาชีวศึกษาของรัฐและเอกชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ประมาณ 40 แห่ง เข้ามาช่วยกันฟันธงในความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ และบรรทัดต่อจากนี้คือตัวอย่างย่อมๆ จาก 16 มาตรการ

“1.สั่งปิดสถานศึกษาที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาททั้งชั่วคราวและถาวร แต่จะดำเนินการอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับนักศึกษาจำนวนมาก
2.ปรับเปลี่ยนเครื่องแบบนักเรียน นักศึกษาอาชีวะ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปสรุปข้อดี ข้อเสียใน 2 รูปแบบคือเปลี่ยนให้ใส่ชุดไปรเวต มาเรียนพอเข้าสถาบันค่อยใส่เสื้อช็อป หรือใส่เครื่องแบบที่เหมือนกันทั้งประเทศ อย่างไรก็ตาม มีผู้แย้งว่าแม้ใส่เหมือนกันก็ยังรู้ได้ว่าเป็นเด็กอาชีวะ
3.ดำเนินโครงเตรียมความพร้อมอาชีวศึกษาหรือพรีอาชีวศึกษา
4.ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารร่วมอบรมสร้างระเบียบวินัย
5.ให้แต่ละสถาบันจัดเวลาเข้า-เลิกเรียนไม่ให้ตรงกัน
6.ตรวจค้นอาวุธร้ายแรงทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา ฯลฯ”




เปลี่ยนเครื่องแบบไม่มีความหมาย ถ้าใจยังนักเลง!

แก้ปัญหา "เด็กอาชีวะตีกัน" ด้วยการให้ทุกสถาบัน แต่งชุดไปรเวตไปเรียน ไม่ก็แต่งเครื่องแบบเหมือนกันทั้งประเทศ มันจะแก้ปัญหาได้จริงหรือ? เมื่อเจอกับคำถามนี้เข้าไป คนส่วนใหญ่ตอบมาเป็นเสียงเดียวกันหมดว่า “แก้ไม่ได้!” ส่วนเหตุผลคืออะไร ทั้งหมดนี้คือทัศนะจากประสบการณ์ตรงของคนที่เคยอยู่ในรั้วแห่งนั้น

“เพราะว่าเด็กอาชีวะเขารู้ว่าใครเป็นใคร เขาจำกันได้ว่าใครเป็นสถาบันคู่อริ เวลาจะตีกันเนี่ย มองแป๊บเดียวรู้เลยไอ้นี่โจทย์นี่หว่า ให้แต่งตัวแบบไหนเขาจำได้หมด กลับกัน ให้ดูราชมงคล (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล) เป็นตัวอย่าง แต่ก่อนเป็นโรงเรียนอาชีวะกันทั้งนั้น ทุกวันนี้ที่เปลี่ยนเป็นราชมงคล ตอนนั้นส่วนหนึ่งเขาอยากให้แต่งตัวเหมือนกัน มีความเป็นสถาบันเดียวกันจะได้เลิกตีกัน แต่ความรู้สึกของผู้เรียนเขาไม่รู้สึกแบบนั้น แล้วก็ตีกันเหมือนเดิม

บางครั้งจะยิงใครเขาสืบกันจนรู้ตัว รู้ทางกลับบ้านถึงจะลงมือ เครื่องแบบนี่ไม่มีผลเลย บางครั้งออกจากอาชีวะไปเรียนมหาวิทยาลัยธรรมดา ยังโดนยิงเลยเพราะสาเหตุมาจากเคยเรียนสถาบันที่เป็นอริกันมาก่อน เครื่องแบบไม่มีผลเลยครับ เหมือนคดีคนยิงกันที่ร้านเหล้า เราไปโทษร้านเหล้าแล้วกวดขันตามปิดร้านเหล้าแต่ไม่กวดขันจับอาวุธปืน คนก็เลยยิงกันตายเหมือนเดิม นี่มันเป็นการแก้คนละจุดกันเลย” พล-เอกพล อุปลพันธุ์ ศิษย์เก่าสถาบันช่างกลนนทบุรี วัย 28 ยกตัวอย่างให้เห็นชัดเจน

“อันนี้จากประสบการณ์ตรงเลยนะครับ ผมคิดว่าไม่ได้ผลครับ และมันจะทำให้เกิดการตีกันมากขึ้นไปอีกด้วยซ้ำ เพราะการแต่งตัวชุดธรรมดาของเด็กอาชีวะที่เรียนช่าง อาจจะแต่งตัวในลู่ทางแบบที่เด็กอาชีวะสามารถมองออกได้ ผีเห็นผีน่ะครับ คือการแต่งตัวที่เป็นเอกลักษณ์ ตั้งแต่กางเกง เสื้อผ้าหน้าผม รวมไปถึงบุคลิกด้วย และการที่ใส่ชุดธรรมดาอาจจะยิ่งทำให้สามารถหลบหนีและก่อเหตุในครั้งต่อๆ ไปได้ง่ายเข้าไปอีก มันอาจทำให้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ คนที่ไม่ได้เรียนช่าง ต้องโดนลูกหลงไปด้วยมอส-ศุภกิจ บุญม่วง ศิษย์เก่าจากวิทยาลัยพิชยการเชตุพน วัย 23 ปี ช่วยเสนอแง่คิดที่น่าสนใจอีกมุมหนึ่ง

อาจจะไม่จำเป็นต้องโยนหินถามทาง ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสรุปข้อดี-ข้อเสีย ของการเปลี่ยนแปลงเรื่องเครื่องแบบนักศึกษาในสถาบันให้เสียเวลา เพราะบรรทัดต่อจากนี้คือเสียงสะท้อนหลากมุมมองของประชาชนที่ขอฝากเอาไว้ในแฟนเพจ “ASTV ผู้จัดการ Live” เพจข่าวอย่างเป็นทางการของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ

แก้ปัญหา "เด็กอาชีวะตีกัน" ด้วยการให้ทุกสถาบัน แต่งชุดไปรเวทไปเรียน ไม่ก็แต่งเครื่องแบบเหมือนกันทั้งประเทศ มันจะแก้ปัญหา...

Posted by ASTV ผู้จัดการ Live on Thursday, July 2, 2015

"ทางเดียวที่แก้ได้คืออัดกฎหมายแรงๆ ครับ ตีกัน จับได้ เข้าคุก ส่งค่ายทหาร ละลายสันดาน ขั้นต่ำ 6 เดือน ญาติพี่น้องเยี่ยมได้ อาทิตย์ละครั้ง เปลี่ยนชุดยังไง มันก็ตีกันครับ มันมองหน้าไม่คุ้น มันก็เดินไปเช็กแล้ว คำว่า "เยาวชน" เลือกอ้างซะที ผมโตขนาดนี้ ยังไม่กล้าไปฆ่าคนแบบเยาวชนเลย"

"คิดว่าช่วยได้นิดหน่อยครับ ผมเคยเรียนกรุงเทพฯ แต่งชุดไปรเวต อย่างน้อยมันก็กลืนกับคนทั่วไป ไม่ตกเป็นเป้า แต่ในกรณีที่มันเคยตีกัน เป็นอริกันมาก่อน อันนี้มันจําหน้ากันได้ ใส่ชุดอะไรก็ไม่ช่วย คือมันจ้องตีกันอยู่แล้ว"

"พวกนี้มันดูสายรถเมล์ที่มาจากหน้า ร.ร. ดูการเกาะกลุ่ม จำหัวโจก เรื่องเสื้อไม่น่าจะได้ผล"

"มันก็น่าลองดูนะ แต่อย่าใส่พวกหัวเข็มขัดของสถาบันหรือเข็มติดเสื้อของสถาบันเท่านั้นพอ แต่ก็ไม่รู้มันจะแก้ได้ไหม เพราะเกิดเหตุพวกนี้ไม่รู้กี่ปีแล้ว กี่รัฐบาลก็แก้ปัญหาไม่ได้แบบจริงจัง ประเด็นที่สำคัญคือเด็กที่โดนทำร้ายจากสถาบันอื่นๆ คือเด็กที่ไม่ได้ไปร่วมแก๊งตีกัน หรือมีเรื่องกันมาก่อน ส่วนใหญ่เป็นเด็กเรียนที่ดวงซวยโดยลูกหลง คู่อริผ่านมาเจอพอดีซะส่วนใหญ่ หรือเป็นการตีฝากกันไป บางรายก็เสียชีวิต ทำให้ขาดแคลนแรงงานที่สำคัญของสายอาชีพเหล่านี้ไป เพราะส่วนใหญ่พวกเด็กเรียนโดนกระทืบจนตายไปเยอะ ส่วนเด็กที่เหลือก็ไม่จบ ทำอะไรก็ไม่ได้นอกจากตีกันเท่านั้น

หลายๆ สถาบันไม่มีทางแก้ไขได้ เพราะเกิดขึ้นจากตัวนักศึกษา บางทีรุ่นพี่ก็ปลูกฝังความคิดแย่ๆ ให้กับรุ่นน้อง ปลูกฝังความเชื่อไปในทางที่ผิด มีทางเดียวก็คือสั่งปิดแบบอุเทนถวาย ให้ค่าเทอมแพงๆ หรือรับเฉพาะนักศึกษาที่มีประวัติการเรียนดีเท่านั้น เป็นเด็กเรียนไม่มีนิสัยเกเร รับเฉพาะคนคะแนนสูงๆ เหมือนโรงเรียนดังๆ เก่งๆ แบบที่อื่นดู ก็น่าจะช่วยแก้ปัญหาได้บ้าง"

"แก้ผิดทางตลอด สิ่งที่ถูกต้องคือใช้กฎหมาย ไม่ต้องรอลงอาญา ไม่ต้องยกเว้น มันไม่สงสารพ่อแม่ ก็ให้พ่อแม่มันตัดสินว่าจะเลี้ยงต่อหรือตัดหางปล่อยวัด ทำผิดต้องติดคุก แค่นี้แก้ได้แน่นอน และไม่ต้องห่วงพวกโลกสวย ติดคุกก็เรียนได้ ในนั้นเขามีโรงเรียน"

"เเก้กฎหมายเยาวชน เพิ่มบทลงโทษ เพราะมักจะคิดกันว่าเยาวชนทำผิดแล้วโทษไม่หนัก เดี๋ยวก็ปล่อย เท่อีกต่างหาก ส่วนเรื่องแต่งชุดเหมือนกันมันไม่มีประโยชน์ ขนาดสถาบันเดียวกันยังทะเลาะกันเลย"

"อย่าไปหวังกับการสร้างจิตสำนึก เพราะถ้าคนบางกลุ่มสามารถปรับเปลี่ยนทัศนคติให้ดีกันได้ง่ายๆ ในระยะเวลาอันสั้น ประเทศต่างๆ ในโลกนี้ก็ไม่จำเป็นต้องมีกฎหมาย"

"ถ้ามีตัวอย่างให้เห็น เช่น รุ่นพี่ที่เคยเป็นขาใหญ่และกลุ่มคนที่ชอบกร่าง ชอบยกพวกไปตีกับสถาบันอื่น ตอนนี้ได้ดีอยู่ที่ไหน? อยู่ในคุก โทษเป็นสิบปีหรือตลอดชีวิต?"

ข่าวโดย ASTVผู้จัดการ Live
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง (คลิก)
- “ณรงค์”ลั่นเด็กตีกันซ้ำซาก สั่งปิด-จ่อเพิกถอนใบอนุญาต 







รายละเอียดเพิ่มเติม (คลิก)>>> ตัวอย่างงานในเซ็กชั่น "ASTVผู้จัดการ Live"




มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"ASTVผู้จัดการ Live" และ "@astv_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น